17 กรกฎาคม 2552 20:29 น.
กันนาเทวี
ป่าคือบ้านบ้านคือป่ามานานโข
เราเติบโตจากผืนป่าได้อาศัย
วิถีชนคนดอยด้อยปัจจัย
มิสิ้นไร้ทำกินในถิ่นเรา
น้ำจากฟ้าปลาจากห้วยรวยสินทรัพย์
มากเกินนับค่าได้ในขุนเขา
อากาศดีแดดใสในลำเนา
มีพี่น้องพงศ์เผ่าเราสุขใจ
ทำผืนนาขั้นบันไดไว้ปลูกข้าว
ออกรวงพราวเหลืองอร่ามงามไสว
ดอกตะแบกม่วงครามงามวิไล
โอ้แดนไพรเมืองแมนแคว้นฉิมพลี
ลูกหลานเอ๋ยเชื่อปู่ย่ากลับมาเถิด
อย่าเตลิดเพลิดไปในแสงสี
ในเมืองต่างแก่งแย่งและแข่งดี
ห่างวิถีบ้านป่าช่างน่ากลัว
ไปให้เขาครอบงำทางความคิด
แล้วหลงติดเงินตราอาจพาชั่ว
ลืมตัวตนคนบ้านเราไปเมามัว
พาให้ตัวทุกข์ยากลำบากนาน
กลับถิ่นดอยคอยอยู่คืนสู่เหย้า
มารับเอาจารีตดีที่ถิ่นฐาน
ภูมิปัญญาป่าไพรไม่กันดาร
คือวิมานสราญใจในแดนดง
กันนาเทวี
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒
14 กรกฎาคม 2552 19:14 น.
กันนาเทวี
ฟ้าเรืองรองส่องมาคราวันใหม่
พลังใจพาฟื้นตื่นจากฝัน
ชีวิตที่ผันผ่านเมื่อวานวัน
มิอาจหันย้อนกลับลับล่วงเลย
ณ วันนี้ที่ใจเป็นเจ้าของ
คิดมุ่งปองหวังใดไยนิ่งเฉย
ตั้งใจเพียรกระทำย้ำให้เคย
คำใดเอ่ยเผยตรงลงมือทำ
ยามดินแล้งแห้งนาหญ้าขาดฝน
เมื่อผ่านพ้นฝนมาพาชุ่มฉ่ำ
ชีวิตคนทุกข์ยากทนตรากตรำ
บุญหนุนนำพบสุขผ่านทุกข์ทน
ในชีวิตผิดพลั้งยังแก้ได้
รู้จักให้อภัยเถิดจะเกิดผล
เขาหรือเราต่างเกิดมาผจญ
ชีวิตคนต่อสู้รู้แบ่งปัน
อนาคตสดใสมิใหลหลง
มัวพะวงห่วงถามความสุขสันต์
ทุกข์คราใดร่ำไห้ใจจาบัลย์
พร่ำรำพันยิ้มหัวด้วยมัวเมา
อรุณรุ่งฟ้าผ่องเรืองรองใส
ปรับใจใหม่พาตนพ้นอับเฉา
ฟ้าหลังฝนสดชื่นฟื้นซบเซา
ใจคนเราสติตื่นย่อมรื่นรมย์
กันนาเทวี
๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒
12 กรกฎาคม 2552 22:51 น.
กันนาเทวี
เหม่อมองท้องฟ้าเทา เงียบซึมเซาตั้งเค้าฝน
น้ำตารินเอ่อล้น ในกมลคนเดียวดาย
หยาดฝนหล่นไหลริน อยากลืมสิ้นใจสลาย
ลิ้นเล่ห์เพทุบาย ช่างเหลือร้ายซ่อนปลายคม
มืดมนราตรีกาล มิพ้นผ่านใจพาลขม
หรีดหริ่งร้องระงม ยิ่งจ่อมจมตรมอุรา
ดึกสงัดลมสงบ ยอมสยบอยู่เอกา
กี่หนทนรอท่า หมดราคาความสำคัญ
ฟ้าหม่นคนใจหมอง สิ่งหวังปองฟ่องลอยฝัน
โหยไห้ใจจาบัลย์ เปลี่ยนแปรผันและห่างไกล
มุมเก่าหมองเซาซบ คงเร้นหลบไปไหนไหน
หมดเยื่อมิเหลือใย น้ำตาไหลในค่ำคืน...
