15 ธันวาคม 2546 16:44 น.
กวินทรากร
วรรณศิลป์ ไม่สิ้นไร้ ไม้ตอกแล้ว
คงเหลือแก้ว แววสดใส ไว้ในผลู
ร้อยกรองกลั่น สรรคำขลัง ยังพรั่งพรู
วรรณศิลป์ โสภินทร์อยู่ นิรันดร
งานประพันธ์ อันงามแง่ นั้นแผ่ซ่าน
ซึ้งคำขาน ผ่านทำนอง ของคำสอน
สื่อสัจจะ ประดับแดน แผ่นดินดอน
ดังขจร กระฉ่อนฟ้า และวารี
ขอมวลชน คือคนไทย ไม่ปล่อยปละ
หลงลืมละ อนุรักษ์ อักษรศรี
วรรณกรรม ล้ำครรลอง ผองความดี
จะยังมี พลีไว้เพื่อ เกื้อสังคม
14 ธันวาคม 2546 13:41 น.
กวินทรากร
ท้องฟ้ากว้าง ช่างสกาว ดาวใหญ่น้อย
งามชดช้อย พลอยนภา- ภาสวยสม
อีกละออง ของน้ำค้าง พร่างพรูพรม
หนาวยามลม พัดพริ้ว หวิวฤาทัย
รักเร่กรุ่น ละมุนหอม พร้อมรักเล่ห์
เราว้าเหว่ เอกา ท้าเดือนใส
ณ ราตรี นี้ร้าง ห่างนางไกล
มองออกไป ในเวหาศ ขาดสุนทรีย์
นิยามศัพท์
นภาภา=นภา+อาภา
พลอยนภา=ดวงดาว
ข้อมูลดอกรักเร่; http://flowersandherbs.cscoms.com/flower/content/ff149.htm
หมายเหตุ ภาพประกอบด้านบน ไม่เกี่ยวกะเนื้อหาในกลอน จริงๆนะ ให้ดูดอกรักเร่เฉยๆ
10 ธันวาคม 2546 18:01 น.
กวินทรากร
รู้.......เสมอเธอร้ายกาจ..................เกินคน
เห็น...อัคคีคือชล............................ชุ่มชื้น
เป็น....ตัวตลกทน..........................ทุกข์เทวษ
ใจ.......เจ็บจะสะอื้น........................โอษฐ์ร้องโทษใคร
หน้า....ใสใสอย่างนี้........................นี่หนอ
ไหว้....พระขอพรขอ.......................คู่น้อง
หลัง.....พี่ที่รีรอ...............................หนุนตัก..นางเอย
หลอก..กับตัวเอ็งต้อง.......................สุขล้ำรำพัน
บอก.....ฉันว่ารักแล้ว.......................ลืมหลง
เล่า.......เรื่องสู่เพื่อนคง....................เยาะเย้ย
เก้า.......คำอนงค์ตรง........................เพียงหนึ่ง..กระมังนา
สิบ........ปากว่านี้เอ้ย........................บ่แม้นตาเห็น
4 ธันวาคม 2546 14:34 น.
กวินทรากร
ทรง.....ประเทืองประเทศล้ำ.............ล้ำสุข
พระ.....มล้างมลายทุกข์....................ทุกแคว้น
เจริญ..ศักดิ์อัครประมุข....................มุขอมาตย์
เทอญ..เทิดไท้ท่านแม้น..................แม่นแม้นบิตุรงค์