สาวนาคว้าไมค์

สาวบ้านนา


URLhttp://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4913
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=518
*************


ใกล้วันเพ็ญเข้ามาทุกขณะแล้ว
สาวนา  นอนไม่หลับเลย
คิดถึงงานลอยกระทง
ที่แว่วๆ
เพลงลอยๆกระทงมามาตามลำน้ำ ลำประโดง
อย่างครึกครื้นรื่นเริง..น่าสนุกเป็นที่สุด
นานๆจะมีเสียงพลุ 
และประกายสีสันจากดอกไม้ไฟพรูพร่างท่ามกลางฟ้ามืด.....
สาวนาจุดเทียน..ระริบหรี่
และวางไว้ในโคมไม้ไผ่..รายรอบกระท่อมใบไม้


ดงดอกทองกวาวกำลังรอเวลาผลิดอก
ทิวไม้งามรายล้อม..แลดูตะคุ่ม 
เสียงไผ่นาเสียดสีพ้อพร่างท่ามกลางลมหนาว
ดาวประจำเมืองและจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า
โผล่พ้นดงไม้ ดูราวกับ 
กำลังกระพริบพราวปลุกปลอบประโลมใจสาวนา
รอเวลารับงามในคืนวันเพ็ญเด่นดวงจรัส
ในอีกไม่กี่ราตรีข้างหน้านี้แล้ว


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=518
รำวงลอยกระทง 
วันเพ็ญเดือนสิบสอง
น้ำนองเต็มตลิ่ง
เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริง
วันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง
ลอยกระทงกันแล้ว
ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง
รำวงวันลอยกระทง
รำวงวันลอยกระทง
บุญจะส่งให้เราสุขใจ
บุญจะส่งให้เราสุขใจ
วันเพ็ญเดือนสิบสอง
น้ำนองเต็มตลิ่ง
เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริง
วันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง
ลอยกระทงกันแล้ว
ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง
รำวงวันลอยกระทง
รำวงวันลอยกระทง
บุญจะส่งให้เราสุขใจ
บุญจะส่งให้เราสุขใจ...
*********


ที่ปีนี้ทางวัดเตรียมจะจัดงานอย่างยิ่งใหญ่สวยงาม
หลวงพ่อบอกว่าเผื่อจะปลอบประโลมใจทุกคน
ที่ทนทุกข์ยากได้บ้าง
ที่สู้ฝากหยาดเหงื่อ สู้นามาทั้งปี 
แถมโชคไม่ดี นามาแล้งราวแกล้งซ้ำเติมเสียอีก


แต่เอาเถอะนะ...
หลวงพ่อ ว่า
* คนเรา
ต้องอย่ายอมแพ้พ่าย
ล้มแล้วลุกขึ้นมาสู้ใหม่ สู้ไม่ถอย
อย่ามัวแต่น้อยใจรอคอยโชคชะตาฟ้าดิน*
เพราะ
*แม้แต่นายกคนดี ยังส่งใจมาเคียงข้าง
ให้เงินมาแก้ปัญหาเรื่องน้ำ
แบบไม่ต้องรอของบประมาณให้ยุ่งยาก
มากเรื่องมากขั้นตอน ที่จะไม่ทันการณ์
และ
ไหนยัง จะพยายามทำฝนเทียม ให้อย่างทั่วถึง
นี่แหละคือฟ้า..ไม่ทิ้งดินจริงๆ*


สาวนา..ตื่นมาพร้อมไก่ขันเอ๊กอีเอ๊กๆ
นอนหลับตานิ่งๆ..
สักพักเห็นจันทร์ค่อนดวงยังแขวนฟ้าอยู่เลย
คิดคิดบางที่ก็น่าขำและแปลกดี
ที่อะไรๆในโลกนี้เปลี่ยนไป
แต่สาวนายังใช้เสียงไก่ขันกับเสียงนกเป็นเสียงนาฬิกาปลุก
ในทุกเช้าเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลย..