กันนาเทวี
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๒
11 กรกฎาคม 2552 16:03 น.
กันนาเทวี
ใต้ร่มจันทร์กระจ่างกลางท้องทุ่ง
หนองผักบุ้งจำไหมในความหลัง
เสียงเพลงขลุ่ยหวานแว่วพลิ้วแผ่วดัง
สองเรานั่งชมวิมานบนลานฟาง
ควันไฟจางกลิ่นกรุ่นอุ่นไอเอื้อ
หนาวลมเหนือโชยมาครารุ่งสาง
กระซิบรักฝากใจไว้กับนาง
สายหมอกจางลอยต่ำพาฉ่ำเย็น
น้ำค้างร่วงหยดพรายบนปลายหญ้า
ก่อนจากลากันไกลคงไม่เห็น
หยาดน้ำใสซ่อนหน้าถ้าจำเป็น
จำหลีกเร้นลับลาสุดอาวรณ์
โบกมือให้ใจหายสายทางเปลี่ยว
สุดแลเหลียวมองหาพาสังหรณ์
คำสัญญาลาไปใจรอนรอน
จะกลับย้อนคืนหวนให้นวลรอ
จำใจฝืนยืนเศร้าที่เก่าก่อน
คำเว้าวอนตอนเหงาเศร้าจริงหนอ
คำนึงถึงสัญญาน้ำตาคลอ
ลมเสียดล้อกอไผ่ไหวโอนเอน
สัญญารักบ้านนาอย่าลืมฉัน
ใต้เงาจันทร์แจ่มจ้าพาชมเล่น
ถึงพี่ไกลใจเที่ยงมิเบี่ยงเบน
มั่นคงเช่นเดือนคู่ฟ้ายามราตรี..
กันนาเทวี
๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
10 กรกฎาคม 2552 07:39 น.
กันนาเทวี
โรคยุคใหม่ระบาดประกาศทั่ว
คนต่างกลัวติดไข้ใจอ่อนไหว
พากันฮิตปากจมูกถูกปิดไว
ลมหายใจไอจามติดลามกัน
ต้องล้างมือบ่อยบ่อยอย่าปล่อยปละ
เชื้อโรคจะพาไข้ไร้สุขสันต์
อาจถึงแก่ความตายในเร็ววัน
หากไม่ทันรักษาชีวาวาย
กันไว้ก่อนดีกว่าอย่าประมาท
กินอยู่ขาดหลักการพาลเสียหาย
ตามใจอยากปากท้องอาจทำลาย
มีร่างกายอ้วนล้ำเกินตำรา
กินผักมากมันน้อยค่อยค่อยงด
ของปรุงรสหวานมันชอบสรรหา
เหล้ายาดองของแสลงจัดสรรมา
ล้วนแต่พาร่างกายให้อ่อนแอ
ออกกำลังเถิดหนาอย่าท้อแท้
เป็นทางแก้ทางกันก่อนจะแย่
อย่ายอมให้โรคร้ายมารังแก
หากเราแน่เดินวิ่งยิ่งแข็งแรง
อารมณ์ดีมีสุขอย่าทุกข์ถม
มัวจ่อมจมเครียดหนักรักแสลง
งานหนักมากพักผ่อนจะอ่อนแรง
เรื่องขัดแย้งหยุดก่อนค่อยผ่อนคลาย
ร่างกายดีกองทัพเตรียมรับพร้อม
สิ่งแปลกปลอมข้าศึกคึกคักหมาย
จะมาบุกรุกโรมโทรมร่างกาย
ผลสุดท้ายโรคแพ้แก่ตัวเรา
ป้องกันไว้วันนี้ไม่มีโรค
มีแต่โชคนำหนุนค้ำจุนเสา
ร่างกายดีจิตใจแกร่งมิเบา
ขอเชิญเอา 3 อ.ไปใช้กันเอย...
กันนาเทวี
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๒