21 มิถุนายน 2551 03:44 น.
กันนาเทวี
นอนหลับตาพักใจในห้วงฝัน
ผ่านคืนวันแดเดียวที่เปลี่ยวเหงา
เคยผิดหวังพลั้งพลาดอาจซบเซา
ผ่อนคลายเศร้าซับน้ำตานะคนดี
แม้ลำบากยากแค้นแสนทุกข์เข็ญ
เราเกิดเป็นคนสู้รู้หลีกหนี
สองเท้าฝ่าท้าฝันมั่นชีวี
ปลายทางที่สว่างสวยด้วยปัญญา
ยิ้มเข้าไว้พลังใจให้กล้าแกร่ง
ดุจดั่งแสงตะวันยามอุษา
อบอุ่นครันพลันสว่างทางมรรคา
ส่องชีวาก้าวล้ำนำโชคชัย
ผ่านชีวิตมืดมนทนหม่นหมอง
ผ่านครรลองสัจธรรมนำอาศัย
บทพิสูจน์ความจริงอิงปัจจัย
เป็นความนัยชีวิตอนิจจัง
หากนับดาวพราวสวยในฟ้าใส
เป็นแรงใจพักพิงเอนอิงหลัง
ดวงตาฉันจดจ้องส่องพลัง
ให้สมดังคิดฝันวันก้าวไกล
นอนหลับตาพักใจในวันนี้
เถอะคนดีมุ่งมั่นอย่าหวั่นไหว
สุริยาลับฟ้ามืดคราใด
ต่อวันใหม่ตะวันส่องก็รองเรือง.....
17 มิถุนายน 2551 00:50 น.
กันนาเทวี
ก่อนเธอนอนหลับไหลในคืนนี้
ขอถามหน่อยคนดีคิดบ้างไหม
ปรารถนาอารมณ์ชมชื่นใจ
ดุจดั่งไฟเผาทรวงห่วงอาวรณ์
ยังฝันใฝ่ตรึงตราคราเราสอง
ร่วมเคียงครองครวญใคร่ใจสุดถอน
วาบหวิวไหวดั่งใจเจียนขาดรอน
นึกคำอ้อนรำพันกลั้นน้ำตา
เริ่มต้นด้วยวจีที่พร่ำเพ้อ
หลงละเมอปลอบขวัญหวั่นผวา
อุปสรรคชีวิตพิษเข้าตา
ห้วงมายาแห่งรักจักพะวง
แม้ร้อนรุ่มกลุ้มนักรักคงมั่น
จำพรากกันทั้งที่ฤดีหลง
สุขเลอล้ำฉ่ำชื่นฝืนดำรง
ตั้งกายตรงยิ้มสู้รู้ตัวดี
ท่ามกลางฝันรัญจวนชวนไหวหวั่น
มิแปรผันรักเพิ่มเสริมสุขศรี
ขอบคุณฟ้าดลใจใฝ่ภักดี
โอกาสนี้ยิ่งใหญ่ได้รักเธอ
ไออุ่นใดเท่ารักประจักษ์แล้ว
งามเพริศแพร้วรักนี้มิพลั้งเผลอ
สุขใจล้ำยามคิดจิตละเมอ
อยากฟังคำพร่ำเพ้อหลงเหม่อคอย......
14 มิถุนายน 2551 18:18 น.
กันนาเทวี
เย็นลมรื่นชื่นตาพฤกษาสวย
เขียวสดด้วยฝนพรำชุ่มฉ่ำหลาย
หยาดน้ำทิพย์หลั่งชะโลมโลกร้อนคลาย
นิมิตหมายทุ่งทองผ่องสกาว
มวลชาวนาเตรียมการณ์เร่งหว่านไถ
ทุกข์ในใจยับเยินเกินบอกกล่าว
ตะโกนก้องฝันเฟื่องในเรื่องราว
ทนปวดร้าวหม่นใจไร้คนฟัง
แสนภูมิใจแดนทองผ่องพฤกษา
ชนแกร่งกล้าเหล่านักสู้ผู้ปลูกฝัง
อยู่ติดดินถิ่นไพรใฝ่จีรัง
เป็นพลังรากหญ้าอย่าดูแคลน
จึ่งนักสู้ชาวนาท้าแดดฝน
ยังอดทนยืนหยัดแม้เหนื่อยแสน
ใจห่วงหวงทำกินบนดินแดน
ในอ้อมแขนแห่งขุนเขาเราจับจอง
สายฝนพรมผืนหล้าพาชื่นฉ่ำ
ผืนเมฆดำม่านคล้อยลอยละล่อง
สายน้ำทวนซ่านเซ็นเย็นละออง
นวลขาวฟ่องไหลลู่สู่ผืนนา
รักดินน้ำป่าดงคงพินิจ
รักชีวิตสุขสันต์ที่หรรษา
สงบใจใต้ร่มพระธรรมา
ขอสัญญาคืนทุ่งมุ่งบ้านเรา....