สาวนา..ลงไปเก็บไข่ในเล้า ที่ยังสบายดี ไม่มีหวัดนก
ใส่ตะกร้าที่รองด้วยฟางข้าวไว้จนล้นพูน
ไข่ไก่สีนวลนวลกลมกลมใบเล็กๆสดสด
ที่สาวนาไม่เคยต้องไปซื้อหามาบำรุง
เพราะว่ามีไก่ออกไข่ให้กินทุกวัน
จนต้องปันแบ่งไปให้บ้านลุงใหญ่กับพี่ทองเสมอๆ


ฟ้าสว่างรำไรแล้ว
พร้อมทำกิจวัตรประจำวัน
สาวนาก็จะเริ่มซ้อมร้องเพลงในยามย่ำรุ่ง
ยามลงทุ่งลงนา


ยามที่แดดสีทองเริ่มค่อยๆทอทอด
ลอดส่องผ่านม่านเมฆม่านหมอกหยอกดงไผ่ตำลึงริมรั้ว
พ้อล้อละออหยาดน้ำค้างกลางเรียวรวงระยับระย้าย้อย
ที่กำลังห้อยคลอเคลียดินราวหยาดน้ำเพชร


รอร่วงพรมห่มพร่างลงกลางพื้นพสุธานาทอง
สาวนา..
จะค่อยๆเพิ่มสปีดเสียงไปตามอารมณ์เพลง
ให้ดังขึ้น ดังขึ้น 
ราวจะตรึงพาปลุกทุกสรรพสิ่ง
ให้หันมาหยุดนิ่งฟังสาวนาร้องเพลง
ให้มนต์เพลงรักลูกทุ่ง บรรเลงกล่อมแมกไม้ สายน้ำ
ลำประโดง รวงเรียวพราวให้ยักย้ายส่ายระบำตามไปด้วย


สาวนา จะใช้ไม้ไผ่บ้องกลมขนาดกำลังดี
หรือไม่ก็ไม้กวาดลานบ้านคว้ามาเป็นไมค์
แล้วก็เริ่มประโคม
เติมต่อพ้อมนต์เพลงฝัน
ด้วยเสียงทรงพลังเสน่ห์แหบห้าว
เลียนแบบสาวนักร้องลูกทุ่งในดวงใจ
*จินตหรา พูลลาภ*
ที่มีลูกคอ คลอคลึงขลุกขลิกกระดุ๊กกระดิ๊กน่ารักน่าชัง
ตามอย่างเพลงแบบอิสานขนานแท้
พลางส่ายสะโพกโยกซ้ายย้ายขวาตามแบบเธอ..


หากเพลงที่สาวนานำมาหัดร้องไปเต้นไปในวันนี้
กลับเป็นเพลง
*ทาแป้งรอ.ศิรินทรา นิยากร *
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4913
หรีดหริ่งเรไร
กล่อมพฤกษ์ไพรกล่อมใจชาวทุ่ง
เสียงกริ่งกริ๋งกรุ๋ง ที่คอควาย
บอกความหมายบ้านนา
กลิ่นแก้มชาวไพร
ไม่หอมไกล อย่างสาวเมืองฟ้า
การพูดการจา ก็ข้าแก
เพราะธาตุแท้ของเรา
ใครจะมาเป็นแฟน
ต้องให้เห็น
เกี่ยวข้าวเป็น หรือเปล่า
ใครจะมาเป็นแฟนชาวบ้านนา
เกลียดปลาร้า หรือเปล่า
น้องเกลียดคนเมา กับเจ้าชู้
เกลียดผู้ชาย หลายใจ
ถ้าอยากดูตัว
เปิดหลังครัว เข้าจอง กันได้
พร้อมจะเปิดใจ ให้เข้ามา
น้องจะทา แป้งรอ
หรีดหริ่งเรไร
กล่อมพฤกษ์ไพรกล่อมใจชาวทุ่ง
เสียงกริ่งกริ๋งกรุ๋ง ที่คอควาย
บอกความหมายบ้านนา
กลิ่นแก้มชาวไพร
ไม่หอมไกล อย่างสาวเมืองฟ้า
การพูดการจา ก็ข้าแก
เพราะธาตุแท้ของเรา
ใครจะมาเป็นแฟน
ต้องให้เห็น
เกี่ยวข้าวเป็น หรือเปล่า
ใครจะมาเป็นแฟนชาวบ้านนา
เกลียดปลาร้า หรือเปล่า
น้องเกลียดคนเมา กับเจ้าชู้
เกลียดผู้ชาย หลายใจ
ถ้าอยากดูตัว
เปิดหลังครัว เข้าจอง กันได้
พร้อมจะเปิดใจ ให้เข้ามา
น้องจะทา แป้งรอ...
***********
สาวนา..รู้สึกดีมาก 
กับอิสระเสรี 
ที่ได้เปล่งเสียงออกมาระบายรักระบายใจ
บางเพลงร้องไปอยากสะอื้นไป
เพราะอินกับเนื้อหาที่ดิบโดนใจเหลือทน
จนพาลน้ำตาจะรินร่วงห่วงหาอ้าย


