เมื่อแรกเจอบุษบา
เก็จฐวา
@ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีเรืองศรี
เหลียวไปรับไหว้เทวี ภูมีดูนางไม่วางตา
งามจริงยิ่งเทพนิมิต ให้คิดเสียดายเป็นหนักหนา
เสโทไหลหลั่งทั้งกายา สะบัดปลายเกศาเนืองไป
กรกอดอนุชาก็ตกลง จะรู้สึกพระองค์ก็หาไม่
แต่เวียนจูบสียะตรายาใจ สำคัญพระทัยว่าเทวี
ความรักรุมจิตพิศวง จนลืมองค์ลืมอายนางโฉมศรี
ไม่เป็นอารมณ์สมประดี ภูมีหลงขับขึ้นฉับพลัน ฯ
@ เจ้าเอยเจ้าดวงยิหวา ดั่งหยาดฟ้ามาแต่กระยาหงัน
ได้เห็นโฉมฉายเสียดายครัน ฉุกใจมิทันคิด เอย ฯ
@ สังคามาระตาโฉมเฉลา ค่อยสั่นพระเพลาพลางสะกิด
หยิกเอาบาทบงสุ์พระทรงฤทธิ์ ภูวไนยได้คิดก็นิ่งไป ฯ
@ เมื่อนั้น บุษบาเยาวยอดพิศมัย
ถวายบังคมลาคลาไคล คลานเข้าไปในม่านทอง ฯ
@ เมื่อนั้น ระเด่นมนตรียิ่งหม่นหมอง
แลตามทรามวัยด้วยใจปอง พลางร้องครวญขับขึ้นฉับไว ฯ
@ เจ้าดวงยิหวาพี่ เจ้าจะจรลีไปไหน
พี่จะอุ้มไปส่งนะดวงใจ ภูวไนยก็เคลื่อนองค์ เอย ฯ
@ สังคามาระตาลอบสะกิด เห็นทรงฤทธิ์เคลิ้มคลั่งกำลังหลง
จึงยึดข้อพระบาทไว้มั่นคง พระรู้องค์ได้คิดก็คืนมา ฯ
@ เมื่อนั้น พระโฉมยงบอกองค์ขนิษฐา
เท้าพี่นี้เป็นเหน็บชา จะกลับกายาอย่ายึดไว้ ฯ
@ บัดนั้น ฝูงนางกำนัลน้อยใหญ่
เห็นอิเหนากุเรปันฟั่นเฟือนไป นางในสรวลแล้วก็บอกกัน
เมื่อกี้พระขับชมนาง ได้ยินบ้างหรือไม่นะสาวสวรรค์
พระจริตก็ผิดไปทุกอัน พระพักต์นั้นก็ซีดสลดไป
พระกรกอดพระกุมารก็เลื่อนลง เสโทโซมองค์ลงหลั่งไหล
ดูทีทำนองจะต้องใจ จึงเคลิ้มไคล้ไม่เป็นสมประดี ฯ
...........................๑@๑.............................