รู้ไม่จริงนิ่งเสียไม่เพลียจิต อย่าเบือนบิดกระบวนความตามใจฉัน ปากต่อปากฝากสีให้ตีกัน ที่สุดนั้นไม่เหลือใครให้ใจจริง รู้เพียงนิดอย่าคิดว่ารอบรู้ ทำเป็นผู้เชี่ยวชาญชำนาญสิ่ง เปิดช่องว่างรอยโหว่ให้ท้วงติง คนรู้จริงอาจย้อนสอนให้อาย รู้เพียงน้อยอย่าพลอยตื่นตระหนก ลูกตาลตกตีความตามมุ่งหมาย ให้ใหญ่โตถึงฟ้าถล่มทลาย ต้องกลับกลายเป็นนักโทษเพราะโจษความ รู้บางสิ่งอย่าหยิ่งเผยอผยอง ชูหางเหมือนแมงป่องน่าเหยียดหยาม ความรู้นิดพิษน้อยทั้งด้อยทราม อย่าหลงตนกร่างตามความพอใจ รู้บางกาลนานไปไม่แจ้งชัด อย่าคิดว่าเจนจัดทุกสมัย กะลาครอบกบหมอบอยู่ข้างใน อย่าตีกรอบตนไว้ด้วยอัตตา รู้เพียงรู้...ว่าตนไม่รอบรู้ แล้วเดินสู่เส้นทางสร้างศึกษา รู้เฉพาะตนด้วยสติปัญญา รู้เท่านี้มีค่ากว่ารู้ใด
2 มีนาคม 2548 10:56 น. - comment id 433385
++ รู้เพียงนิด อย่าคิดว่า ตนรู้.. ++ ใช่เลยค่ะ.. ^___^
2 มีนาคม 2548 11:26 น. - comment id 433404
ด้วยรู้ตัวว่ารู้อยู่เพียงนิด จึงต้องขบคิดชีวิตนั้น รู้เพียงนิดจะคิดพิชิตกัน ขอเพียงขยันนั้นหละคือ ตัวความรู้ มาชื่นชมการเขียนกลอนสอนเรื่องความรู้ของพี่ดอกแก้วค่ะ........น้องคนนี้ยังด้อยความรู้อีกมากมายเลยหละค่ะพี่ดอกแก้ว.
2 มีนาคม 2548 11:30 น. - comment id 433409
รู้น้อยสะดุ้งไปนานค่ะ ยินดีที่ได้มาอ่านค่ะ
2 มีนาคม 2548 11:40 น. - comment id 433422
ยอดเลยครับเป็นคำสอนที่คมเฉียบประดุจมีดกรีดหัวใจดั่งใบมีดโกนเชียวแหละ มาอ่านไปคิดไปให้สงสัยหัวใจเสียจริงจริ๊งว่า คุณดอกแก้วไปโดนใครทำลายจิตใจมาหรือเปล่าครับ หากเป็นดังคาดคะเณเอา คาถานี้ท่องนะครับ จิตตะจิตตัง จิตตังมัดนะ โกธะพลัง จับขังไว้นะ อิอิ เอาคาถาผมไปใช้เถอะครับหากเป็นที่ผมคาดคะเนนะครับ แก้วประเสริฐ.
2 มีนาคม 2548 11:44 น. - comment id 433426
ไพเราะ งดงาม ไร้ที่ติเลยครับ.....และจบได้ประทับใจให้ข้อคิด..ให้มากกว่าคำว่ากลอนครับพี่ดอกแก้ว ชอบเป็นพิเศษตรง..... ....เปิดช่องว่างรอยโหว่ให้ท้วงติง ....กะลาครอบกบหมอบอยู่ข้างใน ผมพึ่งเป็นสมาชิกใหม่ครับ....ประทับใจตั้งแต่กลอนเพ็ญเดือนสามแล้ว เคยอ่านในเวปทั้งที่นี่แล้วก็เวปธรรมจักรครับ...ยังขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ในฐานะคนเขียนกลอนหน้าใหม่....
