http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4858.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song718.html ท่ามฝนพรำเม็ด ไพลเจตนาเดินฝ่าละอองฝน ไปเด็ดดวงดอกการะเวก ที่กำลังหวานบานพราวเต็มต้นมาเต็มตะกร้า และ นำมาวางไว้ในทุกจุด ที่จะพร่างพาให้อวลกลิ่นหอมงามในท่ามคืนนี้ ให้นอนนิทราหลับฝันดีไปกับเสียงสายฝนพรำพรม ไม่เว้นแม้ในห้องน้ำ... ที่ไพลกำลังซุกร่างในอ่างอาบน้ำ พร้อมแลลอดทอดตา ไปจากกระจกรายรอบที่เปิดเปลือย ให้ก้านกิ่งการะเวกเขียวใสเลื้อยพัน มาพร่างใจมาพร่างรินอย่างมิสิ้นงาม ในยามอยากหวามไหว ไพล แหงนเงยเห็นนกยักษ์สีเงินบินผ่านหลังคาบ้านไป ให้หัวใจดวงรานร้าว ไหวกระตุกเมื่อรำลึกนึกถึงใครบางคน ที่กำลังคงลอยล่อยท่องอยู่บนฟ้าราวนางฟ้าแสนสวย ไพล.. รินน้ำตา พร้อมกับได้ยินบทเพลงเหว่ว้า แห่งตะวันลาตะวันตกดิน ที่ไพลชอบถวิลฟังยามคิดถึงบ้านเกาะ และ ยามเหงาเงียบลำพังดายเดียวในดวงใจมานานวันมานานปี ที่ไพลนี้ชอบเปิดฟังซ้ำๆซากๆ ให้ฝากรอยใจย้ำในรอยเจ็บทุกเรื่องราว ราวบัดนี้ที่กำลังอยากพลีอุทิศให้สายน้ำ ที่กำลังสนิทแนบร่างและนวลใจ ได้พร่างไหวพัดวนทุกพายุร้าย ที่หมายมากรายกล้ำฝากทำร้ายให้ผันผ่านไป ไม่มีวันหวนคืน และ ปล่อยให้ไพลทิ้งร่างใจลงใต้สายน้ำอุ่น ที่ยินดีเปิดให้พบโลกละมุนแห่งสายน้ำรักนิรันดร์ ปลอบประโลมขวัญและเรือนร่าง ราวมิร้างแรมลามิลาแรมไกลมิไหวห่างรัก ให้ไหลเต็มอ่างนานๆครั้ง เพราะ.. อยากให้สายน้ำเป็นดั่งพลังสดฉ่ำ ที่ไพลจะได้ฝากฝังทุกเรื่องราว ที่ซ่อนซุกเหน็บหนาวได้คลี่คลาย อย่างไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอ..แพ้พ่ายใจ ที่ยังมีนวลใสรู้เจ็บปวด ที่นานๆครั้งร้าวรวดรานรุกจะมาบุกจู่โจม มาโหมให้หนาวแสนหนาวจับจิตจับใจ แม้น เพียงแค่ความคิดชั่วครู่ชั่วคราว เมื่อน้อยใจลิขิตชะตากรรมมากมาย ที่ผ่านมากรายกล้ำ มาตอกย้ำพิสูจน์ความมั่นคงหนักแน่น แห่งใจดวงดินดวงเดิมดวงดีนี้ ที่เพียรฝึกพลีให้หยาดน้ำใสแห่งรสพระธรรม มาคอยนำทางมาพร่างรินใจอย่างยาวนาน ว่าจะพานพ่ายแพ้ต่อเกมชะตาหรือไม่ หรือใจดวงเพชรดวงใสดวงอัญมณีไพร จะยังคงมิด้อยแสง ด้วยแรงรักปรารถนาดี ที่อยากพลีหอมหวานหวังเป็นดั่งพลังใจ ดั่งรักร้อยสร้อยแสงใสไสวฝันอันจักฉายฉาน เปล่งประกาย อย่างมิรานแรงราโรยมิน้อยใจ รู้รับมือกับทุกข์ผัสสะหวามไหวหวั่นหวาดอย่างองอาจอย่างทรนง ไพล ยังคงได้ยินเสียงนักร้องในดวงใจ กำลังครวญคร่ำ ราวกำลังรู้ใจดวงใจไพลว่ากำลังร่ำร้องตาม ในยามนี้ณ..