27 กรกฎาคม 2552 21:36 น.
กันนาเทวี
ณ..วันนี้ขอเพียงให้ใจมีสุข
ตัดเรื่องทุกข์หม่นใจภัยทั้งผอง
รักหรือชังหวังใดที่ใฝ่ปอง
ให้ผ่านห้องหัวใจไร้ร่องรอย
ชีวิตผ่านอีกฉากพบจากจบ
ได้ประสบรุ้งทอพอเอื้อมสอย
ดาวจรัสแจ่มฟ้ามาเลื่อนลอย
สุดกล่าวถ้อยน้อยใจสู่ใครฟัง
วาสนาแค่นี้ดีหนักหนา
คลื่นนาวาลำนี้ชีวีหวัง
ฝ่าลมฝนพายุเพียงลำพัง
ชีวิตยังเวียนวนทนต่อไป
จิตสำนึกให้สู้ให้อยู่ต่อ
หากใจท้อจาบัลย์มิหวั่นไหว
หนทางมีข้างหน้ายังยาวไกล
ฝึกฝนใจตั้งมั่นสู้ผันแปร
มิผิดหรอกใจเราที่เหงานัก
ยามอิ่มรักยินดีจนมีแผล
มิใช่ใครเขาชังคิดรังแก
เขาเพียงแต่ให้รักเพื่อพักพิง
ณ..วันนี้ขอเพียงให้ใจมีสุข
อย่ากังวลหม่นทุกข์ในทุกสิ่ง
เพียงพอใจในตนคนใจจริง
สงบนิ่งไม่บ่นพ้อก่อกวนใจ...
กันนาเทวี
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒
26 กรกฎาคม 2552 21:28 น.
กันนาเทวี
ผูกจิตมั่นฝันใฝ่ใคร่ชนะ
มิอาจละวังวนกิเลสหนา
เฝ้ายื้อแย่งแข่งขันไม่เลิกรา
หวังเพียงข้ายิ่งใหญ่หาใครเทียม
หลงทางผิดคิดแต่แค่ชนะ
ลืมสัจจะหวังผลล้นเต็มเปี่ยม
ไฟโทสะปะทุเข้าเผาใจเกรียม
ลามโลมเลียมไหม้ทั่วด้วยมัวเมา
ช่วงชิงชัยให้ตนเป็นคนเก่ง
มีคนเกรงหัวหดกดข่มเขา
มีเงินตราแลกใจใครรักเรา
มาร่วมเข้าปลุกปั่นประจัญบาน
ชวนยุแยกแตกเหล่าหมายเข้าสู้
ดุจศัตรูรุกล้ำทำอาจหาญ
หมดอำนาจวาสนายังระราน
อันธพาลไม่ยอมแพ้แก่ผู้ใด
ผู้หลงตนใฝ่ปองต้องเป็นฉัน
จะดึงดันต่อสู้ยังถูไถ
มิยอมรับกับผิดที่ทำไป
ไทยฆ่าไทยป่นปี้ต่างสีกัน
ยังไม่เลิกยุยงและส่งเสริม
ยังเหิมเกริมเร้ารุกพูดปลุกปั่น
อนิจจังแปรไปในทุกวัน
ยังยึดมั่นหลงผิดติดอะไร
24 กรกฎาคม 2552 07:34 น.
กันนาเทวี
ฝนตกสุยสุย ฮุ่ยฮุ่ยไล่ต้อน
ลากไถแอกคอน เดินดุ่มในนา
เขาว่าเป็นควาย ไม่รู้ประสา
แต่สั่งซ้ายขวา ฉันก็ทำตาม
คนชอบเปรียบเปรย เย้ยว่าต่ำทราม
พากันเหยียบหยาม ว่าโง่อย่างควาย
เป็นเพื่อนชาวนา เด็กน้อยหญิงชาย
รู้จักค.ควาย ใช้นำหน้าคน
ลุยโคลนลากไถ ไม่เคยพร่ำบ่น
ไม่ทันใจคน เขาใช้รถแทน
แต่มาบัดนี้ ลำเค็ญสุดแสน
น้ำมันขาดแคลน ยากแค้นแสนแพง
สงสารชาวนา ทำนาเหนื่อยยาก
ต้องทนลำบาก หนักเอาเบาสู้
แต่ฉันแค่ควาย ใครเขาหลบหลู่
ว่าควายไม่รู้ อยู่ประสาควาย
กันนาเทวี
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒
21 กรกฎาคม 2552 07:57 น.