ที่พาให้ใจเศร้าราน
ไปตามเสียงดนตรี
จากธรรมชาติไพรในท้องทุ่งนา
ที่พากันร้องขับขานหวานรับระงมพรมพราย
มี 
เสียงกบเขียด 
และหรีดหริ่งเรไร ในยามพลบค่ำ
และ
ในยามเช้าตรู่..
ที่ สายลมหนาวพรูพลิ้วผ่านมา
พัดพากลิ่นทุ่งอันละมุนหอมหลอมละลายละลนใจ
ให้รวงเรียวเอนพลิ้วหวิวไป
เป็นระลอกคลื่นเขียวไพลเขียวตอง
เขียวส่องเขียวสดที่ช่างแสนงดงามใจเป็นที่สุดแล้ว


ในทุกยามที่สาวนาร้องเพลงขับกล่อมประสานประสม
ไปกับสายลมพรมหอมแห่งท้องทุ่งในอรุณ..เรือง..อรุณเลือน..
ที่เสมือนโลกทิพย์ฟ้าขลิบทอง 
ให้ตื่นนอนมารับไอฉ่ำ
อันหวานเย็นสดชื่นจากอวลอากาศ
ที่ไม่ต้องระแวดระวังมลพิษ


สองสามคืนมานี้ 
สาวนารู้สึกมีชีวิตชีวามาก
บางค่ำคืน....
พี่ทองจะก่อกองฟืนจุดไฟใกล้ลอมฟาง
เอาเสื่อไปปูเอนนอน
แล้วพากันช้อนตา
ดูเดือนเสี้ยวราวเคียวทองเกี่ยวกิ่งฟ้า
ดูดวงดารา มากระพริบล้อพ้อเพลงหวานผ่านม่านเมฆ
แล้ว
หมกมันเทศ กินกัน 
บางคืนก็ทำข้าวหลามหอมๆกันเดี๋ยวนั้น
ให้หวานมันส์อร่อย
แกล้มกินกันกับ การหัดซ้อมเพลงดึกๆยามหิวกิ่วท้อง
ที่ครึกครึ้นมารวมตัวกันหลายคน


คืนนี้..
พี่ทองเริ่มร่ายมนต์ขยับนิ้วพลิ้วไหวไล่เสียงขลุ่ย
ด้วยเพลง-เดือนเพ็ญ 
อันเป็นเพลงแสนรักแสนอมตะ..ในดวงใจชาวทุ่งชาวไทย


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=367
เดือนเพ็ญ คาราบาว 
เดือนเพ็ญ สวยเย็นเห็นอร่าม
นภาแจ่มนวลดูงาม เย็นชื่นหนอยามเมื่อลมพัดมา
แสงจันทร์นวล ชวนใจข้า คิดถึงถิ่นที่จากมา
คิดถึงท้องนา บ้านเรือนที่เคยเนาว์
กองไฟ สุมควายตามคอก
คงยังไม่มอดดับดอก จันทร์เอยช่วยบอก
ให้ลมช่วยเป่า
สุมไฟให้แรงเข้า พัดไล่ความเยือกเย็นหนาว
ให้พี่น้องเรา นอนหลับอุ่นสบาย
เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย
เรไร ร้องดังฟังว่า
เสียงที่เจ้าพร่ำครวญหา
ลมเอยช่วยพา กระซิบข้างกาย
ข้ายังคอย อยู่ไม่หน่าย
ไม่เลือนห่างจากเคลื่อนคลาย
คิดถึงไม่วาย เมื่อเราจากกัน
ลมเอย ช่วยเป็นสื่อให้
นำรักจากห้วงดวงใจ ของข้านี้ไป
บอกเขานั้นหนา
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย
ให้เมืองไทยรู้ว่า ไม่นานลูกที่จากมา
จะไปซบหน้า กับอกแม่เอย...
************