นาทีนี้ *ตะวันตกดินเฝ้าถวิลมิสิ้นอาลัย ครวญหาเหว่ว้าดวงใจไม่มีใครคู่เคียง ฉันกลัวความเหงามันปวดร้าวขื่นขม ยามค่ำคืนระทม หักอารมณ์เหลือข่มใจ* **************** ภาพตะวันตกดิน หลายหนแห่งที่ทาง กลับมาย้อนรอยพร่างในมโนนึกในยามนี้ ภาพตะวันตกดิน... เหนือนาข้าวพราวพร่างอาบด้วยสีทองทาบทา แถวสทิงพระ เมื่อยามไพลยืนเหว่ว้าดายเดียว ดูหวานพราว จากใต้ต้นลูกจันทน์ผ่านดงตาล จากวัดพะโต๊ะเหนือยอดเนินในโพล้เพล้หนึ่ง ให้แสนซึ้งซาบใจ ยามไปเยี่ยมพระบวชใหม่นานมา ภาพตะวันตกดิน... ยามที่ไพลเคยนอนนิ่งสิ้นหวังสิ้นฝัน บนเนินผาสูงอย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวร้าง ที่เกาะเต่าให้สายฝนห่มร่างจนหนาวเหน็บ และแลละลิบเห็นสายฝนพร่างพราย ราวทะเลถูกห่มด้วยดวงดอกไม้แสนหวานตระการ ที่ค่อยๆคลี่แย้มแต้มแตะน้ำผืนน้ำ ขยายเป็นวงกว้างออกไปๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ภาพที่ไพลมุดตัวในน้ำทะเลแสนอุ่นใส ในหมู่เกาะพีพี เฝ้าดูฝูงปะการังโลกสีน้ำเงินแสนงามอย่างมหัศจรรย์ ภาพที่ ไพลขับเรืออย่างดายเดียว จากฝั่งฝันไปกับเกลียวชลน้ำจรดฟ้า ไปดูพรายพระอาทิตย์ใกล้ลาลับฟ้า ฝากแสงสีทองทาบอาบทา ราวรัศมีรุ้งที่สวยระยับตา หากทว่าไยใจไพลในเวลากลับแสนเศร้าใจ เมื่อมองเห็นฝั่งชีวิตดั่งสัจจะธรรม ที่ไม่ทราบว่าวันไหน... ลมหายใจเราอันแสนสั้นจะลับลาตามตะวัน และ นั่นคือวิวอันวะวิบวับ ที่งามจับตาพาซึ้งโศกสะเทือนใจ หนึ่งในฉากหนัง *เรื่องที่พระเอกเจมส์บอนด์เคยมาถ่ายทำ ที่เมืองไทยและเป็นฉากไล่ล่าผู้ร้าย* ที่น้องชายชาวเลชาวเรือเล่าเคยให้ฟัง ซึ่งคงให้ความรู้สึกผิดกันไม่ตื่นเต้นเร้าใจ หากรันทดไปกันราวคนละเรื่องละรสกับทุกบทบาทในชีวิตจริง ภาพ ที่ไพลนั่งเคเบิลคาร์ พาร่างใจไปนั่งดูพระอาทิตย์ดวงสีไพล ลอยระเรี่ยน้ำทะเลร่ำลา และ ดูไฟจากเรือสินค้าเรือเดินสมุทรลำใหญ่ที่อ่าวสิงคโปร์พริบพราว เคล้าคลอใจคนไกลบ้านอย่างเงียบเหงาหากให้งาม และภาพ... ที่ไพลนั่งบนไหล่ผาท้าตะวันสีทองที่ภูเก็ต กับร้านที่ชื่อ*สรวงสวรรค์* กับแสงเทียนพร่างพริบพรายพราว ราวสายแสงเพชรที่แสนวะวิบวับวะวูบไหว หากใจไพลยังคงนิ่งงัน ไร้ฝันใด ขวัญใจ ไร้ใครเคียงเคลียคลอ และ กับภาพสุดท้ายไม่นานนี้ ที่วัดไชยวัฒนาราม ในท่ามแสงฟ้ายามตะวันลาตะวันลับ กับฉากราวเรื่องสไบนวลสไบนาง ที่ไพลฝากรจนา และ หวังกลับไปเดินในท่ามลานลีลาวดี