เรือนแก้วร่มขวัญ!

พุด


URLhttp://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4258
ณ.วันนี้   
***********************
ในม่านฝนในม่านฝันคืนค่ำนี้..
แย้มยิ้มกับไพลสิคนดี ..ทุกดวงใจ
ไพล..จะพาคุณไปเยือน วิมานใยบัว วิมานฝัน
ยังสรวงสวรรค์บนดิน
เรือนริมบึง เรือนไทย เรือนใจ เรือนร่มรักแห่งเรา..
เรือนไทยหลายหลัง ที่ซ่อนตัวฝังแฝงในร่มแมกไม้ไทยนานาพันธุ์ 
ในดงดอกลำดวนหวานหอม 
ในดงดอกจิกหว่านพราวพริ้ง
ทิ้งชมพูพร่างสายกลางสายชล..สายธารให้หวานระริกระรื่นชื่นฉ่ำ
มีชานเรือนเชื่อมกัน ราวสายฝันมิพรากลา
ชานเรือนที่ร่มเย็นในเงาไม้ มีเถารสสุคนธ์กรีดกราย เลื้อยพันชูช่อ มีซุ้มกอลัดดาวัลย์
สายน้ำผึ้งฝัน สอดประสานก้านเกี่ยวเกาะ กันไป
ให้ร่มเงาให้ดวงใจได้ไหวหวาน งดงามแสนดี ตลอดปีตลอดไป..


ตรงหน้าเรือน..คือบึงบัวหลากสีหลากพันธุ์ 
ค่อยค่อยคลี่กลีบ แย้มชูชันบานรอรับหวานหยาด
จากสายวสันต์พรำพร่างกลางกลีบเกสร..งาม
ในเงาจันทร์ ในม่านเมฆฝน นั้น เห็นดอกฝน ลางเลือน
เหมือนดวงดอกฝัน ดวงดอกไม้ดอกนิดนิดดอกน้อยน้อย 
ค่อยค่อยกระจาย หายไปเป็นวงกว้างกลางบึงบัว
ดั่งดอกไม้สายวสันต์ ท่ามกลางเรือนฝันเรือนใจ..ในสายชล..
ให้ห้องหับทับเรือนไทย แสงตะเกียง ริบหรี่ วับแวม 
จุดวางไว้ ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง แบบโบราณ ที่มีบานกระจกโค้งมน
เป็นรูปไข่ และมีกระจกสี มีหูช้าง ด้านข้างไว้เป็นที่ปิดเปิดที่เก็บเครื่องหอมร่ำ
ที่หูจับลิ้นชักทุกอัน เรียกเม็ดมะยมทำเลียนของจริงด้วยกระเบื้อง..


ใกล้กันมีโถลายคราม บรรจุด้วยดอกไม้ไทยแสนหอมงาม 
เล็บมือนางสามสีสลับสวยสดชื่น..ข้างข้างมีพานทองเหลืองใส่
การะเวก มะลิลา มะลิซ้อน อ้อนตามด้วยดวงดอกลั่นทมนวลเศร้า..ระทม.
บนเตียงนอนโบราณที่มีเครื่องนอนหมอนมุ้งสีขาว 
มีม่านลายลูกไม้รายรอยที่ถูกจีบจับไว้ด้วยโบว์ผ้าไหม
รับร่างงาม ที่พาดตัวยาว นอนสยายผม ราวสายไหมแผ่กระจาย
ใบหน้านวลผ่องผุดดุจงาช้างเนียนละออ ล้อแสงตะเกียง ที่ทอทอดจับ
โลมไล้ร่าง ให้เสี้ยวหน้ายิ่งงามละมุนละม่อม..ราวนางในฝัน..

เธอใส่ชุดนอนผ้าลินินสีขาวลายลูกไม้ ยาวกรอมเท้า..
และใกล้หมอนปัก..ลายเถาวัลย์พันช่อดอกดวง
มีดอกพุดซ้อน.ซ่อนหวานแซมใบเขียว วางไว้สามสี่ดอก
ร่างงาม พลิกตัว เอื้อมคว้าหนึ่งในดอกนั้น มาทัดหู เคลียแก้ม แซมผม
และอีกดอก อีกคว้า เธอนำมาดอมดมพรมจูบด้วยรัก 
ในงามพิสุทธิ์ผุดผ่อง ซาบซึ้งเศร้าหวานเร้าใจ ..
เธอหลับตา พริ้มฝัน กับเสียงฝนพรำพรมนอกชายคา นอกหน้าต่างเรือน
ที่เปิดรอทิ้งไว้ให้หยาดละอองฝนพรายพร่าง
มาตกต้องกลางร่างกลางดวงใจให้ไหวงามตามฝันตามฝน..


