ทราย
ส่องหล้า
เสียงซ่าซ่าคลื่นซัดกระหวัดเกี่ยว
ไหลเป็นเกลียวกอดก่ายกับทรายขาว
ซึมซับซ่านพื้นทรายที่เหยียดยาว
ระลอกขาวเกลียวคลื่นเจ้าครื้นเครง
ระลอกคลื่นเป็นเกล็ดดั่งเม็ดฝน
ทรายมิพ้นคลื่นกระหวัดซัดข่มเหง
ให้เปียกซ้ำย้ำรอยโดยมิเกรง
คลื่นครื้นเครงแต่ทรายซ้ำถูกย้ำรอย
ลมพัดโชยโบยซ้ำกระหน่ำคลื่น
ไหลครืนครืนหนีหน้าระหล้าถอย
ทรายเจ้ายังเหนี่ยวรั้งตั้งตาคอย
คลื่นเจ้าลอยหายลับมิกลับเรือน
ทรายคิดถึงคลื่นเจ้ายังเหงาหงอย
มีเปลือกหอยคอยเคล้าเฝ้าเป็นเพื่อน
กับโขดหินโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจเตือน
มิลาเลือนจากทรายไปไกลกัน
เจ้าคงหลงระเริงเหลิงหมู่เกาะ
ที่เจ้าเยาะหยอกเย้าเคล้าถลัน
เจ้าเลยทิ้งข้าโถมไปโลมรัน
เกาะสวรรค์กลางธารามหาชล
โอ้เจ้านกนางนวลยังหวนถิ่น
ยังโบกบินกลับเย้ามาเฝ้าหน
นางแอ่นเย้ยล้อเล่นแล่นเวียนวน
ข้าสับสนใจช้ำเจ้าย้ำรอย
ดวงอาทิตย์ลับฟ้ามหาสมุทร
ที่ไกลสุดขอบฟ้าข้าเหงาหงอย
ดาวก็เลื่อนเดือนคู่ฟ้าจันทร์เด่นลอย
ทรายยังคอยอ้างว้างอย่างมืดมน
ค่ำคืนนี้ข้าหนาวและเหงาจิต
คู่ชีวิตข้าไกลโดยไร้หน
ใครหนอใครที่ไหนใครสักคน
มาช่วยยลรอยช้ำน้ำตาทราย...