25 ตุลาคม 2551 20:35 น.
กันนาเทวี
ขอฝากใจในกลอนวอนส่งถึง
ใครคนหนึ่งซึ่งรักเป็นหนักหนา
เวลาผ่านค่ำเช้ามิเลิกรา
จิตผวาเฝ้าพะวงหลงติดตาม
จะทำกิจคิดการสร้างสรรค์ต่อ
ใจจดจ่อคิดไกลใคร่ไต่ถาม
ป่านฉะนี้เป็นไฉนใส่ข้อความ
ส่งลอยข้ามขอบฟ้ามาถึงกัน
ฝากกลอนรักหอมแก้มแถมรอยยิ้ม
หิวฤๅอิ่มร้อนหนาวคราวเปลี่ยนผัน
จากปลายฝนต้นหนาวคราวเหมันต์
อากาศพลันแปรไปไม่แน่นอน
คิดถึงกันด้วยนะเวลาว่าง
ติดต่อบ้างเงียบไปใจสังหรณ์
หรือลืมเราคนดีที่ตอบกลอน
เคยออดอ้อนสัมพันธ์วันก่อนมา
อยากบอกรักคิดถึงจึงสื่อสาร
ใช้กลอนกานท์ห่มใจให้หรรษา
เพียงมาอ่านโต้ตอบอย่าร้างลา
ส่งภาษาผ่านไปใจชื่นบาน
ด้วยใจรักอักษราภาษาศิลป์
จึงหลั่งรินรจนาภาษาหวาน
ฝากคำรักเรียงร้อยสู่ดวงมาลย์
ลอยข้ามผ่านฟ้าไกลส่งให้เธอ
24 ตุลาคม 2551 15:19 น.
กันนาเทวี
ปิดประตูหัวใจไร้รักแล้ว
นอนซมแผ่วแผลเก่าเศร้าไม่หาย
ยอมทนเจ็บทนเหงาเปล่าเดียวดาย
คงจางคลายพิษรักที่ปักทรวง
หากน้ำตาวันนี้ที่รินไหล
จะทำใจของตนพ้นบาศบ่วง
ลืมรักเก่าที่เขาเฝ้าหลอกลวง
หมดสิทธิ์ทวงสัมพันธ์วันก่อนมา
ขอโทษด้วยหากทำให้ใจอึดอัด
เชิญป้องปัดหลีกไกลอย่าถือสา
ผิดที่รักเชื่อมั่นและศรัทธา
หากรู้ว่าเปลี่ยนใจไม่ว่ากัน
ขอเป็นเพียงใครหนึ่งเคยซึ้งรัก
ยอมอกหักร้างไกลใจเหหัน
ขอโชคดีรักใหม่ใจสัมพันธ์
มีรักมั่นจริงจังสมตั้งใจ
ปิดประตูลงกลอนนอนเลียแผล
คงเหลือแต่ความเศร้าเราแก้ไข
น้ำตาร่วงตัดรักหักอาลัย
ล็อคปิดไว้ช้ำพอขอกล่าวลา
23 ตุลาคม 2551 14:47 น.
กันนาเทวี
ล่องลำนำฮัมเพลงบรรเลงรัก
ชี้ชวนชักรักหวานเกินขานไข
รักเกิดที่จุดกลางหว่างห้องใจ
หรือเกิดในสมองตรองให้ดี
หญิงก่อนรักเลือกได้ชายตามตื้อ
ต่างแย่งยื้อคะแนนใจในโฉมศรี
กลยุทธ์จีบหญิงมากมายมี
ใช้เต็มที่เพื่อได้ใจเธอครอง
หญิงหลงกลมนต์ตราพาหวั่นไหว
จึงมอบใจให้เขาเป็นเจ้าของ
ส่วนชายนั้นสมใจได้ลิ้มลอง
ลอยลมล่องหาใหม่ไม่จีรัง
เพราะชายหญิงคิดฝันต่างกันนัก
จึงวุ่นรักมากมีที่ขึงขัง
เป็นเรื่องเศร้าข่าวเด็ดคดีดัง
บางคนคลั่งฆ่ากันจนบรรลัย
นี่แหละหนอความรักมักไม่แน่
ว่ารักแท้คือหลงอย่าสงสัย
หากรักแท้แม้เขาจะเป็นใคร
นานเท่าใดก็ย่อมรักภัคดีเธอ
ยามแรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน
เวลาผ่านนานไปใจลอยเผลอ
เบื่อเสียจริงหญิงเก่าไม่อยากเจอ
เฝ้าพร่ำเพ้อตามจีบใหม่สดใสดี
20 ตุลาคม 2551 01:10 น.
