27 มิถุนายน 2548 01:24 น.
กอกก
. รักเขา..ผู้ชายเจ้าชู้
แสนสงสัย ใยจึงสน..ใครคนหนึ่ง
เขาผู้ซึ่ง มีสีหน้า..เหมือนชาเฉย
แววตานิ่ง แต่อบอุ่น..เช่นคุ้นเคย
มิละเลย สายตา..เอื้ออาทร
แล้ววันหนึ่ง เมื่อพบ..ได้คบหา
เกิดศรัทธา ไหลหลั่ง..มิสังหรณ์
แล้วสัมพันธ์ นำเหนี่ยว..เป็นเสี้ยวตอน
มายอกย้อน ศรรัก..เข้าปักใจ
เขาซ่อนร่าง พรางกาย..ชายคนนี้
ระริกระรี้ ยิ้มแย้ม..และแจ่มใส
ช่างออดอ้อน สบตา..มาเป็นนัย
แถมมือไว คล้องแขน..เหมือนแฟนกัน
ยามพูดจา ท่าที..ขี้หลีนัก
อ่อยคำรัก แล้วมาอู้..ข้างหูฉัน
พอเผลอนิด แอบแอ้ม..หอมแก้มพลัน
จึงหวาดหวั่น นั่นเขามา..ไม้ไหนฤา
บ่นว่าร้อน รีบรี่..พัดวีให้
ยามเหงื่อไหล รีบซับหน้า..ว่าอย่าถือ
พอฉันเหนื่อย เมื่อยปวด..นวดกับมือ
แล้วเริ่มสื่อ เล่นไต่ปู..เจ้าชู้จริง
โทรศัพท์ รับไม่ทัน..วันวันหนึ่ง
ทอดเสียงซึ้ง หวานจรุง..อยากสุงสิง
คิดถึงมาก ฝากใจแนบ..มาแอบอิง
ออกลายยิ่ง เมื่อฉอเลาะ..ออเซาะเรา
เห็นตาเสือ คราวเกาะเกี่ยว..เที่ยวสวนสัตว์
เหมือนชะมัด คอยจ้องเหยื่อ..เมื่อมองเขา
หนวดครึ้มหน้า ท่าทางให้..แถมไว้เครา
คงไม่เบา ปานเสือล่า..ทุกนาที
มีพิรุธ หลุดมา..ให้น่าคิด
ถามเพียงนิด เรื่องครอบครัว..ก็มั่วหนี
อำพะนำ ส่ายหน้า..มิพาที
พี่คนนี้ เพิ่งอกหัก..ถูกรักลวง
แต่สายเรียก โทรศัพท์..รับไม่หยุด
คนรักคุด จ้ะจ๋า..ทำท่าหวง
ฝากความรัก ฝากคิดถึง..ซาบซึ้งทรวง
แถมเป็นห่วง หนักหนา..เหล่าหน้ามล
เริ่มหวั่นไหว วิตก..ตระหนกคิด
ทอดถอนจิต ลาจาก..มิอยากสน
คนเจ้าชู้ สุดจะเบื่อ..ช่างเหลือทน
แต่..ทุกข์ล้น คิดถึงเขา..เศร้าเจียนตาย
แล้ววันนี้ ดีกัน..เหมือนวันก่อน
มัวตัดรอน เรื่องรัก..กลัวจักสาย
กรุ้มกริ่มบ้าง ช่างเถิด..เรื่องของชาย
เหงาคงคลาย ชายเจ้าชู้..ย่อมรู้ใจ
***************
25 มิถุนายน 2548 10:16 น.
กอกก
. ** รำลึกถึง..เธอ **
กับเรื่องราวคราวก่อน ยังซ่อนลึก
เป็นผลึกอัดแน่น แก่นใจฉัน
เจ็บปวดนักมิให้เห็น ซ่อนเร้นมัน
ปีเดือนวันผันผ่าน ร้าวรานรอย
ไห้สะอื้นคืนนี้ ไม่มีเจ้า
ความหลังเก่าปรากฏ มิถดถอย
อ้อมแขนนี้เคยโอบเอื้อ แม่เนื้อกลอย
ยามเจ้าค่อยหลับตา นิทราลง
มองวงพักตร์เรียบนิ่ง ไม่อิงโศก
แม้นวิโยค...อย่าอาลัย ให้ลุ่มหลง
วางรูปกายคล้ายลดละ อย่าพะวง
จะซื่อตรงเพียงน้อง ทุกห้องใจ
เพราะผิดแล้วแก้วใจ อภัยด้วย
มิอาจช่วยน้องขยับ จากหลับใหล
กอดเจ้าแนบแอบอกพี่ ร่ำพิไร
เหลือรอยไว้ดั่งคำสาป ตราบาปตรึง
แสนอาลัยสูญสิ้น แทบดิ้นดับ
น้องลาลับฆาตกร เมื่อย้อนถึง
ตะลึงงันสั่นตระหนก ตกตะลึง
ดังประหนึ่งถูกพราก กระชากใจ
จ้าล่องไกลสุดฟากฟ้า เวลานี้
ขอคนดีจงรับรู้ แม้นอยู่ไหน
ถึงเวลาที่กู่ถาม จะตามไป
หวังเคียงใกล้เป็นนิรันดร์ เมื่อกาลเยือน
ดึกสงัด...มองนภา อุราร้าว
ฟ้ามีดาวพริบพราย คล้ายเสมือน
ดวงตาน้องมองอยู่ มิรู้เลือน
คล้ายฝากเตือนฝากย้ำ...อย่าซ้ำรอย
ในวันนี้พี่อยู่นิ่ง แม่มิ่งแก้ว
ละเลิกแล้วสิ่งเมามัว กลัวถดถอย
สร้างความดีมาเติม เพื่อเสริมรอย
วิญญาณน้อยของเจ้า จงเบาใจ
ชีวิตนี้สิ้นแล้ว ดวงแก้วส่อง
ขอประคองผ่านคืนวัน มิหวั่นไหว
ยังชีวิตเพื่ออยู่ สู้ต่อไป
ลมหายใจสุดท้าย..หมายพบกัน
........................
21 มิถุนายน 2548 19:54 น.
กอกก
. ...คืนนี้ ไม่มีจันทร์...
เมฆที่หม่นบนฟ้าเวลานี้
มองเป็นสีเทาครึ้มมืดทึมหมอง
เต็มนภาคราคร่ำเมื่อย้ำมอง
ทั้งสี่ห้องใจหนอเศร้า โอ้! เราตรม
นั่งจับเจ่าเฝ้ามองที่ท้องฟ้า
ด้วยแววตาไร้รื่นแสนขื่นขม
ทอดถอนใจให้ฟ้า คราระทม
คนโง่งมสมน้ำหน้า แสน..สาใจ
ทะเลซัดพัดพริ้วเป็นริ้วคลื่น
ยินเสียงครืน ครืน มา อุราไหว
กระเพื่อมพราวขาวฟ่องละอองไอ
เหมือนเยื่อใยความรักเกินหักลง
ตาแลมองทะเลครวญอยากหวนไห้
ทะเลไร้แสงสวรรค์ด้วยจันทร์หลง
สิบห้าค่ำคืนนี้หนอทดท้อปลง
ศศิ..คง หายลับมิกลับมา
สิบห้าค่ำคราก่อน ยังย้อนนึก
ด้วยรู้สึกลึกล้ำจนร่ำหา
มีสองเราใต้แสงแห่งจันทรา
ซึ้งอุรารื่นจรุงจวบรุ่งราง
แสงไม่มีให้เห็นคืนเพ็ญนี้
เพราะเมฆที่ดำสนิทมากรีดขวาง
ฟ้าครึ้มฝนบนนภาเมฆาพราง
เขาหายร่างลาลับพร้อมกับจันทร์
ฝนเริ่มปรายพรมพริ้วเป็นริ้วสาย
แล้วทลายร่วงเทมิเหหัน
นั่งตากฝนเสียบ้าง เถอะ ช่างมัน
ขอเยาะหยันฉันคนแพ้มีแผลใจ
ฝนกระหน่ำฉ่ำฟ้าพาลมหวน
พัดแปรปรวนป่วนมาพาหวั่นไหว
สายฟ้าแลบคำรณร้องคะนองไกล
แล้วโหยไห้กล้ำกลืนสะอื้นพลัน
หยาดน้ำฟ้าที่เห็นเช่นห่าฝน
อัสสุชลหลั่งรินสิ้นข่มกลั้น
อิงเสียงฝนพรางคำพร่ำรำพัน
ดังต้องทัณฑ์รันทดท้อทรมาน
****************
13 มิถุนายน 2548 15:47 น.
