12 ธันวาคม 2551 21:14 น.
กันนาเทวี
เดือนแจ่มฟ้าค่ำนี้ฤดีป่วน
คืนรัญจวนฝังจำทำใจหาย
จากรักห่างปีเดือนเคลื่อนรักคลาย
เศร้ามิวายใจจางเพราะห่างจร
แสงจันทร์หม่นคนเหงาเร้าในจิต
คงไร้สิทธิ์เหินห่างลางสังหรณ์
ก็แค่ทางผ่านไปไยอาวรณ์
เร่รักซ้อนปลูกไว้ไม้ริมทาง
ดั่งตะวันชิงพลบหลบลับฟ้า
สายธารายิ่งไหลไกลออกห่าง
เมื่อเกสรดอกไม้ชืดจืดจาง
กลีบปลิวคว้างลอยลมจมธุลี
น้ำค้างพรมลมหวนครวญเพลงเศร้า
เงียบไร้เงาเคยเคียงเลี่ยงหลีกหนี
ดั่งภมรร่อนเริงรื่นชื่นชีวี
หลากหลายสีเชยชมและดมดอม
หลงปลื้มใจใฝ่ฝันถึงวันเก่า
คงซบเซารักผ่านไม่หวานหอม
ร้าวรอนใจขื่นขมด้วยตรมตรอม
ใจจำยอมแพ้รักหักอุรา
เหม่อมองจันทร์วันนี้ฤดีหมอง
รักเคยปองหลีกไกลใจคอยหา
บอกกับใจอย่าหลั่งรินน้ำตา
ทรมาเพียงไรใจเจ็บจำ...
กันนา......
๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๑
11 ธันวาคม 2551 18:04 น.
กันนาเทวี
รักเธอคิดถึงเธอนะที่รัก
จะให้หักห้ามใจลาอย่ามาถาม
เมื่อรักแล้วคิดทำไมให้มากความ
คือนิยามจริงใจใช่หลอกลวง
รักเธอรู้เสียบ้างอย่าห่างเหิน
ช้ำมาเกินจะทำใจไม่ให้ห่วง
ธรรมดาคำสัญญาจำต้องทวง
รักจึงหวงถ่วงไว้ใช่กักกัน
รักเธอหวังไว้ได้สุขพร้อม
แต่ไม่ยอมให้ใครอื่นมาร่วมฝัน
เพราะใจนี้เธอเป็นคนสำคัญ
ขอจำมั่นนะเธออย่าเผลอใจ
ไม่มีหลักประกันใดจะเสนอ
ทรัพย์เลิศเลอไม่มีมากองให้
ทั้งแก้วแหวนเงินทองล้ำค่าใด
ความจริงใจสำคัญกว่านะคนดี
ถ้ามั่นใจแล้วว่าเธอรักฉัน
ส่งมือมาให้กันอย่าหน่ายหนี
อุปสรรคอาจร้อยเท่าพันทวี
ไม่ทิ้งเธอคนดีขอสัญญา
ฉันไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่
หากเชื่อใจคนที่ยืนตรงหน้า
ฉันคือคนที่ต้องการตลอดมา
ก้อจะรักให้สมค่าเธอเชื่อใจ
กันนาเทวี
๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๑
9 ธันวาคม 2551 19:58 น.
กันนาเทวี
กับคำถามถึงนิยามแห่งความรัก
แจ้งประจักษ์แก่ใจไม่ใช่หรือ
จะกล่าวถ้อยร้อยคำใดใครเล่าลือ
เพราะรักคือใจเราสองที่พ้องพาน
รักก่อร่างสร้างโลกโศกและสุข
รักมีทุกข์ปะปนระคนหวาน
รักซาบซึ้งตรึงใจไหนจะปาน
ชีวิตผ่านรักขมตรมตรอมใจ
อุปสรรครักเป็นเช่นขวากหนาม
ยังล่วงข้ามฝ่าฟันไม่หวั่นไหว
พลังรักเข้มแข็งแกร่งเพียงไร
มนต์ดลให้รักเจ้าเข้าครอบครอง
รักแท้แต่ห่างไกลส่งใจถึง
ครวญคะนึงข้ามฟ้ามาสนอง
รอคอยฝันมั่นใจในครรลอง
แม้จำจองตัวไว้ใจโบยบิน
โอ้ที่รักคนดีมีคำตอบ
ส่งรักมอบห่มขวัญใจใฝ่ถวิล
มองปลายฟ้าดาวพร่างหว่างเมฆินทร์
คนละถิ่นยังเพ้อพร่ำคอยรำพัน
กับคำถามนิยามแห่งความรัก
ซึ้งประจักษ์กับใจใครเสกสรรค์
เพราะรักนี้เทียบเท่าดวงชีวัน
รักสำคัญเกินกล่าวเล่าบรรยาย
กันนาเทวี
๙ ธันวาคม ๒๕๕๑
8 ธันวาคม 2551 21:00 น.
