เดียวดาย..ริมสายน้ำตามตะวัน..

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song45.html
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2551.html
(นกขมิ้น..เดียวดาย)


ตะวันดวงโต..
สีส้มสุกสวยราวส้มเช้งสีทอง
กำลังค่อยๆลอยดวง
ผ่านดงตึกในราวเมืองที่ชื่อว่า*เมืองทองธานี*


ดวง..
นั่งนิ่งๆอิงต้นมะพร้าว...
ที่..
ปลูกขนานรายรอบบึงกว้างมิร้างแรมรัก
ด้วยมี..
ทั้งนักวิ่ง นักปั่นจักรยาน 
นักเล่นเครื่องร่อน เครื่องบินเล็ก
เด็กๆ..
มาขี่จักรยานสีชมพูหวานสวย 
หนุ่มสาว..
ที่ขวนกันมาปรับความเข้าใจ
ฤาไม่ก็มารักรับอารมณ์สุนทรีย์ 
และ..
มีบางแม่พ่อที่มาปูเสื่อนั่งดินเน่อร์
ในท่ามแสงตะวันอันแสนงามเฉิดฉาย
พรรณรายพร่างพรม
ห่มให้หอมงามใจ..
ในท่ามตะวันดวงสีไพล ยามโพล้เพล้


นักตกเบ็ดตกปลา 
พากันมาหาเวลาคลายเครียด
หาก..
เหตุใดไฉนเล่า..จึงมาเบียดเบียนสัตว์ผู้ยาก
ดวง..
จึงแสนอเนจอนาถใจ จนอยากเข้าไปถาม
หากมิกลัวว่าศรีษะอันแสนงามจะถูกตีด้วย
ไม้คันเบ็ดเสียก่อน..


ว่า...
ขอมีบึงว่างบึงกว้าง..ให้ปลาเขาได้อยู่สุขสำราญ
ว่ายวนด้วยความเบิกบาน
จะขอไว้สักที่จะได้ไหม...ด้วยดวงใจกรุณาปราณี
เพราะ..
ดวงเล็งที่บึงนี้เอาไว้ว่า..
จะหาปลามาปล่อยไว้ทุกเดือน
แต่..
หากตราบใด..ยังไม่มีป้ายเตือน*ห้ามจับสัตว์น้ำ*
ดวงคงลังเล ว่า...จะ
พาปลา*หนีจระเข้มาพบเสือในร่างคน*ฤาไม่ละหนอละนี่
คง..
ต้องระงับ*โปรเจคมหากรุณา*นี้ก่อนจะดีกว่า..


หลังจากที่
ดวงวิ่งเหยาะๆออกกำลังกายมาหลายกิโลเมตร
จึงพาร่างมานั่งนิ่งๆอย่างอ้างว้างใจ
ทิ้งใจทอดตาดู..สายน้ำแสนสงบงามราวบึงทอง
กับ...
พรายแสงส่องสะท้อนจากดวงตะวัน
อันแสนน่าสนิทเสน่หา
ในยามสายัณห์...ตะวันลาตะวันรอน..
อ่อนแสงสวยเพียงลำพัง


ดวง..แหงยเงยหน้า
ดูเครื่องบินเล็ก..ที่ทำด้วยไฟมน้ำหนักเบา
หากมี..
ผู้บังคับด้วยเครื่องมือกำกับ
ให้ร่อนถลาพาโฉบขึ้นลงเหนือน้ำอย่างชำนิชำนาญ
ราวกับ..
กัปตันสายการบินแห่งชาติไหนสักชาติก็มิปาน...


ดวง..
เลยได้สัมภาษณ์คนเล่นด้วยความอยากรู้
และ..เพราะ...
กลัวว่า..
หากเป็นเครื่องมีน้ำหนักมาก
เกิดคันบังคับเสียไม่สามารถคอนโทรลได้
คงต้องพุ่งเข้าใส่คนสักวันให้กระบาลแยก..