ใจสาวนา..
แสนมีความสงบสุขเหลือเกิน...
เป็นดึกดื่นใกล้คืนเพ็ญ....
ที่จันทร์ค่อนดวง..ลอยเด่น ลอยงาม
ประดับบนฟากฟ้า..
สลับกับดวงดาราระยิบกระพริบพราวพราย.....
เสียงหรีดหริ่งเรไรระงม..... 
พรมพร่างด้วยน้ำค้างกลางหาว...... 
บทเพลงป่าขับกล่อม
มากับหวานแว่วของหยาดน้ำค้างระริน
กับกลิ่นข้าวใหม่ในนา
ที่ต่างพากันชูช่อล้อสายแสงจันทร์
รอคืนเพ็ญเช่นเดียวกันกับสาวนา


บางคราสาวนาได้ยินเสียงนกแปลกๆร้องขับขาน
เสียงนกคุ่ม นกกระทา 
แต่หามีเสียงโฮกๆให้วิ่งหนีนาป่าราบไม่
สาวนา ตั้งใจว่าจะพยายามร้องเพลง
ให้หวานแสนหวานแข่งกับเสียงจิ้งหรีด
หากแม้นยังไม่ได้ดื่มหยาดน้ำค้างก็ช่างเหอะ


เพราะพี่ทองบอกว่า
คืนวันงานนั้น 
ให้สาวนา หาดอกไม้ทัดแก้มแซมผม
และแต่งตัวให้สวยสมด้วยเอกลักษณ์ไทย
ด้วยสไบไพลสไบแพรสีตอง
ที่จะขับผิวผ่องเนียน
ให้ยิ่งผ่องไพลพิลาสพิไล
สวยแบบบาดใจแบบสาวนาสาวไพร
ก่อนขึ้นคว้าไมค์ครวญมนต์เพลงรักลุกทุ่งให้จรุงหูแจ่มจรัสใจ


เผื่อจะมีหนุ่มเมืองกรุงหลงทุ่งมาเที่ยวบ้าง 
ซึ่ง..จริงๆ
สาวนาหาได้ไยดีไม่
เพราะหัวใจสาวนา แค่อยากทำสิ่งที่รักที่ชอบ
ได้ร้องเพลงหวานหวาน
ฝากกระซิบผ่านฟากฟ้ากว้าง..ขุนเขา..
ในเงาฝนเงาฝัน 
ฝากสายลมพลันพัดพร่างไปประโลมร่างอ้าย
ให้หนาวคลายให้เลิกดายเดียวก็พอแล้ว...


เพราะอ้ายรู้ดี
คืนวันลอยกระทงอย่างนี้ 
คือคืนที่*สาวนาและอ้ายได้พบรัก*
คืนที่..
อ้ายเคยร้องเพลงรักแล้ว..แอบอ้อน
วอนสาวนาด้วยน้ำเสียงรานร้าว
ยามเข้าไต้เข้าไฟบนเวทีวัด
ในเพลงที่ชื่อว่า..*รักนี้มีกรรม*