กลิ่นการะเวก ใกล้กอซุ้มลัดดาวัลย์
กับกลิ่นดอกโมกพราวพร่างใกล้ชายคาเรือน
หอมกระจาย อวลมากับสายลมยามค่ำ
มาทายทักพะเน้าพะนอพ้อพลอดใจ
ไหนจะกอราตรีที่กำลังบานเต็มช่อดอก
เกสรบัวก็พลอดพรายกลิ่นแย้ม..มาแตะแต้มดวงใจ
ต่างพยายามคลอเคล้า ให้เจ้าของหวานหอมหลอมละลาย..
เธอควานคว้ากระดาษ มารจนาบทกวีบทนี้ถึงเขาคนดีผู้เป็นที่รัก!


ดอกปีบหวานบานเศร้าร้าวรานรัก
ดงดอกรักขึ้นเป็นกอรอรู้เห็น
ดอกลำดวนหวนหาทุกเช้าเย็น
ดอกราตรีไม่เว้น..บานรอท่า.ทุกราตรี
ดอกพุดซ้อนซ่อนใจใครกันหนอ
ดอกเข็มกอแทงใจใครหน่ายหนี
ดอกบานเช้าเย้าย้ำรอคนดี
ดอกมะลิที่บ้านนี้ลอยรอเธอ
ดอกจำปีกี่ปีแล้วลาเลือนลับ
ดอกเทียนนับเป็นร้อยห้อยพ้อเพ้อ
ดอกพุทธชาดสวาทหวังยังละเมอ
ดอกรอเก้อบานวันนี้ที่รอรอ.. 

และ
ณ...เรือนไทยท่ามกลางแสงตะเกียงฝันอันริบหรี่ รุบหรู่ 
กับเสียงดนตรีธรรมชาติจากสายฝน
กับเสียงจิ้งหรีดเรไร ระงมขับกล่อมประสาน
นานนานจะได้ยินเสียงนกไพร 
ดุเหว่าหวานดังแว่วกังวานมาแต่ไกล
เธอเปิดเพลง ไทยบรรเลง ที่ได้ยินเสียงขิมพริ้งพราว
เสียงกบเขียดในบึงกว้างร้องประสานเสียงหวานระงม
เสียงดวงดอกฝนหยาดสายพร่างลงนะกลางบึงบัว


ราวจะฝากไปให้ใครบางคนได้ยินตามได้ไหวหวามตาม
ราวกับจะฝากความคิดถึงแสนงาม 
ข้ามไพรพฤกษ์พนา พาโบกบินไปปลอบประโลมใจ
คนในดวงใจ ในยามนี้ 
ที่เธอนอนดายเดียวเฝ้าฝันเฝ้าหลงรอ 
ขอเพียงให้เขาคืนกลับมา..
หลอมละลายใจร่าง มีห่างหาย ให้ดาวพรายบนฟ้าอิจฉา
ให้บัวกลางบึงเหว่ว้า หลงเฝ้ารอหมู่ผึ้งภมร
มาเชยชมคลึงเคล้าเกสรตาม..
***************


เขียนบทนี้ วันที่พายุพัดแรง
ราวแกล้งให้ใจพุดพัดชาไหวตาม
กับแสงเทียนหวามไหว กับฉากในฝันที่มีจริงในวิมานดินพุดพัดชา
ทำให้อยากรจนา งานงามเงียบหวังเฉียบฉ่ำพรำรินลงตรงกลางใจทุกดวง
ยามดึกดื่น ที่ดาวลาดวง..เดือนลาลับ..มิคืนกลับมา..


