13 กันยายน 2547 17:32 น.
กอกก
สายตาทอดสอดส่งมาพาหวามจิต
จากมิ่งมิตรมาไกลด้วยใจหวัง
ประสานสอดสัมพันธ์กันอีกครั้ง
ประดุจดังเสาหลักตั้ง ให้หยั่งใจ
ขอความรักจักทอดสายสู่ปลายเสา
พันรุมเร้าไปสู่ฝันอีกได้ไหม
ร่วมเคียงรักเราสองคนคล้องหนึ่งใจ
เริ่มต้นใหม่ให้เราก้าว สู่ฉิมพลี
น้ำเสียงอ้อนที่ได้ยินเพียงพิณพ้อ
ใจอ่อนข้อสิ้นแรงหลบหลีกหนี
แต่เจ็บร้าวปวดลึกหลอนชีวี
ข่มใจนี้ที่ขมขื่นให้พ้นเงา
มือเขากุมมือฉันไว้ใจไหวหวั่น
จับมือฉันสัมผัสใจที่อกเขา
บอก*ขอโทษ*ที่โง่เขลาในเรื่องเรา
เรื่องจึงเศร้าเนิ่นนานเนาเสียเวลา
มองตาฉันนั้นสักนิดเถิดที่รัก
หัวใจฉันนั้นพักแล้วเลิกใฝ่หา
อยู่คนเดียวอ้างว้างบ้าง..ก็ชินชา
อย่าดีกว่า ล้าหัวใจเกินใฝ่ทวน
ขอโทษนะขอโทษเถิดที่รัก
ไม่ประจักษ์ใยจิตคุณคิดกลับหวน
แต่ตอนนี้ขอคนดีอย่ารบกวน
มีเรื่องด่วน ต้องเร่งไปล้างแผลใจ
*************
9 กันยายน 2547 20:41 น.
กอกก
หัวใจรัก
สลักแน่นแก่นใจใครคนหนึ่ง
คนที่ใจใฝ่หาว่าซาบซึ้ง
คอยคำนึงถึงเขาอยู่ทุกเวลา
หัวใจหม่น
ก็ยอมทนอดใจ อย่าใฝ่หา
แม้นจะรู้ว่าใจมันไร้ค่า
ยังดีกว่าไม่รู้ศตรูใจ
อาจเจ็บบ้าง
อาจไร้ยาง ถูกเชือดจนเลือดไหล
เอาเถอะให้มันล้นเพียงภายใน
แต่อย่าให้มันล้นท้นท่วมตา
อย่างที่เห็น
คนเหลือเดนเป็นคนทนหน้าหนา
จึงยิ้มย้อนซ่อนเร้นความเย็นชา
หัวเราะร่าเริงรื่นชื่นคนเดียว
ไม่มีดาว
กระพริบพราวพร่างฟ้าเวลาเปลี่ยว
เถอะ,จะได้รู้ว่าเราหน้าเซียว
ซึ่งอาจเหี่ยวแห้งบ้างบางอารมณ์
ฝนกระหน่ำ
เหมือนจะย้ำ ย้ำ ย้ำ ช้ำขื่นขม
สาดเกล็ดฝนปนน้ำตาปร่าความตรม
แล้วทับถมจนเต็มลานม่านน้ำตา
9 กันยายน 2547 00:53 น.