กันนาเทวี
บนถนนเส้นทางคนสร้างฝัน
ความสัมพันธ์สานต่อก่อจากเพื่อน
เป็นคู่คิดมิตรแท้มิแชเชือน
เธอเสมือนดอกไม้บานกลางลานใจ
งามตระการชูช่อละออฟุ้ง
หอมจรุงกลิ่นบุหงาพาหวั่นไหว
เธอคนดีมีรักปักหทัย
ฟ้าอำไพผ่องเพ็ญเย็นรื่นรมย์
ด้วยรู้ซึ้งถึงใจที่ใฝ่ภัคดิ์
เริ่มประจักษ์น้ำใจให้สุขสม
เพียรสรรสร้างทางดีที่ชื่นชม
เพราะอุดมคุณเลิศประเสริฐพอ
คนชอบกลอนเหมือนกันต่างฝันเฟื่อง
คุยกันได้ทุกเรื่องไปสมใจหนอ
จะทุ่มเทใจให้ไม่รั้งรอ
ขอเพียงพออิ่มใจมิตรไมตรี
หวั่นเจ็บร้าวหนาวใจไม่สมรัก
หวั่นกลัวนักนักกลอนอักษรศรี
คารมร้ายชายพร่ำหว่านวจี
กลลวงมีกลอนเศร้าแสร้งเหงาทรวง
โอ้...เพื่อนรักนักกลอนที่นอนฝัน
กลอนสร้างสรรค์ไร้มนต์ดลห่วงหวง
คำรักที่หวังนักจักตักตวง
อาจจมบ่วงน้ำตาคราผันเเปร
กันนาเทวี
๘ ธันวาคม ๒๕๕๑
6 ธันวาคม 2551 21:05 น.
กันนาเทวี
คำว่าบ้านคือสถานที่พักพิง
ได้แอบอิงอาศัยได้ไออุ่น
มีรักใคร่ไมตรีมีการุณ
มีน้ำใจเจือจุนทุนสังคม
บ้านกลอนคือบ้านเราที่เนานาน
เราเบิกบานบ้านนี้มีเงาร่ม
มีเพื่อนพ้องพี่น้องปองชื่นชม
ร่วมภิรมย์อ่านเขียนเวียนคำกลอน
ณ บ้านนี้เวียนมาพักอาศัย
บ้างจากไปบ้างก็ลามาผลัดผ่อน
บ้างหายหน้าไปนานเพื่อนอาวรณ์
เชิญชวนย้อนกลับมาต่างอาลัย
ตั้งคำกลอนบทกวีมีหลายหลาก
มีเรื่องมากตั้งประเด็นเช่นปราศัย
มีปัญหาขัดข้องบ้างหมองใจ
เคลียร์กันได้พี่น้องปรองปรีดา
บ้างติติงท้วงถามตามสงสัย
บ้างน้อยใจบ่นท้อครหา
ธรรมดาโลกนี้อนิจจา
ต่างนินทาสรรเสริญเจริญใจ
บางกะทู้เรื่องสั้นนั้นสนุก
บางทีทุกข์อ่านแล้วน้ำตาไหล
นี่แหละหนารสชาติบ้านกลอนไทย
จากถิ่นไหนล้วนร่วมรักสามัคคี
กันนาเทวี
๖ ธันวาคม ๒๕๕๑