http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3816.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5820.html (ดวงตะวัน...MY HEART WILL GO ON) .............. ตะวันเดือนธันวา... ยามเย็น..สีส้มสุกก่ำ ฉ่ำดวงแดง ค่อยค่อยรอนแสง ลอยเรี่ย ระดงไม้งาม มองผ่านต้นไม้แผ่กระจายก้านกิ่งราวกัลปังหาสีดำ งามดั่งภาพฝัน ท่ามกลางม่านหมอกเมฆพร่างพราย ประกายเหลือบสีสันสายรุ้งสวย.. แพน..เดินตามตะวันดูตะวันงามตามใจฝัน ผ่านถนนสายโลกสายโศกสุข เหมือนเฉกเช่นทุกวัน ทุกวัน และทุกทุกวัน... แต่กลับ.. มองตะวันแตกต่าง ต่างแตก แผกผิดไม่เหมือนเดิมสักวัน ทั้งๆที่ตะวันสำหรับใครหลายๆคน มองแล้วก็เท่านั้น ตะวันก็ยังคงดวงกลมเท่านี้!ก็เท่านี้! ไม่มีเวลาให้ดวงตาไม่มีเวลาให้ดวงชีวี.. ว่างพอที่จะแหงนเงยมองเสียด้วยซ้ำไป ตะวันก็ยังเป็นตะวัน.. มีขึ้นมีลงทุกวัน.... ขึ้นตามอรุณฝันทางทิศตะวันออก และบอกได้เลยโดยไม่ต้องดู... ตกทางทิศตะวันตกไงเล่า.. แล้วจะเฝ้าดูไปทำไมละหนอละนี่ ให้เสียเวลา ว่าจริงไหมเล่า ?นะคนดี.. สำหรับบางคนที่..คิดดีคิดได้คิดเป็น เห็นเพียงแค่นี้ก็แค่นี้ก็แค่นั้นก็เท่านั้น.. และบอกได้อีกทีอย่างแม่นยำว่า.. อรุโณทัยจะกลับมาในยามฟ้าสาง ตราบทุกเมื่อเชื่อวันมิว่างเว้น..มิรู้เหน็ดรู้เหนื่อย มิห่างหันห่างหาย พรายพลัดพราก ลาจากโลกไปไหน อย่างแน่นอน.. แต่สำหรับแพน.. แม่สาวแขนไม่อ่อนดั่งนางรำคนนี้ นอกจากมีแต่สองมือที่เต็มไปด้วยเส้นเอ็นเน้นย้ำว่า ทุกคืนวันที่ผันผ่านมากับดวงสุริยา ตลอดชีวาชีวีมิเคยสบายเลย... กลับมองเห็น..ตะวันจริงและตะวัน..ในใจ แสนแปลกใจ บางวันงามกระจ่างสดใส บางวันแสนสวยซึ้งเศร้ามิเหมือนเดิมเลย..สักวัน .. ทั้งตะวันและจันทราระย้าระยับ ที่มีดาวเคียงเดือนประดับ เหมือนมิยอมให้ราตรีมีวันดายเดียว แม้นเป็นธรรมชาติกาลเวลา ที่แปรไป ตามเงื่อนไขโลก และตามใจเราคิดเพ่งพินิจดู ที่ยังคงหมุนวนหมุนเวียนเปลี่ยนหนาวร้อนมาทายทัก ทั้งทุกข์โศก สุขคลุกเคล้าให้ชีวีมีรสชาติประหลาดล้ำ ได้บทเรียนบางบทนำมาสอนใจ มิให้หัวใจหลงเดินผิดทางรัก จนกว่า.. วันที่แสงแห่งดวงชีวาจะลาลับหล้าลงเป็นหนึ่งเดียวกับผืนพสุธา มิต้องคะนึงหาใคร ไหวครวญอีกต่อไป.. ตะวันเดือนธันวา..... ขึ้น.. ในไพรพฤกษ์พง คงหยอกมวลแมกไม้ สายลมแห่งขุนเขา สายหมอกสายเหมยพรายราวสายไหมพร่าง บนเทือกเขาสลับสล้างทอดตัวเป็นแนวยาว เย้ายวนใจในงามพิสุทธิ์ใสของอากาศเย็นฉ่ำ ราวพรำพรมด้วยเมฆฝนปกคลุม..