9 ธันวาคม 2550 18:00 น.
กันนาเทวี
เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมพรรษาครบ80 พรรษา ในปีนี้ จึงขอน้อมอัญเชิญพระบรมราโชวาทและ
พระราชดำรัสมาขยายความเป็นกาพย์ยานี ดังนี้
ฝึกกาย ฝึกฝนกำลัง
พ่อสอนคำว่าฝึก เปิดผนึกทางชีวิต
ฝึกกายและฝึกจิต ให้ชีวิตมีพลัง
ถ้าหากอยากมีสุข ต้องปลอบปลุกอย่ามัวนั่ง
ขยับกายออกกำลัง เพื่อความหวังที่ก้าวไกล
ทำงานด้วยใจเพียร ต้องหมั่นเรียนเอาใจใส่
เหนื่อยหนักพักกันไป เริ่มงานใหม่ได้อดทน
ปรารถนาความสำเร็จ พ่อบอกเคล็ดไว้น่าสน
ต้องเหนื่อยอย่าพร่ำบ่น ต้องฝึกฝนทุกทุกวัน
เดินไปอย่าเกียจคร้าน ใจเบิกบานด้วยสุขสันต์
สำเร็จเสร็จเร็วพลัน ที่สำคัญได้ฝึกตน
ตั้งจิตให้แน่วแน่ รู้จักแก้จิตสับสน
แข็งแรงพร้อมผจญ นั่นคือผลจากความเพียร...........
จากพระราชดำรัส พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา ณ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๒๓
8 ธันวาคม 2550 11:58 น.
กันนาเทวี
แปลกดีไหมกับใจเคยสุดรัก
มาหาญหักกลายกลับเกลียดสุดแสน
เคยสัมพันธ์คบคุ้นยิ่งกว่าแฟน
เคยแนบแน่นไมตรีที่พึ่งพา
ฤๅสนิทมากไปได้เห็นชัด
สารพัดบกพร่องเลยมองหา
ชักรำคาญจับผิดทุกเวลา
เหมือนดังว่าคับข้องต้องขัดใจ
แทนที่จักรู้ใจให้ปรับเปลี่ยน
ต่างก็เรียนรู้ได้เห็นใจใส
ให้โอกาสเพื่อนกันแก้กันไป
เริ่มต้นใหม่ดีกว่าอย่าถือตน
อภัยคือที่สุดหยุดเจ็บช้ำ
ไม่ตอกย้ำซ้ำเติมเพิ่มคำบ่น
ดีต่อกันบางทีต้องยอมทน
อภัยคนอภัยเขาไม่เมามัว
มีอัตตาตัวตนมักยืนยัน
ฉันคือฉันอย่างนี้ก็ใช่ชั่ว
รับได้ไหมรับได้ใช่เล่นตัว
ยอมลงหัวให้ใครฉันไม่ยอม
ละอัตตาตัวตนคนหัวดื้อ
มายึดคืออภัยใจหวานหอม
มอบเมตตาพาสุขใฝ่ประนอม
ด้วยอ่อนน้อมโลกนี้มีสุขเย็น...........
กันนาเทวี
๘ ธันวาคม ๒๕๕๐
7 ธันวาคม 2550 07:08 น.