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=5448
รักนี้มีกรรม สันติ ดวงสว่าง : : Key Abm 
เกิด มา ชาตินี้
มีบาป กรรม
แสนจะเจ็บช้ำ
ในหัว ใจให้ หม่นหมอง
สิ่งที่หวัง พังทลาย
สิ่งที่หมาย ไม่สมปอง
แสนเศร้าหมอง ในหัว ใจ
โอ้ สอง เรานี้ มีแต่ ช้ำ
น้อง ร้อง ครวญคร่ำ
พาให้พี่ใจ หาย
จำจากกันแล้ว แก้วตา
จำจากลาแล้ว แก้วใจ
ต้องจากไกล ไปจากกัน
เรา รัก กันไม่ได้
รัก กันไม่ได้
เพราะถูก ผู้ใหญ่กีด กัน
เก็บความช้ำ ไว้ในใจ
เหมือนว่าเรา ตายจากกัน
คิดว่าฝัน พลันอับปราง
เกิด ใหม่ ชาติหน้า ถ้ามี
ขอ สอง เรานี้
อย่ามี ใครกีดขวาง
สิ้นหวังน้อง นองน้ำตา
ไว้ชาติหน้า เถิดน้องนาง
จะสร้างทางรัก ของ เรา
เรา รัก กันไม่ได้
รัก กันไม่ได้
เพราะถูก ผู้ใหญ่กีด กัน
เก็บความช้ำ ไว้ในใจ
เหมือนว่าเรา ตายจากกัน
คิดว่าฝัน พลันอับปราง
เกิด ใหม่ ชาติหน้า ถ้ามี
ขอ สอง เรานี้
อย่ามี ใครกีดขวาง
สิ้นหวังน้อง นองน้ำตา
ไว้ชาติหน้า เถิดน้องนาง
จะสร้างทางรัก ของ เรา...


และ
ด้วยน้ำเสียงอันโหยไห้ของอ้ายในคืนนั้นแน่เชียว
ที่ได้มัดเกี่ยวดวงใจสาวนา
ราวข้าวกล้าถูกมัดฟ่อนด้วยฟอนไฟแห่งรักภักดี
ที่แสนจริงใจหนักแน่นมั่งคง
จากดวงใจอ้ายคนมั่นคงคนดี
ที่มีน้ำใจใสซื่อยึดถือรักภักดิ์พลี
แบบคนโบราณ


ที่จะมั่นใจในรักจริงเพียงหญิงเดียว
อย่างคำมั่นสัญญา
อันแสนมีค่าแสนศักดิ์สิทธิ์ที่ช่างแสนหายากเย็น
ในโลกอลวนคนมากมายมากมีแบบโลกในปัจจุบันสมัยนี้
ที่หมุนเร็วจี๋เปรี้ยวจิ๊ดในทุกลีลาชีวาชีวิต 
ที่สาวนาคนโง่ซื่อตามไม่ทันเลยจริงๆ


หลังจากคืนนั้น 
ที่สาวนาได้พากันไปลอยกระทงหน้าวัด
และ
อ้ายยังบอกให้สาวนาตั้งใจฟังชัดๆ
ยามที่ได้ยินใครบางคนกำลังครวญคร่ำบทเพลง
*จูบไม่หวาน*ว่า
อย่าให้สาวนาใจดำทำกับอ้าย
แบบบทเพลงฝากพ้อเพ้อเลยนะ


และให้..ราตรีและแม่พระคงคา
จงมารับรู้เป็นพยานรักแห่งสองดวงวิญญาณ์
ที่จะอธิษฐานร่วมใจต่อหน้าสายน้ำ
ที่ยิ่งใหญ่ในดวงใจไทยทุกดวงเสมอมา
คำที่ว่าให้รักกันตลอดไปเหมือนสายน้ำ
ที่ไม่เคยขาดจากชีวิตจิตวิญญาณคนไทยมานานเนาเช่นกัน
ได้แบ่งฝันปันใจ 
ได้เลี้ยงชีวิตผู้คนและพืชพรรณ
หล่อเลี้ยงอู่ข้าวมายาวยืน
ให้ทุกดวงใจได้มีกินมีชีวิตชื่นเลี้ยงชีวิตชอบ


ได้ฝากฝันฝากพลังรัก
พลังศรัทธาใจไทยทั้งชาติ
และ
ได้แสดงความกตัญญูชื่นชมยินดี
ที่ทุกดวงใจรู้สึกดีและมีความพันผูกต่อสายน้ำ
มายาวนานนัก
ที่ได้พี่งพิงพึ่งพา
ฝากชีวิตชีวาไทยโบราณไว้ริมฝั่งมหานที


