30 กรกฎาคม 2549 12:53 น.
กลุ่มดาวมังกร
บันทึกของวันวาน
ในหลวงของเรา ข้อความนี้ เราคงคุ้นเคยกันเสียจนชินตาในวัยกระโปรงบาน ขาสั้น หรือช่วงเรียนประถมหรือมัธยม ซึ่งตอนนั้น ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากเรียงความที่ครูจะสั่งให้เขียนมาส่งเป็นการบ้าน ซ้ำแล้วซ้ำอีก วนเวียนอยู่ทุกปี ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และมันก็จะยังดำเนินเป็นกิจกรรมต้อนรับวันพ่อให้รุ่นน้อง ๆ ของเราได้ทำอีกเสมอ คุณว่าจริงมั้ย??? แต่อีกนัยหนึ่งกับคนไทยอีกทั้งประเทศ คำๆ นี้มีค่ามากมายเหลือเกินสำหรับพวกเขา และฉันในวันนี้......................
นักเรียนคะ วันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมาถึงนี้ และของทุก ๆ ปี ใครทราบบ้างว่าเป็นวันอะไร??? คำถามแรกออกมาจากปากคุณครูผู้สอนวิชาภาษาไทย วันพ่อค่ะ /ครับ เสียงใสตะเบ็งแข่งขันดังเซ็งแซ่ ด้วยคิดว่าคำตอบนั้น ต้องถูกแน่ๆ ถูกแล้วค่ะ เป็นวันพ่อ แล้ววันพ่อมีความสำคัญอย่างไรคะ ใครทราบบ้าง?? คำถามที่สองที่ถามมาทำเอาเด็ก ๆ นั่งซุบซิบ ๆกันอยู่เป็นนาน เนื่องจากความที่เป็นเด็กเล็กนักจึงไม่สามารถที่จะจำวันสำคัญต่างๆ ได้มากมายนัก ความคิดหนึ่งแว่บขึ้นมา วันพ่อ วันที่มีทหารเยอะ ๆ แต่งชุดสีต่าง ๆ กันมาเข้าแถวบนลานกว้าง ๆ แล้วตรงนั้นก็มีอาคารมียอดอาคารเหมือนโดม เขาเรียกว่าอะไรนะ แต่รู้แค่ว่า ในหลวงอยู่ในนั้น ที่นั่นต้องเป็นบ้านของในหลวงแน่ ๆ แล้วเห็นคนประกาศข่าวเขาเรียกพิธีนั้นว่า
สวนสนาม แล้วก็บอกว่าเป็นวัน..วัน...วันอะไรน้า....อ้อ วันคล้ายวันพระราชสมภพ ของในหลวง แล้วพระราชสมภพคืออะไรล่ะ เคยถามแม่แล้วแม่บอกว่า วันพระราชสมภพหมายถึง วันเกิดของในหลวง แล้วตอนกลางคืน ทีวีก็จะมีถ่านทอดสด มีการจุดพลุ สวย ๆ เยอะแยะไปหมด งั้นลองตอบคุณครูดูก่อนดีกว่า วันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันเกิดของในหลวงค่ะ สิ้นสุดคำตอบ คุณครูอมยิ้มให้เด็กน้อย แล้วบอกว่า วันเกิดของพระมหากษัตริย์ เราเรียกว่า วันคล้ายวันพระราชสมภพค่ะ แล้วคุณครูก็แจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 5 ธันวาคม ที่จะมาถึงนี้ ทางโรงเรียนจะจัดให้มีงานวันพ่อ และพิธีถวายพระพร และจะขอเชิญผู้ปกครองของนักเรียนมาร่วมงานด้วย โดยเฉพาะคุณพ่อ แต่วันนี้.........เอ๋............คุณครูจะให้เราทำอะไรอีกนะ เสียงซุบซิบก็ดังขึ้นอีกเป็นระรอก ครูจะให้หนู เขียนเรียงความเรื่อง ในหลวงของเรา เพื่อที่จะคัดเรียงความบทที่ดีที่สุด ส่งเข้าประกวด ตั้งใจเขียนนะคะเรียงความนี้จะเป็นการบ้านให้ไปทำในวันเสาร์อาทิตย์ แล้ววันจันทร์นำมาส่งครูนะคะ คุณครูยังมิวายที่จะกำชับลูกศิษย์จอมซนเหล่านั้น ด้วยเกรงว่าวันหยุดจะเอาแต่เที่ยวเล่น จนลืมที่จะทำการบ้านที่สั่ง และการปลูกฝัง ความรับผิดชอบที่ดีตั้งแต่เด็กจะเป็นรากฐานที่ดีในอนาคตของลูกศิษย์ของเธอ เสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียน หัวหน้าห้องบอกนักเรียนทำความเคารพ เด็กนักเรียนตัวเล็กตัวน้อยเก็บกระเป๋าหนังสือ วิ่งกรูมาเข้าแถวหน้าเสาธง เพื่อเตรียมตัวสวดมนต์ก่อนกลับบ้าน บ้างที่ต้องทำเวรทำความสะอาด ปัดกวาด เคาะแปรงลบกระดาน ก็เร่งทำเพื่อจะมาเข้าแถวให้ทันเพื่อน ๆ สวดมนต์เสร็จก็เดินสายกลับบ้าน แป๊ปเดียวก็ถึงบ้าน เพราะโรงเรียนเป็นโรงเรียนวัด เดินยังไม่ทันเหนื่อย เพราะข้างทางก็มีต้นไม้ใหญ่ ๆ ให้ร่มอยู่ตามรายทาง ก็บ้านเราเป็นบ้านสวนนี่นา......................