กันนาเทวี
เคยมุ่งมั่นสรรค์สร้างอย่างแน่แน่ว
กลอนทุกแนวจริงจังไม่กังขา
มีฝีมือคนหนึ่งทึ่งจริงนา
รู้สึกว่านับถือคือคนจริง
มาวันนี้ท้อแท้แก่คำคน
ที่เพ้อบ่นคาดเดาเอาทุกสิ่ง
ไม่มีใครเชื่อถือขอท้วงติง
ไม่อาจนิ่งทนอยู่ขอสู้เคียง
อ่านคอมเมนท์คาดเดาเราก็รู้
คนไม่สู้เผยคำทำส่งเสียง
หากจู่โจมอย่างนี้ใจลำเอียง
ยินสำเนียงชิงชังไม่หวังดี
คนดีแท้ทนต่อการพิสูจน์
เพียงคำพูดคนชอบป่วนไม่ควรหนี
กลับมาที่บ้านกลอนต่อวาที
เพื่อนพ้องมีพร้อมพรั่งกำลังใจ
อย่าลาลับหันหลังยังรออยู่
มาร่วมสู้สร้างงานขานคำไข
อนุรักษ์มรดกตกทอดไป
สานสืบให้ชนรุ่นหลังยังรอคอย
แท้ไม่ท้อคำนี้ที่ขอมอบ
เป็นคำตอบฤทธิ์ ศรีดวงห่วงท้อถอย
เพื่อนพี่น้องร้องขอให้ย้อนรอย
อย่าได้ปล่อยทิ้งลาไม่อาลัย
กันนาเทวี
๗ ธันวาคม ๒๕๕๐
5 ธันวาคม 2550 16:59 น.
กันนาเทวี
เหตุอันใดไยเล่าเรายังโกรธ
รู้ทุกข์โทษเร่าร้อนนอนหวั่นไหว
คนยังโกรธท่านว่าเอาแต่ใจ
รับไม่ได้คนอื่นขืนขัดคำ
คิดหวังไว้ให้เขาเหมือนเราคิด
ลองพินิจตรองดูก็น่าขำ
เขาต้องรู้สินะว่าควรทำ
ไยไม่จำอย่างนี้ที่ต้องการ
โอ้ไม่เป็นเช่นหวังพังสลาย
เขาทำลายไมตรีให้ร้าวฉาน
ต้องทนทุกข์ท้อแท้ทรมาน
ที่เคยหวานขมไปไม่เหลือเลย
ยอมรับกันเสียทีจะดีไหม
เรื่องของใจ เราเขาสุดเฉลย
แตกต่างกันมาก่อนสิ่งคุ้นเคย
ย่อมเปิดเผยออกมาไม่ว่ากัน
ต่างพื้นเพที่มาอย่ายึดถือ
เพียงใจซื่อจริงใจไม่หุนหัน
อย่าคิดเปลี่ยนเขาอื่นสารพัน
เพื่อเรานั้นถูกใจใช่เรื่องดี
เพิ่มเมตตาเข้าใจใช่ขึ้งโกรธ
อย่าเพ่งโทษใส่ความหยามศักดิ์ศรี
เราก็จิตเขาก็ใจคิดตรองซี
ล้วนน้องพี่ร่วมทุกข์สุขเวียนวน............
กันนาเทวี
๕ ธันวาคม ๒๕๕๐
4 ธันวาคม 2550 15:40 น.
กันนาเทวี
" ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้
ยามป่วยไข้ หวังเจ้า เฝ้ารักษา
เมื่อถึงยาม ต้องตาย วายชีวา
หวังลูกช่วย ปิดตา เมื่อสิ้นใจ "
.................................................................
เคยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงเติบใหญ่
ทุ่มกายใจเพื่อลูกปลูกสร้างสรรค์
ยามแก่เฒ่าอ่อนล้าเฝ้ารอวัน
ลูกจะหันไม่ลาลับกลับมาแล
ร่างชราโรยแรงหลังโก่งงุ้ม
รอลูกอุ้มประคองตอนย่ำแย่
ป้อนข้าวน้ำเช็ดตัวไม่เปลี่ยนแปร
ชื่นใจแท้กตัญญูเจ้ารู้คุณ
ใครที่ไหนมาเฝ้าไม่เท่าลูก
เจ้าบุญปลูกของพ่อที่อบอุ่น
เป็นลูกรักน้ำใจเอื้อการุณ
นับเป็นบุญพ่อแม่แก่ชรา
เมื่อถึงยามชีพวายตายจากร่าง
ไม่อ้างว้างมีลูกเฝ้ารักษา
เมื่อสิ้นใจได้ลูกช่วยปิดตา
ปรารถนาเพียงนี้ที่เฝ้ารอ............
กันนาเทวี
๔ ธันวาคม ๒๕๕๐