13 มิถุนายน 2551 16:41 น.
กันนาเทวี
อนาถหนอสาเหตุเศรษฐกิจ
มาทำพิษส่งผลทนทุกข์เหลือ
เคยอยู่ดีกินดีมีเหลือเฟือ
ต่างจุนเจือเผื่อแผ่ให้แก่กัน
มาวันนี้อดอยากปากท้องแห้ง
เหมือนดังแกล้งแล้งไร้ใจแปรผัน
พี่น้องเอ๋ยเคยเกื้อเอื้อแบ่งปัน
นานนับวันหันเหว้าเหว่ใจ
ไทยทั้งชาติขาดแคลนยากแค้นแน่
ขืนเอาแต่ทุ่มเถียงเพียงคำไข
ต่างยุแยกแตกคอกันต่อไป
แล้วทำไมกันเล่าเรายิ่งจน
เลิกถือดีมีมานะละวางก่อน
มาผันผ่อนยอมรับมิสับสน
พี่น้องไทยร่วมใจกันทุกคน
เพื่อรอดพ้นวิกฤติคิดช่วยกัน
เอาความดีกอบกู้รู้จักก่อ
หนึ่งรู้พอประมาณงานสร้างสรรค์
สองรู้รักสามัคคีมีสัมพันธ์
สามสำคัญรู้เหตุผลพ้นภัยพาล
โชคชะตาบ้านเมืองจะเรืองรุ่ง
เพราะไทยมุ่งรวมใจใฝ่สมาน
ซื้อของไทยเที่ยวเมืองไทยสุขสำราญ
หลอมดวงมานเป็นหนึ่งอย่าดึงดัน
11 มิถุนายน 2551 18:29 น.
กันนาเทวี
กุมมือกันมั่นใจอุ่นไอรัก
คราสมัครมอบหทัยใฝ่ดังฝัน
ดุจสุรีย์ส่องแสงแก่กลางวัน
เหมือนดั่งจันทร์ฉายส่องผ่องราตรี
เธอปกป้องฝ่าฟันและสรรค์สร้าง
โปรดอย่าร้างสัญญาลาจรหนี
อย่าปล่อยมือเคว้งคว้างกลางไพรี
ภัยพาลที่คอยกระหน่ำช้ำชีวี
มนต์แห่งรักลำนำคำวอนเว้า
เพลงขุนเขาห่มใจสดใสศรี
งามฟากฟ้าป่าสูงยูงยางมี
ลำธารรี่รินไหลใครจับจอง
ใจว้าเหว่เซซังยังจำเจ็บ
จึงม้วนเก็บฝันรักพักใจหมอง
เมื่อประสบพบเธอเผลอแอบปอง
ใจร่ำร้องร่วมเรียงเคียงข้างกาย
คงหลงทิศผิดทางห่างสุดสอย
หากเธอปล่อยมือวางร้างหนีหาย
คงเป็นเช่นภาพวาดบนผืนทราย
รักสลายกลายกลับลับจากใจ
เคยเดินเดี่ยวเปลี่ยวใจไร้มิ่งมิตร
ยามใกล้ชิดผูกสมัครชักหวั่นไหว
เย็นน้ำคำฉ่ำซึ้งตรึงทรวงใน
ยามซึมเซาเหงาใจได้ปลอบโยน
จึงใฝ่ปองปักใจชื่นในรัก
แจ้งประจักษ์แก่ใจใช่ผาดโผน
ประสานใจถ้อยกลอนต่างอ่อนโอน
ถึงไกล้โพ้นสัมพันธ์เรามั่นจริง
อย่าระแวงแคลงใจให้มั่นภักดิ์
แผ่นดินรักแห่งนี้มีทุกสิ่ง
ทำกินอยู่ไม่รู้พอขอท้วงติง
เพียงแอบอิงกันหน่อย...อย่าปล่อยมือ..นะ.