http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1931.html (อายฟ้าดิน) ผม..กำลังยืนตัวสั่นเทาริมชายคาตึก หลบสายฝน.... ที่กำลังซัดสาดพรมพร่างพรูกรูกราวมากับสายลมแรง อย่างหนักหน่วง.. จนก่อเกิดม่านหมอกหม่นมัวเทาทึมไปทั่วทิศทาง ร่างผม..เริ่มหนาวสั่น ขึ้นทีละนิดๆ เสื้อยืดสีขาวเริ่มเปียกชื้น ด้วยละอองฝนที่ถูกแรงลมพัดหอบมามิพ้น ผมเพิ่ง..ฟื้นไข้.. และเพียรไปออกกำลังกาย เผื่อได้เหงื่อแล้วอาการจะดีขึ้น แปลกดีจัง.. ในพลังฝนภวังค์ฝันอันเศร้าล้ำ.. ทุกยามฝนพรำ.. ผมจะรำลึกนึกถึงใครบางคน *ผู้หญิง...* ที่สอนกมลภายในให้ผม ได้เรียนรู้ความอ่อนหวานอ่อนโยนในหัวใจ ได้มากกว่า วันเก่ากาลก่อน ก่อนที่...โลกยอกย้อน. จะหมุนมาให้เราได้พบกัน..ได้รู้จักรู้ใจกัน.. กี่ปีแล้วนะ...ระหว่างเรา ที่เธอ ซุกซ่อนอยู่ในความเหงางามเงียบ ความละเมียดละมุนให้ไออุ่นอวลเอื้อ เบียดแทรกราวเรามีเลือดเนื้อและใจดวงเดียวกัน ราวเงาขวัญเงาใจ กันและกัน ผ่านคืนฝันวันหวาน ผ่านสัจจะสอนบทเรียน ให้...รู้ค่าคำ..รักเมตตาอภัย รู้ทำใจรู้หน้าที่ รู้ความดีรู้การพลีเสียสละ รู้การให้ รู้ได้รับ รู้จักเจ็บปวดยามพรากลา รู้ค่าความเหว่ว้าดายเดียว ยามเหลียวไปไม่มีกันและกัน.. ผ่านคืนฝันวันมายา ที่รอท่า ให้ทั้งสองดวงใจได้หลอมละลายฝ่าฟัน ได้รู้ปันพลีที่จักเคียงประคอง สร้างทางทองทางธรรม ดั่งพลังจิต นิรมิต.. สะพานข้ามปราการมหานทีสีทันดร ข้ามสิงขรพ้นพันธนา.. สร้างปิติเอมอิ่มภาคภูมิ..คืนโลกหล้า ฝากผืนฟ้าพสุธาทองพสุธาไทย ก่อนตะวันในดวงใจจะมอดดับ ก่อนจะกระชับเกาะกุมมือพากันลอยล่อง ท่องไปสู่แดนดิน *แห่งความกระจ่างสว่างสงบไปตราบชั่วนิจนิรันดร์....* ผม...คิดถึงเธอ.. และ... ในความพลั้งเผลอมากมาย ที่ฝากรอยรานร้าว ให้ใจดวงงามเศร้าของเธอ พบ...เพียงความระทม อย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผม..เคยตะโกนใส่หูเธอ.. ผมเคยเผลอ.. ตอกย้ำรอยแผลเป็น...ที่เธอซ่อนไว้ลึกเร้น ให้ตายแตกดับแหลกยับไปกับตัว หากผม..ก็เพียรที่จะสะกิด สาดน้ำกรด..รดรินราด...ลงบนบาดแผล ให้ใจดวงสลัวยิ่งหมองหม่นทุกข์ทนทบเท่าทวี เธอ..คนดี ที่.. ยินดีเมตตาอภัยให้ผมเสมอมา แม้นเธอ.. จะหลั่งน้ำตาเสียยิ่งกว่า*ฟ้าร้องไห้*อย่างดายเดียวลำพัง มานับครั้งไม่ถ้วน... กับ.. โศกสะเทือนใจ.. ที่ผมหยิบยื่นราวเพชฌฆาตใจ คอยประหัตประหาร.. เธอ.. ที่รักผมอย่างหมดหวังใด ไม่..แม้อยากจะสนิทชิดใกล้ ไม่แม้นจะกรายกล้ำ..ให้ผมลำบากใจ ผม...เสียใจ..เสียใจ..และแสนเสียใจ ใน.. ทุกยาม ยิ่งได้ยินเสียงฝนครางฟ้าครวญ และ... กับหวนไห้โหยหา..ในยามนี้ ที่...สิ้นไร้ร่างเธอ.. ผู้หญิงที่เพ้อพร่ำคอยรำพันรำพึง ฝากซึ้งคำหากแสนเจ็บ บอกผมเสมอมา.. *แม้นตราบวันตายอย่าได้มาชิดใกล้เธอ..* ผู้หญิง..ที่ผมเผลอตะโกนก้อง *คุณไม่ใช่คนพิเศษ พิสุทธิ์* *คุณก็มนุษย์ผู้หญิงธรรมดาๆ* ที่จนณ..บัดนี้ จักกี่ปีที่ผ่านมา.. ผมก็ยังมิเคยพานพบ...ผู้หญิงที่เธอทายท้า ให้ผมค้นหา .. และ มากล้นค่าน้ำใจ..สวยใสแสนงามเสียยิ่งกว่าเธอ คนที่ละเมอพึมพำ... อย่างรวดร้าวใจว่า*ฉันจะพร้อมพลีอวยพรให้* และ... กับ...