และพุดพัดชา
อยากให้มาร่วมฝันร่วมพันผูกกับฉากเหว่ว้า 
มาฝากรัก ฝากใจ ที่เราถูกโชคชะตานำมาให้มาพบมารักกัน
นะทุกดวงใจไฟฝันในฝัน 
ณ.ที่แห่งนี้ ร่มเรือนไทย เรือนใจ เรือนขวัญ 
วิมานสวรรค์สรวงของเราในโลกฝันอันแสนงาม
ด้วยพลังแห่งใจละมุนละไม ..ไปด้วยกัน ด้วยใจต่อใจ


และด้วยพุดพัดชาเบื่อโลกแสงสี เบื่อโลกวัตถุมากมี
และทุกคราที่ดวงตาดวงใจสัมผัสสายวสันต์ ลีลาวสันต์
พลันจะก่อเกิดงามพร่างกลางใจ ที่อยากรจนามากำนัล
ให้ทุกท่านทุกดวงใจนั้น ได้หลับฝันดี
และยินดีมอบบทนางเอกให้นะนาทีนี้นะคะ
ยกเว้นมวลหมู่ภมร ที่อยากร่อนภิรมย์ชมบัวคลึงเคล้าเกสรบัว
บัวกลางบึง ที่ทายท้า รอท่าผู้กล้า สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย 
ที่มิใช่แค่หมายลอยคอรอคอย
จนบัวน้อยเหี่ยวแห้งคาบึง..นะคะคนดี..

พิสูจน์ซี หากอยากได้
บัวทองผ่องพิสุทธิ์นะเรือนไทยนี้ที่มากมีมากมาย
ด้วยใช้ใจดวงดี ดวงงาม ตามแลกแบบ
ใจดวลใจ .ใจเดิมพันใจ.ดีไหมคะ!ดวงใจ
*****************


http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=4258
ณ.วันนี้   
ละครทีวี เรือนมยุรา : : Key B  
ญ ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดังใจ โอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น
นานแสนนาน ฮืม
จึงมาเจอกัน
คล้ายบางสิ่งผูกพัน
ร้อยใจเราร่วมกัน
ช ดังมี สิ่งใดมาดลใจฉัน
ดวงใจ โอ้เอย มีเพียงเธอนั้น
นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน
ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา
ช ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
ช ฝากคำสัญญา ฝากวาจา
รักเธอไม่เสื่อมคลาย
ญ หมื่นพันสัญญา
ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
ช รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
ญ คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป
นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
และหวังเพียงได้ครอง
รักจนตราบนานตลอดไป...
 
				
comments powered by Disqus
  • พุด..ภาคเดียวดาย

    18 ตุลาคม 2547 09:47 น. - comment id 352837

    พุดขอนำเสนอ
    เรื่องแสนรักเอยแสนรักในกมลนี้
    กลับมาพลีบรรณาการ
    แด่ทุกดวงใจในเรือนแก้วร่มขวัญ
    อีกคราครั้งค่ะ
    ด้วยแรงฝันบันดาลใจ
    อยากฝากถึง
    ทุกดวงใจในเรือนแก้ว
    และ
    แด่ผู้อันเป็นที่รัก
    ที่กำลังจะพรากไป
    จากเรือนใจเรือนรักของพุดค่ะ
    สักพัก
    พุด..
    จะแก้ฉากสุดท้ายค่ะ
    คอยติดตามนะคะ
    
    
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    18 ตุลาคม 2547 09:53 น. - comment id 352841

    ชื่นชมคุณพุดครับ
    
    โต๊ะเขียนหนังสือนั้นน่าจะวิเศษมากสำหรับการเขียนงานดีๆ
    
    
  • มณี ปัทมะ ตารา

    18 ตุลาคม 2547 10:15 น. - comment id 352850

    ดอกบัวงดงามนามน้องพุด   ดวงใจของพี่มณี
    
    ...วางกายนิ่ง    ใต้ร่มพฤกษานานาพันธ์    รับรู้ถึงสัมผัสลมเอื่อยเย็นอวลรอบกายนะดี
    
    ...ถึงแม้ไม่โบกแรงจนหมู่มวลบุปผา  บุษบา  มาลี   กลีบไหวริ้วลู่ตามลม
    
    ...รับอวลเย็นเข้าซึมแทรกแนวสันหลัง   พุดพัดชา
    
    ...มิห่วงให้โหยหา   จิตวิญญาณแห่งผู้กล้าไม่ว่านามใด    ก็จะสถิตย์ชิดใกล้จอมขวัญนะคนดี
    
    ...ให้ไกลแสนไกล   แต่อวลอุ่นซับให้ผลิปัญญาใหม่นะน้องรัก
    
    ...รับไว้...
    