กอกก
. ** ความเอ๋ย ความรัก **
จะปลูกรักต้นหวานสักล้านต้น
ทุกแห่งหนบนทางที่ย่างถึง
เอากล้ารักปักชำเฝ้าคำนึง
ปุ๋ยสุดซึ้งโรยรอบข้างขอบโคน
เอาน้ำใจชื่นชมเข้าพรมพร่าง
จิตกระจ่างรดราดไม่ผาดโผน
ความคงมั่นพันย้อนอย่างอ่อนโยน
มิให้โอนเอนเอียงเพียงภิรมย์
มีคำหวานหว่านถ้อยเรียงร้อยรัก
ให้ประจักษ์ทุกค่ำคืนมิขื่นขม
คอยเอาใจวันคืนเฝ้าชื่นชม
มิปล่อยตรมซมซานระรานใจ
จะฟูมฟักรักนานแม้นกาลล่วง
เติมความห่วงมิเคยลดรักสดใส
ตอบสนองรักคุณละมุนละไม
เชื่อมสายใยเติมเสน่ห์ทุกเวลา
อยากให้คนบนโลกนี้ล้วนมีรัก
พร้อมรู้จักสร้างสรรค์ความหรรษา
แม้นต่างใจรักที่เห็นอย่าเย็นชา
จงเมตตาอย่าทิ้งความจริงใจ
สันติภาพนำพาชะตามนุษย์
บริสุทธิ์กำหนดโลกสดใส
มิตรภาพค่ายิ่งกว่าสิ่งใด
ถนอมไว้ด้วยความรัก ตระหนักเทอญ
******************
10 มิถุนายน 2548 11:18 น.
กอกก
. ** แด่เธอ...วาดตะวัน **
เปิดน้ำไหลไล้ร่างล้างคราบเมือก
ซึ่งกลิ้งเกลือกหญิงนี้ โลกีย์ฉาว
ขัดถูไปไร้ผลมิพ้นคาว
กับเรื่องราววกวนจนวุ่นวาย
แค่สนุกวันวันไม่หวั่นหมอง
เพื่อสนองชีวิตตามจิตหมาย
โอบชายควงลวงล่อมิขออาย
ช่างมากมายหลากล้นบนเส้นทาง
ลูกผัวใครไม่สนทนด้านหน้า
แม้นชั่วช้าไปบ้าง ช่าง อย่าขวาง
ขอแต้มเติมเพิ่มสีที่จืดจาง
จากคนร้างร้อนรุ่มไฟสุมทรวง
หน้าไร้ยางช่างมันจะรั้นเกี่ยว
พาตัวเหนี่ยวนำไปไกลสุดสรวง
ทอดสวาทบาดจิตเพียงคิดลวง
แล้วนำบ่วงลวงล่อเข้าต่อใจ
โลกีย์คาวพราวสะบัดช่างบัดซบ
พร้อมฝังกลบซ่อนใต้ใบหน้าใส
ส่งสายตาว่าซื่อสื่อออกไป
ครอบงำให้ใจระอุแสนทุรน
แล้วมาถึงวันนี้ ที่พบเขา.....
ใจเริ่มเศร้ามืดมัวหวั่นกลัวผล
อยากสลายกลายห่างจากร่างตน
แต่ไม่พ้นคนบาปต้องสาปคาว
ชุ่มน้ำราดสาดล้างมิจางหมด
ฝักบัวรดแช่อ่างมิห่างฉาว
เหม็นกลิ่นโฉ่โลกีย์ที่ปวดร้าว
น้ำตาสาวกราวร่วง ในห้วงตรม
ยอมจำนนคนบาป..คำสาปติด
รับว่าผิดกล้ำกลืนแสนขื่นขม
มิคิดก่อนย้อนไม่ได้ใจระทม
ทุกข์ห่อห่มขมเพราะพลาด...วาดตะวัน
*************
........................................................................................................................
วันนั้น...เมื่อได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง
ผู้หญิงที่มีลูกผัวอยู่แล้ว แต่ยังสำส่อนมิรู้จบ...
และเมื่อเธอมาปักใจรักผู้ชายไร้คุณธรรมอีกหนึ่งคน...
จะทำอย่างไรกับรักที่เหลวแหลกของเธอ
สมเพทและเวทนา....