2 มีนาคม 2548 12:45 น. - comment id 433474
ชอบเจ้าคะ
2 มีนาคม 2548 13:02 น. - comment id 433497
มาอ่านงานพี่ดอกแก้วครับผม รักษาสุขภาพนะครับ
2 มีนาคม 2548 13:12 น. - comment id 433513
ความรู้...ความไม่รู้...มีให้เรียนได้ตลอดชีวิต อย่างนั้นใช่มั้ยคะพี่ดอกแก้ว ................................................................... ลี่...ผู้มาเยือน .
2 มีนาคม 2548 13:40 น. - comment id 433546
รู้ ไม่รู้ อยู่ที่เรา จะไขว่คว้า..
2 มีนาคม 2548 14:37 น. - comment id 433583
แม้นรู้น้อยถ้อยคำต้องงำเงียบ คนจะเปรียบไยไพให้อายเขา หมั่นศึกษาหาวิชาอย่าใจเบา ถ่อมตนเข้าเราจะเกิด..เขาเชิดชู เข้ามาอ่านและเข้ามาเขียนด้วยจ้ะ
2 มีนาคม 2548 15:49 น. - comment id 433599
นู๋ ไม่รู้ รู้ แต่ว่ากลอนเพราะมากๆเลยอ่ะค่ะ อ่านแล้วด้ายคิดด้วยนะคะ ...
2 มีนาคม 2548 17:26 น. - comment id 433644
เรื่องบางอย่างที่เราไม่รู้ คนอื่นอาจรู้ หรือบางเรืองที่เรารู้แต่คนอื่นไม่รู้ก็มี อุ๊ว่าแล้วแต่ประสบการณ์จะสอนคนเองนะคะ คนเราเจออะไรมาไม่เหมือนกัน สิ่งแวดล้อมไม่เหมือนกัน อุ๊ว่าทุกคนมีความรู้หมดนะคะ แต่ใครจะรู้น้อยหรือรู้มากนี่ ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่คนที่เขารู้จริงๆส่วนมากเขาจะไม่อวดรู้ ค่ะ เท่าที่เคยเห็นมา อิอิ ( คิดเอาเอง ) ถูกหรือผิดบอกด้วยนะคะ
2 มีนาคม 2548 17:54 น. - comment id 433681
:) ใช่แล้วค่ะ คุณคนเมืองลิง คนที่รู้จริงๆ ย่อมไม่อวดรู้ คนที่รู้เพียงนิด ก็โพทนาไปทั่วว่ามีดีกรีแยะ เห็นมานักต่อนัก รู้แล้วทำไมเอาตัวไม่รอดหว่า .. พี่ดอกแก้วเขียนได้ดีค่ะ :)
2 มีนาคม 2548 18:17 น. - comment id 433689
มิมีใครรู้ทุกเรื่อง ถูกต้องเลยครับ ทุกสื่งคือการเรียนรู้ครับ :)
2 มีนาคม 2548 19:18 น. - comment id 433706
ผมรู้ว่ามาชมงานที่ เพียงรู้ อิอิ ความหมายดีครีบพี่ดอกแก้ว
2 มีนาคม 2548 19:28 น. - comment id 433710
งดงาม มาก ...........ค่ะพี่ดอกแก้ว
3 มีนาคม 2548 00:57 น. - comment id 433870
..เรน.. แอบเก็บ .. ไว้ตั้งนาน .. ก็ แบบ เรนรู้นะดิคะ .. ว่าพี่ดอกแก้ว .. ต้องไม่ว่าเรน .. คำสอน .. ในบทกลอน .. มีความหมายมากด้วยดิคะ .. เรน .. กราบขอบคุณ ..พี่ดอกแก้ว .. นะคะ .. ที่เขียนบทกลอน .. ที่ดีๆ .. ให้เรนได้อ่าน และเก็บไว้ .. เป็นสิ่งที่มีคุณค่า .. ในความรู้สึกเรนมากเลยคะ .. คุณลุง.. บอกเรนว่า .. ให้เรนหัดเขียน..ให้ได้.. อย่างพี่ดอกแก้ว .. เพราะเรน .. เป็นเด็กหญิง .. เด็กหญิง .. ที่ต้อง.. อ่อนหวาน .. .. เรน .. ขออนุญาต .. นะคะ .. เรน .. คิดถึง .. เรน กราบพระ .. ก่อนนอน .. ทุกครั้ง.. อธิษฐาน .. ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง .. พี่คนดีของเรน .. ด้วยนะคะ .. ...