    รัก
  • พันดาว

    18 ตุลาคม 2547 10:22 น. - comment id 352855

    
    ลำดวน           รุ่งสาง
    บอบบาง          ดอกโมกอ่อนไหว
    ต้นหลิว           ปลิว...แกว่งไกว
    กลิ่นหอมไกล   พุดปานไสว... ในไพรพณา...
    -*-+ -*-+ -*-+ -*-+ -*-+ -*-+ -*-+ 
    กลอนงดงาม... บทประพันธ์อ่อนหวาน... เสมอ
    
  • พุดค่ะ

    18 ตุลาคม 2547 10:52 น. - comment id 352877

    คุณก่อค่ะ
    พุดมีงานเขียนชิ้นหนึ่ง
    เกี่ยวกับโต๊ะรจนางาน
    ในชีวิตจริง
    ที่พุดจะใช้นั่งในบางวัน
    ฝันในบางคืนค่ะนะคะ
    
    ไม่นับตามชานบ้าน
    ริมระเบียงบนใกล้ดงดวงดอกการะเวก
    ในดงกล้วยอิอิ
    
    และ
    บ้าง
    กับเรือนจำปี
    ที่ใช้ลำต้นอวบใหญ่
    สร้างเป็นดั่งเสาเรือนแห่งรัก
    ไว้พักใจสร้างไฟฝันให้พร่างงามค่ะ
    
    และกับ
    ในทุกยามเหว่ว้าดายเดียว
    เปลี่ยวเปล่าใจไหวหวามไหวรอ
    
    ก็จะจุดเทียนกลิ่นดอกไม้กลิ่นผลไม้
    กลิ่นตะไคร้หอมๆ
    
    แล้ว
    ก็มานั่งเอนอิงหมอนขวาน
    เปิดจิตวิญญาณรับพร่างงาม
    ของทุกมวลสรรพสิ่ง
    ที่นิ่งเงียบงามรายรอบตัวค่ะ
    
    กับมวลหมู่เมฆ
    กับเสี้ยวแสงจันทร์
    อันกำลังหยาดสายแสงหวานๆๆๆ
    
    แล้ว
    ก็จะฝันฝันฝัน..จินตนาการ
    ว่าตัวเองขึ้นไปบนวิมานเมฆ
    ไปไกวเปลเมฆพราว
    ราวสายรุ้งคือสายเปลแห่งรักภักดิ์พลี
    
    ราวนางฟ้าใจดี
    กำลังหอบตะกร้าเพชรที่กำลังพร่างพราว
    กำลังหว่านหวานโปรยดอกดวงดาวให้
    
    งามอะคร้าวระยิบระยับจับโยนเล่น
    ไปทุกถิ่นที่
    ให้มวลมนุษย์ในหล้าโลก
    นี้ได้สัมผัสงามและสร้างปิติใจ
    
    และจะ
    เสกรวงดาวมากำนัล
    นำมาร้อคล้องขวัญพราว
    ราวสร้อยคอ
    ราวสร้อยโซ่เพชร
    ที่
    เด็ดมาจากดวงจิตดวงใจใสงามดวงนี้
    ที่แสนมีความสุข
    ที่พลีรักอักษรามายาวนานมากค่ะ
    
    เพื่อมาถักสานคล้องใจ
    ทุกดวงใจ
    ในร่มรักเรือนไทยเรือนทอง
    แห่งน้องพี่ณ.ที่แห่งนี้นะคะ
    
    และกับ
    บางครา
    ยามที่
    ดวงใจแสนเศร้าดายเดียวเหว่ว้า
    ก็จะ
    แค่
    เอื้อมมือไขว่คว้า
    
    เด็ดดวงจำปีจำปา
    มาแซมผมเคลียคลึงเคล้าแก้มแกล้มใจ
    
    แล้วก็จะบันดาลใจบันดาลฝันให้
    หลั่งรินรจนางานๆๆ
    ออกมาได้มากมีมากมายค่ะ
    เป็น
    ชีวิตจริง
    ที่ทุกสรรพสิ่ง
    ต้องเพียรสร้าง
    
    จากหยาดงามแรงเหงื่อ
    ด้วยแรงรัก
    
    ด้วยหวังจักได้เคียงธรรม
    ธรรมชาติให้วาดเวิ้งพบฝัน
    พบรักอันงามว่างงามจิต
    ไปตราบชั่วกาลนานนิรันดร์
    