ครึ้มทะมึนเทาทาบ ทอทอดค่อยๆลอดแสงรำไรลงโลมไล้ประโลมดวงดอกไม้ไพร ให้คลี่กลีบหวานใสบอบบาง ให้มวลหมู่ภมรมาร่อนภิรมย์คลึงเคล้า ให้วัฎฎะแห่งไพรยังดำรงไปมิสิ้นสุดสะดุดลง.. ตะวันเดือนธันวา ขึ้น... ในดงตาล ยามเช้าแสนหวาน ที่มีฝูงนกกระยางขาวเดิน เหยาะย่างเลาะเลียบริมนาริมหนองมองหาเหยื่อพอประทัง สีเขียวพร่างใสของรวงไหวเอนไปตามแรงลมล่อง ทั้งทั้งห้วยหนองคลองบึง จะได้ยินเสียงร้องก้องระงม..ของกบเขียดท้องนาคลาคล่ำ บรรเลงร่ำลอยลมด้วยท่วงทำนองดนตรีธรรมชาติ.. ราวให้วาดเวิ้งฟ้างามได้พลอยยลยิน.. ตะวันเดือนธันวา.. ขึ้น... ในทะเล สีมรกตใส ที่ตะวันดวงใหญ่ค่อยๆลอยตัวโผล่พ้นจากผืนน้ำ พร่างสีเงินงามสาดแสงอ่อนอุ่น เรือหาปลาลำน้อยที่ลอยลำมาลิบๆ.... เห็นเพียงเสากระโดงเรือ ลอยใกล้เข้ามาๆ..กับคลื่นแห่งความฝัน ถึงฝั่งจริงฝั่งใจที่มีใครบางคนคอยเฝ้ารอเฝ้าหวังจะได้ปลา มาร้อยเป็นพวง.. ร้อยเป็นห่วงสร้อยแสนคาว..หากมีราคาแปรค่าเป็นเงินงาม แทนความหวังพลังกายใจทุ่มเทของ*พรานทะเล* ที่ยอมเร่ร่อนรอนแรม... มีชีวิตคราคร่ำกลางน้ำเวียนวนสู้ทนเหว่ว้า ทายท้าทั้งพายุใจและพายุจริง.. ที่มองไปทางไหนก็มีเพียง*น้ำจรดฟ้า* ราวเพลงพรานทะเล ที่แสนงาม http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=34 พรานทะเล สุนทราภรณ์ : : ชีวิตที่คร่ำ กลางน้ำเวียนวน ลอยล่องกลางชลไม่พ้นทนไป อยู่กับเรือเบื่อใจ ผองพรานทะเลเร่ไป อยู่ห่างไกลกลางสายชล มองน้ำตรงหน้า จรดฟ้าไกลไกล ว้าเหว่ดวงใจไม่เห็นผู้คน คลื่นและลม สู้ ทน ทุกข์ใจปานใดไม่บ่น สู้แดดฝนลำบาก กาย อยู่หว่างทะเล นาน นาน ท้องเรือเป็นบ้าน ท้องธารเรือนตาย สิ้นชีพสิ้นชนม์ เคราะห์ร้าย ศพฝังโดยง่าย ฝากเอาไว้ใต้ คงคา เพียงเห็นริมฝั่ง สักครั้งดีใจ มาบกทีไรให้แสนปรีดา ใกล้แผ่นดิน เข้า มา เหมือนมีวิมานตรงหน้า ปลื้มหนักหนา แทบจูบดิน อยู่หว่างทะเล นาน นาน ท้องเรือเป็นบ้าน ท้องธารเรือนตาย สิ้นชีพสิ้นชนม์ เคราะห์ร้าย ศพฝังโดยง่าย ฝากเอาไว้ใต้ คงคา เพียงเห็นริมฝั่งสักครั้งดีใจ มาบกทีไรให้แสนปรีดา ใกล้แผ่นดินเข้ามา เหมือนมีวิมานตรงหน้า ปลื้มหนักหนาแทบจูบดิน... และบางคราแม้นเห็นแต่ปลากลางทะเล ก็อยากผวาจูบแทนหน้าลูกน้อยและเมียขวัญ... เป็นหนทางทำกินทางเดียว ที่ต้องเที่ยวท่องล่องไปตามสายชล ไม่เว้นวัน..วารไม่มีกาลเวลาหยุดเช่นกัน ตะวันเดือนธันวา ขึ้น กลางหุบเขาลำเนาไพร เทือกเขาสูงไสว ที่แพนนั้นเห็นเพียงในฝันในฉากภาพยนตร์ ตะวันที่ขึ้นกลางใจในหุบเขาประเทศฑิเบต ที่แพนหวังจะได้เห็นสักคราครั้ง มิใช่แค่มานั่งเทียนเขียนเขียนเอาให้งามตามวาดฝัน อย่างในหนัง 7 YEAR IN TIBET ที่พระเอกจอมกวนแบรดด์ พิทท์ เปลี่ยนบทบาทการแสดงเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ให้แก่องค์ดาไลลามะน้อยได้อย่างซึ้งอกซึ้งใจพระเดชพระคุณ ก่อนที่จีนจะมาย่ำยีเรียกสิทธิในดินแดนมาปกครองเสียเอง.. ตะวันเดือนธันวา