วันนี้ไปโรงพยาบาลมาค่ะ ที่ราวกับโรงแรมหรู ถึงแม้นว่าจะมี แค่หน้าตาผู้มาเยือนเท่านั้น ที่แตกต่างกันเพราะณ.โรงแรมหรูนั้น มักจะมีแต่สรรพเสียงแห่งการทักทาย จับไม้จับมือร้องฮ้าไฮ้ฮัลโหลโอ้สวัสดี ที่มีแขกทุกชาติภาษามาพัก หรือไม่ก็ มานั่งรอนัดใครสักคน มาสบตาทานข้าวใต้แสงเทียนสักมื้อ ภายใต้บรรยากาศอันแสนฉ่ำซึ้งสุข สนุกสนานกับการมาพักผ่อน ที่แสนเบิกบาน รอทัวร์รอเพื่อนมารับไปเที่ยว แต่ณ..ที่นี่..ที่โรงพยาบาล คือที่ที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดเจ็บป่วย ด้วยความทุกข์ระทม หรือความตรอมตรมจากญาติมิตรสนิทผู้ที่รักห่วงใย ยกเว้นบางแผนก ที่ให้คนมาพักอาศัยชั่วคราว ให้ทำสิ่งมหัศจรรย์รัก อันแสนยิ่งใหญ่คือการให้กำเนิดกุมาร บุตรธิดาที่จะให้ความรู้สึกดีที่น่าตื่นเต้นยินดี ไม่มีใครมาพูดว่า*บ่วงเกิดแล้ว ห่วงเกิดแล้ว* ให้แม่แก้วพ่อขวัญ เสียความรู้สึก หากไม่ว่า ณที่นี่ จะซ่อนซุกไว้ด้วยความหรูอย่างไร ก็ปิดไม่มิดในทุกทุกข์ความระทมระทวย ใกล้ม้วยมรณา..ให้มามรณานุสติ หากคิดได้..คิดดี..คิดให้เป็นไปตามคำพระพุทธวจนะ *เกิดแก่เจ็บตายคือสรณะ*นะมนุษย์หกสิบพันล้านเอ๋ย แม้นจะเอาหน้ากากเงิน หน้ากากทองมากองมาแลกเอย ก็คงไม่หายจากวิบากกรรมเก่า หากเพียงแค่ อาจจะยืดเวลาพรากลาให้ช้าหน่อย ตรงที่ได้รีบการวินิจฉัยฉับไว ไม่ต้องมานอนคอย ร้องโอดครวญหวนโหยหา คุณหมอนานเกินความจำเป็น ไม่ต้องเข้าคิวรอตั้งแต่ตีสามตีสี่ เพื่อมายัดทะนานในโถงผู้ป่วยนอก รวมรอเรียกตรวจ ราวปลากระป๋อง เหมือนตามโรงพยาบาลรัฐ ที่คนป่วยมากกว่าคุณหมอไม่รู้จะสักกี่เท่า ซึ่งบางทีก็น่าเห็นใจบรรดาคุณหมอพ่อพระ ของบรรดาผู้ทนทุกข์ยาก ที่มาฝากผีฝากไข้ที่ช่างมากมายมากมี ที่ท่านคุรหมอแสนดีมีน้ำใจมีคุณธรรม ยอมเสียสละทำงานหามรุ่งหามค่ำ ที่เหนื่อยซะยิ่งกว่าเหนื่อย ด้วยรับภาระล้นหลาม แล้ว แถมเงินเดือนก็มิงาม จนบางทีคุณหมอเอง ก็เลยเครียดเสียเองแทนคนไข้ ต้องถูกหามขึ้นไปนอนบนเตียงแทนผู้ป่วย เสียก็มากมีมากมาย กับภาระอันหนักหนาสาหัสสากรรจ์ วันวันไม่ได้พักได้ผ่อนนอนเล่น เย็นเย็นใจแช่แอร์กับลูกกับภรรยา มีแต่คนมาตามหา เห็นแต่หน้าคนไข้ไร้สุขสลอน มานอนให้รักษา ช่างเวทนาเป็นที่ยิ่ง อย่ากระนั้นเลย คุณหมอเองก็คนนะ ก็ปุถุชนคนธรรมดาๆเช่นกัน มิใช่ทศกรรฐ์มีสิบมือสิบหูฟังหูตรวจนี่นา จะได้รวดเร็วราวกามนิตสามารถลิขิตบันดาล ให้ทุกชีวิตพบหรือได้ พ้นจากการไปสวรรค์นรกได้เร็วเข้า ก็เลยน่าเป็นที่เข้าใจเห็นใจทั้งสองฝ่าย ในยามชีวิตมาเข้าด้ายเข้าเข็ม มาเจ็บมาป่วย ที่งบประมาณประเทศเรานี้ ยังมีไม่พอที่จะทั่วถึง บางทีผลิตทรัพยากรบุคคลให้เป็นหมอมานานหลายปี ดันมาต้องคดีฆ่าแล้วหั่น ให้น่าสยองขวัญเสียก็หลาย หันกลับมาดูโรงแรมเอ๊ย?ไม่ใช่..