เพราะ...
เวลาบินร่อนนั้น
ใช้ความเร็วราวเครื่องบินทรงอานุภาพจริงๆ
สวี๊ดสว๊าดอยู่เหนือหัว
ให้แสนน่ากลัว..
จะหล่นโคลมลงมาใส่คนไม่รู้วันใดวันหนึ่ง
หาก
ใจชื้นขึ้นมา..และหายโง่ 
เมื่อได้รับทราบว่า..อย่างมากก็แค่ให้น้ำเกลือ
หาก..
ดวงถึงที่ ดวงไม่ดี..
มีอันต้องได้รับอุบัติเหตุ...แบบไม่คาดฝัน


ดวง..นั่งดายเดียวลำพัง..นิ่งนาน
ใจดวงเริ่มรานนิดๆ..เมื่อมองฟ้าที่งามพราว
ราว..
มีมือเทวดามาเล่นแสงแปรสี
ฝากให้มนุษย์ในหล้าโลกนี้
ที่ยังมีอารมณ์ชื่นชมธรรมชาติได้รับความพิลาสพิไล
มาประดับดวงใจ
ให้...
ใสงามฤาเศร้างาม ก็ตามแต่ใจแต่ใคร...คิด


สำหรับดวง..
ผู้หญิงที่เกิดมามีชีวิต..
รัก*ดวงตะวันลา ..*
จะแสนเหว่ว้า..หากแสนสุขสงบใจ
ไปกับวิถีธรรมที่แลเห็นว่า..
แสนเที่ยงแท้แน่นอนที่เห็นทุกวี่วัน
ราว
มาสอนสัจจะใจว่า....ไม่วันใดวันหนึ่ง
*ใจดวงซึ้งดวงเศร้าดวงช่างหนาวเหน็บในนึกนัก*
จักลับลาไปตามตะวัน..ดับไปตามดวงตะวัน..


และ..กับ
ทุกข์ผู้คน..
ที่ยังจักเวียนว่ายวนอลหม่านอลวน
เพียรหาสุขภายนอกมาเติมเต็ม..
ไร้จิตวิญญาณ
ที่..
จะเห็นงามในท่ามธรรม
แห่งความสมถะพอดีพอเพียง
ที่เราอาจจะเลี่ยงหลบมาพบได้
หาก..
ใจรู้ไขว่คว้า
หามาประดับจิต
 ใช่....!ใช้ชีวิตตามๆกันไปในกระแส
ที่พอคิดได้แล้วก็สายเกิน..


วันนี้...
ที่นี่ ที่มีมหกรรม..กรรม มิเว้นว่าง
ช่างหาเรื่องมาประชุม
ให้..
*ดอกทุนนิยม*ในคราบการขายตรง*
ที่พุ่งตรงเฉกเช่นกัน
มาทำลายวัฒนธรรมไทยทุกครัวเรือนไทย
ให้ใช้ชีวิตห่างไกลจากความพอดีพอเพียง
เลี่ยง..
จากสังคมศิวิไลซ์ ที่พือกระโหมโน้มน้าว
ให้ใช้ของดีมีราคา 
แม้นมาตร..
จะใช้จิตวิทยาจะหาเหตุมาอ้างต่างๆนาๆ
ว่า..*ดีกว่าถูกกว่า *ใช้ได้นานกว่า
หากไม่เหมาะกับสถานการณ์
*ความเป็นอยู่ของคนไทย*ที่จนยาก
ยังลำบากลำบนมากมายไปทั่วหล้า
ทั่วฟ้าเมืองไทย..


ที่แม้นกระทั่ง
*พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว *
ท่านยังทรงเน้นย้ำด้วยห่วงใยว่า..
ให้พสกนิกรไทยได้ใช้ชีวิตสมถะ
 และ
ด้วยน้ำพระทัยมากเมตตา
มหากรุณาธิคุณ 
ยังได้..
ทรงเพียรสอนวิธีการเกษตรกรรม
ตาม*ทฤษฏีใหม่*ให้กับทุกดวงใจ
ที่ยากไร้ได้มีที่ดินทำกิน
มิสิ้นหนทางมิอดตาย 
มิต้องมาเป็นทาสนายทุนเพื่อสนองสบาย
พาร่างไปกลางกระแสทะเลวัฏสังสาร


ที่..
กำลังพร่างพรมห่มเนื้อใจมวลผองชน
ให้หลงวนมิผุดผลิ  ตกในบึงบ่วงกิเลสนี้
ที่มากมีความอยากมากอยากได้วัตถุ
มาเสนอสนอง...
จนมอง..
ไม่เห็นแก่นกระพี้อันแท้จริงของชีวีชีวิต
ว่าจักลิขิตเลือกไปในทิศทางใด
มิให้เหนื่อยยากจนสายตัวแทบขาด
เพื่อกลับมาพบว่า...
สุขใดเกินความสว่างสงบสมถะเรียบง่าย
ในการใช้ชีวีเป็นไม่มี...


