ดอกพุทธ..บานบนลานใจ..!

พุด


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song373.html
(บัวขาว)
..............


ค่ำนี้...
ดวงเพิ่งดูรายการทีวี...
ที่นานทีปีหนจะได้นั่งตั้งใจดู
ชื่อ ..*รายการกรองสถานการณ์*
ที่..
เชิญท่านรมต.มาสัมภาษณ์
ถึง...การจัดงาน...
ย้อนรอยรำลึกนึกอาลัยถึงโศกนาฎกรรมสึนามิ
ที่...
รายละเอียดจะไม่นำมาบอกเล่ากล่าวมากมาย
เพียงแค่รับทราบไว้ว่า...


เพราะ...
เหตุการณ์ภัยพิโรธนั้น
ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเสียรายได้
จากการท่องเที่ยวเป็นแสนล้าน
และ..
รัฐบาลต้องฟื้นฟูจัดการหลายด้านหลากปัญหา
ทั้ง..
ต้องเยียวยาสมาน
ทั้งทางด้านจิตใจผู้คนและทางด้านธรรมชาติ
ที่...
พินาศย่อยยับ
ในเช้าวันที่26ธันวาคมปีที่ผ่านมา..อย่างน่าเศร้าใจ
หลังการเฉลิมฉลองวันคริสมาสผ่านลาไป..
ไม่ทันข้ามวันข้ามคืน

และ
ฝากทั้งโลกหล้าแลคนไทย
ให้แสนสะเทือนใจสะเทือนขวัญ
พร้อม..
กับหยาดน้ำตาที่ระรินหลั่ง
จากแทบทั่วทุกมุมโลก...ที่แสนโศกสุดพรรณนา
กับ..
ประกาศิตจากฟ้าดิน 
วนมาสอนมวลหมู่มนุษยชาติให้ได้รู้ถวิล..
คิดคืนรักษ์...
ช่วยกันปกปักปกป้องโลก
ให้ยังเป็นไปตามครรลองครองความสวยใสแสนงาม
ไร้วิปโยคใดมากรายกล้ำ
 ให้เราได้มีลมหายใจอันแสนชื่นฉ่ำ ...
ใช่...!แค่คิดทำลาย...


แล้วยังไหนเล่า...
ที่ธรรมชาติ..
ได้มากวาดล้างผองชน..
คนในชมพูทวีป..ราวต้องคำสาป
ที่...
อินเดียปากีสถาน..
ให้จำพรายพลัดพรากตายจากกันนับหลายหมื่นคน
เพราะแผ่นดินไหว...


และ..
อีกทั้งภัยจากโรคไข้หวัดนก
ที่ย่างกรายดั่งมฤตยูร้าย..ที่ค่อยๆคืบคลานมา
อย่างน่าสะพรึงกลัว...ที่เราไม่ควรมัวประมาท
หาก..
ควรใช้ชีวีชีวิตอย่างเตรียมพร้อมอย่างรู้ป้องกัน
และ...
อย่างทะนุถนอมเอาใจกันและกัน
อย่างคนดีที่รู้คุณค่าแห่งลมหายใจนี้
ที่มีเวลาแสนสั้น
ควรใส่ใจน้อมนำธรรม
 และธรรมชาติมาวาดวงไว้ในดวงใจ


ดั่งสอนสัจจะใจบทเรียนใจ
ให้ในดวงใจเริ่มครวญ
หวนคิดมีจิตสำนึก
คิด..
*ปลูกต้นใจ*
ให้แสนงามไสว...
ให้จิตวิญญาณรู้เงียบงาม
ใช่...!เพียงรักสนุก...
เพราะ..
ทุกข์มากมายแห่งคนบนผืนโลกกำลังอยู่ชิดใกล้กับเรา
แค่เส้นยาแดงแฝงมาทุกรูปแบบ..แล้ว


*ต้นใจ...*ต้นไม้..ที่ควรพลีดวงชีวิต
ปลูกให้งามดั่งนิรมิต
ใช้เพียงจิตวิญญาณ...ที่รู้รักษ์ธรรม ธรรมชาติ
ให้..
แตกช่อกอหวานก่อกิ่งก้านตระการจิตหวัง
ดั่งดอกดวงชีวันพรายเพชรพราวราวอัญมณี..
ที่จักก่อพลังเรียนรู้..
ให้..
ดวงชีวาชีวิตได้แนบสนิทแบบพึ่งพาพึ่งพิง
อิงโอบไปด้วยกัน..กับธรรมชาติ
เพื่อลบโศก..ฝัน...
อันนับวันจะลาเลือน
มาเตือนใจให้ช่วยซ่อมแซม..โลกใบนิดใบน้อยนี้
ให้ยิ่งทวีดีขึ้น..ดีขึ้นและดีขึ้น...


*ต้นใจ..*
คือต้นไม้..ที่รอจะเติบใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา
จากนวลเนื้อใจ ที่พร้อมพลีให้ดั่งดินดีดินงาม
ที่ณ...บัดนี้..ยุคนี้..เหลือน้อยเต็มทีเต็มทนแล้ว
เพราะ..
ทุกผู้คนมัวพลีกมลให้เพียงรักษ์วัตถุ...
รู้เพียงให้ดวงดอกชีวีงาม
ประดับประดาร่าง..ณ..ภายนอก
พากันสวยรวยหลอกพอกพากันพริ้งพราว 


หากทว่า..
น่าจะหนาวเหน็บ...ร่าง ใจเสียมากกว่า
หากว่าโลกนี้...
สิ้นแล้วซึ่งลมหายใจสดชื่น
มิให้ตื่นขึ้นมา..
ได้ดอมดมพรมจูบดวงดอกไม้
ได้มี..
ดวงตาเห็นฤดูกาลหลากสีสัน...
มีพืชพรรณเขียวสดสล้างในผืนดินอันแสนน่าภาคภูมิใจ
ที่ทั่วโลกต่างเทใจพากันอิจฉา...


เพราะ..
ฟ้าดินเมืองเขา...
มีเพียงสีเทาทึมด้วยม่านหมอกและหิมะ...
ที่ต้องพากันเพียงซุกตัวในบ้านในนานเดือนนานวัน
จนแทบสิ้นไร้ฝัน ...
ไร้สีสันพรรณรายใด
ให้ดวงใจแสนสราญรมย์..
อย่างคนไทย 
ที่น่าจะพลีพร้อมใจพรายพรมจูบไปทั่วแคว้น
แดนอิสานเหนือใต้
*แดนไทแดนทองแดนธรรม*
แดนงามล้ำด้วยวัฒนธรรมประเพณี
มากล้นค่า
ที่ใจไทยทุกทุกดวง
น่าทรุดร่างลงกราบไหว้บูชาผืนพสุธานี้
ที่เรียกว่า..ผืนดินแม่มาตุภูมิ..
ด้วย..
ความภาคภูมิคารวะ..ปิติใจ
และ
แสน..ซึ้งในพระคุณอันอุ่นอาบเอิบ..เป็นยิ่งนักแล้ว


ให้พลังดวงชีวี
ที่เรานี้ได้รับความหวังหวานบานเบิกใจ
ด้วย
อวลอากาศอันสวยใสแจ่มกระจ่าง
ฟ้า...
ที่แสนสว่างสะอาดพร่างด้วยดวงดอกแดด 
ที่เรา.....
แสนโชคดีได้ เกิดมาบนผืนหล้านี้ 
ที่แสนผ่องพิไลพิลาส..มีอวลอากาศเอื้อ
จนก่อเกิดหลายฤดูกาลให้มาฝากพลังใจหวังหวาน


ทั้งเหมันต์คิมหันต์วสันตฤดู
ให้มีมวลหมู่แมกไม้..ทั่วทั้งไพรวัลย์
ได้พลันสะพรั่งบานผลิช่อล้อเรียวแดด
อีกทั้ง...
ให้มวลหมู่แมลงภู่ผึ้งภุมรินทร์
ได้พากันมาบินตอมหอม
คลึงเคล้ากลาง..กลีบเกสรแสนหวาน
เพื่อ ..
ได้เติบตามแตกช่อก่อพันธุ์..ดำรงรัก
พิทักษ์สืบต่อวิญญาณไพร 
ให้ธำรงไปตราบชั่วนิจนิรันดร์


ให้มี สายน้ำรักนิรันดร์ ใสสวย
ได้ช่วยชาวนา
ให้หว่านกอข้าว
 ให้ท้องนาพราวเหลืองสุกปลั่งดั่งทองทา
ให้ชนทั้งหล้าได้อิ่มท้อง


มีดวงตาจ้องมองสีสันที่แตกต่าง 
พร่างไสวไปทั้ง ราวไพรราวป่า 
ที่...พาละออตาละมุนใจ
ในทุกสี  มีมากมาย คล้ายมาประดับหล้า 
ให้ฟ้าไทยได้ไสวสว่างพร่างพรายไปด้วย  
สีสันแสนงาม ..


ทั้งเขียวข้าว ในนา เขียวดอกผักตบชวา
เขียวเหลืองเขียวไพล  รำไรน้ำตาลทองอุไร   
สีทองคำ   สีสังข์   สีน้ำตาลแดง(สีพิกุลแห้ง)   
สีงาช้าง  สีดอกมะลิตูม  
สีแก้วมุกดา   สีสังข์   
สีหวายตะค้า(น้ำตาลอ่อน) 
สี แดงดั่งหม้อใหม่  สีแดงไฉไล
สีเปลือกมังคุด...


