**.. เมื่อก่อนนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบและอยากที่จะรู้ว่า "คนเราตายแล้วไปไหน" มันเป็นคำถามเดียวและคำถามเดิมๆกับที่หลายๆคนอยากจะรู้... ผมอ่านหนังสือบ้าง ฟังคนเล่ากันมาบ้าง... "ตายแล้วไปสวรรค์ ตายแล้วไปนรก" "มียมทูต มีเทวดา" "มีวิมาน มีความสุขมากมาย" มันเป็นภาพที่ฝังใจหลายคน มีหลายคนเช่นกันที่ใฝ่ฝันชีวิตหลังความตายว่า จะไปอยู่ที่ที่มีแต่ความสบาย ผมชอบมากกับการหาคำตอบนี้ แต่วันนึงผมก็ได้คำตอบ ใช่ครับ คำตอบเพียงประโยคเดียวเท่านั้นตอบคำถามผมได้ทั้งหมดเลยว่า " ตายแล้วไปไหน ตายแล้วไปพบอะไรและพบใคร " ประโยคที่เล่าสืบต่อกันมา สามารถทำให้ผมไม่เคยถามตัวเองอีกเลยว่า " ต้องการอะไรหลังความตายของผม " " อย่าถามว่าตายแล้วไปไหน ถามสิ ตอนอยู่ควรทำอะไร " และนี่ก็คือ คำตอบเดียวเท่านั้นที่ผมรอคอย..... ด้วยรักและหวังดี ก.ประแสร์ ศิษยาพร ก.นพดล รักษ์กระแส
16 มิถุนายน 2548 10:26 น. - comment id 431034
ตายแล้ว ก็คงลุกไปไหนต่อไหนไม่ได้แล้วค่ะ ต้องมีคนแบกหามไป แถมยังต้องจุดธูปเดินนำด้วย เบื้องหลังความตาย บางคนก็อาจมีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง บางคนกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี อัลมิตรายังไม่เคยผ่านช่วงเวลานั้น และไม่อาจรับปากได้ว่า เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆแล้ว จะมีโอกาสกลับมาเล่าให้ใครอื่นฟังหรือเปล่า บางคำสอน ก็มีบทบัญญัติถึงบทตัดสินในช่วงนั้น บ้างก็บอกว่า นั่นคือการก้าวเข้าสู่โลกใหม่ ส่วนโลกที่เราอยู่นี้เป็นเพียงชั่วคราว บางคำสอน ก็บอกถึงการเวียนว่ายตายเกิด การกระทำที่มีผลส่งเกื้อหนุนไปเรื่อย ๆ ดั่งกงเกวียน บางคำสอน ก็บอกว่าจะไม่มีการวนเวียนมาสู่มนุษย์ภูมิแล้ว โน่นเลย ติดปีกใส่ชุดขาว ไม่ว่าชายหญิง ก็ใส่ชุดเหมือนกระโปรงยาวสีขาว .. หมายถึงถ้าทำดีนะ ทำไม่ดี ถ้าล้างบาปก็อาจล้างได้ ( เริ่มงงแล้วสิ ..) ศาสนาเปรียบเทียบได้ให้แง่คิดอะไรแยะ เกี่ยวกับศาสตร์ทางคำสอน เอาเป็นว่า คำถามที่คุณมี ถามสิ ตอนอยู่ควรทำอะไร ดูเข้าท่าแฮะ
17 มิถุนายน 2548 13:11 น. - comment id 480916
เอาเป็นว่าสวัสดีแล้วกัน สบายสบาย นะครับ
17 มิถุนายน 2548 23:56 น. - comment id 481137
ทุกคนควรอยู่เพื่อทำความดี หรือไม่ก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดค่ะ อิอิ