27 เมษายน 2546 19:37 น.
กวินทรากร
ไม่เคยเรียน รู้ค่า คำว่า กิ๊ก
มันเหมือนพริก เผ็ดไหมนะ คุณตะเอ๋า
ฟังเหมือนว่า กิ๊ก ต้อง เป็นของเรา
แต่หากเขา จะเป็นอื่น ต้องชื่นชม
มีแฟนแล้ว ก็ยังหา กิ๊กมาได้
เป็นดอกไม้ หรือว่า เป็นยาขม
รักษาโรค เบื่อแฟน แสนระทม
ให้กลับคืน ชื่มชม สมฤดี
แถมไม่ต้อง Take care ดูแลด้วย
หลังให้ช่วย ก็ทอดทิ้ง แล้ววิ่งหนี
กิ๊กต้องไม่ ตามล่า คอยราวี
กิ๊ก แสนดี สงสัย ไม่ใช่ คน
------------------------------------------
หากอยากเขียน เรียนค่า คำว่ากิ๊ก
ต้องระริก ระรี้มา หาตะเอ๋า
จะสาธก ยกโวหาร อันพริ้งเพรา
บอกเป็นเค้า ข้อความ ตามสมควร
กิ๊กคงไม่ คล้ายพริก ขี้หนูหรอก
กิ๊กเป็นดอก ไม้ไฉน ให้นึกหวน
กิ๊กเป็นคำ วลี ที่เชิญชวน
คุณคนกวน จริงๆ ให้วิ่งดู
เรื่องของกิ๊ก คลิกโพส ประโยชน์นิตย์
อาจสะกิด ติดวิญญา อย่าหนวกหู
รู้ทันโลกย์ ทันสื่อ ถือเป็นครู
ประดับคู่ สติตรอง สมองไว
27 เมษายน 2546 17:57 น.
กวินทรากร
เพื่อนบังคับ ให้ รับร่ำ ลำนำกลอน
วันอำลา อาลัย ใจทอดถอน
ทุกข์สะท้อน นอนตื่นสาย ได้หลายวัน
ไม่เห็นภาพ ซาบซึ้ง สักหนึ่งน้อย
คนเป็นร้อย มาร่วมวง ก๊งสังสรร
ที่จบไป ที่ไม่จบ พาลพบกัน
สารพัน หันไปหน่าย วุ่นวายจัง
เงินจัดงาน ผลาญเผา เถ้าเป็นถุง
เพื่อบำรุง บำเรอใคร ในหนหลัง
รักสนุก ทุกข์ถนัด วิบัติพัง
เราหนอนั่ง ชังสังคม มันงมงาย
รุ่นพี่กู ผู้องอาจ มาดผู้ว่า
เมาเหมือนหมา ถ้าใครเห็น เป็นใจหาย
เอ้ารุ่นน้อง ผ่องพักตรา มากับชาย
สวมใส่สาย เดี่ยวเกาะอก ลกลูกตา
ครูอาจารย์ บานชื่น ไม่ขื่นขม
กลับชื่นชม ชอบจิตร ศิษย์เลียขา
เสียระบอบ เบื้องบรรพ์ อันโสภา
เสียจรรยา ค่าของครู ที่บูชา
โอ้ตัวเรา เฝ้ามอง ผองภาพลบ
ย่อมประสบ ภพทุเรศ เหตุผวา
จำไหลตาม ร่ำไป ในธารา
ลมแรงมา พากิ่งไผ่ ไหวเอนเอย
20 เมษายน 2546 01:21 น.
กวินทรากร
โอ้สาเก เมไรย เสพย์ไม่บ่อย
กินน้อยน้อย อร่อยดี มีอีกใหม
ทั้งกระแช่ แลละเหี่ย อีกเบียร์ไวน์
ดื่มเข้าไส้ แสบท้อง ก็ต้องทน
รสมันนุ่ม ภูมิปัญญา ประชาราษฎร์
ดื่มช่วยชาติ ใช้หนี้ ที่ขัดสน
ดื่มพวกเรา คราวอกหัก รักเล่นกล
ดื่มเพื่อพ้น ทุกข์ระทม ถมอุรา
เอ้าชนแก้ว แล้วนอน เพื่อผ่อนจิต
หรือยังคิด ตระเวนต่อ หัวล่อหรา
อ้ากุญแจ รถยนต์หาย หน่ายวิญญา
ไปเที่ยวมา เมื่อคืน ชื่นใจจัง
http://www.mthai.com/poetry/talk/webboard/00494.html
17 เมษายน 2546 15:28 น.