และแทบทุกเรื่องราว
ในชีวีนี้ก็หนีไม่พ้นได้มาจากสายน้ำ 
ไม่ว่าอาหาร การสื่อสารเส้นทาง
และแม้กระทั่งความรัก
ที่มักมากับประเพณีเทศกาลจากลำน้ำ...
ที่เชื่อกันมาแต่โบราณนานมาว่า..
แม่น้ำลำคลองทุกสาย
จะไหลรวมกันไปยังนัมทามหานที..
ที่ไหลผ่านไปยังพระธาตุจุฬามณีบนสรวงสวรรค์


ดังนั้น การลอยกระทง
จึงเป็น
ดั่งการสักการะต่อองค์พระธาตุบนสรวงสวรรค์
และเชื่อว่าจะเป็นการลอยทุกข์โศกโรคภัย 
ความเคราะห์ร้ายทั้งปวงออกไปจากชีวิตได้

สาวนาคงเพียรเฝ้า
ขออธิษฐานบานบนต่อแม่พระคงคา
ให้บุหลันกลางฟ้าและดวงดารา..รับรู้รักนี้
ที่หนักแน่นมั่นคงซื่อตรงคงมั่น เป็นดั่งสักขีพยานใจ..
แม้นในวันนี้วันนั้นนั้น
ดวงชีวันชีวินจะปราศจากอ้าย
มาคอยคู่เคียงประคอง
ค่อยๆลอยกระทงไปด้วยกัน


สาวนาก็ ..คิดว่าหาใช่เรื่องสำคัญไม่
หากจิตใสสองดวงนั้น
ดั่งหลอมละลายเป็นดวงเดียวกันแล้ว
และจะเป็นเช่นนี้ไปตราบชั่วนิจนิรันดร!
***********************


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=932
กระทงหลงทาง ไชยยา มิตรชัย : : Key C NS
เป็นลาง สังหรณ์
เมื่อตอน วันลอย กระทง
สายน้ำไหลเชี่ยว ไหลส่ง
กระทงสองเรา แยกทาง
กระทงเจ้านั้น
ล่องไปเหมือนใจมุ่งหวัง
กระทงของพี่ หลงทาง
ลอยขวางหาทาง ไม่เจอ
ตั้งแต่วันนั้น พี่ก็กังวลไม่หาย
เฝ้าคิดกลุ่มใน หัวใจ
กลัวใครเข้ามา แย่งเธอ
กลัวพี่กลับน้อง แยกทางหากันไม่เจอ
กลัวใครเข้ามา พรากเธอ
เหมือนดังกระทง หลงทาง
ล้างร้ายวันลอยกระทง
บอกเรื่องราวโดยตรง
ว่าความรักเรา อัปปราง
เจ้าเปลี่ยนหัวใจ มีใหม่สมใจมุ่งหวัง
พี่เหมือนกระทง หลงทาง
อ้างว้างหัวใจลอยวน
เพ็ญเดือนสิบสอง พี่ล่องกระทงเดียวดาย
ปีนี้ไม่มีหวานใจ
เคียงกายเหมือนใครหลายคน
กระทงอ้างว้าง ล่องไปกับสายน้ำวน
เปลี่ยนความรักที่ มืดมนต์
หาคนร่วมทางไม่มี
เพ็ญเดือนสิบสอง พี่ล่องกระทงเดียวดาย
ปีนี้ไม่มีหวานใจ
เคียงกายเหมือนใครหลายคน
กระทงอ้างว้าง ล่องไปกับสายน้ำวน
เปลี่ยนความรักที่ มืดมนต์
หาคนร่วมทางไม่มี...

