http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song336.html ดอกฝน ดินหอมและดวงดอกไม้ ฟ้าอุ้มฝน..หนักจนทานทนไม่ได้ ในปลายฤดู... ปล่อยให้ร่วงหล่นพรายพร่าง เป็นสายๆรายๆริ้วๆพลิ้วพร่างพรม หยาดลงจากผืนฟ้า แตะต้องผืนดิน... พาให้เนืองนอง ชุ่มฉ่ำ...... ฉัน....นั่งดูสายฝน ในค่ำคืนนี้.. กับแสงเทียนวับแวม กับแจกันดินเผา ที่บรรจุกุหลาบแดงและดวงดอกบานชื่นหลากสี ที่เพิ่งเก็บมาจากราวป่านอกเมือง... เสียงฝนจั๊กๆๆ..ราวกับฟ้ารั่ว.. และค่อยๆซ่า ซ่า ซา ซา จนเปาะแปะ เปาะแปะ ปรอย ปรอย...... พาให้ดวงใจปลิดปลิว ล่องลอยไปตามสายฝนพรำ กับความทรงจำหวานหอม...เนานาน ในบางฤดูกาลแห่งชีวิต..... ที่ผ่านปลายฝนต้นหนาวมาหลายฤดู........... คิดถึง..บ้านพักบนเชิงผา ที่เกาะเต่า.. เกาะสวรรค์ที่ยังบริสุทธิ์ใสในอ่าวไทย ในปลายฝนหนึ่งนานมา.. และ เคยนั่งเฝ้าดูสายฝน..พราย ที่ตกต้องแต้มท้องทะเล สีคราม เวิ้งว้าง กว้างไกลสุดตา ให้มีดวงดอกฝน แสนหวาน บานไล่ๆกันไป จนเต็มทะเลกว้าง ช่างแสนงามเศร้า งามซึ้งไหวอยู่ในใจดายเดียวดวงงาม... ให้งอก งอก ดวงดอกแห่งความคิดถึง..คิดถึง และคิดถึง ใครบางคน ในยามนั้นที่แสนรักแสนเสน่หา จนหมดใจ......... ดอกฝน..ดอกฝัน.. กับผู้หญิงคนนี้ที่ช่างฝัน ช่างหวั่นไหว ช่างไปด้วยกันได้ดีราวฟ้าประทาน.... ดอกไม้..แห่งความฝัน บานพร้อมๆกันไปในยามธรรมชาติ..แปรเปลี่ยน..หมุนเวียนใน ทุกฤดูกาลแห่งชีวิต........ ฉัน...ชอบนั่งดู..ดอกฝน ไม่ว่าจะอยู่หนใด ในหรือนอกประเทศ........ บางฤดูกาล..เคยนั่งเคเบิลคาร์ พาใจไปสัมผัสคืนฝนพรำ ที่เกาะเซนโตซ่า อย่างดายเดียว และเงียบเหงาใจอย่างคนไกลบ้าน... เคย...ว่ายน้ำ สนอร์เกิล ที่เกาะพีพี และมีฝูงปลาว่ายวน เป็นเพื่อนใจ ในบ้านของเรา......... เคย...นั่งรถไปไกล..จนถึงกว๊านพะเยา.. มองสายฝนตกต้องทะเลสาบที่งามหวามไหวไปอีกแบบหนึ่ง และ อย่างอ้างว้างว้าเหว่ใจ ไปกับเทาทึมของทะเลฝน..บนภูภาคเหนือ........ เคย..และเคย..อาบน้ำกลางทะเล หลายถิ่นที่ โดยหารู้ไม่ว่าเสี่ยงกับการที่ฟ้าจะพิโรธ เพราะ ยังเด็กนัก มีแต่ดวงใจรักที่ถูกใจคนผ่าแยก แตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยพิษรักร้าวระบมแห่งเสน่หาอาวรณ์อาลัย........ ผ่านมาและผ่านไป ไม่ว่าฤดูที่หมุนไป และฤดีที่หมุนวน.......... ผ่านเรื่องราวมากมี.. ทั้งหวัง ทั้งหวาน ทั้งเศร้า ทั้งสุข ที่ยังคงติดตรึงใจ อยู่ในความทรงจำ.......... รู้เพียงว่า..อากาศหลังฝนตกนั้น ช่างหอมชื่น อบอวล ยามที่อยู่ในชนบททุ่งกว้าง...... เคยนั่งติดฝน.. ในกระท่อมบนเชิงเขา ที่หุบเขาใหญ่ไพรกว้าง... พลันก็ได้หวานๆหอมๆ กำจรจรุง จากดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่งรับหยาดน้ำค้างจากดงพฤกษ์ไพร... แทรกหวานมากับสายลมผ่าน จนจำติดใจมาจนถึงวันนี้........ นี่คือสิ่งงามงด หมดจด สวยใส แสนงาม แสนประทับใจ... ที่ฤดูกาลกำนัล ให้แด่คนช่างฝัน....... ได้ซาบซึ้ง ซึมซับ รับรู้ กับสายฝน และลมบน กับทุกสิ่งที่แสนดี นี้ บนผืนโลก..ของเรา........ และ.... ค่ำคืนนี้...ในความงามของคืนที่...ฝนกำลังสั่งฟ้า... ฉันเปิดเพลง แสนหวานนี้คลอเคล้า.. เพื่อกำนัลแด่...เธอ..นะคนดี...... ฝากผ่าน ฟ้ากว้าง ทางช้างเผือก กับลมหนาวที่โบกโบยทายทัก เพื่อให้ดวงใจรักและกายของเธอได้หนาวคลาย......... ดวงดาว...ดอกไม้หวานหวาน ที่กำลังบานสะพรั่งทุกแห่งหน ก็กำลังเงี่ยหูฟัง พร้อมกันกับเธอนะยอดดวงใจ .......... .................................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem81817.html ฤดูฤดีครวญ ฉัน...ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงสายฝนกระหน่ำ ที่ซ้ำซัดซาดหลังคา กราว กราว.... และ เสียงพายุ กรูเกรียว หวีดหวิว... เสียงกิ่งจำปี ที่ติดกับหน้าต่างห้องนอน เสียดสีหลังคาซัดส่ายใบ ไปมาตามแรงลมไหว กระแทกกระทั้น ราวกับเสียงของดนตรีเฮฟวี่... ฉัน...เหลือบดูนาฬิกา..เป็นเวลาตีสามครึ่ง........ หอมหวานของจำปี และเล็บมือนางริมรั้ว แทรกมากับ..สายฝนฉ่ำฟ้า.... ฉัน..นอนนิ่งๆ..ดูฟ้าที่สลัวมัวหม่น ฉ่ำชื่น กับหยาดละอองฝนพรมพรำที่กระทบหลังคา และ หยาดลงมาเป็นสายพรายพลิ้ว.... ปลายฝน...แล้วสินะ....แต่จะมีต้นหนาวมาเยือนหรือไม่ ยังไม่แน่... เพราะ.... ฤดูกาล..เปลี่ยนแปรไปหมดสิ้นแล้ว... บางครั้ง..ฤดูกาล..ก็เปรียบได้ดั่ง"ใจคน"เรานี้ ที่มีแต่เร่าร้อน ทุรนทุราย..