1 พฤศจิกายน 2552 23:13 น.
กวีน้อยเจ้าสำราญครับ
บทกลอนนี้ ตอนแรก ตั้งใจไว้ว่า จะทำแบบ ตลกๆ
แต่งไปแต่งมา สมดั่งมุขยอดฮิตที่ว่า "มุขไม่ฮา พาเพื่อนเครียด" 555+
เห้อออ ตลก คนเดียวก็ได้ครับ
* โปรดลองอ่าน ไปร้านอื่น อย่าขืนแวะ
ใครขี่แพะ คนเเขวะเพื่อน ต้องเบือนหนี
ขอเช่าเบียร์ เขาเชียร์บอก ข้างนอกมี
ไปร้านสี่ ป้าดดดดหลีสาว ทั้งเอาใจ
*ไยน้องรัก ยอนักร้อง แล้วลองจีบ
ไม่กลัวถีบ เมื่อกลีบเท้า วิ่งเข้าใส่
เพียงลองหลบ เพราะรบรัก กลัวหนักไป
ช้าเมื่อไร ใช้ไม้ไล่ พี่ไป...ล่ะเด้ออ
*เอาเป็นว่า เอ็งปร่า-หวั่น ข้าครั่นคร้าม
เอ็งอย่าถาม อ๋อยามท้อ เอ็งก็เซ่อ
เหนื่อยและหน่าย หนอยรายนี้ คุณซี้เกลอ
ยังละเมอ ยิ่งเรอมาก ลำบากตู
*จะชวนวิ่ง จ่อชิ่งไว เพราะใจปอด
โปรดอย่าออด ไปหยอดอา- หารตราหมู
ยี่ห้อช้ำ ยังห้ำ - เชิง กระเจิงรู
เรื่องหมาหมู่ รอหมูหมด ปรากฏตัว
สำหรับตัวอย่าง กลบทนี้
รอ..ท่ามฝนพรำ(ด้วยกลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง) ญามี่
ฝนปลิวโรย ฝอยโปรยไล้ กายไหววุ่น
เหงาเคียงเคล้า หงอยเค้าคุ้น เวียนวุ่นหา
ใจเร่จร จับรอนเจ็บ หน่วงเหน็บล้า
น้ำวูบไว นัยน์ไหวว้า หวังคว้าใคร
ราวแร้นแค้น ร้อนแล่นคอย สอยสร้อยสวม
ระด้นร้าว ระด่าวรวม ถมท่วมไล้
คิดถึงคืน เคลิ้มครื้นขำ รื่นร่ำไร
คิดถึงค่ำ คอยคำใคร มาใยดี
รอพร้อมภักดิ์ ล่อผลักผ่าว ด้วยก้าวหมาย
รอรางวัล รอนรั้นว่าย มาก่ายถี่
รอที่ว่าง หลอกทางว้า มาราวี
เริ่มลืมตา รอราตรี หวังมีใคร
ท่ามรอหลอก ท้อลอกหลอน มาอ้อนข้าง
เหมือนจ่อมบ่อ เมียงจ่อบ้าง กับร้างไหว
หวังโอบอ่อน วอนอ้อนอม ลืมขมไล้
หวังแขนคล่อง วางคล้องไขว่ ข้างใคร่เคียง
รอนาที ราวหนี้ทัก เกินผลักผ่าว
มีหลุมหนาม มุ่งลามน้าว เกินก้าวเลี่ยง
ลมหายใจ หล่อไห้จับ เริ่มคับเอียง
ยังรัวรอ ยอมหล่อเลี้ยง พร่ำเพียงคอย
กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง
เป็นกลอน๙ ที่บังคับให้ใช้
เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียง ๓ เสียง สลับกัน๒ชุดแรก เหมือนกลบทกบเต้นต่อยหอยแล้ว
ต้องซ้ำเสียงสระอีก ๒ ที่ตรงคำที่๓-๕ และ๖-๘ทุกวรรคเช่นกัน
และ เลื่อนคำรับสัมผัสไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๖
............................................................................................
กุ้งหนามแดง
นั่งคอยแฟน น้องแค่นฟ้อง จึงมองหน้า
เอ็งจะบ้า อาจจะบอ นั่งต่อถัง
มาใส่ใข่ มาใส่ข่าว สืบสาวยัง
ชีวิตพัง ชะหวังผิด สะกิดเตือน
เรื่องของตน เร่งขนเติม เริ่มเสริมฐาน
ก่อนถึงการ กันฐานแกว่ง ด้วยแรงเคลื่อน
สุมกองใหญ่ สิใกล้แย่ อย่าแชเชือน
ตกกลาดเกลื่อน ติเกลื่อนกล่น ไม่พ้นมือ..
........................................................................................