***********

เพลงประกอบใจประกอบไมค์สาวนาจ๊ะ
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=518=ลอยกระทง
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4913=ทาแป้งรอ
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=5448=รักนี้มีกรรม
http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4688=สาวนาสั่งแฟน
				
comments powered by Disqus
  • เรไร

    23 พฤศจิกายน 2547 08:44 น. - comment id 375734

    @@@ ลอยกระทงปีนี้
    สาวบ้านนา อย่าลืมร้องเพลง
    .. สาวนาสั่งแฟน น่ะครับ..
    จะรอฟังที่ข้างกำแพงวัด @@@
    
  • สาวบ้านนา

    23 พฤศจิกายน 2547 09:17 น. - comment id 375743

    ร้องสักสิบเพลงนะจ๊ะเรไร
    และ
    เพลงนี้ที่นาทีนี้สาวนากำลังร้องดังๆคือ
    *อายฟ้าดิน*จ๊ะ
    http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=1931
    อายฟ้าดิน   
    พาวเวอร์แบนด์ : : Key Em  
    จะบอกรักใครก็อายฟ้าดิน
    ความหวังพังสิ้น ทางรัก มืดมน
    เกิด มา ร่างกายเท่านั้นเป็นคน
    แต่หัวใจปี้ป่น โดนรักขยี้แหลกราญ
    จะเอ่ยรักใครให้เอือมระอา
    เมื่อไร้คุณค่า จนมิ ต้องการ
    ตราบ จน สิ้นคนมั่นรักยืนนาน
    ต้องทุกข์ทรมาน ร้าวราน ฤดี
    ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้
    ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี
    ดวงฤดี มีแต่ ซอกช้ำเรื่อยมา
    ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน
    กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา
    สู้ กลืน เก็บความซอกช้ำอุรา
    ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน
    
    ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้
    ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี
    ดวงฤดี มีแต่ ซอกช้ำเรื่อยมา
    ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน
    กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา
    สู้ กลืน เก็บความซอกช้ำอุรา
    ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน...
    
     
      
    
    
  • ไอติมรสต้มยำ

    23 พฤศจิกายน 2547 10:52 น. - comment id 375762

    สาวนาจ๋า เดี๋ยวอีกไม่นานไอติมก็จะกลับไป
    เป็นสาวบ้านนาเหมือนกัน แต่ไอติมเป็นคน
    อิสานนะ แล้วสาวนาเป็นคนที่ไหนจ๊ะ
  • แก้วประเสริฐ รหัส 6104

    23 พฤศจิกายน 2547 12:36 น. - comment id 375831

    ฮ่าๆๆๆๆอ่านงานคุณพุด แล้วอารมณ์สบายใจหากจะหาเนื้อเพลงร้องทั้งลูกกรุง ลูกทุ่งไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอกที่นี่แห่งเดียวเท่านั้นครับ 
    
                           แก้วประเสริฐ.
  • คิม รักนะ

    23 พฤศจิกายน 2547 12:48 น. - comment id 375842

    ขอฟังเพลงด้วยคนนะคะ
    
  • หิ่งห้อย เพียงดิน

    23 พฤศจิกายน 2547 12:48 น. - comment id 375843

    ดงดอกทองกวาวกำลังรอเวลาผลิดอก
    ทิวไม้งามรายล้อม..แลดูตะคุ่ม 
    
    
    ชอบ ๆ  ชอบดอกทองกวาว (ดอกจาน) ครับ ^_^
    
    ..หิ่งห้อย เพียงดิน ณ ทุ่งดอกจาน
  • นางฟ้าซาตาน

    23 พฤศจิกายน 2547 13:16 น. - comment id 375873

    
    อรขอเป็นหางเครื่องได้เป่าค๊ะพี่พุด?
    แวะมาฟังพี่สาวร้องเพลงเพราะๆค่ะ
    
    คิดถึงนะคะ
    
    
  • เพราะรัก

    23 พฤศจิกายน 2547 13:17 น. - comment id 375875

    มาช่วยร้องค่ะคิกๆๆๆ
    กระทงสวยจังเลยนะคะ
    คิดถึงค่ะ
  • วิจิตร ภู่เงิน

    23 พฤศจิกายน 2547 15:08 น. - comment id 375940

    //**//พี่พุดครับ
    
    วิจิตรมาเลือกเพลงให้ร้อง
    
    1.สวรรค์บ้านนอก(ของโฮป..ต้องหาคู่ร้องด้วยล่ะครับ)
    
    2.ค่ำนี้...เธอยังมีฉัน(ของสุธีร์...เพลงนี้ชอบมากๆ)
    
    3.สาวทอผ้าไหม(ของคุณมณี มุกดา..อันนี้ก็ชอบ)
    
    
    
    
  • ผลิใบสู่วัยกล้า

    23 พฤศจิกายน 2547 15:12 น. - comment id 375945

    มาหาคู่ลอยกระทง....หิหิ
    
    
  • แมงกุ๊ดจี่

    23 พฤศจิกายน 2547 15:33 น. - comment id 375953

    ้ว้าว.....ววว...
    