ไร้หนาว ไร้ฝน ไร้โรแมนติก ไร้สิ้นแสงดาว ไร้ความอ่อนหวาน อ่อนไหว ภายในใจ... ที่ต้องสับสนหาเช้ากินค่ำกับยุคนี้ ที่เศรษฐกิจทรุด ผู้คนทั้งประเทศ แทบหยุดหายใจ หยุดความเจริญเติบโต....... ฉันลงมา..ต้มน้ำชงกาแฟ..เปิดเพลงของ ฮอทเปบเปอร์ เริ่มด้วยเพลงนี้ที่มีชื่อว่า "หัวใจสลาย........." "ดั่งแก้วบางเค้าทุบทิ้งแตก ใจฉันแหลกเพราะน้ำมือเธอ ปวดอกช้ำ คร่ำครวญ พร่ำเพ้อ เคยไหมเธอจะเหลือบเหลียวมา คำทุกคำล้วนซ่อนหยามเหยียด ทั้งรังเกียจลดเลี้ยวระอา เทิดทูนเธอ ดั่งเจ้าชีวา ไยถึงฆ่าฉันลง คงเป็นสุข ได้สมดังใจ ลวงคนให้คลั่งไคล้เหมือนนกเพลินกรง ฆ่าฉันฆาตกรรมได้แสนบรรจง เกินดวงจิตพะวงไว้ใจ ดั่งเหมือนถูกทับไว้ใต้โลก น้ำตาตกทุกค่ำคืนวัน ทุกข์โทษใครให้คนขบขัน "ใจฉันมันง่ายเอง" เพลงแสนเศร้ารานร้าว บาดใจ คลอเคล้าไปกับสายฝนและลมเย็นยามใกล้รุ่ง.. ลอยละล่อง... ฝากไปกับแสงดาว เคล้าแสงเดือนกับคืนฟ้าหม่น..... เพื่อเป็นเพื่อนปลอบประโลมใจ ให้กับใจทุกดวงที่รานร้าวพอกัน........ เปิดประตูครัวออกไป.... ในท่ามกลางสายฝนหม่นมัว.. ฉันมองเห็น..ร่มเงาไม้ในความมืด ราวเริงร่า ยินดี ที่ได้รับหยาดฝนพรำ ให้ดอกใบนั้นเขียวขจี สดสีงาม.. ในความหนักหน่วงของพายุ..และสายฝนนั้น.. คือความฉ่ำชื้น ให้ผืนดินและพืชพันธุ์ได้อุดม.. กลิ่นกาแฟ..หอมๆที่ฉันนำมารับประทาน กับกล้วยน้ำว้าผ่าเป็นสี่ซีก เป็นอาหารเช้ายามใกล้รุ่ง แบบไทยๆปนฝรั่ง ที่ไปกันไม่ค่อยได้ แต่ใจฉันชอบเสียอย่าง... เลยง่ายงามแบบกล้วยๆ ที่อุดมด้วยวิตามิน... จุดเทียนเจลหอมๆ...ในขวดโหลเล็กๆ ข้างในนั้นจัดเป็น"โลกสีครามใต้ท้องทะเล "ที่ดูเร้นลับ น่าพิศวง..ว่าเอามือเข้าไปจัดได้ยังไง... ทันทีที่..แสงเทียนสว่างวาบ "โลกสีน้ำเงินงามก็พลันวับแวม หวามไหว ล้อลม งามล้ำ มาตั้งล้อหลอกใจอยู่ตรงหน้าฉัน" แสงเทียนวับแวมนี้ บันดาลใจให้ฉันรจนาเรื่อง"ปลายฝน ต้นหนาว" ในยามค่ำคืนนี้..อย่างเงียบงาม... เมื่อวานนี้.... ฉัน...ได้ไปเด็ดดอกไม้ริมรั้ว บ้านร้าง มาอีกแล้ว เป็นพันธุ์ไม้ดอก แสนสวย จับใจ ฉันเสียเหลือเกิน ดอกไม้นั้นคือ..ชบาฮาวายดอกใหญ่เท่าจานหลากสี ดอกพู่ระหงสีแดง ใบนั้นมีฟอร์มเป็นรูปไข่ สีเขียวเป็นมัน กลีบดอกสีแดงหรือสีส้ม จะแผ่โค้งไปด้านหลัง ปลายกลีบเป็นแฉก และหยักเป็นริ้ว ดอกห้อยลงมาแสนอ่อนหวานและอ่อนโยน.... ฉัน..