http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html (หนึ่งในร้อย) ............. นาทีนี้.... วสันต์กำลังปรอยสายพรายพลิ้วพรมพร่างลงกลางลำน้ำเจ้าพระยา ดวงนั่งทอดตาเหงาเศร้าใต้ร่มพิกุล พราวดอก ที่งดงามด้วยใบดกคอยบดบังให้ร่มเงา และ... ที่ดวงเรียกเสียใหม่ให้ซ่านซึ้งใจของดวงเองว่า*ลานพิกุล* ดวง..รู้สึกดีทุกคราครั้ง ที่หันหลังกลับมานั่งริมชายชล ได้เคลียกมลดวงเดิมดายเดียว ด้วยปวงดวงดอกไม้หอมหอมหวานหวาน ที่ตระการกิ่งไกวไหวช่อ พ้ออากาศแสนดีในวันที่ฟ้าแสนเเจ่มกระจ่าง มีทั้งลั่นทม เข็มขาว พิกุล โมก แก้ว รายรอบโบสถ์และพระวิหาร ดวง..นำมาลัยมะลิมา และเดินช้าช้าไปยังพระวิหาร ที่ประดิษฐาน *พระพุทธไสยาสน์สมัยอยุธยาตอนปลาย* และ.. มีภาพจิตรกรรมที่เพดานนั้นแปลกตากว่าที่อื่น เพราะเป็นตราเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ฝีพระหัตถ์หม่อมเจ้าประวิช ชุมสาย ด้านหลังพระวิหารประดิษฐาน พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี พระนนทมุนินทร์ เป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนปลาย ปางขัดสมาธิเพชร ประดิษฐานอยู่ในบุษบกแบบมอญ(จองพารา) สลักโดยฝีมือช่างที่นี่ ที่มุขเด็จหน้าวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่ง ซาง ซิว ซูน ชาวพม่าถวายให้กับรัชกาลที่ 5 ที่ณ..บัดนี้การซ่อมแซม และแต่งแต้มภาพบนเพดานเสร็จสิ้นแล้ว ที่ก่อนหน้านี้ ดวงเคยมาพลีถวายผ้าสบง แด่องค์พระพุทธไสยาสน์เพื่อเป็นพุทธพลี.. เป็นมงคลชีวี ..อย่างที่สุดแล้ว.. ดวงก้มลงกราบกรานอธิษฐานจิต สวดมนต์นั่งสมาธิภาวนา ให้กับทุกดวงใจผองชนคนไทย และ คนที่ดวงรักผูกพันในร่มรักเรือนไทยเรือนทองมานานวัน.. ที่อยากปันพลี.. เพื่อรินร่ำความดีความงามสิริมงคลให้เกื้อกมลละไม ดวงนั่งพินิจ .... ภาพจิตรกรรมบนบานหน้าต่างที่แสนงามดั่งทิพยนิรมิต คือภาพต้นพุดตาน ที่ดอกงามกำลังบานตระการบนก้านกิ่งไกว ที่พาให้จิตดวงใสได้ประหวัดคิดรำลึกนึกไปถึง... ยามได้อ่าน...ผ่านตาด้วยน้ำตาแห่งปิติพร่างเกษม.. *บทพระพระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ * อันคือมงคลยิ่งใหญ่ในมโนตราตรึง ที่หยั่งรากล้ำลึก ให้เห็นงามตามคำทิพยมงคลนั้นที่พลัน..นาทีนี้ ที่จิตดวงอยากนำมาพลีเป็นพุทธบูชา ให้ศาสนิกชนคนไทย และ.. โดยเฉพาะทุกดวงจิตใสทุกดวงใจแสนงามแสนดี ในร่มรักเรือนไทยเรือนทองแห่งนี้ ได้พร้อมพลีจิตสัมผัสงาม เกินงาม ที่จะท่วมท่ามท้นศรัทธา ให้เราพาเพียรร่างจิต สร้างกุศลนิรมิตให้จิตใสให้ใจงาม ให้สว่างสงบ พบพระธรรมอันแสนงามล้ำเลอค่าจากยอดพระรัตนตรัย จึงได้น้อมนำมาพลีบรรณาการแด่ทุกท่าน ให้พบพานยอดแห่งมงคลคำไปด้วยกัน นะบัดนี้... ............... ............... พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๒๔ ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑ ******************* ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น พุทธวรรคที่ ๑ พุทธาปทานที่ ๑ ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า [๑] พระอานนท์เวเทหมุนี มีอินทรีย์สำรวมแล้ว ได้ทูลถามพระตถาคตผู้ประทับ อยู่ ณ พระวิหารเชตวันว่า ได้ทราบว่า พระสัพพัญญูพุทธเจ้ามีจริงหรือ เพราะเหตุไร จึงได้เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าผู้เป็นนักปราชญ์? ในกาลนั้น พระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ เป็นพระสัพพัญญูผู้ประเสริฐ ได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ ด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะว่า ชนเหล่าใด สร้างสมกุศลสมภารในพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ยังไม่ได้โมกขธรรมใน ศาสนาของพระชินเจ้า ชนเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์โดยมุข คือ การ ตรัสรู้นั้นแล แม้มีอัธยาศัย มีกำลังมาก มีปัญญาแก่กล้า ย่อมได้บรรลุ ความเป็นพระสัพพัญญูด้วยเหตุแห่งปัญญา แม้เราเป็นธรรมราชาผู้สมบูรณ์ ด้วยบารมี ๓๐ ทัศ ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ นับไม่ถ้วน นมัสการพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลก พร้อมด้วยสงฆ์ด้วย นิ้วทั้ง ๑๐ แล้วกราบไหว้สัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุด ทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า รัตนะทั้งที่มีในอากาศและอยู่ที่พื้นดิน ในพุทธ- เขต มีประมาณเท่าใด เราจักนำรัตนะทั้งหมดนั้นมาด้วยใจ ณ พื้นที่เป็น รูปิยะนั้น เราได้นิรมิตปราสาทหลายชั้น อันสำเร็จด้วยรัตนะ สูง ตระหง่านจรดฟ้า มีเสาอันวิจิตร ได้สัดส่วน จัดไว้ดี ควรค่ามาก มี คันทวยทำด้วยทองคำ ประดับด้วยนกกระเรียนและฉัตร พื้นชั้นแรกเป็น แก้วไพฑูรย์ งามปราศจากมลทิน ไม่มีฝ้า เกลื่อนกลาดด้วยดอกบัวหลวง มีพื้นทองคำอย่างดี พื้นบางชั้นมีสีดังแก้วประพาฬ เป็นกิ่งน่ารื่นเริง บาง ชั้นแดงงาม บางชั้นเปล่งรัศมี ดังสีแมลงค่อมทอง บางชั้นสว่างทั่วทิศ ในปราสาทนั้น มีศาลาสี่หน้ามุข มีประตูหน้าต่างจัดไว้เรียบร้อย มีชุกชี และหลุมตาข่ายสี่แห่ง มีพวงมาลัยหอมน่ารื่นรมย์ใจห้อยอยู่ ยอด ปราสาทนั้นประดับด้วยแก้ว ๗ ประการ มีสีเขียว เหลือง แดง ขาว ดำล้วน ประกอบด้วยยอดเรือนชั้นเยี่ยม มีสระประทุมชูดอกบานสะพรั่ง งามด้วยฝูงเนื้อและนก บางชั้นดาดาษด้วยดาวนักษัตร ประดับด้วยรูป ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ปกคลุมด้วยพวงดอกไม้ทอง ดาดาษด้วยตาข่าย ทองน่ารื่นรมย์ ห้อยย้อยด้วยกระดิ่งทอง เปล่งเสียงด้วยกำลังลม ปรา- สาทนั้นวิจิตรด้วยธงสีต่างๆ คือ ธงสีชมพู สีแดง สีเหลือง สีเขียว และสีทอง ปักไว้เป็นระเบียบ แผ่นกระดานต่างๆ มากหลายร้อย ทำ ด้วยเงิน ทำด้วยแก้วมณี ทับทิม ทำด้วยแก้วมรกต วิจิตรด้วย ที่นอน ต่างๆ ลาดด้วยผ้าเมืองกาสีละเอียดอ่อน เราปูลาดเครื่องลาดต่างๆ ด้วยผ้ากัมพล ผ้าทุกุลพัสตร์ ผ้าเมืองจีน ผ้าเมืองแขก และผ้าห่มเหลือง ทุกแห่ง ด้วยใจ ที่พื้นนั้นๆ ประดับด้วยยอดแก้ว คนหลายร้อยยืน ถือประทีปแก้วมณีอันส่งแสงเรืองอยู่ เสาระเนียด เสาซุ้มประตู ทำด้วย ทองชมพูนุท ไม้แก่นและเงินบ้าง มีที่ต่อหลายแห่ง จัดไว้เรียบดี วิจิตร ด้วยบานประตูและกลอน ย่อมยังปราสาทให้งาม สองข้างปราสาทนั้น มีกระถางน้ำเต็มเปี่ยมหลายกระถาง ปลูกบัวหลวงและอุบลไว้เต็ม เรา นิรมิตพระพุทธเจ้าในอดีต ผู้เป็นนายกของโลกทุกพระองค์ พร้อมด้วย พระสงฆ์สาวก ด้วยวรรณและรูปตามปกติ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พร้อมด้วยพระสาวกเข้าไปทางประตูนั้น หมู่พระอริยเจ้านั่งบนตั่งอันทำ ด้วยทองคำล้วนๆ พระพุทธเจ้าผู้ยอดเยี่ยมในโลก มีอยู่ ณ บัดนี้ก็ดี เป็นอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี ทุกพระองค์ ได้ขึ้นปราสาทของเรา พระสยัมภู ปัจเจกพุทธเจ้าหลายร้อย ผู้ไม่พ่ายแพ้ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ได้ขึ้น ปราสาทของเราทั้งหมด ต้นกัลปพฤกษ์ทั้งเป็นของทิพย์และของมนุษย์ มีมาก เรานำเอาผ้าทุกอย่างจากต้นกัลปพฤกษ์นั้น มาทำไตรจีวรถวายให้ ท่านเหล่านั้นครอง ของเคี้ยว ของฉัน ของลิ้ม น้ำและข้าวมีสมบูรณ์ เราใส่อาหารเต็มบาตรงามทำด้วยมณี แล้ว.. ถวายพระอริยเจ้าทั้งผองครองผ้า ทิพย์ ครองจีวรเนื้อเกลี้ยง อิ่มหนำสำราญด้วยน้ำตาลกรวด น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อยรสหวานฉ่ำและด้วยข้าวปายาส หมู่อริยเจ้าเหล่านี้เข้าห้องแก้ว สำเร็จสีหไสยาบนที่นอนอันควรค่ามาก ดังไกรสรีนอนในถ้ำที่อยู่ รู้สึกตัว ลุกขึ้นนั่งคู้บัลลังก์บนที่นอน เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยความยินดีในฌานอัน เป็นโคจรของพุทธเจ้าทุกพระองค์ บางพวกแสดงธรรม บางพวกเข้าฌาน ด้วยฤทธิ์ บางพวกเข้าอัปปนาฌาน และบางพวกอบรมอภิญญาวสี บาง พวกแผลงฤทธิ์ คนเดียวเป็นได้หลายร้อยหลายพัน แม้พระพุทธเจ้าก็ถาม ปัญหาอันเป็นอารมณ์ คือ วิสัยของพระสัพพัญญูกะพระพุทธเจ้า ท่าน เหล่านั้น ย่อมตรัสรู้เหตุอันละเอียดลึกซึ้งด้วยพระปัญญา พระสาวกทูล ถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสถามพระสาวก ท่านเหล่านั้นถามกัน และกัน และพยากรณ์กันและกัน พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสาวกต่างเป็นศิษย์ ท่านเหล่านั้นรื่นรมย์อยู่ด้วยความยินดีอย่างนี้ อภิรมย์อยู่ในปราสาทของเรา ฉัตรและฉัตรซ้อน