3 มีนาคม 2548 01:54 น. - comment id 433891
ความรู้ในสรรพสิ่งเกินนับคณา มรรคาแห่งการเรียนรู้เพียรกว้าง นักเรียนน้อยค่อยงมหาประดาทาง มืดแล้วสว่างกลางใจอ่อนน้อมถ่อมตน
3 มีนาคม 2548 07:19 น. - comment id 433908
รู้...รู้...อยู่ว่ารัก....รักพี่ดอกแก้วค่ะ อาหมวยมาเยี่ยมแล้วนะคะ(เพิ่งว่างค่ะ) ขอให้พี่ดอกแก้วเป็นที่รักของน้องทุกๆคนนะคะ อ้อ ! แล้วรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
3 มีนาคม 2548 20:20 น. - comment id 434209
@...น้องน้ำใส... สวัสดีค่ะน้องน้ำใส กลอนเรื่องนี้พี่ดอกแก้วเขียนขึ้นเพื่อไว้เตือนใจมิให้ตกอยู่ในความประมาทค่ะ เพราะความลำพองในความรู้นั้น..เป็นความประมาทอย่างหนึ่งของชีวิต เรื่องทางโลก..แม้จะพยายามเรียนรู้มากเพียงไหน..ก็ยากที่จะรู้ได้ทั้งหมด แต่หากรู้เพียงสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า...ตามทวารต่างๆ แม้จะเป็นความรู้เพียงนิด.. แต่เมื่อรู้บ่อยๆก็จะสามารถทำลายสิ่งที่ใหญ่ๆเช่นชีวิตลงได้..ใช่ไหมคะน้องน้ำใส
3 มีนาคม 2548 20:21 น. - comment id 434210
@...แก้วนีดา... มีความเพียรเรียนรู้คอยดูจิต ไม่ครุ่นคิดฟุ้งซ่านสานตัณหา หากรู้ได้อย่างนี้ตลอดเวลา คือวิชาจบชีวิตปิดภพภูมิ ขอบคุณที่มาอ่านค่ะน้องแก้วนีดา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใช้ย้ำเตือนตนให้ค้นคว้าหาความรู้ในสิ่งที่ควรรู้ตลอดมา เพื่อขจัดปัญหาความขัดแย้งที่อาจมีกับผู้อื่นในคราวที่มีทัศนคติที่ต่างกัน
3 มีนาคม 2548 20:21 น. - comment id 434211
@...คุณทิกิ... ความพิพาทบาดหมางที่เกิดขึ้นในโลกนี้ มีไม่น้อยที่เกิดจากความขัดแย้งทางความรู้ คำว่า อวดรู้..กับ..แสดงความรู้ เป็นคำที่ต้องแยกให้ชัดเจนต่อบทบาทที่จะทำ อวดรู้นั้น..ทำเพื่อยกตนซึ่งในขณะเดียวกันก็ข่มผู้อื่น ส่วนแสดงความรู้นั้น..เป็นการเปิดเผยตนตามฐานะแห่งความรู้ที่มี ซึ่งอาจดีหรือด้อยกว่าผู้อื่นก็ได้...อย่าสะดุ้งไปเลยค่ะคุณทิกิ.. :)
3 มีนาคม 2548 20:21 น. - comment id 434213
@...คุณแก้วประเสริฐ... ขอบคุณในความห่วงใย และน้ำใจดีที่เอื้อเฟื้อคาถานะคะ :) (คาถาดูอารมณ์ดีมาก) ไม่มีใครมาทำร้ายหรือลงมีดกรีดเฉือนแต่อย่างใดหรอกค่ะ เขียนขึ้นก็เพื่อเอาไว้บอกตนเองค่ะ ... เห็นกรณีพิพาทมากมายที่เกิดขึ้นจาก..ความไม่รู้ การทราบข่าวหรือข้อมูลเพียงนิดน้อยแล้วนำมากระจายข่าวจนเกิดความระส่ำระสาย ก็คือความรู้ไม่จริง รู้ไม่ครบถ้วน..แต่ประมาทคาดเดาความจนก่อความเสียหาย ความแตกแยกสาขา หรือลัทธิก็มีไม่น้อยที่เกิดขึ้นจาก..ความรู้ไม่จริง อย่าว่าแต่ในสมัยนี้เลย..แม้ภายหลังพุทธปรินิพพานไม่ถึงสามร้อยปี ความไม่รู้..ของปุถุชนก็ได้แยกพระพุทธศาสนาออกเป็นลัทธิหรือนิกายต่างๆ ขอบคุณในน้ำใจอีกครั้งนะคะคุณแก้วประเสริฐ
3 มีนาคม 2548 20:21 น. - comment id 434214
@...มนต์กวี... ยินดีที่ได้รู้จัก และยินดีต้อนรับค่ะมนต์กวี ระยะหลังมานี้ด้วยปัญหาสุขภาพ...กดแป้นพิมพ์ไม่ค่อยสะดวก พี่ดอกแก้วก็เลยไม่ค่อยได้ไปตามเวปอื่นเท่าใดนัก ถ้าต้องพิมพ์ยาวๆ..บางครั้งก็ต้องอาศัยไหว้วานให้ผู้อื่นช่วยพิมพ์ตามคำบอก ดีใจที่แวะมาทักทายนะคะ ..และขอบคุณมากค่ะที่ให้กำลังใจ
3 มีนาคม 2548 20:22 น. - comment id 434215
@...น้องกี้ เจ้าสาวฯ... ในบางคราวที่เราพบกับความคิดเห็นที่ขัดแย้ง หากให้โอกาสกับตัวเอง..โดยเปิดโอกาสให้ผู้อื่นอธิบายบ้าง เราก็อาจได้รับความรู้ใหม่ๆที่เป็นประโยชน์ แต่หากไม่ได้ประโยชน์ใด อย่างน้อยการกระทำนั้นก็เป็นการให้เมตตาจิตแก่ผู้อื่น และสร้างความสงบสำรวมให้มากขึ้นในตนเอง ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจเสมอค่ะน้องกี้
3 มีนาคม 2548 20:22 น. - comment id 434216
@...บินเดี่ยวหมื่นลี้... ขอบคุณในความห่วงใยค่ะบินเดี่ยวฯ ช่วงนี้พี่ดอกแก้วสุขภาพย่ำแย่จริงๆ คงไม่ว่ากันนะคะหากกองเชียร์ขอลาป่วยสักพัก..
3 มีนาคม 2548 20:22 น. - comment id 434217
@...น้องลี่... สำหรับทางโลกแล้ว..ความเข้าใจเช่นนั้นถูกต้องค่ะน้องลี่ เพราะทางโลก..การเรียนรู้ย่อมไม่จบสิ้น ด้วยคำว่า วิวัฒนาการ ..การพัฒนา ..การค้นคว้า...ฯลฯ ส่วนทางธรรม..การเรียนรู้ย่อมจบสิ้นอย่างแน่นอน ดังที่มีคำว่าพระอเสกขบุคคล คือบุคคลที่พ้นจากการเรียนแล้ว เพราะเจนจบด้วยวิชชาจนสามารถทำลาย..อวิชชา..ความไม่รู้ลงได้หมดสิ้น พี่ดอกแก้วขอตอบอย่างนี้นะคะ :) ... :)
3 มีนาคม 2548 20:23 น. - comment id 434219
@...น้องแวว ลอยไปในสายลม... ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ..เมื่ออยากได้มาก็ต้องไขว่คว้า เรื่องความรู้..ยิ่งต้องค้นคว้า และพากเพียรที่จะสู่การปฏิบัติ มิฉะนั้นแล้วความรู้นั้นก็มิก่อประโยชน์ใดนอกจากการเป็นแหล่งสะสมข้อมูลเท่านั้น ขอบคุณที่แวะมาร่วมสนทนานะคะน้องแวว
3 มีนาคม 2548 20:23 น. - comment id 434220
@...หนอนสายตายาว... สงบฟังตั้งใจในเนื้อหา เก็บวาจาตั้งใจไว้ที่หู หากตั้งใจไว้ที่ปากหลากพรั่งพรู หมดเวลาเรียนรู้เพราะโต้ความ บ่อยๆที่หลายคนเสียประโยชน์เพราะไม่ยอมฟังให้จบ แล้วตอบโต้สวนความอย่างอวดตน...แทนที่จะได้รู้มากขึ้น กลับได้แต่ความผยองเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านและเขียนไว้นะคะ
3 มีนาคม 2548 20:23 น. - comment id 434221
@...น้องอุ๊ สาวดำ... เป็นเรื่องของความไม่ประมาทค่ะน้องอุ๊ เพราะท่ามกลางคนหมู่มาก ..เราไม่ทราบเลยว่า มีใครเป็นผู้ทรงความรู้ในสาขานั้นๆบ้าง ... หากปล่อยให้ความลำพองมาครองใจ ก็ง่ายที่จะเปิดประตูรับความอับอายมาสู่ชีวิตของเราเอง ...เราจึงต้องสงบไว้ก่อนไงคะ ก่อนที่จะเปิดปากวิพากษ์วิจารณ์ผู้ใด หรือเรื่องราวใด ต้องมั่นใจเสียก่อนว่า ..เราทราบข้อเท็จจริงแล้ว.. ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะน้องสาวดำ..