กอกก
**ชายในฝัน** กอกก
เพราะอะไรใจจึงได้ศรัทธานัก
หรือว่ารักคนตาเศร้าเฝ้าคิดถึง
สี่ปีฝันซ้ำซากพาใจซึ้ง
เฝ้าคะนึงถึงเขาอย่างร้าวราน
ยังจำได้เขาคนนั้นคนตาโศก
พูดเนิบนาบไม่กระโชกแสนอ่อนหวาน
ทุกคำพูดมีเหตุผลในดวงมาลย์
สยบหญิงนี้มานานครั้งแรกเจอ
หนุ่มผิวคล้ำคางลอนผมหยักศก
สูงโหย่งหยกฉันวัดเคียงเทียบเสมอ
งามสง่าบุคลิกดีนี้แหละเธอ
ได้พบเจอนับเป็นบุญกุศลพา
เป็นชายหนุ่มนิ้วเรียวเปรียวงามนัก
ยิ้มประจักษ์อบอุ่นชวนเสน่หา
สุขุมและรอบคอบพร้อมเมตตา
ประเสริฐล้ำในศาสนาน่ายินดี
นึกถึงวันแรกพาฟ้าลิขิต
แปรชีวิตเราสองข้องวิถี
สุขใจหนาได้พบเขาในครานี้
แม้นเป็นเพียงพบในฝันอันรัญจวน
***********
**แค่ในฝัน เท่านั้นพอ*** เรไร
อาจลอยล่องท่องถิ่นจินตนาการ
เราพบกันในฝันอันหอมหวน
กรุ่นกลิ่นไอใจแอบแนบเคียงนวล
เที่ยวชมสวนบุปผายามราตรี
เดินเกี่ยวก้อยร้อยแขนแดนพฤกษา
ในนิทราลืมทิวาพาสุขี
ลอยไปสู่ดินแดนสุขาวดี
ลืมสิ่งนี้ที่ยามฟื้นตื่นขึ้นมา
ชายในฝันคนนี้พลันห่างหาย
หวังมลายดังฟ้าฟาดบาดอุรา
จึงต้องครวญทบทวนสิ่งไขว่คว้า
ทั้งชีวาชมชอบมามอบใจ
คือความรักภักดีมีให้กัน
แค่ความฝันผันแปรแน่ตรงไหน
คุณค่าแห่งหัวใจที่ให้ไป
ก็แค่ในนิทราว่ามันจริง
ฉันแค่มีหัวใจเพื่อไว้เต้น
ใช่ไหวเอนกับฝันมันทุกสิ่ง
ไม่หลงไปตรงไหนที่ไม่จริง
ใจคงอิงกับทรวงไม่ลวงใคร
ขออย่าหวั่นเพียงเจอเธอในนั้น
แดนนิรันดร์ฉันจะเป็นเช่นหวังไว้
ฉันจะอยู่ร่วมเรียงเคียงหทัย
แต่แค่ในความฝันเท่านั้นพอ
************
8 กันยายน 2547 18:09 น.
กอกก
น้ำใจแทนกระดาษที่จารึก
ความจริงใจแทนหมึกที่ขีดเขียน
ปรารถนาแทนแสงส่องของแสงเทียน
แล้วเริ่มเขียนความรู้สึกเบื้องลึกใน
หนึ่งความรักคือชีวิตที่มอบให้
หนึ่งดวงใจคือศรัทธาไม่หวั่นไหว
หนึ่งความคิดคือจิตมั่นไม่แกว่งไกว
เก็บกักไว้ด้วยใจรักอันมั่นคง
***********
ได้คืนให้เธอหมดแล้วทั้งชีวิต
ขีดลิขิตให้เป็นได้ทั้งกา-หงส์
นรก สวรรค์ ยื่นตามคิดจิตจำนง
แต่นี้คงไร้หลักไร้ร่มโพธิ์
หนึ่งชีวิตวันนี้มีเพียง*ซาก*
เศษเดนกากของสังคมอันยโส
รุมกระหน่ำซัดชีวิตให้เซโซ
ไม่ต้องโงหัวยืดจากอื่นใด
อะไรหรือคือนิยามคำ*มนุษย์*
ชั่วที่สุดคือ*หม้าย* นั้นใช่ไหม
ตกนรกหมกไหม้ทั้งชาติไป
ได้ถูกป้ายหมายหัวชั่วช้าจริง
ยอมจำนนแล้วนะชีวิตนี้
ชีวิตพลีบูชายัญหยันศักดิ์หญิง
หนึ่งชีวิตยอมดับดิ้นเพราะรักจริง
ขอเหลือทิ้งเพียงชื่อให้ติดเตือน
ขอปักหลัก*วิญญาณรัก*พักที่นี่
พักตรงนี้ได้ไหมอย่าเชือดเฉือน
สถิตแน่นกลางจิต*เธอ*อย่าคิดเบือน
วิญญาณเถื่อนขอซุกซบอบอุ่นไอ
************
ขอไว้อาลัย..ให้แก่ความรักของผู้หญิงคนหนึ่งที่ข้าพเจ้ารู้จัก
5 กันยายน 2547 22:52 น.
