ลมกรรโชกโกรกไม้ไหวเอนร่าง นำเส้นทางเมฆใหญ่มาให้ฝน เสียงครืนครั่นคำรามอย่างร้อนรน ฟ้าสีหม่นหล่นสายคล้ายน้ำตา เสียงพรมพร่างร่างระรัวทั่วทุกทิศ ทำให้จิตยิ่งเหงาเศร้าหนักหนา ความเยือกเย็นจากละอองลมพัดพา ปลุกจินตาให้ย้อนไปก่อนกาล ภาพความหลังฝังไว้ได้พรั่งพรู ดั่งสายฝนหล่นสู่พื้นสถาน บรรยากาศฟาดหทัยให้แหลกราญ ทรมานคนผิดหวังให้คลั่งใจ ฝนสาดสายภาพเรียงรายแข่งกับฝน ความคิดผุดพรายตนจนหวั่นไหว ความฟุ้งซ่านพล่านจิตให้คิดไป ล้วนแต่ความหมองไหม้จนฝนซา ฟ้าเริ่มแจ้งแสงส่องผ่องผืนภพ เมฆทะมึนเลือนลบจากเวหา รัศมีรุ้งทอละออตา ใจสร่างซาจากเศร้าเคล้ากมล อะไรหรือคือผู้อยู่เบื้องหลัง ให้ต้องหลั่งน้ำตาคราเห็นฝน อะไรหรือคือผู้บังคับกล ฟ้าหลังฝนเปิดใจให้เบิกบาน คือความคิดติดข้องของสัญญา คิดต่างต่างนานาแล้วถักสาน บ่วงอารมณ์ให้จมกิเลสมาร ทำดวงจิตพิการอย่างง่ายดาย เพราะความคิดฟุ้งซ่านประธานใหญ่ หลอกให้ใจอ่อนแอแก้ไม่หาย เป็นทาสของอดีตไม่เสื่อมคลาย ความโศกเศร้าจึงกลายเป็นเพื่อนเกลอ ควรฝึกใจให้คิดผลิตค่า คือฝึกสร้างปัญญาอยู่เสมอ รู้ความจริงทุกสิ่งที่พบเจอ ไม่หลงเพ้อผูกไว้..ไม่จีรัง .
19 พฤษภาคม 2547 07:51 น. - comment id 270485
......ช่างแสนเศร้า...นะใจเรา...เจ้ากัลยา ความสุขหนอ...รอท่า...ก็เห็นเห็น จริยะ....ศาสนะ...ล้วนจำเป็น หากแหวกว่าย...คือทุกข์เข็ญ...มโนธรรม..... ต่างกล้ำกลืน....ฝืน....ไม่คิดฝัน ตามให้ทัน......รักเมตตา....มาเช้าค่ำ หากไม่ทัน.....รัก..เสน่หา...มากระหน่ำ. จะชอกช้ำ.....ใจซุก.....ทุกข์ทรมาณ ทิกิ_tiki.
19 พฤษภาคม 2547 09:05 น. - comment id 270511
อืม...เขียนได้ดีครับ อ่านแล้วดูน่ารักดีมากเลยอ่ะครับ อรุณสวัสดิ์ยามเช้านะครับ เด๋วเมกจะไปทำงานแล้วครับ ช่วงค่ำจะเข้ามาคอมเม้นส์ใหม่ครับ โชคดีครับ
19 พฤษภาคม 2547 09:08 น. - comment id 270514
เขียนได้ไพเราะมากครับ เป็นบทกลอนที่ให้ชีวิตชีวาได้ดีมากครับ
19 พฤษภาคม 2547 13:15 น. - comment id 270645
เพราะจังค่ะ... แต่งได้ยอดเยี่ยมจริงๆ แวะมาชื่นชมนะคะ วีนัสก่ะเจ้า
19 พฤษภาคม 2547 13:30 น. - comment id 270651
ความฟุ้งซ่านผ่านจิตจึงคิดมาก เป็นเรื่องยากลืมเลือนเพื่อนยามเหงา อยู่ก้นบึ้งของหัวใจมานานเนาว์ ฝนตกกราวกิเลศมารมาผลาญทรวง อาการหนักเหมือนที่เขียนไว้ในกลอน น้ำตาในม่านฝน ได้อ่านกลอนของพี่ดอกแก้วแล้วต้องเอาไปปฎิบัติ เผื่อหาย อิอิ
19 พฤษภาคม 2547 14:09 น. - comment id 270660
เพราะเราเป็นเจ้าของความคิด บางครั้งจึงคิดถูก และคิดผิด บางครั้งคิดถูก แต่ถูกคนรอบข้างมองว่าผิด !!