โรงพยาบาล วันนี้ที่พุดไปดีกว่านะ ที่มีทุกอย่างเลย จนทำให้สับสน คิดว่าขัยรถมาผิดที่เสียอีกแน่ะ ค่าที่มีทั้ง ร้านฟิตเนส ร้านแมค ร้านเคเอฟซี ร้านทำผม ร้านหนังสือ ร้านนวดตัว ร้านดอกไม้ฝรั่ง ที่จัดวางไว้ในตะกร้าที่แพงแสน แม้นจะอยู่ทนกว่าคนป่วยก็ช่างเถอะนะ ที่ให้ตายก็ไม่มีวันได้เงินพุดดอกค่ะ เพราะว่า พุด..ชอบนำดอกไม้ไปให้คนที่รัก จากดวงใจที่จัดเองจากใจ หากพุดจะไปเยี่ยมใคร พุดจะไปตลาดแต่เช้า และใช้ไอเดียวิจิตร คิดประดิดประดอยเอาเอง ตามจินตนาการให้งามสล้างละมุน ใช้ดวงดอกไม้ที่หอมกรุ่น แทนความรักและมักเป็นดอกไม้ไทย ที่ไม่จำเป็นต้องไปสิ้นเปลืองมาก แนบไปกับของรับประทานบำรุงร่างกาย ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง ที่คนไข้ได้รับประทาน มิใช่นำไปฝากคนเฝ้าไข้ให้พุงหลาม ไขมันล้น..ต้องนอนแทนเป็นคนป่วยรายต่อไป และ แสนแปลกดี ที่แม้นจะมีร้านหรู ให้นั่ง กับข้าวริมซอยกลับอร่อยมากกว่าค่ะ และแสนถูกอย่างไม่น่าเชื่อ มีทุกอย่างที่แสนสะอาดและมีอนามัย พุดชอบฟักทอง กล้วยนึ่ง ข้าวเม่าคลุก ที่มีมะพร้าวขูดเคลียแกล้มปะแล่มเค็มค่ะ คงเป็นโรคอาลัยของกินแบบวัยเยาว์ค่ะ อ้าวเล่าไปเล่ามาเสร็จตรงเรื่องของรับประทานค่ะ ที่บางทีพุดอยากเปิดคอลัมน์ เรื่องอาหารอนามัย ให้น้ำลายไหลยืดย้อย ให้ทุกท่านอยากทานของอร่อยๆ แบบแมคโครไบโอติกส์ หรืออาหารชีวจิตที่แสนเป็นมิตรกับชีวิต และมีประโยชน์กับร่างกายเรานะคะ เพราะมีคนกล่าวไว้ว่า *YOU ARE WHAT YOU EAT* หากจำไม่ผิดนะคะ เพราะว่าพุดเป็นคนไทยค่ะ ไม่ชำนาญภาษาต่างชาติสักเท่าไร กลับมานั่งรอคุณหมอ ในห้องที่งามสะอาดหรูดูดี แม้นกระทั่งในห้องน้ำ ที่มีดวงดอกกุหลาบหลากสีสดใส ลอยงามประดับหวาน ให้คนไข้ได้ชื่นใจ มาตรแม้น ทุกหัวใจจะไม่อยากไยดี กับทุกสรรพสิ่งแล้ว แบบปลงอนิจจังวัฎฎสังขารา เกิดหนอ แก่หนอ เจ็บหนอๆ รอพุทโธๆรักษาจิตให้สงบสยบความเจ็บ หากยังมิถึงเวลาลาโลกโศกสุข ให้สิ้นทุกทุกทุกข์ไปแบบไม่หวนไห้ไยดี แบบที่เข้าใจความเป็นไปในธรรมชาติชีวิตอย่างถ่องแท้ เหลือก็แค่ปล่อยวาง ให้สังขารร่วงไปตามอายุขัย ที่มีวิบากเก่าวิบากกรรมนำทางมา ที่เราทุกผู้ควรเตรียมฝึก รู้จักคำว่า*ตายก่อนตาย* พยายามเพียรภาวนาพาจิต ให้ยอมรับทำใจ ข้ามไปให้พ้นอย่างไม่ทรมานใจมากนัก เมื่อวันที่จำต้องละสังขาร อันใช่เป็นที่รัก อันใช่จะยึดมั่นถื่อมั่นไว้ได้ ใช่จะบังคับให้งาม ราวสาวสองพันปีตลอดไปตลอดกาล ได้นานนิรันดร์เสียที่ไหนกันเล่าเจ้าเยาว์ยอดมาลย์ จำต้องพบพาน คำว่าพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก ที่เราก็รู้ดีว่า ทุกคนทุกจิตวิญญาณ ต่อให้งามสักปานไหน ในที่สุดก็เน่าก็หนีไม่พ้น.. สถานที่แห่งหนึ่งเหมือนกัน ไม่ช้าก็เร็ว ที่พุดไป.. ขนาดเป็นโรงพยาบาลหรูดูดี พุดยังปลงอนิจจังสังขาราถึงเพียงนี้เลยค่ะ แล้วคิดดูซียามพุดไปโรงพยาบาลรัฐ พุดจะรำพึงถึงป่าช้าสักปานไหนละหนอละนี่นะ ทุกดวงใจเอ๋ยจะชินชาเฉยได้อย่างไรกันเล่า ขนาดที่นี่ ที่ซึ่งยังมีพยาบาลน้ำใจงาม คอยเข็นรถเครื่องดื่มมาถาม ราวนั่งบนเครื่องบินว่าจะรับน้ำมั้ยคะ รับมั้ยคะ และกล่าวคำขอบคุณเราด้วยซ้ำหากให้ใช้บริการ แถมยังมีน้ำให้เลือกหลากชนิดนะคะ จะนม น้ำลิ้นจี่ น้ำส้มหรือน้ำธรรมดาที่แพ็คมาอย่างดี ********** พุดรจนาเรื่องนี้ ประกอบบทเพลงพระโพธิ์แก้วค่ะนะนาทีนี้ ที่ช่างให้ความรู้สึกเศร้าซึ้งเป็นยิ่งนัก น่าเสียดาย ที่ทุกดวงใจไม่มีโอกาส ได้อ่านงานประกอบด้วยบทเพลงธรรมแห่งชีวีชีวิต ที่แสนไพเราะกินใจเตือนใจสอนใจเราค่ะ และ และ ขอแจงใจก่อนนะคะ แบบเข้าข้างตัวเองเพราะเกรงว่าจะมีมีผู้สงสัยห่วงใย ว่าพุดไปโรงพยาบาลทำไม ไปเป็นเพื่อนคนไปจี้เอาใฝเสน่ห์ออกค่ะ ด้วยเลเซอร์ค่ะ หาใช่ป่วยอันใดมากมายไม่ ******** รจนาสดยังมีต่อนะ คอมพุด..กำลังจะรอไปไอซียูค่ะ ไม่รุจะแก้ได้ไหม จะรจนาต่อได้ไหมค่ะ ยังไงก็ขออภัยด้วยนะคะ สักพักพุดจะนำเอาเรื่องบางเรื่องมาฝากให้ อ่านแก้เหงาใจในวันหยุดไปพลางๆค่ะ จนกว่าคอมจะหาย..ป่วยนะคะ ******* ดอกไม้ในภาพด้านบน คือดวงดอกไม้สวรรค์นามปาริชาตินะคะ ที่ยังหาดูได้บนผืนหล้าพสุธาไทยพสุธาทองได้ ให้ทุกดวงใจรีบเพียรสร้างกุศลจิต อย่าเพิ่งคิดรีบไปดูบนสวรรค์เลยค่ะ ***** ฝากคำงามในเรื่อง *เดินที่สูง* ที่พุดกำลังอ่านมาให้ฟังนะคะ ด้วยความประทับใจ *บางท่านกล่าวว่าโดดเด่นคือโดดเดี่ยว แต่หากเห็นลีลาร่ายรำของเกลียวเมฆบนสันเขา ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่านี่คือสายสัมพันธ์ล้ำลึก บางทีอันอาจจะเป็นความรัก บางทีมันอาจเรียกได้ว่าความผูกพัน กระนั้นก็ดี.. แม้ความรักอาจป็นนิรันดร์ แต่ความชิดใกล้กลับเป็เรื่องชั่วคราว..* http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_33454.phpฝนหนาว..กับ..แค่คนที่รักเธอ พุดพัดชา ฝนหนาว..กับ..แค่คนที่รักเธอ ฝนตกราวฟ้ารั่ว ตอนตีสาม...... ฉันชอบ..คืนค่ำที่ฝนตกหนักอย่างนี้.... เสียงดนตรีจากสายฝน กับผ้าห่มผืนนุ่ม กับความหนาวเย็น แบบชุ่มฉ่ำ กับความฝัน..สล้าง ที่หล่อเลี้ยงดวงใจ ให้ถวิลหาใครบางคน ที่แสนไกล.... ฉัน..ตื่นมา เพื่อรอเวลาที่จะไปวัด กิจวัตรยามเช้าวันอาทิตย์....เพื่อเพิ่มพลังใจ ให้ใสเย็น สงบงาม... กลิ่นดอกพุด ปลุกนิทรา ช่างพาหอมลุ่มลึก รัดรึงใจ ในยามนี้.... ฉันชอบที่จะสร้างบรรยากาศ โดยการจุดตะเกียง ที่ใช้เทียนแทนไส้.... ให้บรรยากาศ ว่าชีวิตฉันนั้น ราวตื่นมาพร้อมเสียงไก่ขัน ในบ้านชนบท ที่น้ำค้างยังหยดเยียบเย็น แตะแต้มยอดหญ้า รอเวลาระเหยหายไปกับแดดอ่อนอุ่น.. ในยามอรุณเปิกฟ้า ยามที่....ยังมีหมอกหนา ครอบ คลุมท้องทุ่ง ผืนนา ยามที่พระออกบิณฑบาตร... สีเหลืองนวลแจ่มกระจ่าง สว่างใจของจีวร ตัดกับ สีนาของข้าวเขียว ที่ออกรวงเรียว โค้งระย้าพวงพราว ราวรอคมเคียวจากมือคนเก็บเกี่ยว..... แต่....ความจริงในยามนี้ ที่ฉันมีก็คือ... บ้านกลางกรุง ที่ฉันนี้หนามากพยายาม ใส่ความเป็นชนบท ด้วยพืชพรรณ... ดวงดอกไม้ ราวบ้านเล็กในราวป่าใหญ่ ที่หอมแผกมาตระลบ กับจันทร์ซีด ดวงเศร้า หลังฝนซา..... ฉันลงมาต้มน้ำชงกาแฟ...