พลีเก็บเกี่ยวทุกรอยรักรอยทรงจำตอกย้ำรอยใจรอยอาลัยลา ให้รู้วางว่างเหว่ว้ารับเงียบงาม จากสายธารธาราทอง ธารน้ำใจ*สายใจเจ้าพระยา* ที่ระรินไหลละล่องไปอย่างช้าช้าราวฝากรอยย้อนรอย อย่างสอนใจว่าไม่ว่าเรื่องราวใด ที่ผูกพันรัดร้อยดั่งสร้อยโซ่รักทุกพันธนา จักไม่หวนคืนกลับมา อย่างตรงข้ามกันกับตะวันตกดิน ที่ยังคงถวิลจงรัก ขึ้นตรงต่อฟ้าหมุนวนกลับมาใหม่ ให้เริ่มต้นใหม่ อย่างไม่มีวันที่สิ้นสุด จนกว่าโลกจะหยุดหมุนไปพร้อมพร้อมกัน หากทว่ากับดวงชีวันชีวินเรา...มวลมนุษย์ทั่วหล้าทั่วหน้า ต่างพากันรอวันตะวันลาในดวงใจ ที่จำจักพรากลาไปแบบไม่หวนคืนเฉกเช่นนั้น.. ..................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4858.html ตะวันลับฟ้า... แสงสุริยาจวนลาเหลี่ยมโลก ลมเย็นไผ่เอนไหวโยก ลมโชยโบกพัดพริ้วลิ่วมา จักจั่นเรไร หริ่งร้องก้องพนา จวนสิ้นแสงสุริยา ประหนึ่งว่าดนตรีสวรรค์ แสน สุดเสียดายมองไปใจเต้น ยามเมื่อตะวันเย็นๆ เคยว่ายน้ำเล่นเคียงคู่ร่วมกัน ตะวันลับฟ้าเสียงน้ำซัดซ่า ไหลเซาะลำธาร เคยเด็ดดอกบัวสาบาน เห็นทุกวันแล้วเศร้าใจ โอ พี่จ๋า พี่ เอย ลืมง่าย จังเลย เปลี่ยนคู่เชยโอ้ใจหนอใจ ลืม สัญญาที่เคยว่าไว้ กอดหมอนนอนเดียวดาย คิดถึงแทบตายน้ำตาไหลริน เห็น หมู่นกกาถลาลมล่อง จับคู่จู๋จี๋ประคอง เหมือนพี่กับน้องเคยร่วมอยู่กิน ตะวันลับฟ้า พี่จ๋าน้องเฝ้าถวิล จะคอยจนชั่วชีวิน ตราบชั่วฟ้าดินน้องลืมไม่ลง โอ พี่จ๋า พี่ เอย ลืมง่าย จังเลย เปลี่ยนคู่เชยโอ้ใจหนอใจ ลืม สัญญาที่เคยว่าไว้ กอดหมอนนอนเดียวดาย คิดถึงแทบตายน้ำตาไหลริน เห็น หมู่นกกาถลาลมล่อง จับคู่จู๋จี๋ประคอง เหมือนพี่กับน้องเคยร่วมอยู่กิน ตะวันลับฟ้า พี่จ๋าน้องเฝ้าถวิล จะคอยจนชั่วชีวิน ตราบชั่วฟ้าดินน้องลืมไม่ลง... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song718.html เดียวดาย สุเทพ วงศ์กำแหง ขวัญ เอ๋ย เคยภิรมย์ชิดชื่น สุขสันต์ หลง เพ้อฝัน รักมั่น มิทันจะเนิ่น เธอ เมินหมาง โอ้ อ้างว้างอารมณ์ ฤดี เหมือนโนรี จากคอน หลงรังนอน ลืม พี่ เหมือนชีวี เดียวดาย เอกา โอ้ ดึกเดือนคล้อย เดือนเจ้าจะลอย จากตา มอง นภายังเห็นดารา เรียง ราย เหลียวหา จนทิวาโฉมเจ้า แล หาย หรือ รักแล้วแหนงหน่าย รักเอ๋ย ลืมง่าย ใย เมินเฉย โอ้ ใจเอ๋ยใจเลย แรมรอน ฉันยังจำ ติดตา ทุกทิวาคืนก่อน เหลืออาวรณ์ใจเอย ค่ำลง โอ้ ใจสะท้อน จะหลับจะนอนพะวง ลืมไม่ลง มันเหมือนมีมนต์ ดล ใจ...
