URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1305 ******* อ่านอ.ส.ทฉบับใหม่แล้วใจเศร้า ใจดวงร้าวราวเบื่อโลกโศกหลงฝัน กับผู้คนมากมายหลั่งไหลกัน สู่คืนฝันวันพระจันทร์หวานผลาญพะงัน.. ใจดวงเดิมเสียดายโลกใบเก่า โลกงามเหงาเงียบใจราวสวรรค์ ไร้ผู้คนใจร้ายทำลายวัน คืนงามฝันจันทร์งามใจในโลกจริง... มาวันนี้พะงันมีทั้งสองด้าน ทั้งตระการธรรมชาติฝากใจนิ่ง ทั้งปาร์ตี้พี้ยาฝันกันระวิง ทั้งสองสิ่งราวสวรรค์นรกตกพร้อมกัน.. น้ำตาฉันจึงหลั่งล้นท้นใจรับ หนาวใจนับนึกย้อนคืนเยาว์ฝัน ภาพเด็กหญิงน้อยนอนนับดาวนับร้อยพัน กับทะเลฝันตรงหน้าสุดตารัก.. เขาบอกว่าใครมีที่งามดั่งทองของแหนหวง ใจสาวดวงกลับแล้งโรยโหยไห้หนัก ใจดายเดียวแปลกแยกแผกใครนัก เมินเงินรักกลับอยากเห็นเน้นงามใจ... ไม่อยากขายที่ดินผืนดินเกิด ใช้ชีวิตเลิศสุดหรูสักปานไหน ใจดวงดีดวงงามนิยามใจ ไม่หวั่นไหวโลกวัตถุใจรู้พอ.. จึงตัดใจไม่คืนถิ่นแผ่นดินฝัน น้ำตาขวัญหวั่นพร่างทะเลพ้อ หนีนิยามงามเรืองรุ่งรู้รักรอ พาร่างขอไกลห่างทางมากคน.. พาหัวใจไหวหวั่นพลันสู่พฤกษ์ ในยามดึกหนาวน้ำค้างหนีสับสน ไร้เสียงใดไร้ใครคนวนวกวน มีหยาดฝนใสพร่างกลางใจจำ.. อาจจะโง่อาจจะหยิ่งทิ้งเงินล้าน อาจจะหวานอาจจะเศร้าหนาวเจ็บช้ำ ขอเดียวดายดายเดียวไม่ครวญคร่ำ รินระกำลำพังหวังเงียบงาม จึงหนีโลกย์โศกสุขยอมเปลี่ยวร้าง กระท่อมว่างไร้สิ่งใดใจวาบหวาม รจนาบทกวีฝากโลกนี้ถึงเงียบงาม ฝันทุกยามคืนโลกนี้มิเสียใจ... ขอสยบพบทางออกลบชอกช้ำ สวดมนต์พร่ำหน้าพระพุทธพิสุทธิ์ใส ลูกยอมรับเงียบงามสงบใจ ท่ามกลางไพรไร้ใครสิ้นถวิลลา... ปลูกดอกไม้ให้หอมใจในร่มรัก เรือนแห่งภักดิ์ฝากวิญญาณผ่านโหยหา ห่างไกลโลกย์หนีรักโศกชั่วชีวา ยอมเหว่ว้าจนยากหากภูมิใจ... *********** อ.ส.ท.ฉบับล่า พาไปเที่ยวผืนดินเกิด เปิดดู ความเพลิดเพลินของผู้คน ที่พากันหลั่งไหลไปผลาญพร่าพรหมจรรย์พะงันงาม ใจดวงฝันพลันน้ำตาก็ร่วงก็ริน อธิบายใจมิหมดสิ้น ถึงถวิลถึงเสียดาย.. คล้าย*โลกใบเล็ก*งามเงาในวัยเยาว์ในอดีต ลาลอยลับแหลกยับนับธุลี ในไม่ช้า ลาไกล อาจจะคิดไม่เหมือนใคร ที่ยอมถอดใจไม่อยากหวนคืนหลัง ให้น้ำตาละหลั่งรินด้วยเสียใจเสียดาย ให้ฝั่งฝันรอรับเพียงร่างรักนิรันดร์ ในวันหนึ่งที่ปราศจากลมหายใจ แต่.. สำหรับวันนี้ ขอแค่หนีผู้คนอลวนอลเวง กระเตงมากันแทบล้นทะลักเกาะ ทั้งหวังมาพักพึ่งพิง ทายทัก และทำลาย งามง่ายให้หมดสิ้นไปในเร็ววัน แบบไม่ไยดี แบบผู้ที่ผ่านมาแล้วผ่านไป มิใช่เนื้อใจเนื้อดินเดียวเกี่ยวเกาะรักร้อยสร้อยโซ่รัก ใจดวงร้าวจึงเศร้ายับจนสุดรำพันรำพึง กับคืนฝันวันแสนดีที่ใจดวงงามนี้ เคยสัมผัสร้อยรัดรึงตรึงใจไปตราบชั่วกาล ให้ใจดวงร้าวยิ่งคะนึงเจ็บลึกยามนึกย้อน ยามนอนดายเดียวร้างไร้ผู้ใดและดวงใจแสนสงบงาม ไกลห่างนิยามโลกวัตถุโลกศิวิไลซ์ ห่างไกลแววตาทะเยอทะยานอยาก มากด้วยกิเลสแห่งน้ำเงินงาม แทนที่จิตวิญญาณรักผืนดินพื้นพสุธา ไม่รู้ค่า..สงวนไว้.. ให้งามตราบชั่วกาลนานนิรันดร์ ********** หัวใจละเหี่ย....... มาลีฮวนน่า : : Key G บางครั้ง หัวใจ ละเหี่ย เหนื่อย ท้อแท้ นั่งเศร้า คนเดียว หนทาง ยาว ไกล หนทาง ยาว ไกล ก้าวไป คนเดียว โลกนี้ มันสับสน ผู้คน ผู้สร้าง เยื้อแย่ง ปิดเส้นทาง เส้นทาง ที่เดิน ย้อนมอง กันบ้างไหม เหนื่อยล้า กันเท่าไร กี่ครั้ง ที่คุณ น้ำตาไหล ออกมา บางครั้ง หัวใจ สะอื้น เหนื่อย สุดฝืน สะอื้น คนเดียว ขอเพียง หนึ่งเดียว คือใจ ของเธอ เพียงเพื่อปลอบโยน คนที่เดียว ดาย โลกนี้ มันสับสน ผู้คน ผู้สร้าง เยื้อแย่ง ปิดเส้นทาง เส้นทาง ที่เดิน ย้อนมอง กันบ้างไหม เหนื่อยล้า กันเท่าไร กี่ครั้ง ที่คุณ น้ำตาไหล ออกมา บางครั้ง หัวใจ สะอื้น เหนื่อย สุดฝืน สะอื้น คนเดียว ขอเพียง หนึ่งเดียว คือใจ ของเธอ เพียงเพื่อปลอบโยน คนที่เดียว ดาย...
2 เมษายน 2547 17:05 น. - comment id 240359
เพลงเพราะค่ะ กลอนก็เพราะนะค่ะ *-* แวะมาให้กำลังใจค่ะ *-* ชมจากใจจริงนะค่ะ
2 เมษายน 2547 22:50 น. - comment id 240533
โบกมือลา ป่าคอนกรีต ชีวิตนี้ ที่พี่งมี กระท่อมน้อย คอยเติมฝัน ท่ามกลางป่า นกกา มาจำนรรจ์ ช่างสุขสรรค์ สวรรค์ ของชาวดง รู้สึกจะเหงา ๆ ฟังเพลงไปด้วยนะครับ กลางดง พงป่า เขาลำเนาไพร ไกล สังคม มีแดน รื่นรมณ์ แสน ชื่นชม มี เสรี ไร้ ทุกข์ สนุกสนาน สำราญ กันได้ เต็มที่ พวก เรา ชาวถิ่นนี้ ล้วนมี ไมตรี ต่อกัน อาชีพ ป่าดง พงไพร เลี้ยงโค ทำไร่ ไถนา เป็นพราน หน้าแล้ง เราพา กันเผาถ่าน หาฟืน กลับบ้าน เป็นทุน เงิน ทอง หามาได้ เก็บออม เอาไว้ พออุ่น เจ็บ ไข้ ได้เกื้อหนุน เจือจุน การุณ ผูกพัน กลางดง พงป่า เขาลำเนาไพร ไกล สังคม มีแดน รื่นรมณ์ แสน ชื่นชม มี เสรี ไร้ ทุกข์ สนุกสนาน สำราญ กันได้ เต็มที่ พวก เรา ชาวถิ่นนี้ ล้วนมี ไมตรี ต่อกัน เย็นย่ำ ตะวัน รอนรอน เราได้ พักผ่อน สำราญ อุรา ค่ำลง เราพบ กันพร้อมหน้า แล้วมา สนุก ร่วมกัน ยาม งาน นั้นเราทำ ตรากตรำ เพียงไหน ไม่หวั่น เสร็จ งาน เราสุขสันต์ ร้องบรร เลงเพลง กล่อมไพร กลางดง พงป่า เขาลำเนาไพร ไกล สังคม มีแดน รื่นรมณ์ แสน ชื่นชม มี เสรี ไร้ ทุกข์ สนุกสนาน สำราญ กันได้ เต็มที่ พวก เรา ชาวถิ่นนี้ ล้วนมี ไมตรี ต่อกัน จนยาก ก็ยัง ภูมิใจ หากิน กลางไพร แม้ไม่ รุ่งเรือง ไม่คิด จะเฟ้อ จะฟุ้งเฟื่อง ถึงเมือง แดนศิ วิไลย์ กลาง คืน เราชื่นบาน เรื่องงาน เอาไว้ วันใหม่ ป่า ดง ดำรงค์ไว้ ทรัพย์ใน ดินไทย มากมี กลางดง พงป่า เขาลำเนาไพร ไกล สังคม มีแดน รื่นรมณ์ แสน ชื่นชม มี เสรี ไร้ ทุกข์ สนุกสนาน สำราญ กันได้ เต็มที่ พวก เรา ชาวถิ่นนี้ ล้วนมี ไมตรี ต่อกัน.... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=7115
2 เมษายน 2547 23:59 น. - comment id 240568
โบกมือลาผู้คนบนโลกกว้าง ยอมทิ้งห่างร้างไกลไปในป่า ที่สงบพลบค่ำฉ่ำอุรา และเบิกบานกับนานาธรรมชาติ *-*กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ*-*