    ดีจังค่ะพี่พุด  อ่านแล้วสบายใจอย่างที่พี่แก้วฯ
    
    เค้าบอกเลยค่ะ..............
  • idaho

    23 พฤศจิกายน 2547 17:18 น. - comment id 376032

    ผสานเสียงซึ้งของบางคำ
    พร่ำรำพันคำรักฝากสายลม
    ให้ช่วยดลพัดพาหวานคำล้ำ
    กระซิบบอกข้างหูให้เธอจำ
    ************ 
         *****************
                    ****************เพลงนั้นเพลงของเธอ
  • เมกกะ

    23 พฤศจิกายน 2547 18:19 น. - comment id 376100

    เป็นตัวตนรวมเป็นคนขึ้นมาได้		
    จะดีแต่รอตายอยู่ได้หรือ	
    ธรรมชาติวาดไว้ให้สองมือ		
    ใช่ไว้ยื้อแย่งยำพร่ำทำลาย	
     
        จึ่งชี้ชวนสร้างสรรค์เพื่อวันพรุ่ง		
    ให้แสงรุ้งรุ่งงามยามทอสาย	
    ให้มวลมิตรแย้มยิ้มพิศพริ้มพราย		
    แต้มระบายโลกสวยด้วยมือเรา	
    
    
    
    +-*-+  +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+  +-*-+
    
  • ผีขี้เมา

    23 พฤศจิกายน 2547 20:39 น. - comment id 376274

    เสียงขลุ่ยขับรับหริ่งเรไรร้อง
    ท่วงทำนองแว่วหวานผสานเสียง
    กลางแสงเดือนดาวพรายที่รายเรียง
    คลอสำเนียง..เดือนเพ็ญ..เป็นเพลงครวญ
    
    หวัดดีจ้า
  • ผู้หญิงไร้เงา

    23 พฤศจิกายน 2547 20:54 น. - comment id 376289

    อยากจะลอยกระทงกลัวหลงทาง
    อยากจะเดินเคียงข้างกลัวห่างหาย
    อยากจะไปเยี่ยมเยือนมิตรเรือนกาย
    ก็กลัวซะมากมายไม่ได้ไป
    
    *-*คิดถึงพี่พุดนะค่ะ สำหรับการลอยกระทง น้องลอยกระทงทุกปี  2  กระทงทุกทีเลยค่ะ  ใบแรกไปลอยกับเพื่อน ๆ ในคณะเดียวกัน  ก็ประมาณว่าเที่ยวด้วย พอดึก ๆ กลับมารอเวลาไปลอยกระทงหน้าบ้านกับคุณพ่อคุณแม่  ซึ่งใบนี้ไม่เคยขาดสักปี  แต่ใบแรก บางปียังขาดบ้าง อิอิ คิดถึงนะค่ะ*-*
  • เพียงพลิ้ว

    23 พฤศจิกายน 2547 21:28 น. - comment id 376323

    ท่าทางจะสนุกนะคะ
    ร้องเพลงวันลอยกระทง
  • tiki

    23 พฤศจิกายน 2547 22:06 น. - comment id 376393

    แวะมาอ่านค่ะ
  • ชัยชนะ

    24 พฤศจิกายน 2547 08:07 น. - comment id 376648

    ร้องกันสนุกสนานหลายเพลงเอาจนคอแห้งไปเลยหรือครับ
    
    คว้าไม้ใฝ่มาเป็นไมค์ใส่เอ็กโค่
    หากะโป๋มาเคาะเสนาะเสียง(กะโป๋คือกะลา)
    พวกอิ่งอ่างหางเครื่องคลอเคล้าเคียง
    แจ่มจำเรียงเสียงหวานแว่วเจื้อยแจ้วไป

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน