8 สิงหาคม 2548 02:55 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ "เทพกวี" พสุธา กัปนาถ
หยิบกระดาษ ลายสือ ถือดินสอ
ตวัดเขียน ลายงาม ตามสิ่งทอ
ก็เกิดก่อ กลอนงาม ด้วยตามใจ
๒ ก็สร้างสรรค์ งานเอก เอนกนับ
ทุกวันจับ ขับบาน ตำนานไข
ประพันธ์สิ่ง จริงจัง จากข้างใน
ร่วมสมัย ไทยงาม ตามเคยทำ
๓ ด้วยชอบขับ ขานขบ ขนบเสียง
เป็นเสนียง เสียงหวาน สำราญช่ำ
ก็บ่ได้ ติดตาม สราญค่ำ
ก็ย่อมทำ ตามใจ ด้วยดีเอย
6 สิงหาคม 2548 06:38 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ หากฟ้าสูง ยูงหงษ์ บินลงฟ้า
อีกพญา ครุฑา จากสวรรค์
เทพธิดา นางฟ้า และคนธรรพ์
เหมือนสรวงนั้น สิ้นค่า ราคาดิน
๒ ด้วยโลกา มาพร้อม ถนอมสิทธิ์
อิทธิฤทธิ์ หมดไป มลายสิ้น
ก็เพราะเหยียบ แทบพื้น พวกชาวดิน
ก็หมดสิ้น ฤทธา นานาตรม
๓ ก็เหมือนโลก มีสุข บ่ทุกข์หมาย
ทั้งหญิงชาย ให้รัก ประจักษ์สม
เทพธิดา เทพา มาเชยชม
ดีกว่าขม ขื่นใจ ในสรวงเดิม
๔ ก็อยากรัก อย่างคน ธรรมดา
เพราะเทพา ธิดา เหมือนได้เสริม
ด้วยสรวงนั้น บ่ให้ รักบ่เติม
ก็ความเดิม รักผิด หมดสิทธิ์ใด
๕ เทพธิดา ห้ามสม ชื่นชมเทพ
ด้วยจงเก็บ ความรัก อยู่เป็นนัย
ดินแดนสรวง รักห้าม จากผู้ใด
เพราะเทพไท้ ห้ามให้ ใครรักกัน
๖ เมื่อได้อยู่ บนโลก ปรารถนา
ก็นำพา ความรัก มาได้พลัน
รักแบบไร้ เงื่อนไข ไร้คืนวัน
รักแรกนั้น ก็ดี มีนิยม
๗ แต่เมื่อต้อง พลัดพราก จากความรัก
ใจแทบหัก พักใหญ่ ก็เห็นสม
แล้วรักสอง ก็เริ่ม เสริมให้ตรม
เทพนิยม รักบ่ ย่อท้อใจ
๘ รักสามสี่ ห้าหก ก็โศรกเศร้า
ใจรุมเร้า เศร้าไหว ด้วยใจหาย
ก็เริ่มคิด ผิดหวัง พังมลาย
รักต่อไป บ่ดี เสมอพอ
๙ เทพชั้นสรวง ว่าไว้ ไม่ผิดปาก
สิ่งที่อยาก ห้ามได้ ความรักบ่
รู้เมื่อสาย ไปเสีย ยิ่งย่อท้อ
เพราะเกิดก่อ ทุกขา มหาศาล
๑๐ เป็นมนุษย์ เดินดิน ถิ่นถนน
ก็ต้องทน ทุกข์สุข เข้าผันผ่าน
เป็นบทเรียน บทรัก เป็นตำนาน
ด้วยคืนวัน ศึกษา หารักเอย
4 สิงหาคม 2548 02:19 น.
กวี ณ เมืองคอน
๑ ขอขอบคุณ ทุกท่าน ที่มาอ่าน
ร่วมขับขาน ตำนาน กลอนสมัย
ข้าพเจ้า เขียนกลอน เหมือนสอนใจ
ก็จงได้ เข้าใจ ในบทกลอน
๒ คารวะ ทุกผู้ ที่เขียนเสริม
ที่ค่อยเติม ช่วยเสริม อย่างคอยสอน
ก็ขอบคุณ จากใจ ไปเป็นกลอน
เหมือนจะวอน ขอบใจ ในความดี
๓ ทุกบทกลอน ที่เขียน สำเนียงขาน
เป็นพยาน สานฝัน เป็นสักขี
จะขอแต่ง กลอนไว้ ให้คงมี
เพราะวจี ที่เปล่ง คือสัจจา