พี่ยา
ยามที่ฝน อยู่ทนฝา หลังคาบ้าน
กำแพงบาน ก็พานเบื่อ น้ำเมื่อไหล
จานชามคว่ำ จนช้ำค่า ราคาใจ
นานแค่ไหน นะใครหนอ จะพอกัน
ฝนยังตก ฝายกใต้ หัวใจฟ้า
รินไหลมา ร้างลาหม่น แค่คนฝัน
ก็คนดู กับคู่เดือน ต่างเลือนกัน
อกใจสั่น อาบจันทร์แสง เหมือนแกล้งเลือน
....................................................................................
http://www.oknation.net/blog/morningmoon/2009/05/20/entry-1
วันพุธ ที่ 20 พฤษภาคม 2552
..คิมหันต์อำลา ..(กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง)
Posted by ภูมิรพี , ผู้อ่าน : 237 , 20:49:16 น.
ทะเลชม ท่ามลมชวน คลื่นครวญกล่อม
ชายหาดย้อม ช่างหอมยวน มวลมนต์ฝัน
ระลอกคลื่น ระรื่นคล้าย หมายจำนรรจ์
ถวิลผัน ทุกวันผก ซบอกทราย
ระรินชื่น ระรื่นชวน กลิ่นนวลหอม
ละลวยกล่อม ไล้หลอมกรุ่น อุ่นความหมาย
อยู่คู่ฝัน ยอดขวัญใฝ่ เคียงใจกาย
จิตมิคลาย ใจหมายครอง ปองคู่กัน
คลื่นซบทราย คือสายสรรค์ สัมพันธ์ซึ้ง
ฝากถ้อยหนึ่ง ใฝ่ถึงนวล ผู้ชวนฝัน
ครวญฝากใจ ขอใฝ่จิต นิจนิรันดร์
แม้กี่ผ่าน แม้กาลผัน คิมหันต์กลาย ฯ
http://noknoi.com/pamoo/board/board.php?group=Pamoo&id=3082
มองโลก (กลบท ระลอกแก้วกระทบฝั่ง)
มนุษย์หนา มนาใน น้ำใจนั้น
คิดกระสัน แข่งกันสร้าง ต่างลุ่มหลง
อัตตาโก้ อวดโตกร่าง อย่างลืมองค์
ดำริปลง ดำรงปรุง เถิดมุ่งธรรม
อัตตาหนอ โอ้ตอนี้ ที่แสนใหญ่
ปุ่มภายใน เป็นภัยแน่ แค่ถลำ
อกุศล โอ้กลสร้าง ปูทางกรรม
พาตัวต่ำ พล้ำตำตอ ที่ก่อเอง
มากตัวอย่าง มีต่างย้อน มาสอนจิต
ภัยพ่นพิษ พาลผิดเพี้ยน เบียดเบียนเบ่ง
ปาบไม่กลัว ไปมั่วกรรม ไม่ยำเกรง
บ้างข่มเหง บ้างเคร่งหา โกงมากิน
......................................
กลบท บังคับสัมผัสอักษร 1กับ4 2กับ5 3กับ6
บังคับสัมผัสสระ 3กับ5
วันหยุดลองแต่งดูครับ ได้บทหนึ่ง สองบท หรือสาม ก็มาแชร์กันครับ
ผู้เขียน : ภูมิรพี
๒๙ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๖.๔๗ น.
โลกเรานี้ดูดีได้ใช่อิงอ้าง
มีแบบอย่างจัดวางสร้างสืบศิลป์
โลกที่สามยินนามตามระบิล
คนยังดิ้นต่างถิ่น ชินคุ้นเคย
โลกมนุษย์ท้ายสุดหยุดอยู่นิ่ง
คือความจริงมีหญิงชายหมายมาเอ่ย
มาอยู่ด้วยมาช่วยสร้างอย่างดีเลย
โลกที่เผยภิเปรยถกยกยืนยัน
..............................................
กลบทนี้ เจาะจง ให้ ละเลยสัมผัสใน
เป็นกลอนก็เข้าข่ายชิงสัมผัส-สัมผัสเลือนฯ
(แก้ไข-หลังอ่านต้นฉบับ)
ผู้เขียน : สุกรวดี
๒๙ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๘.๒๑ น.
๐๐โลกสดชื่นรื่นสุดชอบมอบอักษร
เป็นคำกลอนป้อนความกล้าท้าสร้างสรรค์
เรียงคำไทยไหลความทอดอ้อนออดกัน
ฝากสัมพันธ์ฝันสร้างเพื่อนร่วมเรือนชาน
๐๐มิตรไมตรีมีมาต่อล้อความคิด
ชื่นใจจิตชิดจิตใจให้สมาน
ร่วมทุกข์สุขรุกทางสร้างอย่างยืนนาน
สร้างสมงานสานสิ่งงามความผูกพัน......
ผู้เขียน : --ครางแครง--
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๒, ๐๙.๒๒ น.
มองโลกสีมาลีสวยช่วยแต่งเสริม
พิศยิ่งเคลิ้มพาเยิ้มครวญชวนให้ฝัน
คนละมือคราลือมองงามผ่องพรรณ
เติมสร้างกันแต่งสันต์กรุ่นเจือจุนใจ
เมื่อโลกร้างเหมือนลางร้ายที่ได้รับ
คราร้อนทับคงรับถึงซึ่งสิ้นใส
รักษาโลกเรื่องโศกลาหนีหน้าไกล
ชวนทุกใครเชิญไทยครั้นวันโลกรักษ์
ผู้เขียน : คอนพูทน
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๐.๕๙ น.