รวบรวม..ดอกไม้นานาพรรณ มาจัดในชามอ่างดินเผา อย่างทะนุถนอมเบามือ..... ดอกไม้ธรรมชาติ ธรรมดาๆ ที่ดูพื้นๆ กลับดูดีและแสนสวยแสนงาม เมื่อนำมารวมสลับสีกัน เข็มแดง เล็บมือนางที่มีสามสี ขาวนวล และ ชมพู โมก ชบาบานพราว เคล้าแซมใบโกศลเหลือบเขียว และพู่ระหง..ห้อยย้อยดอกดวงพวงพู่..... ไม่ต้องอาศัยฝีมือมาก.. แค่นำมาวางรวมกัน ก็กลายกลับเป็น "ดอกไม้ที่มีเสน่ห์งามล้ำแบบเรียบง่าย"อย่างไม่มีที่ติ. แสนชื่นตาชื่นใจ...ดีกว่าดอกไม้ที่บรรจงจัดหรู ดูราวเสแสร้ง..แม้จะอยู่ในแจกันแพงแสนแพง...ก็ตามที....... ฉันฝัน..เสมอมาว่า.... ชีวิตและบ้านหลังสุดท้ายของฉันนั้น ที่จะอยู่และฝังฝากกายใจ ไปจนตราบลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิต จะต้องอยู่ท่ามกลาง สวนดอกไม้เมืองร้อน เป็นแบบสวนสวรรค์ที่เป็นดั่งสวนป่า มีลั่นทม..และพันธุ์ไม้ดอกใบ ที่ไม่จำเป็นต้องทะนุถนอมมากมาย แต่จะให้ดอกดกงามตลอดปี ที่ฉันนี้จะได้ดอมเด็ดดม และนำมาใช้ ในบ้านได้ทุกฤดูกาล... ส่วนตัวบ้านนั้น จะต้องเป็นกระท่อมทับแบบบาหลี ที่เรียบ โล่งกว้าง มีห้องน้ำเปิดรับแสงจันทร์โลมไล้ รับสายฝนโลมร่าง... ฉัน..มีที่ดิน ในฝันแสนสวยแล้วที่เป็นจริง... มีหินก้อนงาม มีที่ทางหลายไร่ และ ที่สำคัญ อยู่ใกล้ทะเล.. สิ่งที่รอ..ให้ฝันเป็นจริงนั้น ใกล้เข้ามาทุกขณะ.. ฉันแค่รอเวลาที่จะย้ายบ้าน จะขอบ้าย บาย ร่ำลาจากชีวิตชาวกรุง(กรง).. ที่ราวปลาผิดน้ำสำหรับชีวิตฉัน... ถ้าฉัน..เป็นปลา..ก็เปรียบดังปลาทะเล ที่ต้องการแหวกว่ายในท้องทะเลกว้างใหญ่ สวยใสบริสุทธิ์.. มิใช่ทะเลน้ำครำดำๆทุกยามหน้าฝนมาเยือนอย่างชาวกรุง(กรง)นี้ ที่"เทพ" พยายามสู้.. เพื่อให้ผู้คนที่นี่มีชีวิตที่ดีกว่า.. ให้สมดั่งคำว่า"กรุงเทพเมืองฟ้าอมร" ฝนซา ฟ้าเลิกหม่นแล้ว......... ฟ้าใกล้สว่าง..มองออกไปฟ้ารำไรฉายแสง สีทอง... เหมือนดั่งโลกและชีวิตนี้ ที่หมุนวน ไม่เคยหยุดยั้ง... บางครั้งยามทุกข์ทน ก็ดังมีพายุ ฝน พัดผ่านมา ท้าทายให้ลุกขึ้นสู้ ยามดี มีสุข ชีวิตก็ดู สดใส ไร้เมฆหมอก สงบงาม.. เหมือน..."