25 มิถุนายน 2548 23:11 น. - comment id 484345
Reกลอนของคุณพุด ที่นำไปฝากให้ช่อชงโค เด็ดพุดซ้อนอ้อนน้ำค้างเสียบข้างแก้ม แล้วก็แย้มยิ้มรับกับเช้าใหม่ คิดถึงคนแสนรักในดวงใจ แล้วดอกไม้ในหอมใจก็ไหวบาน ตระการแก้วพร่างพราวราวสายรุ้ง จรัสรุงมีใครหนอพ้อคำหวาน ทุกทิวาราตรีปีผันผ่าน ดั่งบัวบานกลางบึงกว้างมิร้างรัก หยาดน้ำค้างดั่งเพชรพรมห่มให้ชื่น ปลุกให้ตื่นฟื้นมาสู้นะยอดรัก โลกเรานี้มีโศกสุขคลุกเคล้าหนาวเหน็บนัก ร่มพุทธพักรักษาใจหยาดน้ำใสอมฤตธรรม ทางสายงามทอดยาวเคล้าธรรมชาติ ทางสะอาดแสนว่างกลางชีพร่ำ ชีวิตเราแค่ลมหายใจมาใฝ่ธรรม เลิกสร้างกรรมทำความดีพลีมอบรัก เมตตาทุกดวงใจณ.ตรงหน้า ทุกเวลาอภัยใจแน่นหนัก รู้การให้ต่อสายใยสายใจภักดิ์ คือสลักแห่งงามตามตรึงใจ ไม่มีเขาไม่มีเราไม่มีร่าง ทุกสิ่งว่างมาเพียงพบแล้วหลับไหล ในนิรันดร์สวรรค์ชั้นฟ้าวิมานใจ ทิพย์นิรมิตใดไหนเล่างามเท่านี้ งามดวงใจจิตวิญญาณเพียงผ่านหล้า มิหลงฟ้าหลงฝูงมายาสี บินเหนือโลกโบกใบบุญนะคนดี เพียรพร้อมพลีจิตร่างกลางธารธรรม.. ลมหายใจเหลือน้อยค่อยหรี่ดับ ราวตะวันรอลับฟ้าในยามค่ำ โลกชีวีหมุนเวียนชดใช้กรรม อย่ารอทำความดีพลีผองชน..กมลเรา...!!!! ......... พุดค่ะคุณช่อ อุษาสวาทสว่างอีกคราแล้วค่ะ นาทีนี้นภานภางค์สว่างกระจ่างแจ่ม ด้วยไรเมฆแสนหวานแสนสวยค่ะ พุดเด็ด*ดอกพุดซ้อนเสี่ยงทาย* ที่.. คนไกลอยู่ถึง *ครีบแลนด์แดนดินแห่งความฝัน* มาขยันปลูกกอ หวังแตกช่อรอรัก ผลิหวานบานตระการพราวค่ะ ใกล้ร่มรักเรือนจำปี ที่ทุกทิวาหวาม จะมีนกเขาไพรมาขันปลุกพุดทุกเช้าค่ะ นี่ก็ยังไม่หยุดขันหวานแว่วอยู่เลยค่ะ และ พุดตัดใบตอง ที่อวบงามเกินงามค่ะ เก็บไว้ มาไว้รองจานจัดโต๊ะอาหารค่ำคืนนี้ค่ะ พุดก็อดช้อนชำเลือง ทอดนัยน์ตาดูตำลึง ของชาวสวนหลังบ้าน ที่ยังมีบึงเล็กๆมิได้ ที่ยังมีกอไผ่ ใบหญ้า เป็นธรรมชาติตาให้สุขธรรมดาใจมากค่ะ และ.. บัดนี้พากันเลื้อยไสว ทอทอดยอดพร่าง มาพันถึงรั้วบ้านพุดแล้วค่ะ งามมากกกก งามใส ที่ทอดห้อยพวงใบ ใสใสเขียวไพลละอออ่อน หยักย้อยร้อยรัดรึง ตรึงใจพุด ที่รู้สึกแสนสวยมากค่ะ อธิบายยากจัง อิอิ อ่านงานคุณช่อ ที่แสนมลังเมลือง แสนประเทืองประทับใจ และ ช่างแสนประณีตละเมียดละไมละมุน หอมกรุ่นในดวงใจเป็นยิ่งนักแล้ว และ ราวพลังสายแสงอาทิตย์อลังการ มาพรายพร่าง ราวเรียวรุ้งฉายฉานพุ่งพราว ผ่านม่านเมฆ มาจากฟากฟ้าแคว้นแดนไกล และ พาให้กระทบดวงใจพุด พาให้คิดถึงและด้วยความรักคิดถึงซึ้งใจ พุดพัดชา ( 7 June 05) ................................. 25 June 05 สวัสดีค่ะ คุณพุดที่รัก.... กลอนบทนี้ สวยงามและประทับใจมากที่สุด ช่อชงโค ได้คลิกเข้าไปหน้าส่วนตัวและบันทึก ไปเก็บไว้ในเครื่องคอมค่ะ..แล้วมือเจ้ากรรม พลาดไปกดปุ่มลบ มันเลยวูบไปหมดทั้งขบวน ตอนนี้นำกลับมา จากที่อยู่ในเครื่อง จารึกไว้เป็นความทรงจำค่ะ เพื่อบอกคุณพุด ว่า จะท่องจำบทกวี ของคุณพุดนี้ไว้แสนนาน เหมือนกับที่ ช่อชงโค รักเพลงอยู่เพลงหนึ่ง คุณพุดต้องรู้จักแน่...(เพราะเป็นเจ้าแม่เพลง) .........เพลงนั้น ต้องให้นักร้องชายเสียงเข้ม เต็มพลังเปล่งออกมา โดยไม่ประกอบดนตรี จะมีความหมาย ลึกซึ้งหาใดปานค่ะ... เพลง ที่ขับขานว่า To Dream the Im-pos-si-ble Dream.... บทที่ชอบมากสุด ค่ะ To Fight the Un-beat-able Foe และท่อนที่สำคัญทรงพลัง ไม่มีวันลบลืมได้ To Reach the Un-reach-able STAR.... ............ ............... ตาวันอาจคลาดลาฟ้าทิวานี้ ฝากฝันดีเอาไว้ให้หวนหา อรุโณทัยระยับ จักกลับมา เป็นสัญญาที่กล้าแกร่ง..แห่งตาวัน... ช่อชงโค สวัสดีค่ะ
25 มิถุนายน 2548 23:50 น. - comment id 484353
มาเยี่ยมครับ สบายดีนะครับ
26 มิถุนายน 2548 00:05 น. - comment id 484358
ตะวันลับฟ้า แต่ว่าใจไม่ลบเลือน
26 มิถุนายน 2548 08:52 น. - comment id 484393
ตะวันลับฟ้า...เพื่อรอคอยวันใหม่.... **แวะมาทักทายครับผม
26 มิถุนายน 2548 09:38 น. - comment id 484406
แวะมาเยือนพุดพัดชายามฟ้าแจ้ง สีแสดแดงฉาบทาใบหน้าสวย อยู่โดดเดี่ยวไม่มีใครนั่งด้วย อยากจะช่วยเป็นเพื่อนใจให้คลายทุกข์ น่าต๊กกะใจเมื่อมีคนจัดให้เข้าทำเนียบคนเจ้าชู้ด้วย อิอิ
26 มิถุนายน 2548 12:33 น. - comment id 484465
..ภาพและบทกลอน..งดงามด้วยดิคะ.. เรน.. อยากจะเป็น ..น้องสาวพี่พุดไพลจัง.. ได้พบ .. และสัมผัส.. โลกที่งดงาม.. ..ขอเรน.. นั่งใกล้..พี่พุดไพล..นะคะ.. .. อบอุ่น..จัง..