มีรัศมีดังไม้ไผ่แก้วตั้งไว้ ทุกๆ องค์ทรงไว้ซึ่งฉัตรอันห้อยย้อยด้วยตาข่ายทอง ขจิตด้วยตาข่ายเงิน วงรอบด้วยตาข่ายมุกดา บนเศียรมีเพดานผ้า แวววาวด้วยดาวทอง งดงาม ดาดาษด้วยพวงมาลัยทุกๆ องค์ ทรงไว้รอบๆ ฉัตรดาดาษด้วยพวงมาลัย งามด้วยพวงดอกไม้หอม เกลื่อนด้วยพวงผ้า ประดับด้วยพวงแก้ว เกลื่อนกลาดด้วยดอกไม้ งดงามยิ่งนัก รมด้วยของหอมน่าพอใจ ทำด้วย ของหอมยาวห้านิ้ว มุงด้วยเครื่องมุงทอง ในสี่ทิศแห่งปราสาท มีสระ อันดาดาษด้วยปทุมและอุบล หอมตระหลบด้วยเกสรดอกปทุม ปรากฏ ดังสีทองคำ โดยรอบปราสาท มีต้นไม้ทุกชนิด ดอกบานสะพรั่ง และ ดอกไม้หล่นลงเอง เรี่ยรายอยู่ยังปราสาท ใกล้ๆ ปราสาทนั้นมีฝูงนกยูง รำแพนหาง ฝูงหงส์ทิพย์ส่งเสียง ฝูงนกการวิกขับขาน หมู่นกร้องอยู่ โดยรอบปราสาท เสียงกลองเภรีทุกอย่างจงเป็นไป เสียงพิณทุกชนิดจง ดีด เสียงสังคีตทุกอย่างจงขับขาน โดยรอบปราสาท ขอบัลลังก์ทองใหญ่ สมบูรณ์ด้วยรัศมี ไม่มีช่อง ประดับด้วยแก้ว จงตั้งอยู่ ในกำหนดพุทธเขต และในหมื่นจักรวาล ขอต้นไม้ประจำทวีป จงรุ่งเรือง เป็นไม้สว่างไสว เช่นเดียวกัน สืบต่อกันไปตั้งหมื่นต้น หญิงเต้นรำ หญิงขับร้อง จงเต้นรำ ขับร้อง หมู่นางอัปสรผู้มีอวัยวะต่างๆ กัน จงปรากฏ (ฟ้อน) อยู่โดย รอบปราสาท เราให้ชักธงทุกชนิดมีห้าสีงามวิจิตร ขึ้นอยู่บนยอดไม้ ยอด ภูเขา และบนยอดสิเนรุ หมู่ชน ฝูงนาค คนธรรพ์ และเทวดาทุกท่าน นั้น จงมาประนมหัตถ์นมัสการเรา แวดล้อมปราสาทอยู่ กุศลกรรมอย่าง ใดอย่างหนึ่ง เ ป็นกิริยาที่เราพึงทำด้วยกาย วาจา และใจ กุศลกรรมนั้นเรา ทำแล้วไปในไตรทศ สัตว์เหล่าใดมีสัญญา และสัตว์เหล่าใดไม่มีสัญญา มีอยู่ ขอสัตว์ทั้งหมดนั้น จงเป็นผู้มีส่วนแห่งผลบุญ ที่เราทำแล้ว สัตว์ เหล่าใดทราบบุญที่เราทำแล้ว เราให้ผลบุญแก่สัตว์เหล่านั้น บรรดาสัตว์ เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดไม่รู้ ขอทวยเทพจงไปบอกแก่สัตว์เหล่านั้น ปวง สัตว์ในโลกผู้อาศัยอาหารเป็นอยู่ทุกจำพวก ขอจงได้อาหารอันพึงใจ ด้วย ใจของเรา เรามีใจเลื่อมใสในทานที่เราให้แล้ว ด้วยใจอันผ่องใส เราบูชา พระสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์แล้ว บูชาแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย เพราะกุศลกรรมที่เราทำดีแล้วนั้น และ... เพราะความปรารถนาแห่งใจ เราละ กายมนุษย์แล้ว ได้ไปยังดาวดึงส์พิภพ เราย่อมรู้ทั่วความเป็นเทวดา และ มนุษย์ในสองภพ ย่อมไม่รู้จักคติอื่น นี้เป็นผลแห่งความปรารถนาด้วยใจ เราเป็นใหญ่กว่าเทวดา เป็นใหญ่กว่ามนุษย์ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยรูปลักษณะ ไม่มีใครเสมอเราด้วยปัญญา โภชนะต่างๆ อย่างประเสริฐ และรัตนะ มากมาย ผ้าต่างชนิด ย่อมจากฟ้ามาหาเราพลัน เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและในป่า อาหารทิพย์ย่อมมาหาเรา เอง เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และ ในป่า รัตนะทุกอย่างย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และในป่า ของหอมทุกชนิดย่อมมาหาเราเอง เราชี้มือไปในที่ใด คือที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และในป่า ยวดยานทุกอย่างย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และในป่า ดอกไม้ทุกชนิดย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปใน ที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และในป่า เครื่องประดับ ย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และในป่า ปวงนางกัญญาย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่ แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำ และในป่า น้ำผึ้งและน้ำตาลกรวด ย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ใน น้ำ และในป่า ของเคี้ยวทุกอย่างย่อมมาหาเรา เราได้ให้ทานอันประเสริฐ นั้นในคนไม่มีทรัพย์ คนเดินทางไกล ยาจก และคนเดินทางเปลี่ยว เพื่อต้องการบรรลุสัมโพธิญาณอันประเสริฐ เรายังภูเขาหินให้บันลืออยู่ ยังเขาอันแน่นหนา ให้กระหึ่มอยู่ ยังมนุษยโลก พร้อมทั้งเทวโลกให้ร่าเริง อยู่ จะเป็นพระพุทธเจ้าในโลก ทิศ ๑๐ มีอยู่ในโลก ที่สุดไม่มีแก่บุคคล ผู้ไปอยู่ ก็ในทิศาภาคนั้น พุทธเขตนับไม่ได้ รัศมีของเราปรากฏเปล่ง ออกเป็นคู่ๆ ข่าย (หมู่,คู่) รัศมีมีอยู่ในระหว่างนี้ เราเป็นผู้มีแสง สว่างมาก ปวงชนในโลกธาตุประมาณเท่านี้จงเห็นเรา จงมีใจยินดีทั้ง หมดเทียว จงประพฤติตามเราทั้งหมด เราตีกลองอมฤต มีเสียงบันลือ ไพเราะสละสลวย ปวงชนในระหว่างนี้ จงได้ยินเสียงอันไพเราะของเรา เมื่อฝนคือธรรมเทศนาตกลง ปวงชนจงเป็นผู้ไม่มีอาสวะ บรรดาชน เหล่านั้น สัตว์ผู้เกิดสุดท้ายภายหลัง จงเป็นพระโสดาบัน เราให้ทานที่ ควรให้แล้ว บำเพ็ญศีลโดยไม่เหลือ ถึงที่สุดเนกขัมมบารมีแล้ว พึงได้ บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เราเรียนถามบัณฑิตแล้ว ทำความเพียรอย่าง สูงสุด ถึงที่สุดขันติบารมีแล้ว พึงได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เรา กระทำอธิษฐานจิตมั่นคงแล้ว บำเพ็ญสัจจบารมีถึงที่สุด เมตตาบารมีแล้ว พึงได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เราเป็นผู้มีใจเสมอในอารมณ์ทั้งปวง คือ ในลาภ ความเสื่อมลาภ สุข ทุกข์ สรรเสริญ และนินทา พึง ได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม ท่านทั้งหลายเห็นความเกียจคร้านโดยเป็น ภัย และ เห็นความเพียรโดยความเกษมแล้ว จงปรารภความเพียร นี้เป็น อนุศาสนีของพระพุทธเจ้า ท่านทั้งหลายเห็นความวิวาทโดยเป็นภัย และ เห็นความไม่วิวาทโดยเกษมแล้ว จงสมัครสมานกัน กล่าววาจาอ่อนหวาน แก่กัน นี้เป็นอนุศาสนีของพระพุทธเจ้า ท่านทั้งหลายเห็นความประมาท โดยเป็นภัย และ เห็นความประมาทโดยเกษมแล้ว จงอบรมอัฏฐังคิกมรรค นี้ เป็นอนุศาสนีของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย มาประชุมกันอยู่มาก ทุกประการ ท่านทั้งหลายจงกราบไหว้นมัสการพระ- สัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้ พระพุทธเจ้า (และ) ธรรมของพระพุทธเจ้า ใครๆ ไม่อาจคิดได้ เมื่อบุคคลเลื่อมใสใน พระพุทธเจ้า และพระธรรม อันใครๆ ไม่อาจคิดได้ ย่อมมีผลอันใครๆ คิดไม่ได้. ทราบว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคจะทรงให้ท่านพระอานนท์รู้ พระพุทธจิตของพระองค์ จึง ได้ตรัสธรรมบรรทายชื่อพุทธาปนิยะ ด้วยประการฉะนี้. พุทธาปทานจบบริบูรณ์. ------------- ............... ................ .และนี่คือ.. สิ่งที่ดวงพลีดวงจิตสถิตตรารำลึกไว้ ดวงได้แต่ก้มลงกราบกรานพระพุทธไสยาสน์ นานนิ่ง ด้วยพลังศรัทธาปิติเกษมที่พร่างอยู่ณ..ภายใน ทุกอณูจิตดวงชีวิตนิดน้อยนี้ ที่เปรียบประดุจดั่งธุลีหล้า หวังเพียงเพียร ตามรอยพระบาทแห่งพระบรมศาสดา ตราบจนกว่าจะสิ้นลมหายใจสุดท้าย... ณ..วันนี้ ดวงมองสายน้ำนิรันดร์ ราวสุขนิรันดร์ที่มาปันพลี ให้ดวงชีวีดวงจิตแสนใสฉ่ำเย็น และ.. ดวงได้มอบพลีดวงชีวิตลอยร่างใจ ฝากไว้ในกระแสธารธรรม อันคืองามล้ำใส ที่จักพาจิตไสวจนกว่าจะพบพาน พระนิพพาน ที่หวังเพียร..ไม่ว่าจะสักกี่ภพชาติ จิตก็จักจะตั้งมั่นหมายมาดไว้ในมโนอันแจ่มกระจ่าง ราวเส้นทางสีขาว ราวธารธรรมนิรันดร์ ราวเทียนทองอันล้ำค่าที่จักส่องสว่างนำทางไป แม้นจะไกลสักแสนชาติ ก็จะมิท้อ...มิรอลา มิปรารถนาใดในโลกหล้ามากไปกว่านี้แล้ว..!!!!! ................... ............................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song72.html หนึ่งในร้อย นิตยา บุญสูงเนิน พราว แพรว อันดวงแก้วแวว-วาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิล-กาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่อง แผ้วสดสีเพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน รู้ กลืน กล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
5 พฤษภาคม 2548 13:04 น. - comment id 462309
แวะมาอ่านแบบเร็วๆค่ะ
5 พฤษภาคม 2548 12:32 น. - comment id 462334
อ่านยังไม่จบเลยค่ะ เน็ตกำลังจะตัดแล้ว เลยแวะมาฝากความคิดถึงไว้ก่อนนะค่ะ คิดถึงเสมอค่ะ
5 พฤษภาคม 2548 18:39 น. - comment id 462490
ได้อ่านงานของพี่พุดทุกครั้ง...มีความสุขมาก..เหมือนมีความเย็นหล่อเลี้ยงใจตลอดเวลา... ...คิดถึงพี่พุดนะคะ..
5 พฤษภาคม 2548 22:51 น. - comment id 462568
งดงามค่ะ ไม่สามารถบรรยาย