กันนาเทวี
ทารกน้อยเกิดมาแบมือเปล่า
ร้องไห้เอาไขว่คว้าด้วยมือสอง
เรียกร้องแต่สิทธิที่ครอบครอง
ไม่หันมองว่าใครไหนทุกข์ทน
ดูดู้ดู ดูนั่นสิมิยอมฟัง
ดันทุรังเห็นแก่ประโยชน์ผล
ยอมขายแลกศักดิ์ศรีความเป็นคน
ยุแยกชนแตกฝ่ายตายเป็นเบือ
วัตถุทาสเงินตราบ้าอำนาจ
กลืนกินชาติร่ำรวยจนล้นเหลือ
ยังไม่หยุดกักตุนมิจุนเจือ
แทะกินเนื้อเหลือกระดูกยังไม่พอ
ติดวังวนเมามัวเพื่อตัวเอง
ยอมข่มเหงผู้ด้อยให้กลัวหงอ
หมิ่นคนดียากจนผู้กล้านอ
ว่าบ้าบอยุ่งยากมากเรื่องจริง
ดูนั่นสิมือแบเหมือนเช่นเก่า
หมดสิทธิ์ยกยื้อเอาทุกทุกสิ่ง
เพราะมือนั้นวางไว้ไม่ไหวติง
จะพึ่งพิงสิ่งใดไร้ชีวา
หน้าเตาเมรุแต่งหรูดูวิจิตร
หมดชีวิตทรชนคนปัญหา
มือที่แบมิได้มีสิ่งใดมา
โลกภายหน้าเอาไปได้แค่กรรม.....
18 ตุลาคม 2551 18:16 น.
กันนาเทวี
คำ"รักนะขอบอก" ช่างแสนง่าย
น้ำคำชายพร่ำว่าหน้าตาเฉย
หญิงใดหลงคงช้ำเช่นอย่างเคย
ไยช่างเอ่ยเจรจาพาวกวน
หัวใจเธอทำด้วยสิ่งใดหนอ
ไม่เคยพอเพ้อรักสักหมื่นหน
หรือเป็นเรื่องธรรมดาชายสากล
ทุกทุกคนเจ้าชู้อยู่ในตัว
โลกไอทียิ่งกว้างทางล่อหลอก
เธอจึงบอก"รักนะ"ไปจนทั่ว
หญิงไม่รู้เผลอใจหลงเมามัว
จึงเกลือกกลั้วคำหวานซึ้งตรึงใจ
ชายกลิ้งกลอกบอกรักแล้วยักย้าย
เลยกลับกลายว่าหญิงนี่เหลวไหล
มาจับจองเป็นเจ้าของได้อย่างไร
เจอคนใหม่แล้วนะจะบอกเธอ
ไม่รักนะวันนี้ขอบายก่อน
อย่ามาอ้อนให้ยากไม่อยากเผลอ
อย่ามาตื้อเสียเวลาไม่อยากเจอ
คอยจนเก้อหน้าจออย่ารอเลย
อนิจจังไม่แน่นอนคำวอนรัก
จึงประจักษ์รักนะจะเฉลย
นั่นเป็นเพียงลมปากที่คุ้นเคย
เขาจึงเอ่ยกันง่ายง่ายชายหลอกลวง