กันนาเทวี
รักหนอรักถักทอก่อตัวแล้ว
มาเปลี่ยนแนวชีวิตคิดไม่ถึง
อยู่ดีดีมีเขาในคำนึง
ยังซาบซึ้งตรึงอยู่มิรู้วาย
หลบหนีเข้าพงไพรใจไหวหวาม
หนีสู่ความสงัดตัดใจหมาย
จะขึ้นเหนือล่องใต้ใจวุ่นวาย
รักหนอรักช่างร้ายมิคลายคลอน
หวานอันใดไหนเล่าเท่าหวานรัก
อ่อนแอนักผิดคาดมิอาจถอน
ยามรักร้างอ้างว้างใจอาวรณ์
ใจรอนรอนนอนหลับกับน้ำตา
เปี่ยมพลังหวังดีมีแต่ให้
ยามชิดใกล้ปลาบปลื้มเป็นนักหนา
ภูมิใจนักเกินจำนรรจ์พรรณนา
ชุบชีวาชุ่มเย็นเช่นฝนโปรย
บางคราครั้งมัวเมาเฝ้าพร่ำเพ้อ
หลงละเมอกังวลจนใจโหย
ได้คำตอบปลอบขวัญดั่งลมโชย
ที่ราโรยก็เริงรื่นยิ้มชื่นบาน
รักหนอรักถักทอก่อตัวแล้ว
ยังแน่แน่วจริงใจใฝ่สมาน
จะยุ่งยากเช่นไรในดวงมาลย์
ยังต้องการรักอยู่โปรดรู้ใจ...
กันนาเทวี
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๒
19 กรกฎาคม 2552 18:36 น.
กันนาเทวี
เขียนกลอนรักจากใจใส่ซองน้อย
ถักทอถ้อยคำซึ้งส่งถึงเขา
ฝันเคียงคู่อยู่กินถิ่นลำเนา
จะคอยเฝ้าปฏิบัตินั่งพัดวี
ค่ำคืนนี้เหงาใจด้วยไกลห่าง
เธอจากร้างแรมไกลมิใช่หนี
รู้ว่าไปทำงานนะคนดี
ครบขวบปีย้อนมาบ้านนาเรา
ที่เมืองกรุงยุ่งยากดูจากข่าว
ทุกเรื่องราวสับสนจนอับเฉา
อำนาจเงินขันแข่งยื้อแย่งเอา
ดั่งแมงเม่าหลงแสงสีชีวีวาย
โอ้พี่จ๋ากลับนามาสู่ขวัญ
มาร่วมฝันสานสู้สู่จุดหมาย
ฟื้นผืนนาปู่ย่าและตายาย
มิให้หายสูญสิ้นแผ่นดินทอง
กาสะลองบานแล้วแว่วเพลงหวาน
ณ ใต้ลานทองกวาวแห่งเราสอง
สัญญากันมั่นไว้มอบใจครอง
ทุ่งรวงทองลานฟางมิร้างเลือน
เขียนกลอนรักจากใจใส่ซองน้อย
ด่วนจี๋หน่อยไปรณีย์อย่าคลาดเคลื่อน
จะรอพี่คนดีนั้นมาเยือน
เหมือนดั่งเดือนเยี่ยมฟ้าคราค่ำคืน....
กันนาเทวี
๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๒