ยามฟ้าหลังฝน" ที่มีสายรุ้งงาม หลากสีทอทาบฟ้า ฉายฉานประดับประดาดวงใจ ให้สดใส สดชื่น อย่างมีความหวัง กำลังใจ.. กับวันเวลาและคำว่าชีวิตคือการเริ่มต้นใหม่.... ในทุกคืนวัน..ไม่มีคำว่าสายเกิน.... ปลายฝน..กับคนเมืองนั้น เคยมีแต่นอนไม่หลับไปกับความกังวลว่า"น้ำจะท่วม"มั้ยนะ แต่ ด้วยพระบารมี พระมหากรุณาธิคุณ จากฟ้า.. จากน้ำหยาดพระทัยของในหลวงของปวงชนชาวไทย ทำให้..เรานอนตาหลับอย่างอบอุ่นเป็นสุข ทุกค่ำคืนกับเสียงสายฝนและที่นอนนุ่มนวล.. ด้วยมั่นใจว่า.. น้ำจะไม่ท่วมอีกแล้ว ตั้งแต่มีโครงการพระราชดำริ"โครงการแก้มลิง" ที่เป็นพระปรีชาสามารถ ที่คาดการณ์ถูกต้อง และเตรียมพร้อมที่จะรับมือและป้องกัน..อย่างทันท่วงที ปลายฝนนี้.......... จึงทำให้เรามีชีวิตที่แสนดี.. จากหยาดน้ำพระทัยที่ใสเย็นดั่งหยาดฝน... ที่รินรดให้..พสกนิกรไทยทุกคน และ ทำให้เราได้ตระหนักว่า..... ธรรมชาตินั้นจะโกรธเกรี้ยว ลงโทษ คนที่ไม่รู้ค่าของธรรมชาติสถานเดียวเท่านั้น อย่างสิ้นปรานี เพื่อ ฝากให้หลาบจำ ..... ไม่มีป่า..เมื่อยามน้ำมา น้ำก็จะท่วมอย่างรุนแรงพาให้สูญเสียอย่างยับเยิน.... และ นี่คือบทเรียน.. คือความพ่ายแพ้ ของมนุษย์ ที่บังอาจทำลายธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ และยังประโยชน์มหาศาลให้แก่มวลมนุษยชาติ... และ บางคราว..ต้นหนาวกลับไม่หนาว.. ก็เพราะน้ำมือมนุษย์อีกนั่นแหละ จะโทษใคร หากไม่ไตร่ตรองก่อนสายเกิน...... ฤดูกาลผ่านไป ไม่ว่า..กี่ฝน กี่หนาว กี่เศร้า กี่สุข เราผู้ยังเป็นมนุษย์ ก็ต้องคลุกเคล้าเวียนวน ผจญต่อสู้ จนกว่า. .โลกนี้จะ..แตกดับ ไม่ร้อนไม่หนาว หมดสิ้นทั้งฤดู..ฤดี.. ไปพร้อมกันตราบจนชั่วนิจนิรันดร...! ................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song336.html ปีศาจวสันต์ ...สุนทราภรณ์ บุษยา รังษี เรา จากกันวันนั้นยังจำ จากกันวันนั้นฝนพรำ พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน เรา จากกันวันนั้นนานมา แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้ ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม ไป จากไป ไปแล้วไปเลย อย่ามาชวนชิดชวนเชย ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์ ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว...
19 กรกฎาคม 2549 21:39 น. - comment id 591311
มีคนฟอร์เวิร์ดเมล์นี้มา พุด.. เลยถือโอกาสให้ทุกดวงใจได้อ่าน ฝันปันพลีปันดีด้วยกันค่ะนะคะ สาสน์จากท่าน Dalai Lama ที่ได้กล่าวไว้สำหรับปี 2004 นี้ คุณใช้เวลาในการอ่านและคิดตาม เพียง 2-3 นาทีเท่านั้น โปรดอย่าเก็บคำสอนนี้ไว้คนเดียว มิเช่นนั้นมนตราที่ส่งมานี้จะจากคุณไปภายใน 96 ชั่วโมง แล้วคุณจะได้พบกับสิ่งประหลาดมหัศจรรย์ที่คุณจะยินดีมาก ข้อแนะนำในการดำเนินชีวิต 1. ระลึกเสมอว่า การจะได้พบความรักและความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ก็ต้องประสบกับความเสี่ยงอัน มหาศาลดุจกัน 2. เมื่อคุณแพ้ อย่าลืมเก็บไว้เป็นบทเรียน 3. จงปฏิบัติตาม 3Rs 3.1 เคารพตนเอง (Respect for self) 3.2 เคารพผู้อื่น (Respect for others) 3.3 รับผิดชอบต่อการกระทำของตน (Responsibility for all your actions) 4. จงจำไว้ว่า การที่ไม่ทำตามใจปรารถนาของตนบางครั้งก็ให้โชคอย่างน่ามหัศจรรย์ 5. จงเรียนรู้กฎ เพื่อจะทราบวิธีการฝ่าฝืนอย่างเหมาะสม 6. จงอย่าปล่อยให้การทะเลาะเบาะแว้งด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย มาทำลายมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ของคุณ 7. เมื่อคุณรู้ว่าทำผิด จงอย่ารอช้าที่จะแก้ไข 8. จงใช้เวลาในการอยู่ลำพังผู้เดียวในแต่ละวัน 9. จงอ้าแขนรับการเปลี่ยนแปลง แต่อย่าปล่อยให้คุณค่าของคุณหลุดลอยจากไป 10. จงระลึกไว้ว่า บางครั้งความเงียบก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุด 11. จงดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อที่ว่าเมื่อคุณสูงวัยขึ้นและคิดหวนกลับมาคุณจะสามารถมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำลงไปได้อีกครั้ง 12. บรรยากาศอันอบอุ่นในครอบครัวเป็นพื้นฐานสำคัญของชีวิต 13. เมื่อเกิดขัดใจกับคนที่คุณรัก ให้หยุดไว้แค่เรื่องปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องในอดีต 14. จงแบ่งปันความรู้ เพื่อเป็นหนทางก้าวสู่ความเป็นอมตะ 15. จงสุภาพกับโลกใบนี้ 16. จงหาโอกาสท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยไป อย่างน้อยก็ปีละครั้ง 17. จำไว้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด คือความรักมิใช่ความใคร่ 18. จงตัดสินความสำเร็จของตนด้วยสิ่งที่ต้องเสียสละ 19. จงเข้าใกล้ความรักด้วยการปล่อยวาง โปรดส่งมนตรานี้ต่อ ๆ ไป อย่างน้อย 5 คน แล้วชี วิตของคุณจะดีขึ้นตามลำดับ ดังนี้ 0-4 คน : ชีวิตของคุณจะดีขึ้นเล็กน้อย 5-9 คน : ชีวิตของคุณจะเป็นไปตามที่คุณต้องการให้เป็น 10-14 คน : คุณจะพบสิ่งที่ทำให้คุณประหลาดใจอย่างน้อย 5 อย่างในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า 15 คนขึ้นไป : ชีวิตคุณจะดีขึ้นอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ และทุกสิ่งที่คุณฝันไว้จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