วันฝนพรำย้ำรอยใจ ที่ไม่มีเธอ อีกต่อไป... ผมได้เพียง... ปล่อยให้หยาดน้ำตาลูกผู้ชายรินไหลอย่างมิสิ้นสาย อย่างมิอายฟ้าดิน. อย่างสิ้นแล้วทุกสิ่ง...ทุกอย่าง อย่าง...คนหลงทางเหว่ว้า อย่าง..คนที่..หาฝั่งฝันฝั่งใจ มิมีวันได้พบเจอ...ตราบจนชั่ววันตาย...!!!! ........................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1931.html อายฟ้าดิน พาวเวอร์แบนด์ จะบอกรักใครก็อายฟ้าดิน ความหวังพังสิ้น ทางรัก มืดมน เกิด มา ร่างกายเท่านั้นเป็นคน แต่หัวใจปี้ป่น โดนรักขยี้แหลกราญ จะเอ่ยรักใครให้เอือมระอา เมื่อไร้คุณค่า จนมิ ต้องการ ตราบ จน สิ้นคนมั่นรักยืนนาน ต้องทุกข์ทรมาน ร้าวราน ฤดี ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้ ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี ดวงฤดี มีแต่ ซอกช้ำเรื่อยมา ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา สู้ กลืน เก็บความซอกช้ำอุรา ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้ ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี ดวงฤดี มีแต่ ซอกช้ำเรื่อยมา ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา สู้ กลืน เก็บความซอกช้ำอุรา ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน....
5 ตุลาคม 2548 00:05 น. - comment id 523014
จบเศร้าจังขอรับ..... เหมือนตัดพ้อตัวเองด้วยอ่ะขอรับ มาทักทายคนนอนดึก ที่ช่างจินตนาการ ^_^ มายลแล้วเหมือนได้ชมภาพยนต์ในจินตนาการสักเรื่องขอรับ
5 ตุลาคม 2548 00:11 น. - comment id 523017
หากความรักมีความห่วงใย มีความเข้าใจ มีความห่วงหาอาทรณ์ ความรักน่าจะอบอุ่นนะค่ะ
5 ตุลาคม 2548 00:41 น. - comment id 523036
สวัสดีค่ะ คุณพุดที่รัก มา จุ๊บ กับกุหลาบ คิดถึงนะคะ.... ช่อชงโค
5 ตุลาคม 2548 05:05 น. - comment id 523051
แวะเข้ามาร้องเพลงแต่ไก่โห่ครับ อาศัยว่ามีฟ้าดินเหมือนกัน ไม่ทราบว่าจะได้เข้าบทกลอนหรือเปล่า เมื่อไหร่หนอจะได้มีโอกาสกราบไหว้ฟ้าดินมั่งเรา สั่งฟ้าฝากดิน ชรินทร์ นันทนาคร ยามที่พี่อ้างว้างว่างใจ นวลน้องต้องจากไป ใจพี่นี้ครวญคร่ำ ทิ้งรอยแผลเก่า ให้เราชอกช้ำ ใยรักเจ้าลืมคำ ทำเหมือนไม่ปรานี เรียมหลั่งน้ำตาสะอื้น ยามดึกดื่นค่อนคืน ทนขมขื่นทวี มอง เฝ้ามองฟากฟ้าราตรี ลืมผืนดินลืมพี่ ลืมรักพี่เคยหมาย เธอเปรียบดังชาวฟ้าโสภิณ ใยทิ้งให้ชาวดิน ครวญถวิลร้องไห้ น้ำใจรักเจ้า ช่างเปลี่ยนง่ายดาย ชาวฟ้าช่างโหดร้าย ใยถึงได้ใจดำ เคยฝากน้ำคำพร่ำพรอด ฟ้าเคยกอดกับดิน ลืมรักสิ้นดินช้ำ เคยฝากใจให้ฟ้าดินจำ คำรักเอยเคยพร่ำ ใยฟ้าเจ้าทำลาย ใจไม่เคยจะคิดว่าคุณ ลืมรักอุ่นไอดิน เพียงฝากดินลวงให้ น้ำคำฟ้าสั่ง ฝากดินกินใจ ใยฟ้าไม่จำไว้ ใยหนอช่างแปรผัน ลืมถ้อยรักเคยชื่นบาน ลืมกระทั่งวันคืน เคยชิดชื่นด้วยกัน เราอยากเด็ดดอกฟ้าลาวัลย์ ความรักเราจึงสิ้น ดินนั้นต้องเจียมตัว ลืมถ้อยรักเคยชื่นบาน ลืมกระทั่งวันคืน เคยชิดชื่นด้วยกัน เราอยากเด็ดดอกฟ้าลาวัลย์ ความรักเราจึงสิ้น ดินนั้นต้องเจียมตัว..