19 พฤษภาคม 2547 16:05 น. - comment id 270766
@...tiki... สุขในโลก..ย่อมโศก..ในเบื้องปลาย เพราะฉาบฉวย..ใจกาย..ไม่คงมั่น ความแปรเปลี่ยน..คือสิ่ง..อันนิรันดร์ หากรู้ทัน..ก็ไม่เศร้า..คราวจากลา ขอบคุณที่แวะมาค่ะคุณทิกิ
19 พฤษภาคม 2547 16:08 น. - comment id 270770
@...เมกกะ... สวัสดีค่ะเมก .. บรรยากาศของหน้าฝนนี่ มีเรื่องให้เขียนมากมายเลยนะคะ ตั้งใจจะเขียนอีกสักเรื่องสองเรื่องก่อนที่ฤดูกาลจะผ่านพ้นไป ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทาย ...แล้วพบกันใหม่นะคะ..
19 พฤษภาคม 2547 16:11 น. - comment id 270775
@...กวีบ้านไร่... ธรรมชาติที่งดงาม มักให้มุมมองที่ดีแก่ชีวิตนะคะ อยู่ที่ว่า..ในแต่ละช่วงนั้น เหตุการณ์ในชีวิตเป็นอย่างไร ขอบคุฯมากค่ะที่แวะมาอ่าน
19 พฤษภาคม 2547 16:14 น. - comment id 270781
@...วีนัส... ขอบคุณก่ะเจ้า ที่แวะมาชื่นชม
19 พฤษภาคม 2547 16:20 น. - comment id 270788
@...ฤกษ์... ความฟุ้งซ่านในอดีตกรีดน้ำตา ความฟุ้งซ่านในอนาคตคือฝัน ที่ฟุ้งซ่านเพราะไม่อยู่กับปัจจุบัน เป็นศัตรูสำคัญของความจริง แหม..มาคราวนี้ยังกับคนเจ้าน้ำตา นำไปปฏิบัติแล้ว ..ส่งข่าวด้วยนะว่าผลเป็นไง ..อิอิ
19 พฤษภาคม 2547 16:22 น. - comment id 270792
สาธุธรรมอันเลิศครับ แจมด้วยครับ ใจนี้อยู่ รู้เสมอ ในสัญญา สตินำพา รู้คลา คิดย้อนหลัง อย่าหลงคิด จิตจม ไม่จิรัง เพียรใจตั้ง สติรู้ ทุกอารมย์
19 พฤษภาคม 2547 16:24 น. - comment id 270793
@...น้องจ๋า... มาตรฐานการคิดของจิตใจ ไม่มีใครถูกต้องของที่สุด มาตรฐานสำคัญของมนุษย์ รู้จักหยุดความคิดที่ไม่งาม ก็เพราะคำว่าความคิดอีกนั่นแหละค่ะ ที่สร้างรอยแยกแตกร้าวระหว่างกัน ขอบคุณที่แวะมานะคะ
19 พฤษภาคม 2547 16:33 น. - comment id 270801
@...น้ำ... คำว่า รู้ คู่เคียงเรียงสติ เพื่อแตกผลิปัญญาครากระทบ รู้ เพียงแค่ปัจจุบันนั้นจึงจบ รู้สงบในอารมณ์ไม่ตรมใจ สาธุเช่นกันค่ะน้ำ...สติปัญญา..สำคัญมากในการรับอารมณ์ค่ะ
19 พฤษภาคม 2547 18:48 น. - comment id 270892
อันความหลัง หลั่งสายฝน โดนชะล้าง ให้จืดจาง จากจิต เสน่หา เรื่องเลวร้าย ติดเกี่ยวพัน ในสัญญา ขอจิตตา ลบให้หาย ใส่สิ่งดี
19 พฤษภาคม 2547 22:22 น. - comment id 270974
@...ชัยชนะ... ให้ความหลังละลายไปกับฝน กลายเป็นคนสดใสไร้ปัญหา ฟ้าหลังฝนทำให้ใจโสภา ทิ้งสัญญาวิปลาสสะอาดใจ วันนี้มาคุยเรื่องฟ้าๆฝนๆและความหลังกันนะคะ .... ว่าแต่อย่างชัยชนะนี้มีความหลังเศร้าๆกับเขาด้วยเหรอ ..เห็นร่าเริงออกอย่างนั้น
20 พฤษภาคม 2547 02:38 น. - comment id 271050
เพราะฟุ้งซ่านนี่แหละพี่ นึกว่าถูกทิ้งร้องซะเกือบขาดใจตาย ส่วนต้นเหตุ เพราะรู้ว่าเราร้อง.. ถามว่า เป็นไรมั้ย ใครทำไร งานมีปัญหาหรือเปล่า.. อ้าววว.. กรรมของแจมไหมนั่น
20 พฤษภาคม 2547 07:51 น. - comment id 271099
..เรน..อรุณสวัสดิ์..พี่ดอกแก้ว ..นะคะ.. แว๊ป!
20 พฤษภาคม 2547 21:40 น. - comment id 271475
@...น้องแจม... เจ้าตัวดีแอบมาอ่านอยู่ตรงนี้นี่เอง พอจะว่างจากงานหรือยังล่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ ...มาซะดึกขนาดนี้เลย
20 พฤษภาคม 2547 21:41 น. - comment id 271478
@...เรนน้อย... จะพูดว่าอะไรสวัสดิ์ดีล่ะจ๊ะตอนนี้.. ราตรีสวัสดิ์ก็เร็วไปนิดนะ เอาเป็นว่า สวัสดี..ก็แล้วกัน หน้าฝนนี้ ..เป็นหวัดบ้างหรือยังจ๊ะน้องเรน
21 พฤษภาคม 2547 21:32 น. - comment id 272074
ภาพความหลังวันเก่าเราเฝ้านึก ยังรู้สึกเห็นอยู่มิรู้หาย วันพบเธอเจอรักทักใจกาย ทำให้เราลืมไม่ได้สักกะที แต่จากนี้และต่อไปในวันหน้า จะลืมวันเวลาพาหลีกหนี ทิ้งความเศร้าที่รุมเล้าใจที่มี และเริ่มใหม่อีกทีชีวิตใหม่ *-*กลอนไพเราะและสวยงามด้วยความหมายมากๆๆๆๆๆๆๆเลยคะ รักและคิดถึงเสมอนะค่ะ*-*
21 พฤษภาคม 2547 23:55 น. - comment id 272174
@...ผู้หญิงไร้เงา... ภาพยนตร์คนเศร้าเคล้าน้ำตา ฉายเวลาฝนหลั่งหนังเรื่องนี้ ฉายทีไรก็ร้องไห้กันทุกที หนังเรื่องนี้มีดาราเพียงสองคน คนหนึ่งสุขสนุกสนานสำราญใจ อีกคนหนึ่งหมองไหม้ใจมัวหม่น เริ่มเรื่องนั้นเคยคบหากันสองคน แต่ตอนจบกลับพ้นพรากจากกัน คนที่เศร้าก็ครวญเคล้าแต่น้ำตา แข่งกับฝนบนฟ้าท้าแข่งขัน จนวันหนึ่งคิดได้ตัดใจพลัน หัวเราะลั่นเลิกแสดงแจ้งใบลา สวัสดีค่ะน้องตูน...หนังชีวิตนี่เศร้ากันทุกเรื่องเลยเนอะ ขอบคุณที่มาเยี่ยม มาเยือน มาเรือน มาหานะคะ