6 มิถุนายน 2554 17:55 น.
กลั่นแก้ว
คนเราเสียใจมีวิธีหาทางออกให้ตัวเองแตกต่างกันออกไปแก้วเป็นเด็กเรียนดีมากทีเดียวและเรียนในมหาลัยวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโดยหาเงินค่าหน่วยกิตเองไม่ต้องเป็นภาระของใครๆ แต่ก็ถูกยายดุ ด่าเสมอเพราะว่าไม่ยากเป็นหมอเหมือนยายตั้งใจจึงเลือกเรียนสถาปัต ด้วยมีใจที่ชื่นชอบศิลปะมากกว่า
ทุกครั้งที่โดนยายดุอย่างไม่มีเหตุผล ก็จะไปเจาะร่างกายเจาะลิ้น เจาะจมูก และส่วนต่างๆของร่างกาย
แพรวาลูกพี่ลูกน้องของแก้วถามว่าทำไมต้องไปเจาะด้วยไม่เจ็บเหรอ ไม่เห็นสวยเลยคำตอบที่ได้มาจากแก้วคือ มันก็เจ็บนะ..แต่เราเอาบาดแผลไว้นับดูว่าเราเจ็บที่ใจกี่ครั้งมากกว่า...ทำสถิติ แก้วพูดด้วยแววตาที่เศร้าแต่ยังคมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
แก้วเป็นคนอ่อนหวาน พูดจาไพเราะแตกต่างจากภาพภายนอกที่กรีดอายไลเนอร์สีดำเข้มเจาะจมูก เจาะปากใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ
แก้วบอกว่าถึงแก้วจะแต่งตัวแบบนี้ เจาะและสักตามร่างกายก็ยังรักเรียนอยู่ยังไงก็ต้องเรียนให้จบและทำงานให้ได้ดีให้ได้
น้ำตาใสๆก็ไหลมาเปื้อนแก้มของแพรวาเพราะว่าสงสารแก้ว...แก้วคงจะเจ็บและบอบช้ำขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้อีกได้ไหม
แก้วบอกว่าวันที่แก้วรับปริญญาแก้วจะถอดทุกสิ่งทุกอย่าง...ออกให้หมด
ร่างกายเราถึงจะเจ็บแต่หัวใจของเราก็พร้อมจะฝ่าฟันอยู่
แพรวากับแก้วกอดกันแล้วยิ้มทั้งที่น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม
3 มิถุนายน 2554 16:10 น.
กลั่นแก้ว
เรื่องราวเป็นมาอย่างไรฉันไม่สามารถอธิบายได้
สรรพนามที่ใช้เรียกระหว่างเรา ก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน
แต่ระหว่างฉันความรู้สึกที่ดีที่มีให้ใครสักคนนั้นมาจากข้างในหัวใจของฉันจริงๆ
วันเวลาแต่ละนาทีของฉันมีความหมายเพราะฉันมีความหวัง ฉันมีความฝัน และมีความตั้งใจจริง
และเมื่อฉันรู้สึกว่าคนหนึ่งพิเศษและแสนดีสำหรับฉันแล้ว ฉันอยากรับรู้ความสุข
อยากเห็นรอยยิ้มของเขา
ฉันรับรู้ปราถนาดีที่เขาส่งถึงฉันเสมอ และฉันก็ปราถนาดีกับเขาเช่นกันแต่ฉันไม่สามารถรู้ได้เลยว่าระหว่างเราคืออะไร
และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาคิดกับฉันเช่นไร
แต่สำหรับฉันทั้งหัวใจและลมหายก็มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น
ไม่ว่าใกล้ หรือเราจะไกลกันเพียงใดก็ไม่มีอะไรจะสามารถมากั้นความรู้สึกที่เรียกว่า"รัก" ได้เลย
และไม่มีใครสามารถลบความรู้สึกเช่นนี้ไปได้เพราะมันจะอยู่คู่ลมหายใจของฉันไปตลอด
30 พฤษภาคม 2554 18:04 น.