กวินทรากร
ลมสะบัด พัดกรรโชก โลกย์ วนวก
หวามสะทก อกสะท้อน นอนผวา
ตรุษสงกรานต์ สนานสนุก ปลุกนัครา-
พ้นนิทรา ในราตรี สีหม่นมัว
ฤดูเดือน เตือนจริต คิดเนาถิ่น
คนเดินดิน ถวิลไป ใคร่ซื้อตั๋ว
หมอชิตสอง ต้องรอเดี่ยว เที่ยวรถทัวร์
คนพันพัว กลัวโรคซารส์ อ้า..! จำทน
นี่น่ะหรือ คือชีวิต คิดแล้วขำ
เช้ายันค่ำ ล้ำลำเค็ญ เห็นสับสน
ตรุษสงกรานต์ สนานสนุก ทุกมณฑล
สาดน้ำฝน ปนปะปา บ้าสิ้นดี
เมืองไทยแล้ง แห้งฝาก ซากทรายใส
อีสานไห้ ไร้สง่า หมองราศี
วัฒนะ อธรรม์ อันอัปรีย์
สายวารี มีเพื่อหา ความสามานย์
ไม่มีแล้ว แก้วสามดวง ช่วงโชติฟ้า
ดับเพราะรา คะมหิทธิ์ ผิดสถาน
ตรุษสงกรานต์ สนานสนุก ยุคตำนาน
รุ่นลูกหลาน รั้นลิขิต ผิดเพี้ยนไป
กบาล กรวง ห่วงหรือนึก รำลึกคุณ
ไม่ทำบุญ หนุนทาน บุราณวิสัย
ไม่มีวัด สัทธรรม ค้ำหัวใจ
ไม่มีนัยน์ ชำเลืองชัด พัทธสีมา
สาวหนุ่มลอง มองย้อน ณ ประวัติศาสตร์
มองดูชาติ รัฐไทย ไว้เถิดหนา
คงไม่หลง งงงัน ในมรรคา
จนแปลงค่า จารีต ผิดเพี้ยนเอย สาธุ
9 เมษายน 2546 11:41 น.
กวินทรากร
เนตมันหลุด สะดุดกึก มะรึกกึ๊กกึ๋ย
เหตุฉะหนึ๋ย เป็นฉะนี้ ละพี่จ๋า
จะเข้าเวป เซฟรูปโป๊ โอ้ นิจจา
เนตมันช้า รอเป็นชาติ อนาจใจ
เลยมานั่ง แซวชาวบ้าน เป็นงานหลัก
ใช่รู้จัก มักจี่ ซะที่ไหน
โพสไปทั่ว มั่วมั่วส่ง คงเห็นใจ
เอ๊ะชักไม่ เข้าท่า บ้าจริงจริง
จำลองแต่ง กลอนตลาด มาดสุขุม
ยิ้มแก้มบุ๋ม เพื่อคนดู เป็นผู้หญิง
หลงมาอ่าน สมานสมัคร ทักท้วงติง
จะนั่งนิ่ง อยู่ไย จีบไว้เลย
เอยังงัย กันนี่ อีตาบ้า
เพ้อเจ้อมา ยืดยาว เอาละเหวย
ต้องมีคน บ่นอย่างนี้ ทุกทีเลย
อ่านเฉยเฉย อย่าเพิ่งเถียง เพียงคำวอน
ไม่ได้หมาย จะให้หวาน น้ำตาลหยด
แต่งกำหนด บทระบุ อนุสรณ์
ให้เพื่อนรัก อักษรา วิชากลอน
ไว้ดูตอน คิดจะแกล้ง สำแดงคำ