3 มีนาคม 2548 20:23 น. - comment id 434222
@...น้องอุ๊ คนเมืองลิง... พี่ดอกแก้วก็คิดเช่นนั้นค่ะ ..คนที่รู้จริงมักจะไม่ค่อยแสดงความรู้โดยง่าย และมักชอบที่จะดูผู้อื่นอย่างเงียบๆ รวมทั้งเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองมากกว่าที่จะบงการชีวิตใครๆ แต่ก็ไม่ตระหนี่ในความรู้ที่มี..อย่างครูบาอาจารย์ของเราไงคะ ที่แสดงความรู้ด้วยความเมตตามิใช่เพื่อโฆษณาตนเอง ผู้ไม่รู้ในสิ่งหนึ่ง ..มิใช่หมายความว่าสิ่งอื่นจะไม่รู้ไปทั้งหมด จึงประมาทในความรู้ความสามารถของใครไม่ได้เลย
3 มีนาคม 2548 20:24 น. - comment id 434223
@...น้องอัลมิตรา... ขอบคุณค่ะน้องอัลมิตรา ภายใต้งานเขียนชิ้นนี้..พี่ดอกแก้วมีภาพอันสงบงามของสมณะรูปหนึ่งอยู่ในใจ แล้วก็ทำให้ย้อนรำลึกไปถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ที่ทรงมอบความรู้แก่เวไนยสัตว์ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ...พระผู้ทรงวางหลักการแห่งโอวาทปาฏิโมกข์... ว่าด้วยความสงบสำรวมไม่ทำร้ายไม่ข่มเหงใคร..โดยเฉพาะการวางตนกับผู้ที่นับถือต่างลัทธิ ในพระพุทธประวัติ ..คงมีแต่เดียรถีร์ผู้รู้น้อยเท่านั้น ที่มาทายท้าด้วยวิธีการต่างๆ สำหรับในสมัยนี้ ผู้คนต่างก็นิยมทายท้ากันไปมาด้วยภูมิความรู้และหลักความคิด แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่อ้างว่ารู้เหล่านั้น.. ไม่รู้ว่าตนเองแบกความโอ้อวดเอาไว้มาก ก็เลยพลาดพลั้งให้ผู้อื่นจับได้ด้วยการแสดงออกอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจ และเอาตัวไม่รอดในที่สุด..