26 มิถุนายน 2548 13:22 น. - comment id 484487
.. บทนี้ผมอ่านนะครับ แต่อ่านไม่จบ ก็พี่พุดเขียนยาวอ่ะ ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง พึงจะมีความขี้เกียจเป็นสรณะ ก็ผมรู้ คนเขียนก็อยากให้คนอื่นอ่านงานของตัวเอง ไม่ใช่แค่ผ่านๆ แต่ผมก็บอกแล้ว ผมเองก็ใช้เน็ตแป๊บๆ ไม่มีเวลา ยิ่งช่วงนี้ มีงานเรียนก็เยอะ เยี่ยมได้ก็เยี่ยม คือถ้าพี่พุดบังคับให้อ่าน และมักจะน้อยใจ มันจะทำให้ผมไม่กล้าเข้าเยี่ยมห้องพี่ด้วยซ้ำ ผมคิดว่า ถึงผมไม่ได้อ่านหมด ผมก็บอกพี่พุดแล้ว ถึงดอกไม้เพียงดอก ก็ขอให้พี่พุดคิดว่าผมให้ด้วยใจ เอาไว้ผมมีเวลาว่างจริงๆ(อันนี้คงยากต่อไปคงจะหายๆหรือยังไงก็คอยดูก่อน) ก็แค่นี้ล่ะครับ
26 มิถุนายน 2548 16:48 น. - comment id 484567
ขอบคุณพี่สาวมากมายมหาศาล สำหรับกำลังใจที่ให้มาตลอดค่ะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ... แม้มิตรภาพจะเกิดเพียงแค่โลกไซเบอร์ ... แต่ก็ยิ่งใหญ่และทำให้มีกำลังใจจริง ๆ ขอบคุณค่ะ
26 มิถุนายน 2548 20:19 น. - comment id 484699
อย่างพี่พุดหาใช่ตะวันลับฟ้าไม่ หากแต่เป็นดาวรายกระมัง ระยิบระยับทั้งห้วงหาว
27 มิถุนายน 2548 10:57 น. - comment id 484863
คุณช่อคะ.... ไม่เป็นไรค่ะคุณช่อ และ ขอบคุณที่ให้กำลังใจนะคะ หวังรจนางามงามใจออกมา อย่างมิขาดสายนะคะ มาพร่างรินน้ำใจใสหยาดเย็นแด่ทุกดวงใจน้องพี่ในร่มรักนะคะ และ ไม่ว่าจะอยู่สุดหล้าฟ้าดินที่ไหน พุดก็หวังให้หัวใจคุณช่อ ดวงดวงไทยดวงทองดวงผ่องผุด ก็คงจะยังประโยชน์ แด่ผองชนบนผืนดินแม่มาตุภูมิเสมอไปค่ะ ด้วยรักล้นใจนะคะ และขอพลีกำนัลด้วย บทเพลงแห่งความรักไม่รู้จบค่ะ นะคะ ถึงจะอยู่สุดหล้าฟ้าดิน แม้จะสิ้นสิทธิ์และเสรี แต่วันนั้น ใจฉันยังคงที่ ความรัก ความภักดี ไม่มีสิ้นสลาย ถึงโลกแตกแหลกเป็นผงคลี รักเต็มปรี่ ไม่มีรู้คลาย ชีพถูกฝัง ความรักยังเวียนว่าย เคียงคู่เธอมิคลาย ฝากวิญญาณ ไว้เตือน ด้วย ความรักไม่รู้จบ แม้ผืนดินกลบ ยากเพราะความรักเลือน จะเนิ่นนาน กี่วันกี่ปี กี่เดือน ดินฟ้าจะคล้อยเคลื่อน ใจมิเลือน รักเธอ ทุกทุกอย่างบนทางรักจริง ทุกทุกสิ่งบนทางรักเธอ จะสมหวัง หรือพบความเพ้อเจ้อ เป็นที่ใจของเธอ จะจริงจังฉันใด ทุกทุกอย่างบนทางรักจริง ทุกทุกสิ่งบนทางรักเธอ จะสมหวัง หรือพบความเพ้อเจ้อ เป็นที่ใจของเธอ จะจริงจังฉันใด... คุณตะวันลับฟ้า... นานมากที่ตะวันดวงนี้ลับลาพรากไป ให้ตะวันในนวลใจพุดพัดชามืดมน เหว่ว้าด้วยไม่ทราบว่า แท้จริงคุณคือใครกันแน่ จนวันนี้..... เพราะ ถึงนาทีนี้ คุณก็แค่มาพรายแสงให้ใจดวงขากน้ำรักแล้งไร้ได้เพียงแลเหลียวชะเง้อหาค่ะ และ มิอาจทราบว่าจะรอท่านานแค่ไหนคุณถึงจะ มาปรากฎอีกครั้งบนฝั่งฟ้าฝั่งใจ น้องไอซี่คนดี ซึ้งใจมาก ใช่เลยค่ะ ตะวันยังมั่นคงตรงต่อฟ้าเสมอ ไม่ว่าจะกี่พายุร้ายกรายกล้ำพัดผ่านมาค่ะ และ ไม่ว่าจะสักกี่ฤดูกาลผันผ่านไปค่ะ คุณบินดี่ยว... ใช่ค่ะและภาวนาให้คุณโชคดีนะคะ มีปีกใหม่แข็งแรง ได้บินไปพบพรายแสงจันทร์แห่งรักค่ะ เอาใจช่วยนะคะ ฤกษ์คะ.... จริงสินะ พุดพัดชา. ไม่มีหัวใจรักใครทั้งนั้นแล้ว มีเพียงหันหน้าเข้าวัดค่ะ เพราะเบื่อโลกเต็มทน หากมีหน้าที่พันธนาที่หนีไม่พ้น จึงต้องทนทำไปให้จบๆค่ะ น้องเรน... ยินดีค่ะ และ สำหรับพี่พุด อยากกอดน้องสักครั้ง อย่างแนบแน่น เห็นหน้าน้องคนสวยใสใจงาม นานๆในโลกจริงจะมีบุญมั้ยนี่ ดอกข้าว.. สั้นๆ ไม่มีเวลาไม่ต้องอ่านค่ะ พี่พุดแค่เย้าแหย่ โลกนี้ทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกทำ ที่แกล้งอำแกล้งกระเซ้าก็ด้วยรัก เพราะ หากชีวิตนักเขียน ต้องบังคับให้คนอ่าน คงต้องพิจารณาวางปากกาแล้วค่ะอิอิ และ พี่พุดก็ว่ายวนมานานมากแล้ว ในเวิ้งโลกฝันบรรณพิภพ จนชักอิ่มตัวอิ่มใจแล้วละคะ และ อย่ากลัวเลยว่า จะมีใคร บังคับให้น้องอ่านงานไปนานๆนะคะ สักวัน... ไม่นานนี้ ที่พี่พุดอาจยอมพ่ายวางปากกาค่ะ ลาจอลาใจ ลาจากไปจากทุกดวงใจ ที่แสนรักในร่มรัก ไปตราบนานเนานิรันดร์ค่ะ เพราะ ทุกชีวีและทุกช่างมี ชีวิตและลมหายใจอันช่างแสนสั้นนัก ที่เพียรเพียง มาฝากฝันมาปันน้ำใจรัก มาปันหอมงาม มาไหวหวาม มาฝากรักพลีปรารถนาดี ก็ด้วยพลังแห่งรัก ที่นับวัน แสงตะวันแห่งใจจะรอลาลับพรากไปราวตะวันลับฟ้าเช่นกันค่ะ น้องซอนย่า...... สำหรับพี่พุดรักทุกดวงใจอย่างไม่รู้จบค่ะ โดยเฉพาะ เพื่อนพ้องน้องพี่ มิ่งมิตรคนรักรจนาบทกวี ที่รักจะสานฝันปันใจ ทำในสิ่งเดียวกันค่ะ อย่างอยากโอบเอื้อให้ไออุ่นจากอ้อมขวัญปันรักมิรู้สิ้นรู้จบค่ะคนดี พระระวี.. ซึ้งใจมาก คิดถึงมาก อยากอ่านงามงามธรรมชาติ จากดวงใจ แสนดีแสนใสซื่อ แสนสุภาพบุรุษนะคะน้องชายคนดีที่รัก ด้วยรักล้นใจอย่างมิรู้สิ้นรู้จบค่ะ ทบทวีคูณพูนเพิ่มตามกาลเวลา จาก แม่ดวงพุดไพร ใจดวงดายเดียวดวงดินดวงเดิมค่ะ