ขึ้น... ในท่ามกลางป่าดงดิบอัฟริกา ที่แพนเพิ่งได้ดูยามตะวันขึ้นและตะวันลา อย่างรู้ค่าและแสนซาบซึ้งใจ *จากเกมคนจริงSERVIVER เกม* ให้เหลือผู้อยู่รอดปลอดภัยเพียงหนึ่งเดียว ที่ต้องอาศัยพลังสติปัญญาและไหวพริบ พร้อมมนุษยสัมพันธ์อันดียิ่ง เพื่อช่วงชิงสิ่งสุดท้ายคือรางวัลหนึ่งล้านดอลลาร์ ซึ่งกว่าจะได้มานั้นก็ต้องเลือดตาแทบกระเด็นตามค่าเงินงาม และอย่างที่แพนอยากเห็นนั้น ใครๆก็ฝันๆเอาได้ หากชอบดูหนังเกี่ยวกับสารคดี NATIONAL GEOGRAPFIC เกี่ยวกับการท่องไพรพนาป่าเขาลำเนาไพร มีฝูงสัตว์ป่าน้อยใหญ่ธรรมชาติไพรนานา ที่ยังเหลือพันธุ์สัตว์ป่าพอหาได้ให้เห็น เช่นเสือสิงห์กระทิงแรดหมูป่าช้างกวางหมียีราฟ ที่พากันเริงร่าในทุ่งหญ้ารอรับอรุณ.. หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ป่านานา ท้าแสงแดดอ่อนอุ่นรำไรๆ แพน..ชอบดูหนังทุกเรื่องราว ที่มีฉากสัตว์ป่าและยังมีงามล้ำค่าจากธรรมชาติไพร ชอบอ่านหนังสือทุกเล่ม ย้อนยุคสู่โลก ที่ยังไม่เปลี่ยนทิวไม้เป็นทิวตึกแทนที่มากมายมากมีอย่างทุกวันนี้ จะยังมีก็แต่อ้อมกอดไพร...... โอบกอดให้หอมหอมดวงใจให้พักพิงนิ่งเงียบงาม ให้ไหวหวามดิบเดิมดิ่งด่ำติดดิน มิพักดิ้นเดือดเลือดพล่านหาเงินมาเสนอสนองครอบครองวัตถุ ตามความอยากนี้ที่ถูกป้อนปลอมปรนเปลอมิรู้จบรู้สิ้น ตามวัฎฎะโลกตามค่านิยมโลก พาให้โศกวายวุ่นหมุนหาเงินตัวเป็นเกลียวแทบไม่พอกินพอใช้ แพนอยากพาตัวเองไปสร้างกระท่อมทับที่นั่น และนอนดูดวงตะวันในทุ่งหญ้า แม้จะมีสัตว์ป่า ก็คงมีพระเอกสักคนมาพลีอ้อมกอดอันอบอุ่นอ่อนโยนปกป้อง ถนอมนวลใจและกายให้ปลอดภัย และหลับไปนิทรารมย์อันแสนสุข.. ตะวันเบิกฟ้า .. หรือ ตะวันลา ก็คงงามหยาดหล้าทั่วฟ้าดินทุกถิ่นที่ ที่ฟ้าใจดีมีเมตตาประทานมาให้เรา... *มนุษย์บนหล้าโลกให้ลืมโศก *มีพลังสร้างสุขใหม่*ตามตะวันมิมีวันยอมแพ้พ่าย ให้เรามีอรุณหวังอรุณหวานเริ่มชีวิตใหม่ได้ในทุกทุกวัน นำมาสอนใจ เป็นธรรมชาติใจธรรมดารัก ตราบจนกว่าชีวิตจะแตกดับตามดวงตะวัน.. ตะวันงาม ที่ปราสาทพนมรุ้ง ตะวันลา ที่นครวัตนครธม ตะวันโศกตรมยามดายเดียวริมทะเลงาม ตะวันหวานในกรุงกรงบางวัน.. แต่... ทุกดวงตะวัน.. ที่ไหนๆ..ก็ไม่งามเท่าตะวันกลางใจ ปลุกดวงใจไทยทั้งชาติให้ตื่นให้เบิกบาน ให้มีพลังสรรสร้าง คุณงามความดี ทุกธุลีชีวีที่พร้อมพลีอุทิศใต้เบื้องบาทพระองค์ ด้วยความจงรักภักดี.. ให้ทั่วผืนดินไทยแข็งแรงด้วยพลังแห่งดวงใจรู้รักสามัคคี ได้หยัดยืนทายท้าอารยะโลกอย่างผู้รู้ตนอย่างคนรู้ค่าชีวิต แบบพอเพียงแบบเพียงพอ แบบไม่ลืมตนไม่ลืมตัวไม่ลอยละล่องฟองฟู ดั่งว่าวเหลิงลมคราได้รับคำชมคำเยิรยอ หรือต้องแฟบฝ่อห่อเหี่ยวแทบสิ้นเรี่ยวแรง แม้นถูกคำคนพิพากษาไม่เข้าใจเหยียบย่ำกระหน่ำใจ เพราะไม่ว่าคำใดใครคนไหนมอบให้ ก็แค่ลมลมมิยั่งมิยืน..