กลั่นแก้ว
พ่อ แม่ พาเด็กน้อยคนหนึ่งมาหาหมอที่โรงพยาบาล เพราะถูกเพื่อนๆ แกล้งแรงๆ ล้อเลียนว่าเป็นตัวประหลาด
แต่เธอบอกว่าเธอเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ ที่ไม่ว่าใครจะทุบตีแรงๆ เตะ ต่อยกับเพื่อน หรือแม้แต่เอาลวดเย็บกระดาษเย็บเนื้อตัวเองจนเลือดซึม เธอก็ไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย
จนคุณหมอตะลึงพรึงเพริดไปกับความมหัศจรรย์ของเด็กน้อยคนนี้ แต่เมื่อวินิจฉัยอย่างละเอียดแล้วปรากฎว่าเด็กน้อยคนนี้มีเนี้องอกในสมองที่ไปกดทับเส้นประสาทส่วนรับรู้ความเจ็บปวด ทำให้ไม่ว่าเพื่อนๆ จะทุบตี เตะต่อยแรงแค่ไหนก็ไม่เจ็บ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยคนนี้บอบช้ำไปทั้งตัว ทั้งภายใน และภายนอก มีรอยบาดแผลเต็มไปหมด ถ้ายิ่งปล่อยให้นานกว่านี้ เด็กน้อยคนนี้ ต้องตายแน่ๆ นี่ไงละผลของการไม่รับรู้ ไม่รู้จักควมเจ็บปวด
หลังจากผ่าตัดเด็กน้อยคนนี้เรียบร้อยแล้ว อาจารย์หมอในเรื่องพูดขึ้นมาประมาณว่า เราทุคนควรจะเรียนรู้จากเด็กน้อยคนนี้ให้มาก เพราะความเจ็บปวดไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจที่เราเจอไม่ใช่ว่ามันให้แต่ผลร้าย แต่มันช่วยเตือนใจเรา ช่วยให้เราได้เรียนรู้ โตขึ้น และสอนใจไห้ไม่ก้าวพลาดให้ต้องเจอเรื่องเจ็บๆ อย่างนั้นอีก ประโยคนี้ในเรื่องเราชอบที่สุด
"Messing up is what make you a person. That's how we learn While we Found joy and things we won't plan for things we never think it's coming"
28 พฤษภาคม 2554 18:14 น.
กลั่นแก้ว
ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อนจังเลย
วันนี้ทำอะไรดีหยุดพักผ่อนสมองหนึ่งวัน พรุ่งนี้เริ่มใหม่
อ่านหนังสือ ดูทีวี ท่องเน็ต ทำไรดี เบื่อจังเลยร้อนด้วย
ปิ้ง????? ไปทะเลดีกว่า ไม่ต้องเตรียมอะไรเลยไปหาเอาข้างหน้า
เสื้อยืด กางเกงขาสั้น
หยิบหมวกหนึ่งใบแล้วก็ไม่ลืมแว่นกันแดดเพราะร้อนมาก ขับรถออกมา
ไกลเหมือนกันนะเนี้ย เริ่มหมดแรง..แต่ใจซิไม่ยอมแพ้ไปถึงก่อนแล้ว
เย้เห็นทะเล...แล้วก็มาถึงจนได้.ด้วยความ.ปลอดภัย
หาที่คนไม่พลุกพล่าน ขับเรื่อยๆ มาเกือบสุดหาดแล้วก็เห็นร้านซีฟู้ด
คนไม่มากมีที่นั่งริมทะเลด้วยร้านนี้แหละจอดรถดีกว่า
จอดรถใส่หมวกและแว่นกันแดดเพื่ออำพราง
สอดส่ายสายตาไปทั่วเห็นแล้วที่นั่งติดริมทะเล
เดินไปนั่งเห็นพนักงานสองคนเกี่ยงกันเข้ามาแล้วซุบซิบกัน
อะไรกันมีอะไรผิดปรกติหรือเปล่าเนี้ยะเราเริ่มสำรวจตัวเองไม่มีอะไรนี่
พนักงานก็เลยเดินมาหาแล้วถามว่า
Can you speak English?