กอกก
ได้ยินเสียงแว่วแว่วลูกแมวน้อย
กระจ้อยร่อยร้องแผ่วแว่วแว่วหู
ดึกถึงเช้าเจ้ายังครวญชวนคิดดู
ความอยากรู้จึงดั้นด้นค้นหาไป
เจ้าทารกตัวน้อยนอนเหนื่อยล้า
ทำท่าว่าหมดแรงแทบดับขัย
เจ้าตัวเดียวอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
แม่เจ้าไปแห่งใดใยเมินมอง
เจ้าแถกไถไปตามพื้นไร้ทางทิศ
ตายังปิดเจ้าเพิ่งเกิดเกินสนอง
แผ่วแสนแผ่วเสียงร้องเจ้าไร้ทำนอง
ตาจับมองพลางคิดอย่างจริงจัง
กกแมวน้อยด้วยมือค่อยประคองกอด
นมอุ่นหยอดใส่ปากฝากความหวัง
ขอนมกล่องช่วยแมวน้อยให้ประทัง
จากพลังแห่งหัวใจให้โตไว
เฝ้าเลี้ยงดูกกกอดด้วยใจมั่น
ยามเจ้าสั่นหันมาเปิดโคมไฟให้
ความอบอุ่นมิเหมือนแม่..คือแน่ใจ
ทุกอย่างไซร้คงขึ้นได้ในกรรม-บุญ
ขวดนมหมาเจ้าตัวเล็กเกินใส่ปาก
ประดิษฐ์จากลูกยางลมคงพอขุน
สูบนมใส่ค่อยหยดให้อย่างละมุน
เจ้าอบอุ่นกินนม..ป้อนจากใจ
มือข้าเกร็งเพียงไหนใครรู้บ้าง
ต้องมานั่งบีบลูกยางให้นมไหล
เจ้าสำลักหากบีบแข็งแรงเกินไป
บีบค้างไว้ได้ระดับกับต้องการ
เจ้าตระกายครานมไหลไม่ทันจิต
เล็บเจ้าขีดข่วนไปให้สงสาร
ตัวข้าลายด้วยคมเล็บเจ็บสะท้าน
เพราะต้องการให้เจ้าอิ่มจึงจำทน
เฝ้าฟูมฟักรักและเลี้ยงเจ้าเหมียวน้อย
จวบเจ้าค่อยเติบใหญ่ดั่งหวังผล
ร้องเรียกเหมียวเดี๋ยวก็มาตามจิตดล
แสนสุขล้น...คนและเหมียวเกี่ยวใจกัน
*************
.มีคนบอกว่าลูกแมวที่เพิ่งเกิด หากไม่มีแม่มันคอยเลี้ยง
หาที่จะมีชีวิตอยู่รอดยาก แต่ข้าพจ้าก็เลี้ยงผ่านมาได้
อย่างปลอดภัย แต่ช่วงนั้นไม่ได้หลับได้นอนเป็นสุขนัก
ต้องตื่นมาให้นมแมวทุกสี่ชั่วโมงอย่างมุ่งมั่น
ต้องฝึกขับถ่ายให้ ต้องพูดคุยกับเขาเหมือนเลี้ยงเด็กสักคน
.และได้เปลี่ยนจากนมกล่องมาเป็นนมแพะสำหรับเลี้ยง
หมาราคากระป๋องละหกสิบกว่าบาท (ขนาดมารตฐาน
นมข้น)
.เปลี่ยนเสื้อผ้าวันละหลายชุดจากถูกฉี่ใส่ (ปกป้องแล้ว)
.คือความภูมิใจอีกสิ่งหนึ่งที่พึงได้ทำ