เท่างามดวงใจใครจะรู้ ให้เฝ้าทนสู้เก็บกลืนกล้ำ ให้เลิศล้ำความเป็นยอดคน ให้ฝึกอดทนอภัย มากมีน้ำใจเมตตา ที่จะเผื่อแผ่แบ่งปัน ให้ไปไม่หวงไม่หวัง.. ไม่กลัวใครจะมาลวงมาหลอน..มาย้อนยอกหลอกใจ ก็ไม่หวั่นไหว ไหวหวั่น ยึดมั่นงามดวงใจให้สวยใสกระจ่างงาม ตามดวงตะวันกลางใจ ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท.. พระผู้เปรียบประดุจยอดปราชญ์ พลังรวมชาติรวมงามสิ้นแห่งผืนดินทุกหย่อมหญ้า ทั่วหน้าพสกนิกรชาวไทยได้ร่มเย็นเป็นสุข และ.. ดั่งมีดวงตะวันสดใสส่องนำทางใจนำไทยทั้งผืนดินนี้ ให้อบอุ่นเป็นสุขตราบชั่วกาล..นานชั่วนิจนิรันดร... บันดาลใจจากอรุณรุ่งเช้าวันที่5ธันวาคม ที่แพนพาหัวใจละมุน ไปใส่บาตรทำบุญน้อมถวายเป็นพระราชกุศล แพนได้ทำบุญกฐินถวายวัด ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า ได้แผ่ส่วนกุศลให้แก่ตนเองและทุกดวงใจ ที่แพนแสนรักค่ะในร่มรักเรือนไทยแห่งนี้ ให้มองตะวันเป็นเห็นงาม รู้เก็บตะวันกลางใจ.... ดวงกระจ่างใสดวงงาม ไว้ส่องนำเส้นทางใจสนองพระบรมราโชวาทที่ว่า รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่ รู้เพียงพอพอเพียง.. เพียงแค่นี้... ก็พอเพียงก็เพียงพอแล้ว..นะแก้วตานะดวงใจ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6192.html ขอฝันใฝ่ ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว ขอทนทุกข์ รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทะนง จะแน่วแน่แก้ไข ในสิ่งผิด จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง จะยอมตาย หมายให้ เกียรติดำรง จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา ไม่ท้อถอย คอยสร้าง สิ่งที่ควร ไม่เรรวน พะว้าพะวัง คิดกังขา ไม่เคืองแค้น น้อยใจ ในโชคชะตา ไม่เสียดาย ชีวา ถ้าสิ้นไป นี่คือ ปณิธาน ที่หาญมุ่ง หมายผดุง ยุติธรรม อันสดใส ถึงทนทุกข์ ทรมาน นานเท่าใด ยังมั่นใจ รักชาติ องอาจครัน โลกมนุษย์ ย่อมจะดี กว่านี้แน่ เพราะมีผู้ ไม่ยอมแพ้ แม้ถูกหยัน ยังคงหยัด สู้ไป ใฝ่ประจัญ ยอมอาสัญ ก็เพราะปอง เทิดผองไทย ......................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3816.htm lดวงตะวัน ที่เคยส่องแสงให้ความ สว่าง กำลังจะจาง กำลังจะเลือนหายไป คนที่ดี ที่มีแก่ใจให้กัน มาก่อน กำลังจะลืม กำลังจะเดินหนีไป ท้องฟ้าก็คงมืดมน และคงมีคนเสียใจ อา!! แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน แม้แต่ดาว ที่พราวบนฟ้าก็ดู เลือนลาง และมันก็จาง ไม่พอจะแทนที่ใคร คนใด มีแต่เธอ เป็นเพียงตะวันไม่มี คนอื่น และเธอเท่านั้น คือดวงตะวันที่หายไป ท้องฟ้าก็คงมืดมน และคงมีคนเสียใจ อา!! แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน ท้องฟ้าก็คงมืดมน และคงมีคนเสียใจ อา!! แค่เพียง อยากรู้ว่าทำไม ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน ตอบได้ไหมเล่าดวงตะวัน... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5820.htm lEvery night in my dream I see you,I feel you That is how I know you go on Far across the distance and spaces between us You have come to show you go on Near,far, wherever you are I believe that the heart does go on Once more, you open the door And you're here in my heart, And my heart will go on and on Love can touch us one time and last for a lifetime, And never let go till we're gone Love was when I loved you, one through time I hold to In my life we'll always go on Near,far, wherever you are I believe that the heart does go on Once more, you open the door And you're here in my heart, And my heart will go on and on You're here, there's nothing I fear And I know that my heart will go on we'll stay forever this way You are safe in my heart, And my heart will go on and on...
2 ธันวาคม 2548 20:27 น. - comment id 543467
ขอบคุรแม่พุดมากนะสำหรับเนื้อหาในเรื่องนี้กินใจมาก ใช่แล้วหล่ะครับ ไม่มีแผ่นดินใดที่จะมีอุดมเท่าแผ่นดินนี้อีกแล้ว อุดมสมบูรณืทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งองค์พระมหากษัตริย์ยังเปี่ยมไปด้วยพระเมตตามหากรุณาที่มีต่อปวงชนชาวประชาทั่วหล้าฟ้าแดนสยามที่ไม่มีแผ่นดินใดจะเทียมเท่าแผ่นดินนี้อีกแล้ว ข้าฯขอน้อมถวายพระพรพ่อหลวงของแผ่นดินอยู่คู่ฟ้าดินทองตราบฟ้าดินสลาย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
3 ธันวาคม 2548 14:30 น. - comment id 543517
ตะวันก็ยังเป็นตะวัน.. มีขึ้นมีลงทุกวัน.... ขึ้นตามอรุณฝันทางทิศตะวันออก และบอกได้เลยโดยไม่ต้องดู... ตกทางทิศตะวันตกไงเล่า.. แล้วจะเฝ้าดูไปทำไมละหนอละนี่ ให้เสียเวลา ว่าจริงไหมเล่า ?นะคนดี.. สำหรับบางคนที่..คิดดีคิดได้คิดเป็น เห็นเพียงแค่นี้ก็แค่นี้ก็แค่นั้นก็เท่านั้น ชอบท่อนนี้ง่ะ.. คิดถึงจ้าพุด
3 ธันวาคม 2548 15:47 น. - comment id 543540
เข้ามาอ่านงานงามๆจากพี่พุดค่ะ... วันนี้มาบ้านกลอนเป็นพิเศษ.... เพราะคิดถึงพี่พุดและเพื่อนๆในบ้านกลอนค่ะ โดยปกติจะไม่เคยเข้ามาในวันหยุดเลยสักครั้ง....อิอิอิ เลยได้มาอ่านงานงามๆของพี่พุดคนดีด้วยชื่นใจจังค่ะพี่พุด....เมื่อได้อ่านแล้วนะค่ะ คิดถึงพี่พุดนะค่ะ...