5 ตุลาคม 2548 06:50 น. - comment id 523059
ฝากไว้ในงานคุณก่อพงษ์ ในยามอุษาฟ้าสว่างนี้ค่ะ พร้อมพลีแด่ทุกดวงใจค่ะ พุด.. ถูกปลุกด้วยไรแสงสีชมพูแสนงาม ที่ค่อยๆเรื่อเรื่องสว่างกระจ่างนภางค์ ทางขอบฟ้าทิศตะวันออกค่ะ ฟ้าหลังฝนที่งามเหลือค่ะ พร้อมเสียงนกเขาขันคู และนกกาที่เริ่มร้องจุ๊บจิ๊บระงม ไปทั่ววิมานดินค่ะ.. พุดอ่านงาน *คุณก่อ..และของมิ่งมิตรน้องพี่* ทุกดวงใจแสนดี ในร่มรักเรือนใจเรือน ไทยเรือนทอง แกล้มคลอ* พร้อมฟังบทเพลงเพลงชุดชื่อ MORNING ยามเช้าของคุณจำรัส เศวตาภรณ์ค่ะ ที่มีชื่อบทเพลงแสนบรรเจิดนิรมิตรดวงจิตดังนี้ค่ะ เก็บเกี่ยว.. เดินทาง.. รวงข้าว.. สายนที.. เข้าวันใหม่.. รำลึก.. วันที่คิดถึง.. การเดินทางยังไม่สิ้นสุด.. มิตรภาพ.. เมฆ.. ห่วงใย.. อำลา.. พี่น้อง แล้ว.. หัวใจดวงสะออนอรชรของพุด ก็พลันพร่างพราวราวกับมีอัญมณี เจิดจรัสรุ้งณ..ภายใน ค่ะ เป็นความสุขเรียบง่ายงดงาม ในท่ามโลกแล้งไร้รายรอบค่ะ คุณก่อ..และทุกดวงใจคะ พุดเพิ่งอ่านเมล์เกี่ยวกับเหตุการณ์ ที่อาจจะมีวาตภัยผสมกับอุทกภัย ตามคำทำนายอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ด้วยใจนิ่งงันค่ะ มหันตภัย ที่มวลมนุษย์ ไม่พึงตระหนัก และ จักกลายใกล้เข้ามาสอนบทเรียน ยิ่งใหญ่ให้..อย่างมิมีวันที่ มวลมนุษย์ทุกธุลีหล้าจักจะพากันหนีพ้นค่ะ ทั้งๆที่ผ่านมาก็มาเตือนเป็นระยะแล้ว เมื่อคืนพุดสวดมนต์ ด้วยน้ำตาซึมซึ้ง ค่ะ ด้วยบทนี้นะคะ หวังทุกดวงใจจักพากันรวมพลังจิต รวมกันสวดอธิษฐานภาวนาและนั่งสมาธิ พร้อมเพรียงกันในทุกช่วงมิติรอยต่อเวลา นะคะเพื่อตัวเองและคนที่รัก รวมทั้งประเทศชาติเราค่ะ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท-ธัสสะ (3 จบ) นะโม โพธิ สัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา (3 จบ) เประมัง ธัมมัง สังฆัง ประมัง ธัมมัง สังฆัง ปรมัง ธัมมัง สังฆัง เสสัง ธัมมัง สังฆัง กะริยานัง อัตโน โหนตุ 3 -11 จบ สัตว์ทั้งหลาย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด จงไปสู่ภพภูมิที่ดีที่ชอบเถิด (1 จบ) จากนั้นนั่งสมาธิสักครู่ เป็นอันเสร็จพิธีนะคะ พุดจะลงบทความที่อาจจะช่วยเตือน สติแด่ทุกดวงใจนะคะ และจักพึงได้ไม่ประมาทค่ะ ด้วยรักล้นใจ
5 ตุลาคม 2548 06:56 น. - comment id 523061
ในเดือนนี้ ช่วง 11 29 ตุลา 48 อาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นคำบอกเล่าของ ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ นักวิทยาศาสตร์ ผู้ที่ผันตัวมาฝักใฝ่สนใจในการปฏิบัติธรรมมากผู้หนึ่ง ปัจจุบันเป็นประธานชมรมวิถีธรรม วิถีไท แถวเขตคันนายาว ในสายหลวงปู่ทวด ได้นำข่าวสารมาแจ้งในที่ประชุมสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย ให้ได้ทราบเมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา และเนื่องจากผู้เขียนนั่งติดกับ ผศ.ดร.พรชัย พัชรินทร์ตนะกุล อดีตประธานสภาคณาจารย์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่มีความสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์ทางจิตมากผู้หนึ่ง และเป็นสมาชิกตลอดชีพของสมาคมค้นคว้าทางจิตฯ เหมือนผู้เขียน ขอให้ผู้เขียนช่วยสรุป และเผยแพร่เรื่องนี้ให้แก่ผู้สนใจได้ทราบด้วย ผู้เขียนได้รับปากว่าจะรีบสรุป และเขียนสิ่งที่ได้รับฟังมา และรีบ Mail ให้สมาชิกชมรมศาสนาและการกุศลทุกคนได้รับทราบโดยเร็วต่อไป บทความนี้จึงได้ผลิตออกมาเผยแพร่ในทันที - หากช่วง 11 29 ตุลา 48 มีเหตุร้ายเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย ดร.กัญจีราฯ ก็มีชื่อเสียงดังระเบิดเถิดเทิงกันแน่ในคราครั้งนี้ ซึ่งท่านผู้อ่านทุกท่าน ก็จะได้ทราบผลกันในเร็ววันนี้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือมั่วนิ่ม - ดร.กัญจีราฯ เล่าให้ฟังว่า ขอให้ติดตามดูสถานการณ์ ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลา 48 เป็นต้นไป ท่านว่าจะมีภัยธรรมชาติที่ร้ายแรงเกิดขึ้นในเมืองไทย 11 ตุลา 48 จะมีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของไทย 13 14 ตุลา 48จะเกิดคลื่นสึนามิอีกครั้ง 18 ตุลา 48 จะมีน้ำป่าเข้าท่วมบ้านเรือน และมีน้ำท่วมขัง 2 สัปดาห์ 21 23 ตุลา 48จะมีแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯ จะมีรถติดวินาศสันตะโร ให้ระวังเขตอันตรายย่านหัวลำโพง ปทุมวัน มาบุญครอง เขตดินแดง และแถวรัชโยธิน จะมีเรื่องร้ายแรงเสียหายเกิดขึ้นที่เกิดจากแผ่นดินยุบหรือไหวตัว 29 ตุลา 48 อาจมีพายุทอนาโดเข้ามาทางอ่าวไทย - ดร.กัญจีราฯ ท่านบอกว่า ช่วง 11 29 ตุลา 48 ไม่ว่าภาคใต้ ภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคเหนือ ล้วนมีผลกระทบทั้งประเทศ จังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงมากและน้อยที่ต้องเตรียมรับมือมากหน่อยมีดังนี้.- 1) ภาคใต้ นครศรีธรรมราช (หนักสุด) รองๆลงมาคือ สุราษฎร์ พังงา และชุมพร 2)ภาคตะวันตก ราชบุรี (หนักสุด) รองๆลงมาคือ กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และสมุทรสาคร 3)ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (หนักสุด) รองๆลงมาคือ ปทุมธานี นครปฐม ชัยนาท และพิษณุโลก 4)ภาคอีสาน หนองคาย (หนักสุด) รองๆลงมาคือ ขอนแก่น อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด 5)ภาคเหนือ เชียงราย (หนักสุด) รองๆลงมาคือ ลำพูน ลำปาง เชียงใหม่ และตาก - ดร.กัญจีราฯ เล่าว่า อุทกภัยครั้งนี้ จะมีความรุนแรงมากกว่าช่วง 500 ปี ที่ผ่านมาก็แปลว่า ครั้งนี้จะต้องหนักมากกว่าทุกครั้งที่ท่านเคยเห็นเคยพบในช่วงชีวิตของท่าน แต่ผู้เขียนไม่แน่ใจว่าจะถึงระดับเช่นว่าคงต้องติดตามดูครับ - ในช่วงปลายตุลา ถึงต้น พฤศจิกา 48 ต้องงดไปลอสแองเจลลิส และนิวยอร์ค เพราะสหรัฐอเมริกาจะโดนพายุใหญ่ 2 ลูกถล่มที่ 2 เมืองนี้นั่นเอง - เนื้อหาสาระที่รับฟังมา แม้จะมิได้บันทึกเทปไว้ แต่คิดว่าจำมาได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 หากคลาดเคลื่อน ท่านที่ฟังมาพร้อมกัน ช่วยบอกเพิ่มให้ผู้เขียนทราบด้วย จักขอบคุณมาก - ถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ต้องยกประโยชน์และปรบมือขอบคุณ แก่ดร.กัญจีรา กาญจนเกศ โดยผู้เขียนจะได้ติดตามข่าวสารจากท่านผู้นี้มานำเสนอท่านผู้อ่านเป็นระยะๆต่อไป แต่ถ้าไม่มีเรื่องร้ายแรงใดๆ เกิดขึ้นในช่วง 11 29 ตุลา 48 ก็ต้องกล่าวโทษ ดร.กัญจีราฯ และก็คงไม่มีข่าวสารจากท่านผู้นี้อีกต่อไป เว้นแต่มีคำอธิบายที่น่าเชื่อถือและมีเหตุปัจจัยสนับสนุนที่มากเพียงพอ แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้น จะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ก็ให้ถือเป็นเรื่องการซ้อมรับมือเหตุร้ายแรงดังกล่าว ซึ่งในระบบป้องกันความปลอดภัย หรือแม้แต่ระบบป้องกันอัคคีภัย ก็ยังมีการซ้อมดับไฟก่อนเกิดไฟไหม้จริง ก็ขอให้ท่านผู้มีโอกาสอ่านบทความชิ้นนี้ทาง Mail ทุกท่าน โปรดใช้เป็นโจทย์การบ้านว่า ถ้ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่พักอาศัยของท่านใน 1 2 สัปดาห์ข้างหน้า ท่านจะป้องกันความเสียหายได้อย่างไรบ้าง หรือ ให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม เหตุร้ายแรงที่ ดร.กัญจีราฯ บอกกล่าวนี้ ยังไม่ถึงระดับมหันตภัยที่แท้จริง หากมีเกิดขึ้น ก็เป็นเพียงเหตุร้ายแรงระดับเล็ก ถ้าจะเทียบกับเหตุการณ์ในปี 2551 ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้ยอมรับ และมิได้ปฏิเสธว่า ช่วง 11 29 ตุลา 48 จะมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นหรือไม่ช่วงนี้ เขียนตามที่ฟังมาจากดร.กัญจีราฯ แล้วนำมาเล่าต่อ บอกต่อก่อนนะครับ
5 ตุลาคม 2548 07:10 น. - comment id 523065
คุณสุญญากาศคะ พุดชื่นใจซึ้งใจค่ะ ที่ได้สัมผัสน้ำใจ พลังใจแสนสวยใส ราวหยาดน้ำค้างที่คอยมาพร่างพรม ให้ดวงใจพุดเสมอมาค่ะ พุดรจนา..เรื่องรักมักจบเศร้าค่ะ เพราะเป้าหมายคือ ให้รู้สัจจะธรรมทุกข์จากทุกรักค่ะ คนดี เมื่อเราหนีไม่พ้นรัก และ ไม่อยากทุกข์ ก็จงรู้หยุด รู้ค่า รู้การใช้เวลา กับผู้เป็นที่รัก อย่างงดงามสร้างสรร ปันแบ่งโลกหล้าแลผองชน คนที่ร่วมเกิดแก่ เจ็บตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นค่ะ โลกนี้ จักธำรง ดำรงได้ด้วยรัก ที่มีมากมายหลากรูปแบบค่ะ จะเลือกรักแบบไหน ที่มิใช่เห็นแก่ตัว รักชาติ รักศาสนา รักเทิดทูนบูชาพระมหากษัตริย์ รักผืนดิน รักธรรม รรมชาติ ก็วาดวงให้เงียบงาม สมถะพอเพียง มิคิดร้ายหมายทำลายค่ะ และ.... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song6196.html รัก ...เพลงพระราชนิพนธ์ รักทะเล อันกว้าง ใหญ่ไพศาล รักท้องฟ้า โอฬาร สีสดใส รักท้องทุ่ง ท้องนา ดั่งดวงใจ รักป่าเขา ลำเนาไพร แสนสุนทร รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร รักทั้ง รัตติกร ในนภดล รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ รักพฤกษา รุกขชาติ ที่ดาษป่า รักปักษา ร้องกู่ บนสิงขร รักอุทัย สว่าง กลางอัมพร รักทั้ง รัตติกร ในนภดล รักดารา ส่องแสง สุกสว่าง รักน้ำค้าง อย่างมณี มีโภคผล รักทั้งหมด ทั้งสิ้น ที่ได้ยล รักนวลนาง รักจน หมดสิ้นใจ... และรจนามาพลีใจ ด้วยรักไงเล่าคะ..ทุกยอดดวงหฤทัย แห่งเรือนใจในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง ณ..ที่แห่งนี้ ที่คงเป็นดั่งรวงรังแห่งรัก ได้พลีภักดิ์พักใจค่ะ จากใจ แม่ดวงดอกพุดไพร
5 ตุลาคม 2548 07:13 น. - comment id 523068
น้องผู้หญิงไร้เงา..คนดีของพี่พุด ค่ะ น้อง รักอยุ่ที่เราจะเลือกรักเป็น รักให้เย็น ก็จักเห็นงามค่ะ ให้เมตตา อภัย และต่อตมเติมใจให้กัน ให้พลันพร่าง พบสว่างสงบ พบทางธรรมทางทองค่ะ แล้ว.. ก็..จะไม่ต้องมาวนว่ายวิบากรักวิบากกรรม อีกต่อไป\"ไฉนเลยค่ะ\" พี่พุดรักน้องค่ะคนดี
5 ตุลาคม 2548 07:15 น. - comment id 523069
สั้นสั้นซึ้งซึ้ง จากบึ้งใจ ถึงชัยชนะค่ะ ดีใจที่กลับมาค่ะ
5 ตุลาคม 2548 07:17 น. - comment id 523071
คุณช่อ..คนดี พุดอ่าน รวงรังแห่งรักด้วยสุขใจค่ะ คิดถึงนกไพร ในใจนวลมากค่ะ และ ด้วยคำซึ้งๆคิดถึงและคิดถึงค่ะ
5 ตุลาคม 2548 07:39 น. - comment id 523082
ฝากในงานปลายฝนคนหนาว........ ของน้องplaing_piu ..ค่ะ ................ พี่พุดจะพลาดอ่านงานงาม ที่แสนพลิ้วไหว ในหอมห้วงแห่งหัวใจ ได้อย่างไรกันเล่า นะเจ้าคนดี..ของพี่พุด และ พลีบทรจนา ในทุกลีลาวสันต์ อันนานเนิ่นนับหนาวมาได้หลายฤดู ที่ฤดีนี้ยังมีเพียงความดายเดียว..ลำพังค่ะ ............... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem33454.html ฝนหนาว..กับ..แค่คนที่รักเธอ ฝนตกราวฟ้ารั่ว ตอนตีสาม...... ฉันชอบ..คืนค่ำที่ฝนตกหนักอย่างนี้.... เสียงดนตรีจากสายฝน กับผ้าห่มผืนนุ่ม กับความหนาวเย็น แบบชุ่มฉ่ำ กับความฝัน..สล้างที่หล่อเลี้ยงดวงใจ ให้ถวิลหาใครบางคน ที่แสนไกล.... ฉัน..ตื่นมา เพื่อรอเวลาที่จะไปวัด กิจวัตรยามเช้าวันอาทิตย์....เพื่อเพิ่มพลังใจ ให้ใสเย็น สงบงาม... กลิ่นดอกพุด ปลุกนิทรา ช่างพาหอมลุ่มลึก รัดรึงใจ ในยามนี้.... ฉันชอบที่จะสร้างบรรยากาศ โดยการจุดตะเกียง ที่ใช้เทียนแทนไส้.... ให้บรรยากาศ ว่าชีวิตฉันนั้น ราวตื่นมาพร้อมเสียงไก่ขัน ในบ้านชนบท ที่น้ำค้างยังหยดเยียบเย็น แตะแต้มยอดหญ้า รอเวลาระเหยหายไปกับแดดอ่อนอุ่น..ในยามอรุณเปิกฟ้า ยามที่.... ยังมีหมอกหนา ครอบ คลุมท้องทุ่ง ผืนนา ยามที่พระออกบิณฑบาตร... สีเหลืองนวลแจ่มกระจ่าง สว่างใจของจีวร ตัดกับ สีนาของข้าวเขียว ที่ออกรวงเรียว โค้งระย้าพวงพราว ราวรอคมเคียวจากมือคนเก็บเกี่ยว..... แต่....ความจริงในยามนี้ ที่ฉันมีก็คือ...บ้านกลางกรุง ที่ฉันนี้หนามากพยายาม ใส่ความเป็นชนบท ด้วยพืชพรรณ...ดวงดอกไม้ ราวบ้านเล็กในราวป่าใหญ่ ที่หอมแผกมาตระลบ กับจันทร์ซีด ดวงเศร้า หลังฝนซา..... ฉันลงมาต้มน้ำชงกาแฟ...หอมๆจากฮาวาย ที่สาวน้อย เอลิสัน นักอนุรักษ์ปลาโลมา อุตส่าห์ส่งมาให้ จากฮาวาย.....แดนไกล...... เปิดเพลง ไพเราะ..เป็นเพื่อนใจ ในยามอุษาฟ้าเริ่มสว่าง จากเครื่องเล่น แบบหม้อหุงข้าว...... เพลงเศร้า จากก๊อต จักรพรรณ์ กำลังครวญคร่ำ ให้ฉัน น้ำตาซึม มือที่ชงกาแฟ ค้างนิ่ง ด้วยรานร้าวใจ ไปกับเนื้อหาของบทเพลง ที่แสนซาบซึ้ง.. กินใจ ฟังได้อารมณ์ โดนใจ..มากกว่ายามกลางวันแสกๆ...... จากคนที่รักเธอ........... แค่คนรักเธอ....ไม่ใช่คนที่เธอรัก ได้มารู้จัก ได้แอบรักก็สุขใจล้น เธอคือนางใจ สดใสเมื่อยามได้ยล ช่วยคนหนึ่งคน ให้พ้นจากความหม่นหมอง เฝ้าคอยภักดี ทั้งที่มีสิทธิ์เพียงน้อย สุขที่ได้คอย สิทธิ์มีน้อย ไม่เคยเรียกร้อง ได้งมเพียงเงา ยามเหงาขอเพียงแค่มอง ไม่ได้ครอบครอง แอบจ้องก็เพียงในใจ มีชายหลายคน ที่คอยเดินตาม ไม่กล้าถาม ว่าใครขอเธออย่างไร ไม่กล้าท้วง ยามเห็นเธอควงกับใคร เจ็บท้อรอไป.... เทใจให้เธอได้เห็น *แค่คนรักเธอ ไม่ใช่คนที่เธอรัก ทำใจแน่นหนัก ต่อใยรักไม่เคยว่างเว้น หวังเพียงวันหนึ่ง เธอ..ซึ้ง..ความดีที่เห็น เปิดทางให้เป็น ให้ฉันเป็นคนที่เธอรัก*(ซ้ำ) แปลกใจจัง..ฉันกับ..ใจดวงนี้ ที่มักจะฟังเพลงด้วยใจ ด้วยอารมณ์ล้ำลึก เข้าไปในคำพ้อ ออดอ้อน เว้าวอน ขอให้เธอรัก และเห็นใจ ไฉนเลย!.........
5 ตุลาคม 2548 07:43 น. - comment id 523086
สวัสดีค่ะ พี่พุดสุดรัก หากโลกนี้ขาดความรัก คงมิได้... เพียงเพราะหัวใจดวงนี้มีรักล้นปรี่.... คิดถึงนะค่ะ....รักษาสุขภาพด้วยคะ อากาศเริ่มเย็น ๆ แล้ว (มีหมองลงกลางท้องนา ปกคลุมยอดข้าวที่กำลัง ออกร่วง สีเขียวอ่อน ๆ มองแล้วสวยงาม)
5 ตุลาคม 2548 08:07 น. - comment id 523100
แด่คุณครูใหญ่ในงาน สองเฒ่า ชาวนา และ.. น้องกุ๊ดจี่.. ด้วยดวงใจไสวราวเรียวรวงสีทองสุกปลั่งสะพรั่งงามรับอรุณหวานมลทวาหวังค่ะ พุดไพร ในนามสาวบ้านนา มาอ่านบทนี้ ด้วยน้ำตาเอ่อซึมค่ะ ด้วยจิตวิญญาณสาวนา ที่รักนาและเรียวรวง ราวดวงวิญญาณ หลอมพลีเป็นหนึ่งเดียวค่ะ ที่เกี่ยวรัดร้อยใจ ในวิถีทอง วิถีไท วิถีทุ่ง มาอย่างยากจะแยกออกค่ะ สาวนาขอแสดงคารวะ ด้วยรักศรัทธา ในดวงจิตไสวของคุณครูใหญ่ค่ะ ที่กำลังทำให้ไฟฝันสาวนาพลันพร่าง อยากรจนางานดิบเดิมมากค่ะ เพราะ ทิ้งให้สาวนาเดียวดาย รออ้ายในกระท่อมไพร กระท่อมใบไม้ มานานวันแล้วค่ะ ขอพลีฝากเรื่องราว จากดวงจิตใสของสาวนา ผู้รักและซึ้งค่า งานดิบเดิมอย่างเลหือใจแล้วค่ะ ภาพงามมากนะคะ คือภาพในดวงใจที่ฝังใจเลยค่ะ แม้จะเล็กไปนิ๊ดนะคะ สาวนาก่อกองไฟใต้ไผ่กอ หอมละออกอราตรีคลี่กลีบรับน้ำค้างใส ไอหนาวโชยหมอกโรยรินห่มราวไพร ฟังเรไรหรีดหริ่งช่างพริ้งพราว... ไผ่เสียดกอฝากพ้อไกลกับฟ้ากว้าง นกไพรร้างแรมใจทิ้งใครหนาว สาวนารอราวเดือนแรมไร้แสงดาว ฝากลมหนาวกระซิบฟ้านาแล้งรอ... ตาลยืนต้นฝนทิ้งช่วงรวงแล้งลีบ หอมดอกปีบบีบใจซึ้งถึงใครหนอ ควายคาคอกยืนเบิ่งเศร้ารอขี่คอ สาวนารอผ้าถุงดอกบอกอีกที... หลังคาจากรูโหว่รอคนเปลี่ยน ต้องจุดเทียนแทนไฟทุกคืนนี้ ไม่มีเงินมีงามใจรอคนดี กลับเสียทีกลับมาอยู่รู้เพียงพอ... น้องเย็บจากพี่หว่านไถจนเย็นย่ำ พอยามค่ำจัดสำรับคอยป้อนหนอ พอท้องอิ่มกายอุ่นชวนกันดูหนังสี่จอ เคลียพะนอนอกชานหวานไม้ไพร... ฟังเรไรร้องกล่อมทุ่งยามรุ่งสาง หอมน้ำค้างพร่างเกสรอ้อนหวามไหว นกละเมอเพ้อพลอดกอดนางไพร พิสุทธิ์ใสรักเย็นฉ่ำลำนำดง.. ห่างแสงสีศิวิไลซ์ไกลโลกลวง หนีมนต์บ่วงมายาพาไหลหลง หนีโลกนี้ที่วายวุ่นสู่ไพรพง ยามค่ำลงนกคืนคอนนอนนวลรัง... เป็นวิถึชีวิตติดดินสุขงามเงียบ เป็นความเรียบความง่ายบ้านแห่งหวัง บ้านภายในสุขที่ใจไม่เซซัง ถึงฝั่งฝันฝากใจร่างห่างมายา.. หวังนกไพรคืนกลับนาไม่นานนี้ รอคนดีคืนฝั่งใจเฝ้ารอท่า รับขวัญน้องสองเราช่วยทำนา หวังหว่านกล้าไม่แปรใจรอยไถงาม! (ดวงใจงาม)... ************ สาวนาผู้พิสุทธิ์ใส ผู้มีหัวใจดั่งหยาดน้ำค้างยามอรุณรุ่ง นับวันหายากยิ่งนักในโลกโลกาภิวัฒน์นี้ ทีสาวสาวมีแต่แสวงหา..ใช้สมองสองมือและดวงตา ควานคว้าหาสิ่ง..ข้างนอก..ใจ มองไกล ไกลจนไกลห่าง ร้างและไร้.. แม้กระทั่งจะหาค้นหางามหาความหมายจริงแท้ จากธรรมชาติให้สอดประสานเป็นหนึ่งเดียว กับนวลเนื้อใจประโลมใจภายในตน.. เสมือนหนึ่งดัง..มองไปด้านหน้าเพียงนั้น.. หากมิเคยก้มลงมองลงในห้องหัวใจจริงแท้ อันเป็นธรรมชาติแท้แท้ ที่แสนงดงามเรียบง่าย เฉกเช่นบ้านภายในที่แสนเงียบงามสงบ.. ไร้รานรุกจากเหนื่อยเหน็ดมิรู้จบรู้สิ้น ที่ถวิลหวังสนองอยาก..มากเกินคำว่าพอดีพอเพียงเพียงพอ โอ้ละหนอ..โลก..! .............. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem61852.html สาวนาเก็บเห็ด urlhttp://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1554 ความรักเหมือนเห็ดละโง้ก คืนนี้.... ฝนพรำตลอดเวลา ให้สาวนานอนดายเดียวเหว่ว้า ดูม่านฝนในมุ้งขาว กับ ละอองไอฝนเย็นๆ ที่ปล่อยให้พัดพรายผ่านเข้ามา ให้ได้ความสดชื่น ได้กลิ่นละอองเกสรดอกไม้ป่า และดอกไม้ไทยนานาพรรณ ใกล้ชายคา... มะลิลามะลิซ้อนโมกอรชร ดวงดอกมะลิวัลย์จันทร์กระพ้อ กอราตรีระร่ำรสสดเศร้า เคล้าคลอให้ยิ่งหนาวใจ และกับกลิ่นหอมหอม หวานหวานของดอกจำปีจำปา มาตามพรายฝนพร่าง.. ในท่ามกลางแสงตะเกียงอันริบหรี่.. สาวนา ชอบฤดูฝนแม้นจะไร้คนในฝัน มานอนออดอ้อนให้ไออุ่นละมุนทรวง มาฟังเสียงหยาดฝนร่วงกระทบรวงข้าว และชายคาจาก เปาะๆแปะๆไปด้วยกันก็ตามที ********** สาวนา..คนซื่อ จึงจำรำงับ ดับความคิดถึงคะนึงหาอ้ายด้วยการ หมุนหาเพลงไทยลุกทุ่งไพเราะๆฟัง จะเข้าท่าเข้าทีจะดีกว่า ที่จะนอนฝันดายเดียวเดียวดาย.. ................... (ฝากให้อ่านให้จบนะคะ ด้วยรักชื่นชมศรัทธาล้นใจค่ะ) พุดไพร..สาวบ้านนา
5 ตุลาคม 2548 08:23 น. - comment id 523120
แด่..คุณกฤษณะด้วยดวงใจ ในงาน..^J^ ไม่กล้าเอ่ยคำว่า \"รักเธอ\" http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem41436.html ซ้อนอ้อนโอบพี่ขี่วัวไปทั่วทุ่ง! หอมดินเดิมดิบดิบหยิบแต้มฝัน หอมโคลนวันคลุกวัวควายใช้หว่านไถ หอมนมวัวกลั้วแกล้มยามเข้าใต้เข้าไฟ หอมริ้วเหลืองไพรละออละอองของโสนบาน.. หมวกสานแขวนไว้ใกล้น้ำเต้า ไล่วัวเข้าคอกได้เพลินเดินยิ้มหวาน กลิ่นแกงส้มตำราแก้วกรุงเก่ารอท้องบาน ส่งจูบหวานให้จันทร์เพ็ญเย็นฉ่ำใจ.. ลมชายทุ่งโบกโบยโปรยหว่านหวาน ราตรีบานทั้งกอล้อลมไหว ดอกพุดซ้อนซ่อนเสน่หาทายท้าใจ ห้ามหัวใจอย่าเด็ดดมชมแล้วลา.. กันภัยมหิดล..ม่วงขาวพราวอ่อนช้อย พันรัดร้อยช่อปลายกิ่งยิ่งหอมหา ลดาวัลย์พันเลื้อยนวลยวนนัยน์ตา กล้วยไม้ป่าเอื้องแซะหลวงรวงดอกพราว... นอนลอมฟางกลางทุ่งดาวรุ้งหอม กลิ่นพะยอมโชยมากับฟ้าหนาว นอนนิ่งนิ่งผิงไฟอุ่นแล้วนับดาว คิดถึงสาวบ้านนาลานกไพร.. กลับมาซ้อนอ้อนโอบพี่ขี่วัวไปทั่วทุ่ง กลับมานุ่งผ้าถุงดอกงามสดใส กลับมาเป็นหยาดน้ำค้างกลางหัวใจ ให้หนุ่มไพรหอมนวลพร่างมิห่างตา.. รัศมีจันทร์ทาทาบอาบโลมไล้ ทั่วชายป่าทุ่งทองส่องเรียวหญ้า แสงจันทร์ผ่องส่องงามเงียบทุกเวลา รักสาวนารักราวป่าซึ้งค่าคำ..ชนบทไทย..! สาวนา...
5 ตุลาคม 2548 08:39 น. - comment id 523142
^J^ ...หาแทบตายไม่เจอ..... ไม่ได้หา...กลับเจอ....
5 ตุลาคม 2548 09:14 น. - comment id 523200
สวัสดีค่ะ อ่านผลงานของพี่พุดไม่ผิดหวังค่ะ ได้รับสาระความรู้มากมาย ขอบคุณค่ะที่นำสิ่งดีๆมาแบ่งปันกับทุกคน
5 ตุลาคม 2548 09:56 น. - comment id 523246
โลกจะเกิดจะดับนับไม่ถ้วน กี่กระบวนการมีชีวิตอยู่ ดับเพียงคราวฝันเพียงคืน ชื่นเพียงดู เพียงชั่วครู่เกิดใหม่ใจดวงเดิม : )
5 ตุลาคม 2548 10:18 น. - comment id 523263
มาเติมฝันในวันอุ่น...ขอรับ
5 ตุลาคม 2548 13:36 น. - comment id 523378
เป็นงานที่งามมากค่ะ...ชื่นชมนะคะ..
5 ตุลาคม 2548 15:07 น. - comment id 523435
มาชื่นชมงานงดงามเช่นเคยค่ะ....ฝากฟ้าลาดิน......
5 ตุลาคม 2548 15:12 น. - comment id 523438
พี่พุดจ๋าขอดากอดทีได้ป่าวค่ะ...เหงาจัง.... คิดถึงมากนะค่ะ...คนงาม..งามทั้งใจและกาย...จุ๊บๆๆๆๆๆๆนี่แน่ตัวหอมจัง......
5 ตุลาคม 2548 20:48 น. - comment id 523627
ถ้อยรำพันที่น่าสงสาร... มาอ่านงานสวยแสนเศร้า..และมารายงานตัวว่าสบายดีค่ะน้องพุดที่น่ารักของพี่
6 ตุลาคม 2548 02:20 น. - comment id 523797
ฝาก..ทั้งตัว หัวใจ ใสพิสุทธิ์ ฟ้า..งามดุจ เสกสรร ให้ฝันหา ลา..กิเลส ตัณหาใด ตัดใจลา ดิน..และฟ้า ร่วมแรง ด้วยแสงธรรม