3 มีนาคม 2548 20:24 น. - comment id 434224
@...เรไร... สำหรับการกระทำเพื่อความเจริญแล้ว การเรียนรู้คือ ปกติของสามัญชีวิต และหมดการเรียนรู้ก็ต่อเมื่อหมดสิ้นชีวิต ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะเรไร
3 มีนาคม 2548 20:24 น. - comment id 434225
@...แม่จิตร... ..เพียงรู้ดูที่ตน ไร้สับสนไร้ขัดแย้ง รู้จริงสิ่งแสดง จึงรู้แจ้งม่านบังตา ขอบคุณที่แวะมาชม ..เพียงรู้..ค่ะแม่จิตร..อิอิ และขอบคุณในกำลังใจด้วยนะคะ
3 มีนาคม 2548 20:24 น. - comment id 434227
@...นู๋นิ่ม... ความไม่รู้..เรามีกันอยู่มากมายเป็นทุนชีวิตแล้ว ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่เราคงต้องเปลี่ยนแปลงทุนกันใหม่นะคะ สะสมความรู้กันบ้างจะได้คิดดี และทำดีได้มากยิ่งขึ้น... ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะนู๋นิ่ม
3 มีนาคม 2548 20:25 น. - comment id 434229
@...เรนน้อย... เพราะพี่ดอกแก้วเคยพบสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงใจ และหลายคนมีความประพฤติที่ประมาท...จึงอดไม่ได้ที่จะย้อนกลับมาดูตนเองว่า เราทำอย่างนั้นบ้างหรือไม่.. การโต้เถียงกันระหว่างผู้ที่ไม่รู้เรื่องจริง หรือมีความรู้ไม่มาก เป็นสภาพที่ไม่น่าดู...เพราะแต่ละคนก็พยายามแสดงในสิ่งที่ตนไม่มีจริงออกมา และน่าอับอายเมื่อพ่ายแพ้ต่อผู้ที่มีความรู้เหนือกว่า และเสียเวลาผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก หากแต่ละคนลดความถือตนและยึดถือความคิดของตนลงมาได้ ความสงบสุขคงมีมากขึ้นในสังคม การยอมรับฟังผู้อื่น..แม้จะไม่เห็นด้วย..แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีที่รู้จักให้เกียรติผู้อื่น แต่ก็มีมากที่ไม่ยอมรับฟังจนจบเรื่อง ..แล้วก็แสดงความเข้าใจของตนเองออกไป เพื่ออวดว่าตนรู้แล้ว ..ก็เหมือนแก้วน้ำในนิทานเซ็น ..ที่ถูกคว่ำลง ไม่อาจใช้ประโยชน์ในการรองรับน้ำได้อีก เพราะปฏิเสธการรับน้ำเสียแล้ว ... สุตะ คือ การฟัง หรือในสมัยนี้ที่รวมถึงการอ่าน ...คือก้าวแรกของหัวใจนักปราชญ์ สุ.จิ.ปุ.ลิ สำหรับอีกนัยหนึ่งสำหรับกลอนเรื่องนี้ก็คือ ...ความรู้จริงเป็นสิ่งสำคัญ... ...การยอมรับว่าตนเองไม่รู้ก็เป็นสิ่งสำคัญ..ในการสร้างและแสวงหาความรู้ ...และการอ่อนน้อมถ่อมตนก็สำคัญยิ่งในการรับความรู้จากผู้อื่น ขอบคุณในถ้อยความระหว่างคุณลุงกับคุณหลานตัวซน ..ที่ให้เกียรติพี่ดอกแก้วเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งความห่วงใย และน้ำใจที่งดงามของเรนน้อย..ที่มอบให้พี่ดอกแก้วเสมอมา ...ซึ้งใจมากจ้ะ และอนุญาตตลอดไปในทุกงานเขียนที่น้องเรนเด็กดีของพี่ต้องการเก็บไว้นะจ๊ะ
3 มีนาคม 2548 20:25 น. - comment id 434230
@...plaing_piu ... โลกนี้คือห้องสมุดใหญ่ หัวใจคือนักการศึกษา ธรรมชาติคือครูให้วิชา เพื่อย้อนมานำตนให้พ้นภัย ขอบคุณในบทกลอนที่ไพเราะพร้อมความหมายที่ดีมากๆ ขอบคุณที่แวะมาอ่านและร่วมเขียนไว้ค่ะ
3 มีนาคม 2548 20:25 น. - comment id 434231
@...อาหมวย... นึกว่าอาหมวยจะหายไปพร้อมกับตรุษจีน แต่ในที่สุดอาหมวยก็กลับมาแล้ว ...พร้อมกับคำทักทายที่ทำให้พี่ดอกแก้วสุขใจ ...สุขภาพ เป็นสิ่งที่พี่ดอกแก้วพยายามรักษา แต่ทว่า ..อะไรหรือจะต้านทานแรงกรรมไว้ได้ ขอบคุณในความห่วงใยนะคะ..อาหมวยที่น่ารัก...
7 มีนาคม 2548 14:05 น. - comment id 435444
มาอ่านและทักทายเหมือนอย่างเคยครับ :]
11 มีนาคม 2548 01:43 น. - comment id 437397
@...ลักษมณ์... ขอบคุณค่ะลักษมณ์ ขอโทษที่เข้ามาต้อนรับช้าไปมากเลยนะคะ .. :)