ไทยเราสวย ทั้งรวยศิลป์ ถิ่นสะท้อน
ปวงอักษร ประอรสื่อ คือประจักษ์
อีกหนึ่งศาสตร์ โอ้นาฏเสก เอกลักษณ์
ร่วมพิทักษ์ เราภักดิ์ถิ่น แผ่นดินทอง
เทศกาล ท่านสานเกื้อ เอื้อคุณค่า
ทุกถิ่นหนา ทั่วธานี มีฉลอง
ช่วยก่อสรรค์ เชิญกันเสริม เติมเรืองรอง
มวลพี่น้อง มากผองเนา เราชื่นใจ
ผู้เขียน : ภูมิรพี
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๕.๕๐ น.
แสนอนาถ สัตว์อาจน้อย บนดอยกว้าง
ป่าถูกล้าง เปรตถางโล่ง จนโหรงเหรง
นายทุนกร่าง หนุนทางกรรม สิ้นยำเกรง
หมู่กวางเก้่ง แม้เก่งกล้า หนีหน้าไกล
ความสมบูรณ์ คงสูญบ้าง เป็นบางแห่ง
ในห้วยแล้ง น้ำแห้งลง มิสงสัย
สัตว์ทั้งป่า สิ้งท่าป้อง จากผองภัย
ไม่แก้ไข เหมือนใกล้ขั้น รอวันตาย
ผู้เขียน : ฟ้าสีทอง 501 (กู้ภัย 07)
๒๖ ต.ค. ๒๕๕๒, ๑๖.๐๙ น.
http://noknoi.com/pamoo/board/board.php?group=Pamoo&id=1407
คนไทยหรือเปล่า?
"กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง"
เป็นคนไทยแล้วไยเล่าเลิกเอาถ่าน
ถูกประจานเพราะงานนี้คุณมีเถื่อน
ตายน้ำตื้นยังฟื้นซ่าทุกข์มาเยือน
หมู่พ้องเพื่อนเขาเตือนมามันน่าอาย
คุณเหยียบย่ำคิดทำผลมีคนด่า
ด้วยหมดท่าเลยซ่าแรงความแฝงร่าย
ข้าวที่ขุนไม่อุ่นอิงขอติงนาย
สื่อความหมายด้วยคล้ายขำถูกยำนาน
ทำวางตัวขายชัวร์ข่าวเรื่องราวร้อน
ปัญญาอ่อนวางผ่อนเอียงความเสี่ยงซ่าน
ปากกับใจจึงไร้ชอบขอตอบพาล
ขอประจานเพราะงานนี้คุณมีพัง
ผมก็คนหนึ่งจนจริงพร้อมอิงเอ่ย
อยู่อย่างเชยขอเผยกลางไม่อ้างสั่ง
ความพอดีจึงชี้บ่งบอกตรงจัง
พูดเสียงดังควรฟังข้อยเพราะปล่อยชู
คิดแล้วปลงแสนสงสารหมอขานไข้
ป่วยทางใจด้วยไม่จริงหลายสิ่งอยู่
เหมือนตกตาลเพราะการไต่บอกได้ตู
แย้ลงรูคิดกู่ ร้องคนข้องลาง
ตื่นจากฝันด้วยขันขำจดจำแน่
ปลงทุกข์แท้คิดแก้ถอนเพื่อผ่อนถาง
ยุบหนอพองขอร้องบ่อยลอบค่อยวาง
ความจืดจางคนช่างต่อความพอดี
รอยแผลเป็นจึงเห็นง่ายความหมายเศร้า
ชั่งอ่อนเบาลองเอาอิงช้อนพิงพี่
หลายอย่างล้วนดีชวนชมนิยมมี
อย่าลืมที่คุณนี้อยู่ควรบูชา
ใจกับปากขอฝากป้องควรลองเปลี่ยน
หลายคนเอียนเขาเรียนฟ้องให้มองค่า
เกิดเป็นคนถึงจนมีชั่ว-ดี พา
ใช้ปัญญาช่วยมากันความบั่นทอน
เหมือนจงใจทำให้เกิดว่าเลิศรู้
เพื่อคนชูพอดูเห็นจึงเป็นอ่อน
ชอบสร้างเรื่องคิดเฟื่องจังลับหลังตอน
ความร้าวรอนเริ่มย้อนมีความดีรวน
ไม่สำนึกรู้สึกตัวความชั่วก่อ
หยุดเถิดหนอจึงขอยันความปั่นป่วน
โลภโกรธหลงโปรดปลงเถิดให้เกิดชวน
แล้วอย่ากวนก่อมวลชนให้คนตาม
ชอบทำตัวเป็นขั้วข่าวให้ฉาวโฉ่
ตึกใหญ่โตยังโหลพังคนสั่งห้าม
เกิดเป็นไทยต้องใจเย็นแล้วเห็นงาม
สมญานามพอถามชื่อนี่หรือคน
ผู้เขียน : สมศักดิ์ บุญมาเลิศ
๒๓ พ.ค. ๒๕๕๑, ๑๙.๕๗ น.