 และ
อีกหลากสีสันเกินพรรณนา 
ที่ฟ้าดินหยิบยื่นมาให้ผืนดินแห่งนี้...
ที่มีฟ้าพุทธภูมิคลี่ครอบ
ได้โอบกอดรัดร้อยทุกผองชนคนบนผืนหล้า 
ให้รู้รักษ์...
มีดวงตาเห็นธรรม เห็นธรรมชาติ..อันแสนงามล้ำเลอค่า
ในแผ่นดินอุดมเรืองรองผ่องผุด
ด้วยพืชพรรณผักผลไม้
ราว...มีขุมทรัพย์นับแสนในดิน 
ให้มิสิ้นสุดหยุดขยันค้นหา..
เพื่อโลกหล้าและเรา...
ได้ดำรงชีพชอบประกอบกุศลผลบุญ 


ได้ดำรงตนให้งามพร้อม
รู้น้อมพลีในศาสนา..
อัน..คือรากเหง้ารากหญ้า
ที่แสนเงียบงามสงบสุขมานานช้า 
มาหลายพันปี ที่จักไม่มีวันเสื่อมสลาย..


หาก...
เพียรสอนสัจจะให้จิตเราได้ค้นพบ
และ...
ประสบความรู้จักสงบสมถะ
รู้คุณค่าวิถีไทยวิถีทุ่ง
รู้รักรวงเรียว ราวมีดาวรุ้งประดับใจดวงทอง..
ไปตามครรลองวิถีแบบชาวทุ่ง ชาวนา ชาวไร่


ที่รู้ว่า คนเรานั้น...
ยิ่งพากันตะเกียกตะกายไขว่คว้า
ทะเยอทะยานอยาก...มากไม่รู้พอเพียงเพียงพอเท่าใด
ก็เท่ากับ...
*ล้อเล่นกับความตาย*
ที่มิอาจจะรู้ว่าวันใดภัยธรรมชาติที่แสนยิ่งใหญ่
จะย้อนรอยถอยวนมาสอนบทเรียน
อีกคราและอีกคราจนกว่าจะหลาบจำ
หาก..
ยังมิสิ้นสุดหยุดคิดทำลายได้ทำลายดี 
จนกว่าบางทีกว่าจะสำนึกได้ก็สายเกิน


เราจึงมิควรเพลินเดินหลงโลกย์หลงทาง
อ้างว้างเหว่ว้า ..
ควรพากันตระหนักชัดถึงภัยพิบัติ


และ...
เพียรปลูกฝัง*ต้นใจ*
ให้เติบไสวในใจอนุชนรุ่นหลัง
เพียรฝังรากแห่งความรักเงียบงามสงบ
รู้ค้นพบความพอดีพอเพียง 
เลี่ยงโลกย์วายวุ่น..
ที่นับวันจะกรุ่นร้อนทุรนไปทุกหย่อมหญ้า
ด้วยไฟกิเลสตัณหาที่ลุกลามไหม้ไร้ยั้งหยุด
หากมวลมนุษย์ยังไม่ซึ้งว่า...
ใกล้ถึง..
วันเวลาแห่งความตายแตกดับ
ต้องลับลาจากโลกหล้า
ฟ้าแสนงามเข้าไปทุกทีๆ


คนดี..
มาสิ..มาพลีใจ 
ปลูก*ต้นใจ*ในวันนี้...ตรงที่นวลจิตเนื้อดี คิดดีคิดได้ 
ในใจเราก่อน...
เพื่อ..
ลบร้อนลบโศก...
และ..
พลีแด่โลกเข็ญ...ได้เย็นฉ่ำ
ราวมี..
สายน้ำรักนิรันดร์...
ระรินพร่างกลางกลีบเกสรบัวบาน
ที่..
ชูช่อตระการหวานไสวเหนือน้ำใสในบึงกว้างในบึงใจ..
ไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย... นะคนดี นะดวงใจ..!
............................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song373.html
บัวขาว
เห็นบัวขาว พราวอยู่ ในบึงใหญ่
ดอกใบ บุปผชาติ สะอาดตา
น้ำใส ไหลกระเซ็น เห็นตัวปลา
ว่ายวน ไปมา น่าเอ็นดู
หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน
ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร
พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร
ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ
หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน
ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร
พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร
ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ
				
comments powered by Disqus
  • แสงไร้เงา

    24 ธันวาคม 2548 12:45 น. - comment id 548999

    สวัสดีค่ะพี่พุด...
    
    
    แวะมาอ่านค่ะ...
              36.gif
  • Silky

    24 ธันวาคม 2548 15:32 น. - comment id 549024

    ทะเลทรายทะเลแย้ง   ทะเลแกล้งให้แห้งโหย
    ทะเลทรายทลายโรย   ทะเลโบยโดยร้อนแรง
    ทะเลเด็กบริสุทธิ์     ทะเลฉุดให้รับกรรม
    ทะเลทองทะเลธรรม    ท่านผู้นำควรแวะเวียน
         รำลึกสึนามิค่ะ11.gif36.gif
  • ทานทองคำ

    25 ธันวาคม 2548 18:01 น. - comment id 549186

    ขอไว้อาลัยแด่ผู้จากไปในครานั้นด้วยใจจริงขอรับ   ธรรมชาติพิโรธลงโทษมนุษย์ผู้โง่เลาแล้วหล่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน