http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song569.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4867.html นกเขาไพรบนกิ่งชมพู่คู่คลอชายคา มาขันก้อง มาร้องเพลงเสียงแสนหวานใส ปลอบประโลมใจสาวนาแต่เช้าตรู่ ที่ดาวยังรุบหรู่เดือนก็ยังริบหรี่ในม่านฝน กมลสาวนาเลยแสนงามเงียบ สงบสุขเสียเหลือเกิน เหนือเตียงโบราณ ม่านมุ้งขาวพราวไสวกำลังระบัดโบก ด้วยสายลมฉ่ำโชยในยามเช้า มีดวงดอกลั่นทมพันธุ์ใหม่ *พันธุ์หอมแผกกลีบซ้อนอรชรกว่าเดิม เพราะมีกลีบเพิ่มเกินกว่าห้ากลีบ* ที่สาวนาเพิ่งได้มา.. และกำลังพากันผลิแย้มแต้มหอม..เศร้าหวาน ทั้งกอตระการหว่านกลิ่นฉมให้ชมให้ชื่นให้เชยไปทั่วทั้งลาน... ไหนจะ.... ลั่นทมสีขาวขลิบชมพู โคนดอกดวงหลืองละมุน ที่มีลักษณะพิเศษพิสุทธิ์ ตรงที่... จะหยุดดอกไว้แค่*แรกแย้ม* *ไม่ยอมบานให้หวานโรยเร็วอย่างสาวสะพรั่ง* ขอแค่ ตูมตั้งเต่งดอก...หลอกอวลมวลหมู่ภู่ผึ้งภมร... ให้หลงซึ้งซ่านหวานเสน่หานานแสนนาน... แล้วนั่น.... กุหลาบพันธุ์ใหม่....อีกนั่นแหละนะ ที่ชื่อว่า*กุหลาบพันธุ์บัวทอง* สีชมพูหวานพริ้งขอบกลีบหยิกหยัก ยึกยักแบบจะคลี่กรายดีหรือไม่..ละหนอละนี่ ราวบานไม่เต็มที่ หากให้พิศแปลกแหวกหวานออกไป ที่ในรอยใจสาวนา..ตราจำไว้มิเคยลืม ยามที่อ้ายจัดขันหมากมา และเคียงกุหลาบระย้ากลีบหวาน*คือแหวนหมั้น* อันแสนมากล้นค่ายิ่งใหญ่ ที่อ้ายบอกว่า คือแทนใจแทนร่างแทนรักนิรันดร์ แทนสวรรค์สวาทพลี ที่อ้ายใช้เวลานานปีเพื่อรอวันนี้ ที่อยากพลีภักดิ์วางแทบเท้าสาวนาไปตราบวันตาย ขอร่วมใช้ชีวิต..*ดั่งทองแผ่นเดียวกัน*.. และ... นับแต่นั้นมา สาวนาเลยลงดงกุหลาบกอ..ไว้มากพันธุ์ ทั้งพันธุ์ไทยพันธุ์เทศ ที่สาวนาจะมารำพันรำพึงให้ฟัง เมื่อถึงวันแสนซึ้ง..*วันแห่งความรัก* และ.... ทั้งหมดคือมาลัยขวัญ ที่สาวนานำดวงดอกไม้สวรรค์เคียงดิน มาร้อยมาถักมารัดเป็นพวงงามเข้าด้วยกัน เพื่อพลีกำนัลแด่ตัวเอง..ให้นิทราฝันดี ไปกับราตรีกาล ในม่านฝนมนต์ฝัน กับะระรินร่ำของบทเพลงไพร เสียงไรไรจั๊กจั่นพากันกรีดปีกประลองเสียงทั่วเถียงนา สาวนา...เพิ่งลง *รักแรก* แทรกกอไปตามริมคันนา* รอท่ากำลังจะบานสะพรั่งพรึบ แล้ว จะได้นำมาค่อยๆรวมร้อย กับดวงดอกดาวเรือง บานชื่น หงอนไก่ ปักแซมแต้มไปกับใบข้าว ให้งามพราวแบบดิบเดิมติดดิน ตามแบบสาวนา ผู้ชอบลีลาดอกไม้แบบไร้จริตมายา ที่น่าเสน่หาสวาทหวามกว่ากัน หากแค่ปันปรุงหยิบใส่ก็แสนสวยใสสดหวาน บริสุทธิ์ตระการแบบบ้านๆนานาแล้ว..ละนะ สาวนา จูบผ้าทอผืนเก่า...ที่ฉวยเอามาคลี่คลุมร่าง มิให้ไอฝนที่กำลังพร่างมานิดๆได้กระทบกาย เพราะสาวนาไร้อกอุ่นใครมาโอบกอดมากระซิบพลอดคำรัก ไร้ผู้พิทักษ์องครักษ์ใจ สาวนาจึงจำต้องใส่ใจในร่างราน มิให้หนาวพานพาป่วยไข้ ไร้หมอมารักษา ไร้ใครมาดูมาแล สาวนา..เหน็บหนาวแค่ไหน ก็ตัองเข้มแข้ง เพราะต้องใช้แรงแลกงานหาเงิน เพราะต้องทนทำนาหว่านกล้า ไถดายหญ้า ไหนจะวัวควาย ที่ดั่งเพื่อนตายเพื่อนยากที่ฝากผีฝากไข้ เมื่อสาวนาไร้คน ไร้ใคร ก็มีเพียงควาย เท่านั้น ที่เคียงใจเสมอมา ให้ระบายเหว่ว้า ให้หลั่งน้ำตาพลีบอกหยอกเล่น ยามเย็นหลังเสร็จงานนา ที่จะพากันไปอาบน้ำในบึงบัว กับฟ้าสลัวโพล้เพล้ กับเดียวดายจนเกินกว่าจะบอกใคร..แล้ว เช้านี้...สาวนาจึ่งดีใจ ที่นกไพรมาร้องเคียงใจ ขับขานเสียงหวานใสปานประหนึ่งนกโกกิลา ให้ใจสาวนาคะนึงหาอ้าย ที่หายไปนานแล้ว ราวดอกแก้วลาลานซ้ำแล้วเล่า ราวดอกโสนบานรอพ้อพร่างมากับหลายฤดูกาลเกี่ยวเก็บ ที่ใจจะหนาวเหน็บเจ็บปวดสักปานไหนก็ต้องอดทน...คอย สาวนา... ค่อยๆจูงควาย พาร่างย่ำรอยหยาดน้ำค้างฝ่าดงข้าวใหม่ ค่อยๆบุกฝ่าหนามไหน่คันใบข้าว ที่ค้อมพราวรวงเรียวระย้าย้อย ที่ห้อยรวงทองแทบถึงดิน..จนได้กลิ่นหอม หอม หอม จากย้อมยวง... สาวนา..จะไปอาบน้ำ ปล่อยร่างที่สล้างละออด้วยเนียนแดด ให้แฝงฝังในพรายชล ให้ละลนละลายกลายร่างราวนางไม้แม่เอย อย่างในบทเพลง ที่สาวนาชอบฟัง ที่คุณพร ภิรมย์ ร้องได้ล้ำในอารมณ์คำ...แสนดื่มด่ำใจ ที่ในห้องใจ สาวนายามนี้ กำลังอยากให้อ้ายมาร้องให้ฟังแทนเสียมากกว่า... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4867.html น้ำตาลาไทร.... พร ภิรมย์ ลาแล้วแก้วตา สัญญาให้ไว้ยังจำ บุญหนีบาปนำ พี่มาไม่เจอนวลนาง ทั่วถิ่น พนาตามหาหมดทาง เจ้าทิ้งสัญญาหรือนาง พี่อ้างว้าง อารมณ์ นางไม้แม่เอย ไยเฉยให้ช้ำวิญญา นวลน้องไม่มา ยิ่งพาอุราระบม หรือเจ้า เขาไพรบังไว้ซ่อนชม ข้าขอจอมไพรพนม ยอมสิ้นลมบวงสรวงจอมไพร เทพารักษ์ ร่มไทรสาขา อุ้มสมพานางน้องมา ให้ข้าเถิดหนาพระไทร มีน้ำตา ข้าหลั่งรินจากใจ ขอหลั่งไว้ ล้างเท้าเทวดา ขอหนุนตักนาง จนสางอรุโณทัย ยอมแม้สิ้นใจ เซ่นสรวงแด่ปวงเทวา คอยเจ้า แม้เงาไม่เห็นเจ้ามา พี่นี้มีเพียงน้ำตา รินหลั่งลารากไม้ไทรงาม เทพารักษ์ ร่มไทรสาขา อุ้มสมพานางน้องมา ให้ข้าเถิดหนาพระไทร มีน้ำตา ข้าหลั่งรินจากใจ ขอหลั่งไว้ ล้างเท้าเทวดา ขอหนุนตักนาง จนสางอรุโณทัย ยอมแม้สิ้นใจ เซ่นสรวงแด่ปวงเทวา คอยเจ้า แม้เงาไม่เห็นเจ้ามา พี่นี้มีเพียงน้ำตา รินหลั่งลารากไม้ไทรงาม... ................. สาวนาค่อยๆใช้มือลูบไล้ อาบน้ำให้เจ้าควายน้อยตัวจ้อยแสนรัก แล้ว กระซิบกับมันเบาเบา... คงไม่นานแล้วนะ อ้ายคงกลับมา อ้ายคงไม่ปล่อยให้สาวนาละห้อยหานานจนเกินรอ..ว่าไหม.. และ.... วันนี้รู้ไหมสาวนาตั้งใจว่า จะไปกราบพระธุดงค์ ที่ท่านมาปักกลดตรงเนินผาหลายทิวาราตรีแล้ว และ คิดว่าจะคลุกข้าวเม่าใหม่ให้หอมหวานไปถวายท่าน และ... จะกราบกรานให้ท่านเทศนาสอนใจ ให้สาวนาสาวไพร ได้พบปิติเกษมใจ ในความว่างกระจ่างสว่างสงบ เพื่อสยบรำงับ ดับทุกข์รักทุกข์รอ อ้ายคนดี ที่ สาวนานี้...ปรารถนาให้หมดเชื้อไฟใยฝันสวรรค์รอ หวาน ลมลมแล้งแล้ง ราวแกล้งลวง อีกต่อไป... สายฝนเริ่มโปรยไพร..หลั่ง..สั่งฟ้า ราวกับว่า จะได้ยินคำอธิษฐานภาวนาของสาวนา ...ในนาทีนั้น ราวฟ้าสวรรค์เมตตารับรู้ และ..... ให้คอยดูกันต่อไปว่า เจ้านกไพร... จะหวนคืนกลับมา สู่รังรักรังใจ สู่รังแห่งภักดี ยิ่งใหญ่ รังที่แสนเงียบงาม สงบสุขใจ ของสาวนานี้ฤาไม่.... ฤาว่า ...จักปล่อยให้ *กลีบดอกไม้ไหว...ณ..กลางดวงใจสาวนาร่วง... กระจาย...! .................................................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song569.html กุหลาบร่วง พรานบูรณ์ สาย ลม ผวน ทวน ไป ใจ ของ เรา หาย วาบ กลิ่น กุหลาบ เจ้า เอ๋ย นะ ก่อน เคย มี กลิ่น หอม ยั่ว ย้อม อา รมณ์ สาย ลม เชย เคยได้ดม ชื่น อารมณ์ เพียง ชั่ว คืน คิด ไป ใจ หาย กุหลาบ กลาย ไป เป็น ของ เขาอื่น ปลูกเอาไว้ หวัง ใจ ว่าจะได้ชื่น สู้เร่งวัน เร่ง คืน มิทันได้ชื่น สิ กลับต้องช้ำ สาย ลม หวน ทวน มา พา หัว ใจ ให้ จำ เมื่อ กุหลาบ แตก ช่อ นะ ก่อ เป็นกอ ระกำ สุด จะ ช้ำ วิญ-ญา สาย ลม เชย รำเพยพา กลิ่น เอา มาให้เรา ดม เดี๋ยว นี้ ซิ หนอ ยังสู้แตกกอ เอาไว้ให้ ชื่น ชม สุดเสียดาย เขาเด็ดดอกเอาไปดม อก เรา ต้องระทม เพียงต้อง สาย ลม ยังเร รวน สายลม หวน ครวญ เสียง แม้น เพียง เรา ครวญ กลีบ กุหลาบ ที่ เหลือ นะ เชื่อ ใจ ว่า จะ หวน ทวน สาย ลม มา สาย ลม เชย เคย ได้ พา กลิ่น เอามา ให้ชื่น ใจ คิด ไป แสน ห่วง กุหลาบ ร่วง ช่อ แห้ง ติด ใบ เถอะ จะสู้ รด น้ำ พรวนดินไว้ ช่อ ที่ แห้ง ติด ใบ ช่อนี้เอาไว้ ให้ ชื่น บาน...
5 สิงหาคม 2548 12:27 น. - comment id 500183
นกเขาไพรกู่รักสมัครสมาน กระจาบขานรับสนั่นหวั่นไหว กระจอกร้องเจี๊ยบจาบวาบทรวงใน แต่สาวไพรนาหวนมาทวนรัก. เจองานของกวีก้าวสู่งานระดับชาติต้องผวาเข้าอ่านทุกครั้งเลยเรา แก้วประเสริฐ.
5 สิงหาคม 2548 12:49 น. - comment id 500212
มาอ่านของพี่พุดค่ะ.......ทำให้คิดถึงเพลง ใจพี่หายวาบ........เหมือนเห็นกุหลาบกลีบกระจาย ให้แสนเสียดายนัก.........อิอิอิ........จำได้นิดหน่อยแต่เพลงนี้เพราะดีนะค่ะพี่พุด.........
5 สิงหาคม 2548 13:16 น. - comment id 500239
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song352.html กุหลาบในมือเธอ ..ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ใจพี่ หาย วาบ เมื่อเห็น กุหลาบกลีบ กระจาย จำกลิ่น ได้คลับคล้าย ว่าดอกที่ ถือ ในมือเธอ พี่เพ้อ ขอมานาน เจ้าให้ หลัง พี่ เพราะเจ้ามีที่ ต้องการ แต่ว่า เดี๋ยว นี้ ดอกถูกขยี้ ทิ้ง กระจาย พี่แสน จะเสียดาย เพราะไปหมายอื่น ให้เขาชื่นชม เขาดมเล่นแล้วทิ้ง ผู้ที่ หวัง จริง ก็เลยต้องยิ่งหัว ใจลาญ ใจพี่ หายวาบ เมื่อเห็นกุหลาบ กลีบกระจาย จำกลิ่น ได้คลับคล้าย ว่าดอกที่ถือ ในมือเธอ พี่เพ้อ ขอมานาน เจ้าให้ หลัง พี่ เพราะเจ้ามีที่ ต้องการ แต่ว่า เดี๋ยว นี้ ดอกถูกขยี้ทิ้ง กระจาย พี่แสน จะเสียดาย เพราะไปหมายอื่น ให้เขาชื่นชม เขาดมเล่นแล้วทิ้ง ผู้ที่ หวัง จริง ก็เลยต้องยิ่งหัว ใจราญ...
5 สิงหาคม 2548 13:44 น. - comment id 500254
พี่พุดคะ...ไพเราะจังคะ อยากเข้าไปสัมผัสกลิ่นหอมของดอกลั่นทม และอยู่ท่ามกลางหมู่ดงดอกกุหลาบ ให้นานเท่านานเลยคะ ถึงฟ้าจะกั้น ให้ฉันและเธอ ไกลกันสุดตา หรือว่าภูผา ทอดยาวขวางหน้า บังตาแค่ไหน แม้มีทะเล เหลือหยั่งคะเน มากั้นเราไว้ อย่าได้ตกใจ ถึงห่างแค่ไหน ก็ไม่สำคัญ อำนาจใดใด ที่ในโลกนี้ ไม่มีความหมาย แม้แต่ภูผา ก็อาจทะลาย มิอาจขวางกั้น รักเรามีปีก บินหลีกข้ามฟ้า ไปมาหากัน ขอให้รักฉัน แน่นอนเท่านั้น ฟ้าดินเกรงกลัว
5 สิงหาคม 2548 16:43 น. - comment id 500318
โอ้โห้ หนาวเลยค่ะ เจอผลงานชั้นครู เยี่ยมยอดจริงๆค่ะ อยากเรียนรู้คงต้องติดตามไม่ให้ขาดซะแล้ว ชื่อเรียกกันเล่นๆของคนภาคเหนือค่ะ
5 สิงหาคม 2548 19:42 น. - comment id 500347
กำลังเพลินเรื่องราวชลธี ธารทอง..... ได้อ่านสาวบ้านนา คนบ้านนา....ยิ่งน้ำตาลาไทร ให้คิดถึงเสียงครวญสาวน้อยบ้านนาทั้งหลายในมุมห้องที่มีเสียงเพลง ความสุขประสายากราคาถูกวึ่งชื่นชอบเพลงนี้กันมาก ..... เสียดายที่ตอนนี้ต้องพักกายพักใจกับที่...มีคนบ่นให้ว่าต้องหยุดชีวิตเสเพลบ้างน่ะ...อะไรจะขนาดนั้น ไร้กาลเสียจริง ไม่มีทั้งทิวาราตรี...ไปได้ตลอดอย่างไรในที่แบบนั้น.. มิฉะนั้น คงได้ร่วมขับขานเสียงเพลงประสายาก ประสาสุขแบบสามัญกัน ได้แต่จมกับความคำนึงและดื่มด่ำกับครูพรานบูรพ์ที่ไพรวัลย์ มาร้องไว้หลายเพลงแทน ... .....เคียงเรียม ก็หวนละห้อยหาไม่เบานะครับ... แวะมาอ่านครับ.............