หอมๆจากฮาวาย ที่สาวน้อย เอลิสัน นักอนุรักษ์ปลาโลมา อุตส่าห์ส่งมาให้ จากฮาวาย.....แดนไกล...... เปิดเพลง ไพเราะ.. เป็นเพื่อนใจ ในยามอุษาฟ้าเริ่มสว่าง จากเครื่องเล่น แบบหม้อหุงข้าว...... เพลงเศร้า จากก๊อต จักรพรรณ์ กำลังครวญคร่ำ ให้ฉัน น้ำตาซึม มือที่ชงกาแฟ ค้างนิ่ง ด้วยรานร้าวใจ ไปกับเนื้อหาของบทเพลง ที่แสนซาบซึ้ง.. กินใจ ฟังได้อารมณ์ โดนใจ..มากกว่ายามกลางวันแสกๆ...... จากคนที่รักเธอ........... แค่คนรักเธอ....ไม่ใช่คนที่เธอรัก ได้มารู้จัก ได้แอบรักก็สุขใจล้น เธอคือนางใจ สดใสเมื่อยามได้ยล ช่วยคนหนึ่งคน ให้พ้นจากความหม่นหมอง เฝ้าคอยภักดี ทั้งที่มีสิทธิ์เพียงน้อย สุขที่ได้คอย สิทธิ์มีน้อย ไม่เคยเรียกร้อง ได้งมเพียงเงา ยามเหงาขอเพียงแค่มอง ไม่ได้ครอบครอง แอบจ้องก็เพียงในใจ มีชายหลายคน ที่คอยเดินตาม ไม่กล้าถาม ว่าใครขอเธออย่างไร ไม่กล้าท้วง ยามเห็นเธอควงกับใคร เจ็บท้อรอไป.... เทใจให้เธอได้เห็น *แค่คนรักเธอ ไม่ใช่คนที่เธอรัก ทำใจแน่นหนัก ต่อใยรักไม่เคยว่างเว้น หวังเพียงวันหนึ่ง เธอ..ซึ้ง..ความดีที่เห็น เปิดทางให้เป็น ให้ฉันเป็นคนที่เธอรัก*(ซ้ำ) แปลกใจจัง.. ฉันกับ..ใจดวงนี้ ที่มักจะฟังเพลงด้วยใจ ด้วยอารมณ์ล้ำลึก เข้าไปในคำพ้อ ออดอ้อน เว้าวอน ขอให้เธอรัก และเห็นใจ ไฉนเลย!......... ************** ฝากอีกเรื่องแสนรักแทนรักล้นทรวงค่ะ ในอ้อมโอบแห่งรัก... พุดพัดชา ดวงเขียนเรื่องนี้ ด้วยใจที่สุขสงบ..เหลือเกิน... เป็นดึกดื่นคืนเพ็ญ.... จันทร์ดวงงาม..ลอยเด่น ประดับบนฟากฟ้า.. สลับกับดวงดาราระยิบกระพริบพราวพราย..... เสียงหรีดหริ่งเรไรระงม..... พรมพร่างด้วยน้ำค้างกลางหาว...... นานๆจะมีเสียงพลุ และประกายสีสันจากดอกไม้ไฟพรูพร่างท่ามกลางฟ้ามืด..... ดวงจุดเทียนรายรอบ และวางไว้ในโคมเพื่อใช้เขียนหนังสือ...... ทิวไม้งามรายล้อม..แลดูตะคุ่ม โดมสีขาวจากบ้านเพื่อนบ้านโผล่พ้นดงไม้ ดูราวกับ ปราสาทแห่งความฝัน........... บางค่ำคืน ... เมื่อม่านฝนพรำโรยตัวเป็นหมอกหนา........ ดวงจะอาบน้ำท่ามกลางแสงเทียน วับแวม ให้หวามไหว ซุกตัวในอ่างน้ำแสนอุ่น และจากกระจกบานกว้าง... มองออกไปยังฟากฟ้า แสนไกล..... ซึ่งดูราวกับฉากแห่งม่านฝันรำไรในสายฝน สลับสล้าง สวยเหลือใจ................ ดวงคิดเสมอ.... ว่าโลกนี้อยู่ที่ใจเราจะเนรมิต...... ดวงสามารถสร้างโลกในฝัน... ให้เป็นโลกแห่งความจริงที่สวยงาม...เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ และโดยมิพักต้องลงทุนมากมาย................... ดวงปล่อยให้...การะเวกเลื้อยพันเป็นลวดลายงาม.. ขึ้นมาทายทักจนถึงระเบียงดาดฟ้ากว้าง ที่ดวงใช้เขียนหนังสือ.... กลิ่นการะเวกยามเย็น ทำให้งานเขียนของดวงลื่นไหลตราตรึง... การะเวกเกาะเกี่ยวเกิดเป็น.. ม่านลายลูกไม้ธรรมชาติ ตามกระจกรอบๆบ้าน..แทนม่านหรู. แถมเป็นม่านที่มีกลิ่นจรุงใจ..งดงาม หวานหอม....... เป็นม่านผืนที่ต้องใช้ใจถักทอเพียงเท่านั้น....ถึงจะมีสิทธ์ได้มา........ บ้านของดวง....มีลวดลายจากใบไม้นานาพรรณ...... มาถักทอและบดบังให้แลลอดรำไร เป็นม่านเย็นตา เย็นใจ ทุกโมงยาม ที่ใจดวงงามได้สัมผัส.... ต้นแก้วสูงถึงชายคา........ แผ่กิ่งก้านอวดดอกขาวพราวต้นเมื่อยามวสันตฤดู..... กลิ่นหวานเศร้า เคล้าสายฝนจะแทรกเข้ามาเห่กล่อม ให้หลับไหลอย่างแสนสุข.... ดวงมีเล็บมือนางสวยเลื้อยพันเป็นซุ้มหน้าบ้าน..... ไว้เกาะเกี่ยวใจของคนที่มาเยือน.... มีต้นมะม่วงสูงใหญ่ ที่ไว้เป็นที่ให้นกกามาอาศัย..ทำรัง และให้ นกเขามาร้องขันคูปลุกในยามเช้าตรู่ เมื่อถึงฤดูกาลออกผล แค่เอื้อมมือไปก็เด็ดได้ไม่ยาก... แล้วไหนจะจำปีที่ชิดเชยถึงชายคา..ริมระเบียง อยากเก็บแแซมผมก็เพียงสัมผัส...... มีดอกพุด...ที่มีหนุ่มคนไกล..ปลูกไว้ให้ ราวกับจะเป็นไม้เสี่ยงทาย.... ให้ดวงเฝ้ารดน้ำพรวนดิน ทะนุถนอมแทน .. เพื่อรอดูตุ่มแรกของดอกที่จะผลิบาน....... แล้ว ดวงตั้งใจจะเก็บไปถวายพระพุทธรูป ที่ดวงจุดเทียนสวดมนต์กราบไหว้ทุกค่ำคืน.... เพื่อเป็นมงคล เป็นพุทธบูชา.... และดวงจะอธิษฐานจิต ให้ดอกพุดนั้นแทนรักที่งดงาม........ บริสุทธิ์ใส และเบิกบาน ให้เจ้าของสมหวัง...ดั่งใจ เฉกเช่นเดียวกัน......... เราทุกคนมีใจดวงเล็กๆเหมือนกัน... ใจดวงที่สามารถจะเปิดให้ความงามที่รายล้อม รอบรอบตัวเข้ามาสัมผัส.... ง่ายแสนง่าย.ใกล้แสนใกล้......แค่มือคว้าใฝ่.............. เพียงมีใจปราถนารับความละเมียดละมุน..มาต่อเติมใจ ให้ไฟฝัน มิมีวันมอดสิ้น....... ชีวิตนี้สั้นนัก..... ไม่ช้านาน เราทุกคนก็ต้องลาจากโลกสมมุตินี้ไป..... แล้วไฉนเล่า ไม่เบิกบานกับชีวิต.... และเตรียมทำใจยอมรับความจริงของชีวิต *การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์* เมื่อเราก้าวเข้ามาในโลกแสนสวยใบนี้.... สิ่งเดียวที่เราจะหยิบยื่นให้แก่โลกนี้ได้ คือไม่เบียดเบียนโลก...ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนเพื่อนร่วมโลก.. เราแค่ผ่านมาทักทายและอาศัยพักใจเพื่อรื่นรมย์ และฝึกจิตที่พร้อมจะยังประโยชน์ให้คืนกลับ แก่โลก และผู้ที่จะตามมาในภายหลัง... โลกนี้อยู่ได้ด้วยรัก... รักที่สวยงามจะเป็นพลังสรรสร้างทุกๆสิ่ง..... รักทำให้โลกหมุน..... และโลกจะไม่โหดร้ายจนเกินไป ถ้าเราจะช่วยกันแบ่งปันแก่ผู้ยากไร้สิ้นหวัง..................... ดวงขอจบด้วยบทเพลงหนึ่ง ซึ่งดวงกำลังเปิดฟังในค่ำคืนที่มีมนต์ขลังนี้ ให้มันลอยแทนใจ แทนความคิดถึงทุกทุกคน ถึงใจทุกทุกดวงที่รู้ซึ้งถึงคุณค่าแห่งรักทุกๆรูปแบบ และโดยเฉพาะ คนพิเศษในใจของดวง... ที่บ้านเกิดเกาะแสนงาม.. ที่อเมริกา...แคนาดา...และออสเตรเลีย... รวมทั้งเพื่อนแสนรัก ทุกคนที่ญี่ปุ่น....สิงคโปร์... ผู้ที่ดวงหวังใจว่า..เกิดมาเพื่อรัก... และรู้ความหมายของการเสียสละนะจ้ะ เพลงรักไม่รู้จบ................... ถึงจะอยู่สุดหล้าฟ้าดิน.... แม้จะสิ้นสิทธิ์และเสรี แต่วันนั้น..ใจฉันยังคงที่ ความรัก..ความภักดี ไม่มีสิ้นสลาย ถึงโลกแตกแหลก..แหลกเป็นผงคลี รักเต็มปรี่..ไม่มีรู้คลาย ชีพถูกฝัง ความรักยังเวียนว่าย เคียงคู่เธอ ไม่คลาย ฝากวิญญานไว้ครอง ด้วยความรักไม่รู้จบ แม้ผืนดินกลบยากลบรอยรักเลือน จะเนิ่นนาน..กี่วัน..กี่ปี...กี่เดือน ดินฟ้าจะคล้อยเคลื่อน ใจไม่เลือนรักเธอ....... ทุกทุกอย่างบนทางรักจริง ทุกทุกสิ่งบนทางรักเธอ จะสมหวังหรือพบความเพ้อเจ้อ เป็นที่ใจของเธอจะจริงจังฉันท์ใด ........................................................... ใช่เลยใช่ไหม ถ้าใจเธอหนักแน่นพอ............... ด้วยรักจากใจ
10 ตุลาคม 2547 17:01 น. - comment id 348060
หวังและฝันในร่ำรินราตรีนี้ จะมีใครบางคนที่รักพุดพัดชา เปิดบทเพลงบรรเลง นิรันดร์รัก จากใจถึงใจ *เจ้าพระยา*เติมสายใยไฟฝันนะคะ ******** พุดรำพัน ดอกพุดซ้อนซ่อนกลีบหวานบานเริงฝน ราวกมลคนช่างฝันวันปรารถนา หอมดอกนวลยวนแย้มแต้มนัยน์ตา พุดสอนค่าพุทธพ้องคำน้อมนำใจ.. ดอกพุดซ้อนบริสุทธุ์ผุดผ่องนัก พุทธนำรักไร้เล่ห์โลกโศกหวั่นไหว ขาวพิสุทธุ์ดุจน้ำค้างกลางดวงใจ ใช่ลวงใครคนเขียนฝันวันพริ้งพราว.. พุดรำพันฝันซึ้งใจระวีวาด ผ่านกระดาษวาดใจฝันตะวันฉาย ด้วยห่วงหาอาทรมิเสื่อมคลาย ซึ้งน้องชายใจขาวพร่างสว่างใจ.. พ้อรำพันฝันรักสลักจิต เพียงลิขิตกานท์กลอนใช่อ่อนไหว ในโลกฝันเติมตะวันเติมน้ำใจ โลกจริงไซร้ ไร้เสน่หา มิอาวรณ์.. ดังพุดซ้อนซ่อนคำพุทธหยุดรู้เห็น ให้หอมเย็นหอมนานหวานออดอ้อน พุดกลีบซ้อนใช่ซ่อนรักซ่อนร้าวรอน ดั่งคำวอนสอนใจงามยามแย้มยล... ดอกไม้หวานบานเต็มโลกลบโศกเศร้า ยามรานร้าวให้ชื่อร้ายคล้ายสับสน ดอกลั่นทมระทมเศร้าร้าวกมล ก็เพราะคนยลแย้มย้ำช้ำดวงใจ.. ขอเบ่งบานบูชาหน้าพระพุทธ งามพิสุทธุ์ดุจน้ำค้างกลางฟ้าใส บูชาสรวงดวงดอกไม้ขจรไกล พุด(ผุด)กลางใจใสสีทองส่องนำทางห่างไกลโลกโศกมายา..พาพุดพอ.. ********* ฝากให้อ่านแก้เหงาค่ะก่อนนะคะ แล้วจะรจนาต่อค่ะ จาก
10 ตุลาคม 2547 17:47 น. - comment id 348075
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2024 ขอเป็นคนหนึ่ง นันทิดา แก้วบัวสาย : : Key Bb อยากดูแล เมื่อยามเธอหมอง เศร้า อยากเป็นเงา เมื่อเธอเหงาใจ อยากเดินเคียง เมื่อเธอต้องการ ผู้ใด ข้าง กาย ซักคน หากว่าเธอ ท้อ แท้ วันใด ถูกสิ่งใด ทำใจ ร้อนรน หากต้องการ มีใคร ซักคน ที่พร้อมให้ความ อุ่นใจ ขอ เป็นคนหนึ่ง ซึ่งคอยห่วงใย แต่เธอ เรื่อยไป แม้ จะเป็นคน สุดท้าย ที่ เธอ จะมอง หากว่าเธอ ท้อ แท้ วันใด ถูกสิ่งใด ทำใจ ร้อนรน หากต้องการ มีใคร ซักคน ที่พร้อมให้ความ อุ่นใจ ขอ เป็นคนหนึ่ง ซึ่งคอยห่วงใย แต่เธอ เรื่อยไป แม้ จะเป็นคน สุดท้าย ที่ เธอ จะมอง ขอ เป็นคนหนึ่ง ซึ่งคอยห่วงใย แต่เธอ เรื่อยไป แม้ จะเป็นคน สุดท้าย ที่ เธอ จะมอง แม้ จะเป็นคน สุดท้าย ที่ เธอ จะมอง...
10 ตุลาคม 2547 19:30 น. - comment id 348115
^J^................... ..........มองหาคนสุดท้าย.......ฯ เฮ้อ....ดันมาเป็นแรกซะนี่............ฯ
10 ตุลาคม 2547 19:35 น. - comment id 348117
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1984 ฟังซิฟัง ใหม่ เจริญปุระ : : Key Bb ฟัง ซิฟัง และฟัง อย่างตั้ง ใจ คำ ทุกคำ ออกมา จากข้างใน อาจ เป็นเพียงครั้งเดียว ที่ฉันเองจะพูดไป อยาก ให้เธอรู้ ทุกคำ ของความในใจ ที่ไม่เคย เอ่ย เรา คบกัน ผูกพัน กันแสน นาน ยัง ไม่เคย พูดกัน อย่างนี้ เลย จาก วันที่พบ กัน จนถึงวันที่คุ้นเคย แต่ ไม่เคยเผย เพราะกลัว ว่าความ คุ้นเคย นั้นจะจาง ไป เก็บ มาตั้งนาน เพื่อรอ วัน นี้ บอกไปเสียที ให้โล่ง ใจ อัดอั้นเหลือเกิน เธอคง เข้าใจ รู้ไว้เถอะนะ ว่ารักเธอมากมาย คง เข้าใจ ขอบคุณ ที่รับ ฟัง มี สองทาง ที่มัน ต้องเป็นไป หนึ่ง คือยังเหมือนเดิม และสองคือ เราร้างไกล แต่จะเป็นทางไหน ต้องลองถามใจเธอเอง นั่นคือคำ ตอบ ชูชูชูฮู้ วา ชูชูชูฮ้า เก็บ มาตั้งนาน เพื่อรอ วัน นี้ บอกไปเสียที ให้โล่ง ใจ อัดอั้นเหลือเกิน เธอคง เข้าใจ รู้ไว้เถอะนะ ว่ารักเธอมากมาย คง เข้าใจ ขอบคุณ ที่รับ ฟัง มี สองทาง ที่มัน ต้องเป็นไป หนึ่ง คือยังเหมือนเดิม และสองคือ เราร้างไกล แต่จะเป็นทางไหน ต้องลองถามใจเธอเอง นั่นคือคำ ตอบ ชูชูชูฮู้ วา ชูชูชูฮ้า OPT... มาร้องเพลงให้คุณพุดฟังค่ะ มาเป็นกำลังใจให้คุณพุดด้วยค่ะ
10 ตุลาคม 2547 19:54 น. - comment id 348128
นั่งจับจองความเหงาอย่างโดดเดี่ยว อยู่คนเดียวในค่ำคืนที่อ้างว้าง สายลมพัดพาความฝันอันเบาบาง ที่เลือนลางเพราะความต่างที่หางกัน เลือกทางแล้วจึงพร้อมจะฟันฝ่า เช็ดน้ำตาที่อ่อนหล้าหยุดมันไว้ รักเขาแล้วเลือกเขาแล้วต้องทำใจ ให้ผ่านไปความอ่อนไหวที่เงียบงัน... กรรม ย่อมจำแนกสัตว์ให้แตกต่างกัน คนทำดี ย่อมได้รับผลดี คนทำชั่ว ผลชั่วก็ตามสนอง ความเป็นไปในชีวิตของเรา มันมาจากการกระทำของเราทั้งนั้นครับพี่ เราเกิดมา ควรมีเมตตาต่อกัน เมื่อตกทุกข์ได้ยากก็ควรช่วยเหลือตามกำลัง เมื่อได้ดีมีสุข ก็ควรจะยินดีปรีดาด้วย แต่เมื่อถึงคราวที่เขาได้รับผลของกรรม เราก็ควรที่จะปลง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรรม อิอิ เมกเขียนไรไปนี้ ช่างเลอะแร่ะ ไปก่อนครับพี่ มึน +-*-+-*-+ +-*-+-*-+ปู๊ชายอารมดี๊ดี+-*-+-*-+ +-*-+-*-+
10 ตุลาคม 2547 19:57 น. - comment id 348129
กำลังอ่านโรงแรม..เฮ้ยโรงพยาบาล.. มัน ๆ... ไหงจบแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย.... ไม่ยอม ๆๆๆๆๆ...จาเอาอีก..แง ๆๆๆๆ.. วันนี้..มาแบบโยเย..
10 ตุลาคม 2547 20:11 น. - comment id 348144
เริ่มเรื่องอย่างเข้ม.ลงท้ายด้วยอ่อนหวาน ชอบจังที่เขียนฝากเกี่ยวกับดอกไม้ค่ะน้องพุด ...ให้ทุกดวงใจรีบเพียรสร้างกุศลจิต อย่าเพิ่งคิดรีบไปดูบนสวรรค์เลย... น่ารักมากๆ
10 ตุลาคม 2547 23:25 น. - comment id 348338
อัลมิตราไม่อยากไปโรงพยาบาลเลย ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรูหรือไม่หรู ความรู้สึกที่โอ่อ่าในตัวอาคาร ต่อให้งดงามสักเท่าใด ก็ไม่สามารถซ่อนเร้นความสลดที่มีต่อความเป็นไปในยถากรรมของแต่ละคน หลายปีก่อน อัลมิตราต้องไปเป็นเพื่อนแม่ ที่ต้องบำบัด ณ โรงพยาบาลจุฬา .. สถานที่ไป ไม่ค่อยน่าดูนัก ชวนหดหู่มาก คนไข้ที่เป็นเพื่อนแม่ บางคนส่ออาการให้เห็นว่าคงอยู่อีกได้ไม่นาน อัลมิตราไม่อาจรับสภาพเช่นนั้นได้ .. ความตายที่ดูเหมือนมีกลิ่นอายอยู่รอบๆตัว ความเจ็บป่วยที่ค่อยๆกัดกร่อนวิญญานให้ค่อยๆดับสลายตาม .. ข้อสำคัญอัลมิตรากลัวหมอเป็นที่หนึ่ง กลัวเข็มเป็นที่สองเลยค่ะ เรื่องกลัวผีเลยตกเป็นอันดับสามไป โดยปริยาย..
10 ตุลาคม 2547 23:38 น. - comment id 348356
ไม่ชอบโรงพยาบาลเยยค่ะพี่พุดจ๋า เพราะมีแต่คนเจ็บป่วย เห็นแล้วส่งสาร ดูเขาจะเจ็บน่าดู คือหวานโดนน้ำมันร้อนเดือดลวกค่ะ เสียฉมขาไปตั้งข้างหนึ่งค่ะไม่ได้ไปหาหมอนะคะแม่เขาทำแผลดูแลให้ค่ะตอนนั้นทรมานที่สุดเลยค่ะ นอนไม่ได้ ขามันร้อนต้องนอนเตียงไม้แข็งเอาขาพิงขอบไม้ไว้เพราะมันเย็นค่ะนานกว่าสองเดือนแผลถึงจะแห้ง ค่ะแล้วนานกว่าจะหายดีแต่ก็ยังเป็นรอยแผลเป็นอยู่ถึงทักวันเนี่ยค่ะ โอ้บ่นไรอ่ะคิกๆๆ ไปดีกว่านะคะฝันดีนะคะ คิดถึงพี่พุดค่ะ
10 ตุลาคม 2547 23:38 น. - comment id 348357
สวัสดีค่ะ หลังจากที่แอบอ่านมานาน ขอทักทายพี่พุดนะคะ ไม่ชอบไปโรงพยาบาลและโรงแรมค่ะ ไม่ว่าหรู หรือไม่หรูค่ะ
11 ตุลาคม 2547 01:57 น. - comment id 348411
แม้ความรักอาจป็นนิรันดร์ แต่ความชิดใกล้กลับเป็นเรื่องชั่วคราว..* ....เอทำไมชอบแค่ตรงนี้ก็ไม่รู้ซิ
11 ตุลาคม 2547 07:31 น. - comment id 348440
ไม่จำเป็นจริง ๆ ไม่ไปโรงพยาลรัฐ ก็รู้ดีครับ เข้าคิวรอนาน ถ้าของเอกชนก็แพง ไปคลีนิคดีกว่าถ้าเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ผมไปโรงพยาบาลส่วนมากไปเยี่ยมคนป่วยมากกว่า
11 ตุลาคม 2547 12:45 น. - comment id 348594
รู้สึกดีใจ ที่พุดพัดชา ไปโรงพยาบาล แสดงว่า สนใจดูแลสุขภาพ คงจะอายุยืนยาวเป็นขวัญใจชาวไทยโพเอ็มต่อไปได้อีกนาน เห็นชื่อเรื่อง นึกว่าเป็นเพลง ที่เคยฟังหนุ่มรุ่นเดอะเขาร้องตอนเราเด็ก ๆ รำพึงรำพันฝันรัก รักเคยใฝ่หา ยังจำติดตาชวนปลื้มฉันลืมไม่ลง เป็นรอยพิศสวาทบาดใจมั่นคง ฉันลืมไม่ลง หลงรอคอย ....สงสัยไม่ค่อยถูกเท่าไรจำได้คลับคล้ายคลับคลา อิอิ