19 กรกฎาคม 2549 22:32 น. - comment id 591369
พุดมีกี่ชนิดนะครับ ชนิดไหนสวยที่สุดครับ ให้พี่พุดผู้ที่สรรสร้างภาษาดอกไม้แห่ง บ้านกลอนไทยครับ ชื่อ...พุดน้ำบุศย์ พุดเวียดนาม พุดแคระ พุดพิชญา พุดตะแคง พุดตาน
19 กรกฎาคม 2549 22:50 น. - comment id 591382
พี่พุดน้ำตาซึมเลยค่ะน้องคนดี ทันที่ที่เห็น ซึ้งใจมากที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ น้องเป็นคนแรกที่พลีกำนัลดวงดอกไม้ ให้พี่พุด ในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้ ที่ช่างงามนัก พี่พุด รักดวงดอกไม้ทั้งหมดค่ะ หากเป็น ดอกพุด ที่คือพี่พุดนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ ของนามปากกาน่าจะพุดซ้อนค่ะ และ เพราะพี่พุด เจตนาให้พ้องเสียงกับคำว่าพุทธค่ะ ด้วยซึ้งใจจนเกินกล่าวแล้วค่ะน้องรัก พี่พุด ไพร
19 กรกฎาคม 2549 22:52 น. - comment id 591385
คนดี.. สอนวิธีใส่ภาพในคำคอมเมนท์ให้ที จะได้ไหมคะน้องรัก..นะคะ พี่พุด
19 กรกฎาคม 2549 23:07 น. - comment id 591390
นี่ครับ รูปแบบมัน เอา ที่อยู่ของภาพมาใส่ครับ ตรง xxx ครับ แล้วก็ใส่ความสูงไปด้วย มันจะมีกำหนดอยู่แล้ว อัสสุไม่รู้จะอธิบายยังไง มันง่ายๆ ครับ แต่อธิบายไม่ถูก ครับบบบบ ภาษาคอมละครับ เลยอธิบายไม่ถูก
19 กรกฎาคม 2549 23:10 น. - comment id 591392
รูปแบบมันไม่ขึ้นให้ครับ ไม่รู้จะทำยังไงดี มันหายไปไหนไม่รู้ อัสสุแนะนำไม่เป็นครับบบบบบบบบ โทษทีนะครับบบบบบบ
20 กรกฎาคม 2549 00:06 น. - comment id 591400
ฝนตกดอกไม้ยิ่งงามเนาะ อยากเห็นพุดพัดชาทัดดอกพุดซ้อนจัง
20 กรกฎาคม 2549 08:32 น. - comment id 591426
มาบ้านพี่พุดทีไร หอมทุกทีเลยค่ะ น้องหลิว ดอกไม้สวยนะคะ
20 กรกฎาคม 2549 13:45 น. - comment id 591519
พี่พุดจ๋า บัวมาหาพี่พุดทีไรมีแต่ความสุขค่ะ สดชื่นหัวใจเบิกบานพี่พุดมีแต่ธรรมชาติ มามอบให้น้องๆบัวก็ได้รับรสพระธรรมจากพี่พุดนี่แหละค่ะ สิ่งที่พี่พุดมอบไว้ให้น้องๆมีคุณค่าควรจดจำ ทำให้บัวได้คิดว่าบรรพบุรุษได้มอบความเป็นไทยๆของชีวิตไว้ให้เรารุ่นลูกรุ่นหลานควรจดจำไว้ให้รู้จักรักษาไว้ซึ่งภาษาวัฒนธรรมของเราให้เข้าใจคุณค่าของความเป็นคนให้แท้จริง โอบเอื้ออาทร กุศลบุญหนุนส่งประจงช่วย ทำอย่างไรก็ไม่ม้วยอย่ามั่นหมาย ไม่ถึงกรรมทำอย่างไรก็ไม่ตาย ถ้าถึงกรรมทำลายต้องวายปราณ พี่พุดสบายดีนะค่ะ พี่พุดค่ะบัวชอบเพลงเพียงคำเดียวเฉยๆค่ะ อิ อิ อิ
20 กรกฎาคม 2549 21:39 น. - comment id 591609
แวะมาบ้านนี้ทีไรสบายใจทุกครั้งค่ะ วันนี้กระต่ายเหนื่อยกับงานมากๆ แวะมาหาพี่พุดทำให้สบายใจขึ้นแถมได้เห็นดอกไม้สวยๆทำให้หายเหนื่อยค่ะ คิดถึงและเคารพรักพี่พุดเสมอ กระต่ายใต้เงาจันทร์
14 กุมภาพันธ์ 2551 15:10 น. - comment id 823484
ขอซักดอกนึงได้ไหม