    ตราบจนถึงวันลมหายใจสุดท้าย
    จะมอดดับลงค่ะ
    
    หากไม่มีพระเอกในฝันมารับบทจริง
    พาวิ่งไปอยู่
    *กระท่อมพุดไพร
    ในเวิ้งฝันนิรันดร์งาม*
    เสียก่อนนะคะ
    
    และ
    เฝ้าฝึกเพียรภาวนาค่ะ
    แม้นจะช้านานก็จะมิระย่อ
    เพียงใจรู้ใฝ่ดีใฝ่ธรรม
    นำมารินร่ำหอมห่มใจ
    อย่าให้เว้น
    
    และหวังฝากทุกผลงาน
    รัก..ที่คือทุกข์นักทุกข์หนา
    หากหนีไม่พ้นวิบากกรรม
    
    ให้น้องๆ
    ได้พบรักแบบมีคู่ใจคู่ธรรม
    เป็นเสมือนดั่งคู่ทองพากันลอยล่อง
    ด้วยแพธรรมแพทอง
    นำจิตไปสู่ฝั่งฝัน
    อันจักเป็นนิรันดร์รักด้วยกันค่ะ
    
    ภาวนานะคะ..อธิษฐาน
    หากยังไม่ละทิ้งพรมจรรย์ได้ค่ะ
    และ
    จนเพียรสร้างสมบุญบารมีมากพอ
    ด้วยกุศลจิตที่คิดดีคิดให้
    ให้น้ำใจให้เมตตาแด่
    ทุกเพื่อนมนุษย์ผู้ยังวนว่าย
    ในวัฎฎสังสารนี้
    ที่
    ร่วมเกิดแก่เจ็บตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
    ให้ได้ก้าวล่วงพ้นผ่าน
    ข้ามมหานทีสีทันดรไปด้วยกันค่ะ
    
    พุด
    ก็ได้แต่เพียรด้วยรักปรารถนาดีอย่างจริงใจ
    ยอมเททุ่มใจฝากในงานรจนาค่ะ
    เพียงนั้น
    และ
    มาปันใจปันหอม
    ให้รู้รักธรรมชาติ
    ให้รู้รักเย็นรักเป็นเห็นงามง่ายใกล้ตัวค่ะ
    
    ด้วยรักล้นใจ
    
    
    
    
  • พุด..สะเทือน

    18 ตุลาคม 2547 11:02 น. - comment id 352881

    ตั๊กแตนเตือนใจ
    
    ฉันนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ 
    
    ตรงหน้า..ค่ำคืนนี้
    มีดอกเล็บมือนาง เต็มโถแก้ว 
    บานสวยสามสีแข่งกันแดง ชมพู และขาวนวล 
    
    เหนือขึ้นไปเป็นบอนกระดาษ
     ที่มาวันนี้แผ่ก้านใบโชว์เขียวใสละออ 
    
    กลิ่นตะไคร้ผง..
    หอมอวลแกล้มมากับสายลมเย็น
    กับกลิ่นธรรมชาติงาม  
    
    ฉันมองตั๊กแตน..สองตัว
    ที่สานด้วยใบตาล 
    ที่ล้อลมอยู่ตรงหน้า 
    
    ที่ฉันนำมาเสียบแขวนไว้
    กับกิ่งก้านบอน
    ให้กวัดแกว่งไปตามแรงลม.. 
    
    เป็นฝีมือละอียดละออ 
    ของหนุ่มน้อยชนบท
    ที่ดวงตาใสซื่อ เว้าวอน 
    
    ให้ฉันช่วยซื้อมาสักสองตัว.
    ตอนที่ฉันแวะทานข้าวที่ชะอำ... 
    ด้วยคำวอน...
    
    *ผมจะหาตังค์ซื้อกระเป๋าสักใบ 
    ใบนี้มันขาดแล้วขาดอีก*
    
     เขาชี้ไปที่..กระเป๋าเก่าๆ
    ที่ขาดกระรุ่งกระริ่ง
    ที่สะพายอยู่บนบ่าไว้เก็บข้าวของ 
    
    ฉันค่อยๆเบือนหน้าออกจากภาพนั้น
    ด้วยสะเทือนใจ.. 
    พร้อมหยาดน้ำใสในเรียวตาเริ่มปริ่มตา
    
    เพราะสิ่งที่ตามมา
    ในคลองตาที่ฉันเห็น 
    
    มิใช่เพียงกระเป๋าขาดๆเพียงนั้น 
    แต่ยังเสื้อผ้าที่..เขา..สวมใส่อีกเล่า..
    ก็เก่าแสนเก่าคร่ำคร่าดำปี๋ขาดพอกัน  
    
    โลกหนอโลก..
    หลุยส์วิตตองหนอหลุยส์วิตต๊อง 
    ที่สาวๆไฮโซซื้อกันใบละหมื่นละพัน  
    
    ฉันสัญญา..
    สัญญากับใจตัวเองนาทีนั้นว่า.. 
    
    ฉันจะกลับไปที่นั่น 
    ร้านนั้นอีกครั้งครา 
    
    เพื่อจะหากระเป๋าใบใหม่ไปให้ 
    
    หวังว่า..เขา..คงยังอยากได้อยู่นะ 
    อีกไม่ช้านาน..  
    และ
    ได้ขอซื้องาน งามฝีมือประณีต 
    ตั๊กแตนสานสวยมา10ตัว 
    
    ที่เขาใช้ สมองใสซื่อ
    ใช้มือแสนดี
    ที่ซื่อสัตย์สุจริตถักทอ..ด้วยดวงใจ..งดงาม  
    
    ฉันจะนำมาแขวนเตือนใจ..นี้..
    เพื่อบอกว่าความพอ..
    ความดีมันอยู่ตรงนี้ ..
    
    ที่สมองด้านขวาและหน้าอกข้างซ้ายนี้
    ที่มี
    ใจดวงเดิมดวงดี
    ที่
    คิดเป็นเห็นงามง่าย ใกล้ตัว ใช่อื่นไกล ใช่ไหมคนดีทุกดวงใจของพุดพัดชา!
    
    
  • เพราะรัก

    18 ตุลาคม 2547 11:22 น. - comment id 352888

    เพราะมากค่ะ แต่งได้น่าอ่านอีกแล้วนะคะพี่พุดจ๋าคิดถึงนะคะพี่พุดจ๋า
    
    
  • ลำน้ำน่าน

    18 ตุลาคม 2547 11:54 น. - comment id 352901

    พระจันทร์เสี้ยวข้างแรมสาดแสงแทงยอดไม้แลเห็นเป็นเงาสวยในค่ำคืนนี้
    ในเวิ้งน้ำบึงบัว..ทอดสายตาออกไป ดอกบัวสีชมพูงามงดเบ่งบานล้อแสงจันทร์
    หนังสือเล่มสวย อัญมณีแห่งชีวิต  กับตะเกียงน้ำมันสน...เสื่อกระจูด 
    พร้อมหมอนที่เพิ่งจะยัดนุ่น เต่งตึง..ใส่ไว้เมื่อปลายฤดูที่ผ่านมา...
    ปลอกหมอนฝีมือปักลายสามชั้น....ของเจ้าที่รักยิ่งในหัวใจ...
    ลายลูกไม้ขาวสด ..ที่เจ้าเคยบอกว่า เอาไปใช้นะ หมอนแทนใจฉัน...
    นอนอ่านหนังสือบนนอกชานริมเรือนไทยใกล้บึงบัว..ก่อนพระจันทร์จะลาลับ...
    ตรงหน้าเห็นม่านสามชั้นฝีมือเจ้า....โดนลมพาน สะบัดสะบิ้ง...ในอารมณ์
    
    กับค่ำคืนที่ใครบางคนครวญขลุ่ยเคล้าขิมกังวานมาจากคุ้งน้ำ...ท่าไหนสักแห่ง
    เสกสรรบรรยากาศริมเรือนใจในยามนี้..อุ่นอวลตลบราวกับน้ำปรุงชั้นยอด
    จากเรือนท่านเจ้าคุณที่มีบารมีสูงสุดในย่านนี้......จนต้องหลับตาดื่มด่ำกำซาบ
    เสียงขลุ่ยครวญหวนมากับลม...ราวกับจะเอ่ยเอื้อนฝากคำไปยังใครคนหนึ่ง
    ที่อยู่ไกลแสนไกล สักแห่งในโลกหล้านี้..ที่กำลังนอนเดียวดายใต้แสงจันทร์
    บางคราวก็เสียงขลุ่ยเศร้าจนต้องหลับตา...นึกภาพตามอย่างอาวรณ์....
    ลมริ้วลอยละล่องแตะต้องจมูก..อวลดอกราตรีคลุกเคล้ามา..น่าอภิรมย์ยิ่งนัก
    แสงตะเกียงน้ำมันสนแวมวับ...กับริ้วลมที่พัดมาเป็นระยะ พาให้เปลวไฟ
    เต้นระบำวาดลวดลายตามลม...กระพือโหมในบางช่วงของสายลม
    สวยงามไปตามแบบฉบับของไฟตะเกียง...ในเรือนไทยวิมานบัญชา...
    
    ก่อนที่พระจันทร์จะลาลับในค่ำคืนนี้ บรรยากาศรอบเรือนไทยหลังงาม
    จะเป็นแรงฝันบันดาลใจให้หัวใจดวงนี้ รำพึงรำพันคำกวี...ที่รักยิ่งในหัวใจ
    บางคราวเราก็ทำได้ดีที่สุดเพียงนี้...แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับความสุขซ่าน
    ที่เราได้กำนัลแด่หัวใจดวงงามของเรา....ที่ได้อิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติ
    สิ่งงามง่ายรายลอบตัว ที่รอวันให้เราค้นหา เปิดเปลือกตาเปิดใจสัมผัส...
    อยู่นิจเนื่อง...ไม่มีวันเสื่อมคลายในมนต์ตรานี้....ดั่งดอกบัวบานปริ่มน้ำ
    เป็นดอกไม้ในเรือนใจริมบึงบัวริมเรือนไทยในยามนี้ .....
    ที่รอให้เราเด็ดดวงมาเคล้าคลึงดอมดม อยู่ทุกๆ ทิวาราตรี....
    บางคราวราวจะกำซาบกับอดีตที่กรีดกรายและปัจจุบันอันหวามวาบ 
    แกมทรมาน...อันน่าหลงใหลไขว่คว้า..อย่างที่สุดแล้ว
    
    
    ดังมีสิ่งใดมาดลใจฉัน
    ดังใจโอ้เอยเฝ้าคอยเธอนั้น
    นานแสนนานจึงมาเจอกัน
    คล้ายบางสิ่งผูกพันร้อยใจเราร่วมกัน
    ดังมีสิ่งใดมาดลใจฉัน....
    ดวงใจโอ้เอยมีเพียงเธอนั้น
    นับวัน ฮืมจนแรกเจอกัน
    ใจฉันเพียงต้องการ แต่เธอตลอดมา
    ฝากคำสัญญาฝากวาจารักเธอไม่เสื่อมคลาย
    หมื่นพันสัญญา ร้อยวาจา หนึ่งเดียวที่เข้าใจ
    รอคอย ผ่านวันเนิ่นนานเพียงไหน
    คืนวัน ผ่านไปไม่มีความหมาย
    พร้อม นับวันนี้เธออยู่ภายในใจ
    และหวังเพียงได้ครอง
    รักจนตราบนานตลอดไป
    
    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4258
    
    
  • tiki

    18 ตุลาคม 2547 12:34 น. - comment id 352914

    เป็นงานงามใจอีกลีลาของพุด
  • น้ำ

    18 ตุลาคม 2547 14:47 น. - comment id 352976

    สายเส้น เป็นลาย สลักสรวย
    ร้อยด้วย มวลดอกไม้ อบหอม
    รสจนา หวานคำ เคล้าพยอม
    ยลเด็ดดอม น้อมใจ ใสสบาย
    
    สวัสดีครับ..งานงามมากนิ
  • ฟ้าสวย

    18 ตุลาคม 2547 14:49 น. - comment id 352977

    พี่พุด หวัดดีค่ะ
    เอ่อ!!ฟ้าสวยอยากรุ้ว่า งานที่พี่พุดเขียนนี่
    เขาเรียกว่าอาไรอะคะ (แฮะๆๆ  มะรุ้จิงๆ)
    เท่าทีฟ้าสวยอ่านดูกลอนก็ไม่ใช่ ฟ้าสวย
    รบกวนถามพี่พุดหน่อยนะคะ   แฮะๆๆ
    
    
    
  • กอกก

    18 ตุลาคม 2547 18:04 น. - comment id 353113

    มาอ่านงานงามๆ นะคะ ..
    เวลาอ่านถึงตรงไหน เหมือนจะเห็นภาพในมโนนึก..
    ได้กลิ่นหอมของดอกไม้โชยมา..
    งานงามมาก
    
    สวัสดีค่ะ
  • ดาหลา & ปะการัง

    18 ตุลาคม 2547 19:25 น. - comment id 353147

    คิดถึง แม่คนดีพุดพัดชา 
    
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน