11 มิถุนายน 2552 21:14 น.
กันนาเทวี
เหมือนจะร้างห่างไกลไม่เหมือนเก่า
เงียบซึมเซาเปล่าดายที่ปลายฝัน
มองสายฝนฟ้าเทาเหงาทุกวัน
จำจาบัลย์แดเดียวแสนเปลี่ยวใจ
นั่งเหม่อมองจ้องจอก็ไม่เห็น
รอสายเป็นวันวันมิสั่นไหว
อนิจจาลืมกันหมดหรือไร
เป็นไฉนป่านนี้ไร้วี่แวว
เมฆครึ้มดำตำใจให้หมองเศร้า
เป็นแค่เงาฝันร้ายคนปลายแถว
เป็นดั่งเรือลอยน้ำไร้จ้ำแจว
หมดหวังแล้วเลือนลางและห่างไกล
งานสุมกองมากมายกายอ่อนล้า
ใจผวาจิตพะวงเฝ้าสงสัย
หรือพูดผิดทำผิดติดข้องใด
มีคนใหม่เสียแล้วหรือแก้วตา
มีใครห่วงหวงกันคอยกั้นขวาง
มีน้องนางแนบชิดเสน่หา
รักคงหวานซ่านซึ้งตรึงอุรา
ผ่านไปมาชาเฉยเลยไม่แล
รักหนอรักหักใจที่ใฝ่หา
ปล่อยเวลาผ่านไหลคล้ายกระแส
ธรรมดาอารมณ์นิยมแปร
คงเหลือแต่รอยช้ำระกำทรวง
รักคือรักยังดีมีค่าล้น
สุขกมลยามใจอาลัยห่วง
อกหักแล้วใจแกร่งคือผลพวง
รักใช่ลวงตวงตักได้พักพิง
ขอสัญญาฟ้าดินไม่สิ้นสูญ
แม้อาดูรเพียงใดไม่เกรงกริ่ง
รักหวานล้ำยามใจได้แอบอิง
รักฉันท์มิ่งมิตรแท้ให้แก่กัน...
กันนาเทวี
๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๒
7 มิถุนายน 2552 16:37 น.
กันนาเทวี
ผ่านคืนวันวัยใสใจสุขสันต์
วิ่งเล่นกันแสนสนุกสุขหรรษา
กระโดดน้ำลุยโคลนในท้องนา
จัปปูปลาหากินในถิ่นตน
เมื่อฝนพรำฉ่ำชื้นผืนนาชุ่ม
สองมือกุมจับคันไถกลางสายฝน
ลงแขกร่วมดำนากันอึงอล
ชีวิตคนชาวนาพากลมเกลียว
ท้องทุ่งงามขจีสีสดใส
ลมพัดใบข้าวพลิ้วริ้วคลื่นเขียว
ข้าวตั้งท้องป่องกลางหว่างใบเรียว
หวังได้เกี่ยวดอกข้าวบานตระการตา
ลมชายทุ่งพัดรื่นชื่นใจหมาย
ผีเสื้อลายปีกแฉล้มแต้มเวหา
แมงปอล้อลมพัดบินลัดมา
คือชีวาแห่งทุ่งทองที่รองเรือง
หน้าเกี่ยวแล้วท้องนาค่าไพศาล
ผลผลิบานงามรวงพวงข้าวเหลือง
แม้เหนื่อยยากเพียงไรไม่แค้นเคือง
ได้ปลดเปลื้องทุกข์เข็ญเห็นรวงงาม
ชีวิตเอยชาวนาผาสุขไหม
มีบ้างใครห่วงหามาไต่ถาม
เบิปข้าวอิ่มยิ้มแย้มทุกมื้อยาม
คิดถึงความทุกข์ของผองชาวนา...
กันนาเทวี
๘ มิถุนายน ๒๕๕๒
5 มิถุนายน 2552 21:28 น.
กันนาเทวี
ในนิยามความหมายนิยายรัก
ร่วมทอถักสัมพันธ์กันแน่นเหนียว
เพียงเข้าใจสองใจในรักเดียว
จึงเกาะเกี่ยวเกลียวฝันด้วยมั่นใจ
คมคำหวานซ่านซึ้งตรึงใจหวาม
เฝ้าติดตามถามหาพาหวั่นไหว
หวิวในจิตชิดชวนอวลอุ่นไอ
ยามชิดใกล้หวานชื่นรื่นอารมณ์
หากรักแล้วรักใครก็รักเถิด
รักบังเกิดที่ใดใจสุขสม
รักเพื่อรักศรัทธาพาชื่นชม
รักนิยมความดีมีต่อกัน
ด้วยใจรักมั่นคงจึงส่งเสริม
จึงต่อเติมพลังใจใฝ่สร้างสรรค์
อย่าได้ท้อทุกข์ยากลำบากครัน
จุดไฟฝันบนทางอย่างเสรี
รักหวังให้หวังดีหวังมีสุข
ยามมีทุกข์หม่นใดใจหมองศรี
พร้อมแบ่งปันใจท้อมิรอรี
มิตรไมตรีที่ให้ไม่หวังคืน
รักเพื่อให้ใช่ไหมไยต้องเศร้า
หวังใดเล่าเผาใจให้ขมขื่น
ไหนนิยามรักแท้แน่หยัดยืน
หากกล้ำกลืนฝืนใจทำไมกัน
กันนาเทวี
๕ มิถุนายน ๒๕๕๒
3 มิถุนายน 2552 01:09 น.
