http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song420.html (รางวัลชีวิต) บทกวีจากมิ่งมิตร*ลำน้ำน่าน* ที่แสนรักเอยแสนรักในกมล พอบุหลันพรางพรายขึ้นฉายฟ้า ดวงดาราหมื่นนั้นก็พลันหาย เหลือเพียงแสงรัชนีกรพรรณราย อาบโพยมเรียงรายคล้ายวิมาน จุดเทียนทองส่องทางว่างวิเวก ปลั่งเปลวเอกยอดเทียนเพียรอธิษฐาน อาสาฬหบูชามาเวียนวาร นมัสการพระพุทธพิสุทธิ์ใจ หริ่งเรไรระงมชมแสงโสม กล่อมบรรโลมน้ำค้างระวางไหว เสียงสวดมนตร์แว่วดังกังวานไพร จากโบสถ์คร่ำคร่าวัยในเวียงนั้น แสงเทียนทองส่องวับจับดวงหน้า ใต้ราวโบสถ์ปรางปราราวอาถรรพ์ ประภัสพุทธผ้าสงฆ์องค์วงศ์วรรณ รายรอบหลั่นวิหารป่าพนาลัย ขออัญเชิญเสียงมนตร์สู่บนพรหม วโรดมลานธรรมสว่างไสว พลีดวงจิตบูชาพระรัตนไตร ณ วันโสมอาบไพรใต้อัมพร ................ พระจันทร์ วันอาสาฬหบูชาบานเต็มดวง เหลืองทอง สุกปลั่ง ค่อยๆลอยเรี่ยทายทักฟ้างาม ในยามค่ำ อย่างอ่อนโยน นุ่มนวล..... แสงจันทร์งามละออ หวานปานสายน้ำผึ้ง ราวจะหยาดลงมาประโลมใจทุกๆคนบนผืนโลก ให้เยือกเย็น งดงาม หวานฉ่ำพอกันกับจันทรเจ้า.... แสงเทียน ในมือ เสียงธรรม ก้องสองหู จากเสียงสวดของพระสงฆ์... ขณะ ก้าวเดินอย่างช้าๆ.... ไปรอบโบสถ์งาม..... ตามกันไป ในเส้นทาง ของพระพุทธองค์ ผู้ทรงนำทาง ก่อนหน้า พาใจให้บานเบิก ราวบัวชูช่อรอรับ แสง อรุณรุ่ง... แห่งชีวิตนี้ที่ค่อยๆสว่างไสว... ไปกับตะวันเปล่งแสงเจิดจ้า จนกว่ายามสนธยา จะมาเยือน....และ จนกว่าแสงแห่งชีวีนี้ ที่จะเลือนหาย ไปกับสายลม ในยามค่ำ กลิ่นพิกุล หอมเศร้า เคล้าแสงเทียน วับแวม พิกุลร่วงพรูพราว รอคนรู้ค่า นำมาร้อยเป็นมาลัยหอมงาม ไว้ดอมดมชมชื่นใจ ประเพณีไทย ประเพณีงาม ในยามค่ำนี้ วันแสนดีของพุทธศาสนิกชน วันเพ็ญเดือนแปด ที่มีปรากฏการณ์สำคัญ ๆ ในวันนี้มีถึง 4 ประการ ด้วยกันคือ 1. เป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา 2. เป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ทรงได้ปฐมสาวก 3. เป็นวันแรกที่พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลก 4. เป็นวันแรกที่บังเกิดรัตนะครบสาม เป็นพระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ เช้า..ตักบาตร ฟังธรรม น้อมนำใจ ให้ใสเย็น ตั้งจิตอธิษฐาน กราบกราน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ได้พบแสงธรรมนำทางทุกๆชาติไป ถ้ายังไม่หลุดพ้น ต้องเวียนวนมาเกิดชดใช้กรรม ค่ำ..เวียนเทียน นำดอกไม้ ธูปเทียน เป็นมาลัยแทนใจ แทนความดี ที่ศรัทธา น้อมบูชา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.. ผู้นำทาง สว่างไสว มาสู่ใจนี้ ที่ยังไม่มืดบอด.. อธิษฐานเพิ่ม เติมต่อ ขอให้สุขภาพดี มีคนดี ที่มีใจรักมั่นคง มาเคียงครอง คุ้มผองภัย หวังสิ่งใด ก็ขอให้สมหวัง ถ้าเป็นสิ่งดี ที่คิดปอง กลับบ้าน มานอนดูพระจันทร์ ด้วยฝันเห่กล่อม ในอ้อมแขนของดาวเดือนเพื่อนผู้รู้ใจ ให้ไม่ว้าเหว่.... นอนฟังเสียงลม เสียงจิ้งหรีดเรไร..ในความงามเงียบ แกล้มกลิ่นหวานเศร้า หอมร่ำรวยริน กลิ่นดอกลั่นทม จันทร์ดวงงาม ใจดวงดี ไม่มีอะไรสุขเท่า ขอเพียงคิดเป็น ให้ธรรมชาติร่มเย็น หยิบยื่น ขุมทรัพย์ล้ำค่ามาสู่สายใจ ในทุกวันเวลา ถ้าเพียงรู้คำว่า..เปิดใจ.. ฝากสายลมยามค่ำ ไปกอดเธอ ฝากมวลหมู่ดาว พราวพร่างฟ้า ยามราตรีนี้ กระซิบบอกว่า อย่าร้องไห้นะคนดี ที่คิดถึงฉัน ฝากแสงจันทร์ โลมไล้ ดวงใจให้ไม่สิ้นหวัง โลกและคืนวัน แสนดี ยังมีอีกยาวนานนัก.. และทุกสิ่งจัก..แพ้พ่ายใจ ดวงดีที่มั่นคง ไม่ว่าจะรอนานสักเท่าใด ขอเพียงอย่าหวั่นไหว ในรักนี้ของสองเรา ...!!!! ............................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song420.html รางวัลชีวิต ชัชฎาพร ลักษณาเวช พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์ ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์ หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์ เวรกรรม ทุกชาติก่อน บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย...
10 กรกฎาคม 2549 20:58 น. - comment id 589527
คุณพุดคะ มาอ่านบุญด้วย แต่นับแต่วันนี้ คงไม่ได้พบกันแล้ว มีความสุขเสมอนะคะ
10 กรกฎาคม 2549 18:55 น. - comment id 589539
ประวัติความเป็นมา วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 ก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์ อาสาฬหเป็นชื่อเดือน ๘ อาสาฬหบูชาย่อมาจากคำว่าอาสาฬหบูรณ มีบูชา แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน ๘ ถ้าปีใดมีเดือน ๘ สองครั้ง ก็จะ เลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ หลัง หลังจาก สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ตรัสรู้ในวันเพ็ญ เดือน 6 แล้ว ได้ทรงใช้เวลาทบทวนสัจธรรมและทรงคำนึงว่าธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้นี้ลึกซึ้งมาก ยากที่ผู้อื่นจะรู้ตาม แต่อาศัยพระกรุณานี้เป็นที่ตั้ง จึงทรงพิจารณาแบ่งบุคคลออกเป็น 4 ประเภท(บัว 4 เหล่า) คือ ๑. อุคฆฏิตัญญู ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ ๒. วิปัจจิตัญญู ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ๓. เนยยะ ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ๔. ปทปรมะ ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม จึงทรงมีพระกรุณาธิคุณ ระลึกอาฬารดาบสและอุททกดาบสว่า มีกิเลสเบาบางสามารถตรัสรู้ได้ทันที แต่ท่านทั้ง 2 ได้ตายแล้ว จึงทรงระลึกถึงปัญจวัคคีย์ ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสชิ ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นผู้อุปฐากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังทรงบำเพ็ญทุกข์กิริยาอยู่ พระธรรมที่ พระพุทธองค์ทรงเทศนาในครั้งนี้มี ชื่อ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมี อริยสัจ ๔ หรือความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการได้แก่ ๑. ทุกข์ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ๒. สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ ๓. นิโรธ ความดับทุกข์ ๔. มรรค ข้อปฎิบัติให้ถึงความดับทุกข์ และหลังจากแสดงพระธรรมเทศนาแล้ว ท่านโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นคนแรก ได้กราบฑูลขอบวชและพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต โดยทรงทำการอุปสมบทให้แบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา นับเป็น\"ปฐมสาวก\" ของพระพุทธเจ้า ดังนั้นในวันนี้จึงเป็นวันแรกที่มี พระรัตนตรัยครบองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เนื่องจากพระพุทธองค์ทรงเทศนาเป็นกัณฑ์แรก จึงเรียกเทศฯกัณฑ์นี้ว่า \"ปฐมเทศนา\" หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะกล่าวได้ว่านับเป็นวันแรก ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา
11 กรกฎาคม 2549 03:20 น. - comment id 589557
11 กรกฎาคม 2549 06:58 น. - comment id 589575
11 กรกฎาคม 2549 08:34 น. - comment id 589581
กานต์เอาบุญมาฝากค่ะพี่พุด
11 กรกฎาคม 2549 23:33 น. - comment id 589681
กลับมาแล้วค่ะ อัลมิตรานำเงินที่คุณพุดพัดชาโอนมาให้ไปสมทบร่วมกับซองของเพื่อนที่สะสมมา มอบให้กับครูใหญ่ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมากค่ะ