27 กุมภาพันธ์ 2548 19:56 น.
กอกก
. ...ดุจต้องคำสาป ณ รักนี้...
สิบแปดปีที่รักประจักษ์จิต
ฉาบยาพิษน้ำผึ้งกึ่งผสม
ต้องคำสาปอาบมนตร์บนทางตรม
ยังขื่นขม ซม ราน เมื่อนานมา
ฟ้าส่งเขาเข้าพัวพันผันชีวิต
พรหมลิขิตขีดเราเฝ้าโหยหา
ชายคนหนึ่งซึ้งใจให้นำพา
เติมอุราคนนี้ที่โง่งม
เมื่อครั้งนั้นนานแล้วแก้วใจร้าว
พบเรื่องราวหมองเศร้าเราขื่นขม
รักแตกยับดับโลกโศกกมล
ทุกข์ระทมก้าวเดินเหินห่างธรรม
ใช้ร่างกายเสเพลเหชีวิต
ไร้ความคิดคำนึงจึงถลำ
สิ่งเมามัวชั่วช้ามาคลอบงำ
เหมือนตอกย้ำ ช้ำแท้ แหม..สะใจ
แล้วพบเขาเงาใจในวันหนึ่ง
คำพูดซึ้งล้างจิตปลิดเหลวไหล
ขจัดคราบสาปร้ายหายทิ้งไป
เหลือเพียงใจใสสดหมดทั้งดวง
สวรรค์สาป บาปส่งฟ้าคงแกล้ง
เมื่อใจแจ้งว่ารัก ภักดิ์ห่วงหวง
ก็มีเส้นมากีดขวางทางทั้งปวง
ดักด้วยบ่วงคำนั้น...*กตัญญู*.
เราทั้งสองต้องจากยากเกินยั้ง
ทิ้งความหลังฝังรอยร้อยอดสู
อยู่กับเศร้าเคล้าเจ็บจิตลองคิดดู
ร้องไห้อยู่เงียบเงียบเพียงเดียวดาย
ได้พบเขาอีกครา กุมภา..นี้
เขาคนดียังโดดเดี่ยวใจเหี่ยวหาย
เจ็ดปีจากพรากแต่ เพียงแค่กาย
ใจคิดหมาย มุ่งมั่นยังรั้นปอง
จะทำไงใจครวญรัญจวนคิด
ต่างน้อมจิตโหยหาคำว่า *สอง*
แล้วร่วมมั่นสัญญาคู่เคียงครอง
อยากร่วมข้อง ร่วมชีวิต นิจนิรันดร์
ดั่งต้องคำสาป ณ รักนี้ ที่รักจ๋า
มาสิมา ร่วมใจให้แปรผัน
พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน ผ่านด้วยกัน
ล้างอาถรรพ์ด้วยรัก...ภักดี...ที่ยาวนาน
***************
** สิบแปดปีที่รู้จักและรัก
** เจ็ดปีหลังไม่ได้พบกันอีกเลย
** และวันนี้ เราพร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกัน
22 กุมภาพันธ์ 2548 15:37 น.
กอกก
.... คมพยาบาท....
พยาบาท บาดจิตคิดแล้วสะ (ใจ)
ทิ้งระยะ เวลา ยังสาสม
แม้นแสนนานผ่านมา รานอารมณ์
ยอมโง่งมคอยหวัง ได้...ดั่งใจ
มาถึงแล้ว แก้วร้าวคราวใกล้แหลก
เส้นเลือดแตกสมองยับ เกินขับขัย
ปากบูดเบี้ยวต้องคำสาป พิลาปพิไร
น้ำตาไหลร่วงริน ฉัน...ยินดี
นางสับปลับไร้เมตตา มหาโหด
เป็นคนโฉดฉ้อฉล คนแกมผี
ยุให้รำตำให้รั่ว ชั่วสิ้นดี
ซ้ำย่ำยี ไร้สำนึก ไร้ตรึกตรอง
ฉันเคยซมตรมราน ซานไปหา
เวทนาด้วยเถิด เชิด...จองหอง
ฉันพ่ายแพ้ แค่นั้นตามครรลอง
ใจเธอผ่อง แม้นอื้อฉาวเรื่องคาวใจ
ไอ ซี ยู อยู่ดีไหมในวันนี้
ยามมองที่เพดาน ร้าวรานไหม
หลายชีวิต เจ็บฤดีฝีมือใคร
ไม่อภัยแน่นอน อย่าวอนกัน
กรรมกระหน่ำซ้ำซัด ชัดเจนแล้ว
วอนเสียงแผ่ว ขอโทษอย่าโกรธฉัน
พยาบาท ปาดเชือดเดือดโรมรัน
เวลานั้น นาทีนี้ ถึงที...ใคร
*************
ลงชื่อ.....จาก คนนี้ที่ไร้ใจ
20 กุมภาพันธ์ 2548 21:08 น.
กอกก
. ... สู่ฝั่งฝัน...
ลูกรัก......
แม่ฟูมฟักรักเจ้าเฝ้าถนอม
ยุงริ้นไรไม่ให้ได้ไต่ตอม
อุ้มโอบล้อมด้วยรักประจักษ์ใจ
อกอุ่นกกหวังดีมีให้ลูก
ความพันผูกจิตติพิสุทธิ์ใส
ยามป่วยไข้ดูแลด้วยแม่ไง
ปลอบหทัยที่หม่นลูกคนดี
มาวันนี้ที่เจ้าเข้าถึงฝั่ง
สมใจดังปรารถนาฝ่าวิถี
จบการเรียนศึกษาปริญญาตรี
ปลื้มฤดีดั่งแก้วที่แววงาม
ก้าวต่อไปสู่ชีวิตลิขิตเถิด
ฝันบันเจิดแจ้งจ้าสง่าขาม
นำชีวิตขีดเส้นที่ดีงาม
และอย่าคร้ามเป็นคนดีศรีสังคม...
**********
มอบแด่ลูกทุกคนของ......พ่อและแม่
อย่าลืมเป็นคนดีของสังคมด้วยนะเจ้า
10 กุมภาพันธ์ 2548 15:22 น.
กอกก
. ...อย่าได้คิด... โดย..ketana
สิ่งที่หวังตั้งใจ ไม่แน่นอน
บทเรียนสอนฝังจำ ความขื่นขม
ยังติดตรึงรักร้าว คราวระทม
เพียงแค่ข่มเอาไว้ ในอุรา
อยากจะเปิดหัวใจ ใหม่อีกหน
ยังเวียนวนกับพลั้งพลาด หวาดผวา
เคยร่ำไห้ทั้งคืน กลืนน้ำตา
จนทิวารุ่งราง สว่างเยือน
อยู่อย่างนี้อยู่ไป อย่างใจเหงา
พอบรรเทาคลายทุกข์ สุขกับเพื่อน
แค่คิดถึงวันเก่า คอยเฝ้าเตือน
มิลืมเลือนแม้ผ่าน นานเป็นปี
เก็บหัวใจกับตัวไม่มัวหมอง
มิหมายปองให้ใคร หทัยนี้
ถึงจะต้องระกำ ช้ำชีวี
ดวงฤดียับเยิน เกินรักใคร
***********
. ....ขอให้คิดอีกสักหน.... โดย..กอกก
ซ่อนความตรมขมขื่น ฝืนเอาไว้
อยู่ในใจ หลอกหลอน ตอนเพ้อถึง
รัก ร้าว ร้าง นึก คิด ยังติดตรึง
เศร้า โศก ซึ้ง ข่มไว้ ในอุรา
ความพลาดพลั้งรั้งหทัย ให้หวาดหวั่น
จึงปิดกั้นใจสวาท ขลาดผวา
หลับตานอน ย้อนฝืน คืนระอา
มีน้ำตาไหลล้น จนรุ่งราง
วันนี้โศก เพียงพบ สงบนิ่ง
แต่ยังดิ่งกับอดีต ที่ขีดขวาง
แล้วคิดถึงรักเก่า เศร้ามิจาง
อดีตร้างไม่เลือน ผ่านเดือนปี
คิดแน่หรือว่าฤทัย ไม่มัวหมอง
น่าตรึกตรองหมายใหม่ ให้สุขี
หญิงคนหนึ่ง ขอเสริม เติมชิวี
อยากแทนที่ใจยับเยิน เกินรักใคร
ได้ไหม คะคนดี.......
หทัยนี้ ดุจแก้ว ที่แพรวใส
นำพารัก ภักดี จากที่ไกล
เพียงเริ่มใหม่หมายมอง...อย่าหมองเมิน
************
ขอขอบคุณ ...แรงดลใจจากกลอน *อย่าได้คิด* ของคุณ...ketana
2 กุมภาพันธ์ 2548 18:22 น.
กอกก
ณ ราตรี
สบตาเขา ใยเมิน เกินใจรับ
ทำเหมือนกับ กล้ำอยู่ ดูนิ่งเฉย
เขาเปลี่ยนไป ไม่เป็น ดังเช่นเคย
มองละเลย เหมือนฉัน นั้นไร้ตน
ส่งยิ้มไป ไม่ตอบรับ ร้าง ว่างเปล่า
จึงซึมเซา อะไรหรือ คือเหตุผล
น้ำตาตก ย้อนไหล ให้ร้อนรน
กมลหม่น หมองเศร้า เกินเข้าใจ
ทักเขาไป ไม่หัน แสนรันทด
ปวดกำสรด เจ็บล้น เกินทนไหว
สายตาเมิน เดินผ่าน ซานฤทัย
มองแววไร้ รักเหลือ ของเมื่อวาน
เขานั่งเงียบ เรียบนิ่ง พิงเก้าอี้
หน้าตาชี้ คล้ายใจ ถูกไฟผลาญ
ฉันก็เศร้า เขาก็โศก โลกคงราน
สุขเนิ่นนาน หายไป เหตุใดฤา
นำพาร่าง ย่างฝืน ยืนตรงหน้า
มองทีท่า ทุกข์ใจ อะไรหรือ
ภาพแนบอก คือใคร ที่ในมือ
โกรธกระพือ พ้ออาลัย คนไหนกัน
แล้วเห็นรูป ร่วงหล่น บนพื้นห้อง
ตาจดจ้อง มองไป ใยคือฉัน
เขาโศกเศร้า เสียใจ ทำไมนั่น
ก็ตัวชั้น อยู่นี่ ตรงนี้ไง
พ่อจ๋าพ่อ หนูนิด คิดถึงแม่
นิดงอแง ถามพ่อ แม่ไปไหน
ลูกจ๋าลูก แม่อยู่นั้น สวรรค์ไกล
โอ้ดวงใจ หทัยพ่อ ก็ท้อเกิน
เห็นพ่อลูก ผูกรัด ประหวัดเกี่ยว
อุราเหนี่ยว น้ำตาไว้ ให้ตื้นเขิน
ดับแล้วหรือ คือความจริง สิ่งเผชิญ
ใจยับเยิน เวลาวาย ไม่หมายพึง
ณ ราตรี ที่เศร้า เขาหลับใหล
ฉันร้องไห้ อยู่อีก ซีกโลกหนึ่ง
คือกำหนด กฎเกณฑ์ เกินดื้อดึง
ดุจประหนึ่ง ยอมรับ กับความตาย
**************