ฮืม??? งง??/ เป็นไก่ตาแตกเลยเราไรเนี้ยะเราเข้าร้านอาหารซีฟู้ดนี่ไม่ได้เข้าร้านอาหารฝรั่งนี่แล้วทำไมถึงพูดภาษาปากิตคิดอยู่ในใจ
ปากก็พูดไปมั่วๆๆ
No, I connot.
พูดไทยได้เปล่า???
พนักงานหัวเราะเราก็หัวเราะไปด้วยเฮ้อ เฮ้อ ขำไม่ค่อยออกเลยเรา
พนักงานบอกว่านึกว่าไต้หวัน หรือฮ่องกง แหมะ แหมะคิดในใจอีกดีไม่บอกว่าเหมือนเขมร ชิชิ
แล้วก็เลยสั่งส้มตำผลไม้เผ็ดๆนะไม่ต้องหวานเพราะว่าหวานอยู่แล้ว อิอิอิ
แล้วก็ลาบกุ้ง ปลากระพงนึ่งมะนาวสามอย่างพอแล้วเพราะมีคนค่อนแคะว่าเราอ้วนชิชิ แล้วจะผอมให้ดู 555 แต่ว่าสองอย่างที่ห้ามไม่ได้
1.ปาก(บังคับให้หยุดกินไม่ค่อยได้เลย)อย่าเข้าใจผิดกันนะตัวเอง
2.ใจนี่ซิมันลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้เอิ๊กม้าวแดด
เฮ้อ เฮ้อ เฮ้อ ปล่อยความเหนื่อยล้าให้ลอยไปในทะเล
แต่ว่า..ทะเลสวยจังเลยสีฟ้าใสกระทบกับแดดสะท้อนระยิบ ระยิบ
ปู ปลาคงว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนานน่าอิจฉา..
เรานั่งมองตังเกชาวเลออกเรือไปหา ปลา วิถึชาวบ้าน อยู่อย่างพอเพียง
สงบ และคงจะมีความสุขไม่น้อย...
เหม่อมองพื้นทรายสีขาวที่ผู้คนเดินเหยียบย้ำไปมาเป็นรอยเท้า
จิตใจก็ล่องลอยไปถึงอะไรต่อมิอะไรมากมาย...เฮ้อ...
แล้วก็กินเล่นจนแน่นเต็มพุงเลย..นี่ขนาดกินเล่นนะเนี้ยะ
เฮ้อได้เวลากลับบ้านแล้ว...
14 พฤษภาคม 2554 20:29 น.
กลั่นแก้ว
เรื่องราวมากมายหลายอย่างในชีวิต..
เป็นบทเรียนที่สอนการก้าวเดิน...ให้เราแข็งแกร่ง
อุปสรรคต่างๆมากมายเพื่อให้เราได้เรียนรู้..
แต่บางครั้งการก้าวเดิน...เรากับหวาดกลัว...
กลัวไปทุกสิ่ง..กลัวทุกอย่าง..กลัวการเริ่มต้น
ทั่งที่หัวใจขอเราเดินล้ำหน้าตัวเราไปเสียอีก
ตัวฉันเองไม่สามารถขี่จักรยานได้เพราะ..
เคยล้ม...บาดแผลหรือล่องลอยไม่มีให้เห็น
แต่ความรู้สึกที่กลัวเจ็บ..ทำให้ฉันไม่สามารถ
ขี่จักรยานได้...ทั้งที่ฉันก็อยากจะขี่ให้ได้เหมือนคนอื่นๆ
(ฉันได้แต่คิดว่าชาตินี้ฉันคงไม่สามารถปั่นจักรยานได้)
ทั้งที่หัวใจของฉันอยากจะปั่นจักรยานไปตามทางที่ยาวไกล