กันนาเทวี
มีความรักซื่อตรงส่งมาถึง
ใครผู้ซึ่งคิดฝันโลกหรรษา
มิท้อแท้สร้างสรรค์ด้วยปัญญา
เติมคุณค่าชีวิตคิดกว้างไกล
หนึ่งมองโลกให้ดีมีแง่คิด
จะพลาดผิดมิท้อแท้ค่อยแก้ไข
อุปสรรคปัญหาน่าอ่อนใจ
มองว่าได้ฝึกฝนจนแกร่งดี
สองสงบจบปัญหาปัญญาเกิด
มีผลเลิศทำให้ใจสุขี
เรื่องวุ่นวายสงบได้ใจเปรมปรีดิ์
สมกับที่เป็นคนบนโลกา
รู้อดทนอดกลั้นมิหวั่นไหว
สู้ด้วยใจอดทนต่อปัญหา
ทุกข์ต่างต่างล่วงพ้นด้วยเวลา
รอจนกว่าสุขสมอุดมการณ์
สี่มีวินัยใส่ใจเถิด
รู้ปิดเปิดตรงเวลาพาอาจหาญ
ใจซื่อตรงมั่นคงอยู่ได้นาน
ได้พบพานแต่คนดีมีสัจจา
ข้อห้ามีกริยาวาจาน้อม
จิตใจพร้อมสุภาพชนคนอาสา
ยอมสละตัวตนให้เรื่อยมา
เพื่อโลกาคงไว้ให้ยั่งยืน
ข้อหกมีความสุขในการงาน
ด้วยเชียวชาญอาชีพรึบศึกษา
หมั่นอบรมค้นคว้ามวลวิชา
งานก้าวหน้าพากเพียรเรียนเพิ่มเติม
คาถาดี P.หกมิตกต่ำ
งานที่ทำก้าวหน้าถ้าส่งเสริม
นำไปใช้ปฏิบัติได้ดีกว่าเดิม
ค่อยริเริ่มทำไปคงได้ดี...
กันนาเทวี
๓ มิถุนายน ๒๕๕๒..
คาถา 6 P เพื่อความสำเร็จในการทำงาน
1. P-PositiveThinking คือ มีทัศนคติที่เป็นบวก
2. P-Peaceful Mind คือ การมีจิตใจที่สงบ
3. P-Patient คือ การมีความอดทน
4. P-Punctual คือ การเป็นคนตรงต่อเวลา
5. P-Polite คือการเป็นคนสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน
6. P-Professional คือ ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน
2 มิถุนายน 2552 00:58 น.
กันนาเทวี
ฟ้าฝนหลั่งน้ำไหลใจหม่นหมอง
อึ่งอ่างร้องระงมดังข่มขวัญ
ทั้งกบเขียดส่งเสียงดังประชัน
คงสุขสันต์ยามฝนล้นหลากมา
จิตสะท้อนนอนนิ่งไม่ติงไหว
น้ำตาไหลฝนกระหน่ำช้ำนักหนา
ยามแดเดียวเปลี่ยวใจใครนำพา
ยินเสียงฟ้าครวญครางดังครื้นครืน
ลมพัดแรงฤๅแกล้งกันให้หวั่นไหว
มองออกไปมืดมนจนดึกดื่น
ฝนซาเม็ดเช็ดน้ำตาคราค่ำคืน
หยุดสะอื้นอ่อนล้าหลับตานอน
ไร้สำเนียงเคียงคู่อยู่ใกล้ชิด
ได้แต่คิดติดทางไกลใจทอดถอน
ห่วงแสนห่วงหน่วงหนักรักอาวรณ์
ฝากใจย้อนหวนหาแสนอาลัย
แมงเม่าบินขวักไขว่กลางไฟแจ้ง
หมู่แมลงว่อนถลาพาสงสัย
ความงดงามแจ่มแจ้งแฝงพิษภัย
บินเข้าไปร้อนรนจนตัวตาย
ฟ้าฝนหลั่งน้ำใจกระไรหนอ
เคยพะนอเชยชิดสนิทหมาย
หรือเป็นเช่นแมงเม่าเจ้าชีพวาย
รักกลับกลายลาเลยไม่เคยคืน....
กันนาเทวี
๑ มิถุนายน ๒๕๕๒