และ..
กับการเกิดมากับชีวิตนี้ 
ที่ไม่ถึงร้อยปี...
ช่างแสนมีลมหายใจอันแสนสั้นนัก
และ..
เราทุกคนจักพลีพาอะไรไปได้บ้าง
นอก..
เสียจากเพียรสร้างจิตวิญญาณ
*ดวงงามดั่งอัญมณี*


ใช่..!..สะสมหนี้ภายนอก
เพื่อหลอกโลก ลวงตนให้คนยอมรับ
ติดกับ...ระบบทุนนิยม 
จน..
พลอยพาสังคมแทบล่มสลาย
จน..คล้ายกับ..
กำลังพากันเดินไปเบียดเบียนทรัพยากรธรรมชาติ
ทรัยพ์ในดินสิ้นในน้ำ 
รวมทั้งอวลอากาศ 
ที่..
พากันจับจองลมขายให้ผ่านเครือข่ายต่างๆนาๆ


ดวง..กำลังดายเดียว
ที่เห็นภาพผู้คนนับหมื่นๆ
กำลังถูกกลืนหาย...
พ่ายไปกับระบบนายทุนต่างชาติ
ที่..
แสนจะฉลาด...มาวาดสวรรค์วิมานใช้จิตวิทยาการขาย
ร่ายมนต์ให้คนหลงเพ้อละเมอตาม
และ..
ในท่ามกระแสบ้านเมืองที่สับสน
ที่ผู้คนกำลังรอฟองสบู่แตก 
และเผยความจนยากมากมี
เพราะ..
ใช้วิถีเกินตัวเกินพอดี...


ดวง..
จึงเศร้าสลัวในดวงใจ
ไปกับ..
ตะวันดวงสีไพล...ที่กำลังลาลับฟ้า


ดวงคิดถึงใครบางคนจับใจ 
ในแดนดิน*ฟ้าจรดทราย*
ที่..
อุตส่าห์เพียรไปใช้ชีวิตวิปโยคแสนโศกใจแสนไกลบ้าน
เพียงเพื่อ ..
หาเงินเข้าบ้าน เข้าประเทศ 
แม้นจะมีสักเพียงเศษเสี้ยวเดียว
ของคนไทยในต่างแดน
 

ที่..
ยอมไปเผชิญความแรมรอนอย่างนกพเนจร 
แสนอดทนหนักเอาเบาสู้..
รวมทั้ง..
ทุกหมู่คนไทย..*เลือดนักสู้จากแดนดินถิ่นที่ราบสูง*
ที่เราเรียกว่า
*แรงงานไทย*ในทุกถิ่นที่ ที่พากันหนีแล้ง
ไปแสวงหาโชค
เพื่อ..
นำมาโบกไล่...ความจน 
ขนเงินงามกลับมาให้บ้านเมือง...
เพราะ..
เกิดมามิใช่คนรวย ที่เรืองรุ่ง
พุ่งขนเงินไปใช้เมืองนอก...พอกตัวให้งาม 


หากทว่า..
มาขายน้ำเหล้า น้ำเมา น้ำกาม 
นำกิเลสไร้งามใส่ทุกข์ให้ผู้คน
จนละเมอเพ้อหลง ไร้สติ
จนบัดนี้..
ที่รัฐบาลเพิ่งลืมตาตื่น..หันมาห้ามออกอากาศ
มิให้...ประกาศโฆษณาเชิญชวน
มวลเด็กหนุ่มสาว..
ให้..
ก้าวหลงทาง หลุมพราง
ไปติดกับ เสพติด จนใช้ชีวิตไร้สติปัญญา
พาลงเหวห้วง
บ่วงแห่งความผิดพลาด...อย่างแสนน่าอเนจอนาถใจ