เช้าวันเสาร์รีบเอาการบ้านที่ครูให้มาทำดีกว่า เรียงความเรื่อง ในหลวงของเรา จะเริ่มเขียนยังไงดีล่ะ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลย กระดาษ ฟุลสแก๊ปนี่ก็ยาวเหลือเกิน จะเขียนได้ถึงหน้ามั้ยเนี่ย ....เคยเห็นแต่ในทีวี ในหลวงทำนั่นทำนี่ แต่ทำไมในหลวงไม่มาแถวบ้านเรามั่งนะเอาไงดีล่ะ เขียนตามที่เคยเห็นในทีวีดีกว่า ว่าในหลวงทำอะไรบ้าง ........เอาล่ะเสร็จแล้ว วันจันทร์ส่งได้ ทั้งที่ข้อความที่เขียนในครั้งนั้น ดูจะไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย เพราะเขียนด้วยความรู้สึกเพียงอยากทำงานให้เสร็จ มีงานส่งครูตามกำหนดเวลาก็เท่านั้น เรียงความที่เขียนทุก ๆ ปี ก็มีแต่ข้อความเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา วนเวียนอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ใส่ใจ จนมาถึงวันนี้.........กี่ปีมาแล้วนะ หลังจากผ่านอดีต ตอนนี้ ฉัน อายุ 21 ปีเต็มแล้ว ตลอดระยะเวลา 21 ปีนี้ สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นเสมอมา คือ ในหลวงไม่เคยหยุดที่จะทรงงานเลย ไม่เคยเลยจริง ๆ ทรงตรากตรำที่จะทำงานไม่มีวันว่างเว้น เพื่อใคร เพื่อลูก ๆ ทั้ง 60 กว่าล้านคนของพ่อให้อยู่ดีมีสุข วันนี้ฉันได้ตระหนักแล้วว่า ทำไมคนไทยถึงได้รัก พ่อ นักหนา เพราะทุก ๆ พระราชกรณียกิจที่พ่อทำ ยังติดตรึงในใจฉันและคนไทยทั้งประเทศเสมอมา พ่อผู้เป็นนักปราชญ์ พ่อผู้เป็นนักพัฒนา และ
พ่อผู้เป็นกษัตริย์ที่ครองใจไทยทั้งชาติได้ทั้งหมดจริง ๆ ด้วยพระอัจฉริยะภาพ ทุก ๆ ด้านทำให้ประเทศไทยได้พัฒนา เป็นที่ยอมรับของต่างชาติ กี่ปีมาแล้วที่พ่อสร้าง กี่ปีมาแล้วที่พ่อพัฒนา โครงการของพ่อ เป็นพันเป็นหมื่นโครงการ เพื่อใคร???? มิใช่เลยที่พ่อจะทำเพื่อพระองค์เองได้สุขสบาย แต่ทรงทำเพื่อเราคนไทยทั้งประเทศต่างหาก ไม่มีแผ่นดินถิ่นใดในประเทศที่พ่อไม่เคยเหยียบ ไม่ที่ถิ่นใด ที่น้ำพระทัยและความห่วงใยของพ่อจะส่งมาไม่ถึง หยาดพระเสโทรินหยดรดแผ่นดิน เพื่อลูกไทยได้เป็นไท เสมอมา
9 มิถุนายน 2549 วันแห่งประวัติศาสตร์ อีกวันของคนไทย วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ เสด็จขึ้นครองศิริราชสมบัติ ครบ 60 ปี ทีวีทุกช่องถ่ายทอดสด พระประมุข และผู้แทนพระองค์ของประมุข 26 ประเทศ ให้ความสนใจในการเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลอง ทีวีต่างประเทศต่างสนในเข้ามาทำข่าว วันที่คนไทย รวมใจเป็นหนึ่งเดียวถวายความจงรักษ์ภักดีต่อ พ่อของแผ่นดิน ภาพของพ่อ ขณะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันต์สมาคม ทรงโบกพระหัตถ์ ให้กับประชาชนเรือนแสนซึ่งล้วนแล้วแต่สวมใส่เสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำพระองค์มารอเฝ้ารับเสด็จ และชื่นชมพระบารมีกันจนแน่นขนัดบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และพื้นที่ไกลออกไป ภาพธงชาติ ถูกโบกสะบัดอยู่ตลอดเวลา ปากก็พร่ำพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก ทรงพระเจริญ คำ ๆ นี้ จะติดตรึงในหัวใจของคนไทยทุกคนไปอีกนานเป็นแน่แท้ น้ำตาแห่งมหาชน ด้วยความปิติยินดี ที่ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิดไหลออกมา ไม่มีมีใครอายใคร แม้แต่ชาวต่างชาติ เองก็ประหลาดใจกับสิ่งที่ได้เห็น พลังของคนไทย ที่ถูกหลอมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อใคร เพื่อ พ่อของแผ่นดิน หลังจากนั้นไม่นาน มีแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังว่า ในหลวงทรงสะดุดหกล้ม ระหว่างที่พระดำเนินออกกำลังพระวรกาย ในตอนเช้า ข่าวนี้ทำเอาคนไทย ใจหาย นึกเป็นห่วงพ่อของพวกเรา ว่าพ่อจะเป็นอย่างไร แต่ก็มีแถลงการณ์อีกฉบับออกมา ว่าในหลวงไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำให้คนไทยใจชื้นขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่วายที่ยังห่วง หลังจากนั้น ก็มีแถลงการณ์ออกมาอีก ว่าคณะแพทย์จะถวายการผ่าตัดพระปิฐิกัณฐกัฐิ (กระดูกสันหลัง) ที่โรงพยาบาลศิริราช ในวันที่ 20 กรกฏาคม 2549 ประชาชนชาวไทย ต่างเฝ้ารอเพื่อจะฟังข่าวพระอาการประชวรของในหลวงแทบตลอดเวลา คนไทยทุกศาสนา ต่างสวดมนต์อ้อนวอน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ช่วยปกปักรักษา พ่อของพวกเรา ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรในเร็ววัน ประชาชนจำนวนไม่น้อย ถึงกับไปกินนอนกันที่โรงพยาบาลศิริราชเลยทีเดียว เพื่อที่จะได้ติดตามข่าวพระอาการอย่างใกล้ชิด ต่างเฝ้าแหงนหน้ามองชั้นที่ประทับของในหลวงด้วยใจแสนห่วง ซึ่งพระอาการของในหลวงก็เป็นที่น่าพอใจของขณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา และพระอาการประชวรก็ดีขึ้นตามลำดับ หากวันนี้ ย้อนเวลากลับไปได้ เรียงความเรื่อง ในหลวงของฉัน จะต้องสมบูรณ์กว่านี้ จะต้องดีกว่านี้ เพราะฉันจะใช้ใจเขียน ใจที่เป็นไทยทั้งดวง และจะเขียนเพื่อพ่อ เขียนเพื่อความรักที่ฉัน และคนไทยที่มีต่อพ่อในวันนี้ แต่เวลาย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว แต่วันนี้ฉันทำวันนี้ให้ดีที่สุดได้ และฉันจะขอทำความดี ทำเพื่อประเทศ ทำเพื่อสังคม และทำเพื่อในหลวงของเรา ให้ดีที่สุด ให้สมกับที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย ให้สมกับที่เกิดมาอาศัยใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารขององค์พ่อหลวงนักพัฒนา หนึ่งแรงของฉัน และอีก 60 ล้านแรงความดี คงทำให้พ่อเหนื่อยน้อยลงไปบ้าง คุณว่าไหม
กระดาษฟุลสแก๊ป กับ หัวข้อเรียงความ ในหลวงของเรา อาจจะหนักหนาสาหัสในวัยเยาว์ แต่ตอนนี้ ต่อให้กระดาษฟุลสแก๊ปอีกสักกี่สิบแผ่น ก็ไม่อาจเขียนบรรยาย ความรักที่ฉันและคนไทยทั้งประเทศที่มีต่อในหลวงได้จบสิ้น สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกได้เสมอ คือ เราทุกคน ไม่มีใครอยู่นอกสายพระเนตรของในหลวงเลยสักคน แล้ววันนี้ เราทำความดีเพื่อ พ่อของแผ่นดินแล้วหรือยัง
*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*