2 มีนาคม 2548 19:14 น.
กอกก
**อย่าห่วงฉัน**
อย่าห่วงฉัน หวั่นไหว ให้ว้าวุ่น
เพราะเคยคุ้น เดียวดาย แม้นกายหนาว
ผ่านเวลา ช้ำชอก บอกเรื่องราว
หัวใจกร้าว แกร่งเดิน มิเขินใคร
ทิ้งฉันไว้ ให้ย่าง ตามทางเถิด
อย่าชูเชิด ให้เหลิง ระเริงไหล
เป็นเพียงหญิง หยิ่งยโส โง่กว่าใคร
จึงทิ้งใจ ทิ้งความหวัง ไม่รั้งครอง
เพียงลำพัง ฝังร่าง ย่างก้าวสู่
เข้าประตู โรงพยาบาล หาญ...จองหอง
ยิ้มน้อยน้อย ร้อยน้ำตา มาปรินอง
ตามองจ้อง ห้องผ่าตัด สะบัดใจ
จะเดียวดาย ให้สม อารมณ์อยาก
เจ็บปวดมาก ร้าวราน สักปานไหน
ขอนอนขม จมสะอื้น ขื่นหทัย
สะสาใจ เจ็บเนื้อ เจือร้าวทรวง
ปล่อยฉันลง ตรงนี้ ที่ว่างเปล่า
ซบความเศร้า ยังสุขแสน เช่นแดนสรวง
ขอเพียงไกล ให้พ้น คนหลอกลวง
อย่าวางบ่วง บาศรัก ชักบาปนำ
ก็ได้ค่ะ จะให้ ในสิ่งพ้อ
กับคำขอ ครั้งนี้ ที่แสนขำ
คิดถึงเธอ แรกตื่น เมื่อฟื้นจำ
ให้ฉันทำ ทวนรู้สึก พิลึกจัง
ให้เธอคิด สักน้อย ค่อยตอบถ้อย
เรื่องราวร้อย เวียนวน คนแค้นฝัง
เอาสัญญา อะไร คนใจพัง
ฟังนะฟัง อย่าบ้า อย่า...โง่เลย
*************
1 มีนาคม 2548 22:49 น.
กอกก
. * ขอให้ฉันรักคุณดีกว่า*
ขอขอบคุณ ที่ให้กัน ในวันนี้
ความรักที่ วิสุทธ์ ดุจหยาดฝน
ความจริงใจ เพียรฝาก จากกมล
ภักดีล้น ตราตรึง ซึ้งใจงาม
เธอเด็ดเดี่ยว ยืนยัน มั่นใจรัก
คอยฟูมฟัก ให้เกียรติ มิเหยียดหยาม
ยื่นไมตรี ปรารถนา พยายาม
จนหวิวหวาม ต้องจิต เริ่มติดใจ
อย่าหยิบยื่น ความรัก ให้กับฉัน
แม้นว่ามัน สวยงาม สักปานไหน
ขอเธอจง มารับ เอากลับไป
เพราะทำใจ ไม่ถูก กับผูกพัน
จะขอเป็น ผู้ให้ แทนได้ไหม
กลัววันใด รักสลาย กลายเป็นฝัน
กลัววันใด รักร้าง ต้องห่างกัน
เวลานั้น คงง่ายกว่า ถ้าจะปลง
หากน้อมนำ คำนั้น ในวันนี้
คงเปรมปรีดิ์ หทัย จึงไหลหลง
จะคิดคืน หวนหา พะว้าพะวง
ก็ติดตรง กล้าสนอง เกินต้องการ
เพียงเธอรับ ก็พอ ขอแค่นั้น
ไม่ว่ากัน จะเอาไป ให้ไฟผลาญ
หรือทิ้งขว้าง สายชล ก้นบาดาล
ถึงแหลกลาญ เป็น ไร ก็ให้เธอ
ฉันเคยเจ็บ เหน็บหนาว ร้าวและร้าง
จึงอำพราง เกราะหุ้มตัว กลัวใจเผลอ
ขอปิดกั้น กันไว้ ไม่อยากเจอ
กลัวละเมอ เมื่อเธอ เผลอทิ้งไป
*************
บางครั้ง..การเป็นผู้ให้ รู้สึกสบายใจกว่าการเป็นผู้รับ
แต่ครั้งนี้..ให้หรือรับ ค่าคงไม่ต่างกัน
27 กุมภาพันธ์ 2548 19:56 น.
กอกก
. ...ดุจต้องคำสาป ณ รักนี้...
สิบแปดปีที่รักประจักษ์จิต
ฉาบยาพิษน้ำผึ้งกึ่งผสม
ต้องคำสาปอาบมนตร์บนทางตรม
ยังขื่นขม ซม ราน เมื่อนานมา
ฟ้าส่งเขาเข้าพัวพันผันชีวิต
พรหมลิขิตขีดเราเฝ้าโหยหา
ชายคนหนึ่งซึ้งใจให้นำพา
เติมอุราคนนี้ที่โง่งม
เมื่อครั้งนั้นนานแล้วแก้วใจร้าว
พบเรื่องราวหมองเศร้าเราขื่นขม
รักแตกยับดับโลกโศกกมล
ทุกข์ระทมก้าวเดินเหินห่างธรรม
ใช้ร่างกายเสเพลเหชีวิต
ไร้ความคิดคำนึงจึงถลำ
สิ่งเมามัวชั่วช้ามาคลอบงำ
เหมือนตอกย้ำ ช้ำแท้ แหม..สะใจ
แล้วพบเขาเงาใจในวันหนึ่ง
คำพูดซึ้งล้างจิตปลิดเหลวไหล
ขจัดคราบสาปร้ายหายทิ้งไป
เหลือเพียงใจใสสดหมดทั้งดวง
สวรรค์สาป บาปส่งฟ้าคงแกล้ง
เมื่อใจแจ้งว่ารัก ภักดิ์ห่วงหวง
ก็มีเส้นมากีดขวางทางทั้งปวง
ดักด้วยบ่วงคำนั้น...*กตัญญู*.
เราทั้งสองต้องจากยากเกินยั้ง
ทิ้งความหลังฝังรอยร้อยอดสู
อยู่กับเศร้าเคล้าเจ็บจิตลองคิดดู
ร้องไห้อยู่เงียบเงียบเพียงเดียวดาย
ได้พบเขาอีกครา กุมภา..นี้
เขาคนดียังโดดเดี่ยวใจเหี่ยวหาย
เจ็ดปีจากพรากแต่ เพียงแค่กาย
ใจคิดหมาย มุ่งมั่นยังรั้นปอง
จะทำไงใจครวญรัญจวนคิด
ต่างน้อมจิตโหยหาคำว่า *สอง*
แล้วร่วมมั่นสัญญาคู่เคียงครอง
อยากร่วมข้อง ร่วมชีวิต นิจนิรันดร์
ดั่งต้องคำสาป ณ รักนี้ ที่รักจ๋า
มาสิมา ร่วมใจให้แปรผัน
พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน ผ่านด้วยกัน
ล้างอาถรรพ์ด้วยรัก...ภักดี...ที่ยาวนาน
***************
** สิบแปดปีที่รู้จักและรัก
** เจ็ดปีหลังไม่ได้พบกันอีกเลย
** และวันนี้ เราพร้อมจะก้าวเดินไปด้วยกัน
22 กุมภาพันธ์ 2548 15:37 น.
กอกก
.... คมพยาบาท....
พยาบาท บาดจิตคิดแล้วสะ (ใจ)
ทิ้งระยะ เวลา ยังสาสม
แม้นแสนนานผ่านมา รานอารมณ์
ยอมโง่งมคอยหวัง ได้...ดั่งใจ
มาถึงแล้ว แก้วร้าวคราวใกล้แหลก
เส้นเลือดแตกสมองยับ เกินขับขัย
ปากบูดเบี้ยวต้องคำสาป พิลาปพิไร
น้ำตาไหลร่วงริน ฉัน...ยินดี
นางสับปลับไร้เมตตา มหาโหด
เป็นคนโฉดฉ้อฉล คนแกมผี
ยุให้รำตำให้รั่ว ชั่วสิ้นดี
ซ้ำย่ำยี ไร้สำนึก ไร้ตรึกตรอง
ฉันเคยซมตรมราน ซานไปหา
เวทนาด้วยเถิด เชิด...จองหอง
ฉันพ่ายแพ้ แค่นั้นตามครรลอง
ใจเธอผ่อง แม้นอื้อฉาวเรื่องคาวใจ
ไอ ซี ยู อยู่ดีไหมในวันนี้
ยามมองที่เพดาน ร้าวรานไหม
หลายชีวิต เจ็บฤดีฝีมือใคร
ไม่อภัยแน่นอน อย่าวอนกัน
กรรมกระหน่ำซ้ำซัด ชัดเจนแล้ว
วอนเสียงแผ่ว ขอโทษอย่าโกรธฉัน
พยาบาท ปาดเชือดเดือดโรมรัน
เวลานั้น นาทีนี้ ถึงที...ใคร
*************
ลงชื่อ.....จาก คนนี้ที่ไร้ใจ
20 กุมภาพันธ์ 2548 21:08 น.
กอกก
. ... สู่ฝั่งฝัน...
ลูกรัก......
แม่ฟูมฟักรักเจ้าเฝ้าถนอม
ยุงริ้นไรไม่ให้ได้ไต่ตอม
อุ้มโอบล้อมด้วยรักประจักษ์ใจ
อกอุ่นกกหวังดีมีให้ลูก
ความพันผูกจิตติพิสุทธิ์ใส
ยามป่วยไข้ดูแลด้วยแม่ไง
ปลอบหทัยที่หม่นลูกคนดี
มาวันนี้ที่เจ้าเข้าถึงฝั่ง
สมใจดังปรารถนาฝ่าวิถี
จบการเรียนศึกษาปริญญาตรี
ปลื้มฤดีดั่งแก้วที่แววงาม
ก้าวต่อไปสู่ชีวิตลิขิตเถิด
ฝันบันเจิดแจ้งจ้าสง่าขาม
นำชีวิตขีดเส้นที่ดีงาม
และอย่าคร้ามเป็นคนดีศรีสังคม...
**********
มอบแด่ลูกทุกคนของ......พ่อและแม่
อย่าลืมเป็นคนดีของสังคมด้วยนะเจ้า