ดวง..
คงมิพิร่ำพิไร รำพันระบายแล้ว
เพราะ..
ใจดวงแผ้วแค่หวังวอน
แค่รจนา...
เพียรถ่ายทอดฝากประทับ
มิให้ทุกคนดี ที่แสนรัก ได้พ่ายแพ้ไปตามกระแสโลกย์
ที่กำลัง..จะฝาก
*นาฏกรรมแสนวิปโยค..*แด่ผืนดิน...
ให้..แสนโศกสะเทือนก่อนสายเกิน...!
....................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3238.html
นกขมิ้น
ค่ำ คืน
ฉันยืนอยู่เดียวดาย
เหลียวมองรอบกาย
มิวายจะหวาดกลัว
มอง นภามืดมัว สลัวเย็นย่ำ
ค่ำคืน เอ๋ย ฮืม
ยามนภาคล้ำไป ใกล้ค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำแล้ว จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย เล่า นก เอย
อก ฉัน ทุกวันเฝ้าอาวรณ์
เหมือนคนพเนจร
ฉันนอนไม่หลับเลย
หนาว พระพายพัดเชย
อกเอ๋ยหนาวสั่น สุดบั่น ทอน
ฮืม
ยามนี้เราหลงทาง กลางค่ำ
ยินเสียงร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
ฉันร่อนเร่ พเนจร
ไม่รู้จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย
บ้าน ใด
หรือใครจะเอ็นดู
รับรอง อุ้มชู เลี้ยงดูให้หลับนอน
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำไหน นอนนั่น
อกฉัน หมอง ฮืม
ทนระกำช้ำใจ ยามค่ำ
ยินเสียงร่ำ น้ำตก
โอ้หัวอก เอ๋ย
โอ้อก อาวรณ์ ฉันไร้คู่ ร่วมคอน
ต้องฝืน นอน หนาว เอย
เอ๋ย โอ้ หัวอก เอย
เมื่อ มอง
หมายปองก็แลเห็น
หวิวในใจเต้น
เหมือนเป็นเพียงแต่มอง
เหมือน พบรัง จะครอง
แต่หมองเกรงที่
หวั่นจะมีเจ้าของ
ฮืม
ฟังสำเนียงเสียงเพลง
ครวญคร่ำ ใครหนอร่ำ คำบอก
เจ้าช่อไม้ดอก เอ๋ย
เจ้าดอก ขจร
นก ขมิ้น เหลืองอ่อน
ค่ำนี้ จะนอน ไหน เอย
เอ๋ย นอน ที่นี่ เอย... 
 


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song2551.html
เดียวดาย
เดียว ดายอาดูร สิ้น สูญแล้วทุกทุกสิ่ง
เธอ มาทอดทิ้ง จากไปแสนไกลสุดไกล
จำ ใจจำทน หม่น หมองเพ้อร้องร่ำไห้
โอ้ ยอดดวงใจ แสน เศร้า โศก ตรม
จำ ใจจำฝืน กล้ำ กลืนชอกช้ำเหลือเอ่ย
เธอ ทำเมินเฉย ห่าง เหินทำเมินไม่มอง
ยาม ใดใจเหงา เฝ้า ดูนวลแสงจันทร์ส่อง
ใจ คอยร่ำร้อง เรียก หา แต่ เธอ
ทอดทิ้ง ทอดทิ้ง ฉัน ไป แสน ไกล
สุด อาลัย ในรัก หัก หาย
ปวดร้าว ปวดร้าว เหลือใจ หมอง ไหม้
หมด เยื่อ ใย มิหวน คืน มา
คอย คอยหา ตั้ง ตาคอยเธอคืนกลับ
เธอ ไปลาลับ จาก ฉันคืนวันผ่านไป
คอย เธอหวน กลับ มาเคียง ชิดใกล้
ไย เป็น ไฉน คอย เก้อ เดียว ดาย
ทอดทิ้ง ทอดทิ้ง ฉัน ไป แสน ไกล
สุด อาลัย ในรัก หัก หาย
ปวดร้าว ปวดร้าว เหลือ ใจ หมอง ไหม้
หมด เยื่อใย มิหวน คืน มา
คอย คอยหา ตั้ง ตาคอยเธอคืนกลับ
เธอ ไปลาลับ จาก ฉันคืนวันผ่านไป
คอย เธอหวน กลับ มาเคียง ชิดใกล้
ไย เป็น ไฉน คอย เก้อ เดียว ดาย
ไย เป็น ไฉน คอย เก้อ เดียว ดาย...
				
comments powered by Disqus
  • ราชิกา

    22 มกราคม 2549 18:24 น. - comment id 554710

    ..เดียวดาย...แต่ไม่ดายเดียว..มาเป็นเพื่อน..พี่พุด...พี่สาวที่แสนดีค่ะ..ยังคงระลึกถึง..เสมอมา...คิดถึงนะคะ..ประทับใจทุกครั้งที่ได้มาอ่านงานของพี่ค่ะ...57.gif57.gif57.gif
  • แก้วประเสริฐ

    22 มกราคม 2549 20:20 น. - comment id 554753

    36.gif16.gif36.gif
           เปรียบหญิงสาวคราวรุ่นดุจไม้แย้ม
    กลิ่นหอมแซมเจิดจรัสดั่งรัศมี
    มิใฝ่พะวงความสาวเคล้าโลกีย์
    ดุจไม้นี้สิ้นหอมย่อมลาโรย
    
           หากมาดแม้นดำรงคงไว้ศักดิ์
    ถนอมตัวมิมั่วรักจักไม่ระโหย
    เกียรติ์ระบือลือลั่นดั่งลมโชย
    กลิ่นหอมโรยโปรยทั่วพื้นปฐพี
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ผู้หญิงไร้เงา

    22 มกราคม 2549 20:39 น. - comment id 554759

    อย่าเหงา
    
    อย่าเศร้า
    
    อย่าเฝ้าความเดียวดาย
    
    เพราะไม่ว่าจะห่างหาย
    
    หรืออย่างไร
    
    แต่รู้ไว้  น้องยังรักและคิดถึงพี่พุดเสมอ
    
    อ้อ  ขำตอนที่พี่ดวงจะไปว่าเรื่องคนตกปลาจัง
    
    มีหวัง  ถ้าพี่ดวงทำอย่างนั้นจริง ๆ 
    
    รับประกัน  ไม้คันเบ็ดไม่ใช่คันเดียวแน่ที่จะโดน  อิอิ  แซวเล่นนะค่ะ
  • sun strom

    22 มกราคม 2549 20:49 น. - comment id 554766

    1.gif16.gif
    
    นาน ๆ แวะมาหาพี่พุดทีหนึ่ง
    งานพี่พุดก็ยังงามและยาวเหมือนเดิมนะคะ
    
    ไม่ห่างธรรมชาติเลยค่ะ
    
    สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่พุด
  • ลมรำเพย

    22 มกราคม 2549 21:55 น. - comment id 554794

    ร่วมเดียวดายด้วยค่ะ 10.gif
    
    แวะมาอ่านค่าพี่พุด
    
    11.gif36.gif
  • เจ้าพานทอง

    22 มกราคม 2549 22:46 น. - comment id 554817

    3.gif
    
    มาทักทายขอรับ
  • rain..

    22 มกราคม 2549 22:52 น. - comment id 554819

    ..เหงาและเดียวดาย..
    ข้างกายลมพัดเบา..
       คืนนี้..สุดแสนเหงา..
    ภาพเก่า..ที่ติดตาม..36.gif..
    
         เรน..คิดถึงพี่พุดพัดชานะคะ..16.gif
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    26 มกราคม 2549 10:50 น. - comment id 555651

    เหมือนนกเจ่าเหงาใจในภวังค์
    ถูกใครชังหรือไรใจจึงเหงา
    หรือทุกข์โศกโรคภัยได้รุมเร้า
    อยากจะช่วยปัดเป่าคลายเหงาทรวง
    
    ขอให้พุดพัดชาบอกมาคำเดียว เหมือนเพลงของเบิร์ด จะไปในทันใด อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน