แทนความโศกสะเทือน..เสียใจอย่างที่สุดhttp://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_49250.php http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420 URL รางวัลชีวิต ********* พุด..ตื่นมาฟังเพลงบรรเลงยามเช้า *นิพพาน**พระโพธ์แก้ว.*.และ...เศร้ามาก.. เมื่อมาอ่านงานภู.. นาทีนี้ในบรรยากาศนี้ น้ำตาร่วงรินเลย พุด..เสียใจด้วยนะ และคำปลอบใจใดใด คงไม่มากพอจะแสดงออก นอกจากจะบอกภูว่า*ธรรมมะ*เท่านั้น จะประคองจิตประคองใจเรา.. และเวลาจะช่วยรักษาเยียวยาจิตใจเรา ขอพระปกป้องภูและเข้มแข็งนะ กอดหลานแนบแน่นแทนด้วยนะ พุดพูดไม่ถูกเลยจ๊ะ ด้วยเสียใจอย่างสุดซึ้ง รักและรักมาก... ********** เช้าวันอาทิตย์ พุดไปวัดมา พุดรจนากลอนบทนี้ไว้ ขณะที่นั่งใต้ร่มไม้ใบบางๆ และแสงตะวันจางจาง กำลังทอทอดโลมไล้ทุกสรรพสิ่ง ให้นิ่งเงียบงามในใจ และกำลังพร่างใบเหลืองนวลปลิดปลิว สอนใจ..ให้บทเรียนใจเรา.. นะภู... ใต้ร่มไม้ใต้ฉัตรธรรมงามล้ำลึก สร้อยผลึกสอนใจใฝ่เพชรล้ำ ลงแพทองล่องทะเลโลกย์โศกระกำ ขอแพธรรมนำทางสว่างใจ.. สู่ฝั่งฝันสว่างสอาดสงบสยบโลกย์ แม้นใจโศกรู้ทันเท่ามิหวั่นไหว ขอแพธรรมแพทองล่องลอยไป พาแพใจรู้วางทางนิพพาน.. ขุดบ่อบุญกลางใจไว้รินดื่ม แม้นหลงลืมเรียกขวัญวันพบหวาน นวลเนื้อใจเพียร*งามให้*อย่าโศกราน อุปาทานทำใจใครพรากลา.. รู้วางใจรู้ไม่หวั่นรู้สรรสร้าง เส้นทางงามไม่ท้อถอยเพียรค้นหา ใจเหนือโลกโศกไม่นานนะดวงชีวา ทุกข์ผ่านมาวูบวับรู้ดับทัน.. ดอกลั่นทมร่วงพร่างกลางร่างร้าว ตาซึ้งเศร้าซ่อนน้ำตาอย่าหลงฝัน รู้ทันโลกโศกชั่วครู่ใช่นิรันดร์ ใจเพียรฝันหวังเพียรสร้างงานงามใจ เมื่อมีรักจักรู้คู่ทุกข์โศก เป็นรอยโลกการอยร้าวให้เศร้าไหว รู้รักเย็นรักให้เป็นพลีพร้อมใจ เก็บกลางใจกระจ่างสร้างสรรดี.. เกิดมาแล้วเพียรสร้างทางกุศล หวังไม่วนหลงวงกรรมซ้ำชีพนี้ ใช้แพธรรมแพทองล่องชีวี จิตวิญญาณพลีพบฝั่งฝันวันไร้เธอ.. *********** http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_38201.php ตามฉันมา! พุดพัดชา http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=373 ดวงใจ..ตามฉันมา.. ฉันจะพาเธอไปยัง ดินแดนแห่งความสุข... ไม่จำเป็นต้อง ใส่รองเท้าหรู คู่แพงๆ ไม่ต้องมีดีเคเอนวาย หรือเวอร์ซาเซ่ ไม่มีน้ำหอม น้ำปรุง..ไม่ต้องหรูไม่ต้องเริด ไม่..ไม่..และไม่...วัตถุมากมี........ ขอแค่ให้มี....ใจดวงที่สวยใสสงบงาม ที่จะมุ่งมั่นไปยัง ดินแดนแห่งความฝันที่มีจริงบนโลกนี้ ที่ใกล้แสนใกล้แต่เราทุกคนกลับมองข้ามไป.... ที่ที่มีร่มไม้ ทั้งสูง ทั้งต่ำ ที่แสนสวยแสนงาม เป็นดั่งร่มแวดล้อมคอยปกป้องกางกั้นเธอจากผองภัย มีดวงใจและน้ำใจมากมีจากกัลยาณมิตร ที่จะนำทางให้เธอ หลบพักพิงใจใจ.. ไม่นานนัก..เธอจะมีใจดวงดีที่เป็นกลางๆ ไม่ต้องร้องไห้ ไม่ต้องเซซัง ไม่ต้องพบกับคำว่าความผิดหวังซ้ำๆซากๆ จนใจโศกตรม ไม่ต้อง ครวญคร่ำกับคำว่า ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะมาผิดทาง เคว้งคว้างเดียวดาย..... แต่...มีข้อแม้ถ้าเธอ..นั้นยังแกะเปลือกไม่ออก ยังชอบการหมุนวนแห่งรอยกรรม บางทีเธอนั้นอาจจะยัง ไม่พร้อม..จนกว่าเธอจะค้นหาเส้นทางชีวิตของเธอเอง... แต่รู้ไหม!..บางที่มันเสียเวลา กว่าเธอจะค้นหาเจอด้วยตัวเอง และบางทีก็อาจจะหมดเวลาและสายเกิน ก่อนที่จะพบว่าแท้ที่จริงนั้น ที่คนเราทุกข์หนักกับทุกสิ่งนั้น เพราะเราแบกมันไว้ ในทุกความอยากมากมี ที่มีเสน่หาเย้ายวนกวนให้ใจเราลุ่มหลง และยึดติด ไม่ว่าวัตถุหรือสิ่งมีชีวิตนี้ที่เราเรียกว่าคน ความอยากมากมี ที่ อยากจะเป็น อยากจะได้ตามๆกัน อย่างที่สังคมบ้าวัตถุ..สังคมทุนนิยมสร้างขึ้นมา เพื่อล่อหลอกให้เรานี้ต้องตกเป็นเหยื่อเพื่อความรวย ของคนไม่กี่กลุ่ม..และเราต้องชุลมุนหัวหมุนวุ่นวาย บ้ากันผ่อน..ผ่อนนั่น ผ่อนนี่ ผ่อนหนี้ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่าจะแก่ตาย... เราลองปลดปล่อย..ของหนักลงจากบ่า ของที่เรายึดติดกันมากมายทั้งทางกายทางใจ และบางที... มันหนักเสียจนรวดร้าวเข้าไปถึงดวงใจจนเกินทานทน จนไม่อยากแม้จะมีชีวิตอยู่... เขียนเรื่องนี้..เพราะคลิกเข้าไปอ่านกระทู้อกหัก พลัดพรากจากรักที่ไม่สมหวัง ที่ซ้ำๆช้ำๆตรมๆตรอมๆ บางคนเสียเวลารักษาเยียวยานานปี จนกว่าจะรู้ว่าที่แท้นั้นคนที่เราบ้าคลั่งรักปานจะกลืนกินนั้น เค้ากำลังกลืนกินคนอื่นแทนเรา.. เราเสียเวลาเพราะไม่มีบทเรียนกำกับใจ ไม่มีเกราะกำบังใจ ให้คิดเป็น ตัดใจเป็นให้รักตัวเอง และแม่พ่อเป็น กลายเป็นคนอ่อนแอ..และนับวันจะแย่ไม่มีดี ไม่มีได้อะไร...ที่จะสร้างสรรชีวิตเราขึ้นมาเลย.... ดวงใจ...ตามฉันมาซี.. มานั่งตรงนี้ ที่นี่ มีพันธุ์พงพฤกษ์ไพร มีดวงดอกไม้รายเรียง มีดวงใจของคนดีๆที่ จะรอประโลมใจเธอให้หายบอบช้ำ... แสงตะวันรำไร ๆ ธรรมชาติสดใส เขียวชื่นตา และมวลพลังงานแห่งความหวังจะกระจายโอบรอบตัวเธอ ให้หลุดพ้น ราวกับมีปุยเมฆสวยสีขาวบางเบา มาปัดเป่าเห่กล่อมให้เธอนิทรากับทิวาราตรีอย่างผู้รู้ค่าแห่งใจตน.. ธรรมะ..ธรรมชาติๆ ธรรมดาๆ ที่เธอไม่ต้องลงทุนซื้อหา แต่จะได้มาเพียงเธอเปิดใจรับมัน... แทนขยะมากมี ที่กำลังมอมเมาใจเธอให้รกรุงรัง เน่าเหม็น... ดวงใจ..ที่นี่จะมีพระสงฆ์มากมาย จะไม่ทำให้เธอหลงทางเสียขวัญ.. ยังมีห้องสมุดทางจิตวิญญาณ ที่เป็นหนังสือ.. ธรรมมะมากมี ที่จะเป็นคำสอนให้เธอค่อยๆเข้าใจ โลกและชีวิต.. ในไม่ช้า ใจดวงมืดบอดของเธอ จะเจิดจ้า สว่างดังดวงตะวันแสนงาม และจะมิมีวันมืดดับ ไม่ว่าจะพานพบพายุร้ายใดๆมากรายกล้ำ กระทบ... ดวงใจ.. พร้อมหรือยัง ตามฉันมาสิ... ฉันนี้กำลังเพียรพยายามที่จะเกิดมาให้สมกับคำว่ามนุษษ์ มิใช่แค่คำว่า คน ที่กวนปนอยู่แต่กับความวุ่นวายสับสน ของกิเลสตัณหา ที่โหมกระหน่ำหนัก มาทุกทิศ ทุกทาง จนโลกบ้าๆใบนี้กำลังบิดเบี้ยว จนจะขาดเกลียวจากกันอยู่มิช้ามินานแล้ว... ดวงใจ..ตามฉันมานะ... ถ้าเธอมีแค่ใจดวงดีอยากลอง อยากลงทุน เพาะบ่มธรรมชาติงาม ให้รู้ซึ้งค่า แห่งความหมดจดงดงามกับความเป็นไปของโลกและชีวิต... ที่จะไม่ต้องหมุนวน ทุรนทุรายไม่รู้จบรู้สิ้น... ค่อยๆขยับตัวเธอนะ.. ค่อยๆแกะเปลือกออกมา พาดวงใจและความคิด ออกมาค้นหาแก่นแท้ของชีวิต แล้วเธอจะรู้ว่าแท้จริงไซร้ สิ่งที่เราทุกคนต้องการนั้น... มันไม่จำเป็นต้องหรูหราราคาแพง ฟุ่มเฟือย มันมิใช่รถเก๋งแพงแพง ใช่การแต่งตัวแข่งกัน ใช่การปั้นหน้าจ้ะจ๋า แต่ใจนั้นแสนเหน็ดเหนื่อยและเดียวดายกับความไม่พอใจ..ไม่สงบสุข... ดวงใจ..ตามฉันมานะ ฉันเองอยากจะพาเธอให้หลุดพ้นจากโซ่ตรวน แห่งความตรอมตรม การหมุนวน ในรักที่เป็นทุกข์ สาหัสสากรรจ์...จนยากทำใจไหว... ตามฉันมาซี..คนดี.. ทุกวันอาทิตย์ เธอจะได้พบกับธรรมชาติที่แสนสวย และธรรมมะที่แสนยิ่งใหญ่ และสองสิ่งนี้จะค่อยๆยึดพื้นที่แห่งความหมองไหม้ ภายในใจของเธอที่หาทางออกไม่พบเจอ.. ทุกสิ่งนั้น..สำคัญที่ใจของเธอ.. ความคิดของเธอ ที่จะลิขิตชีวิตเธอเองใช่ใคร! ตัดสินใจมาเลยจะดีกว่า!นะ.. ฉันจะรอจะคอยเสมอ..อยู่ตรงนี้. เพื่อเดินไปด้วยกันในเส้นทางแห่งความสุขสีขาว..นิรันดร..... ชีวิตจริงพุดพัดชาค่ะ ที่พยายามรักษาจิต ให้งามนิ่งสนิท สะอาดสว่างสงบ แม้ได้บ้างมิได้บ้าง อย่างผู้พึงรู้ตนมิพึงต้องอวดอ้างกับใคร แม้จะยากยิ่งนักแต่ก็เพียรมาหลายปีแล้วและ จะเพียรต่อไปค่ะ..ด้วยรัก.. http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=373 บัวขาว สวลี ผกาพันธุ์ : : Key Eb เห็นบัวขาว พราวอยู่ ในบึงใหญ่ ดอกใบ บุปผชาติ สะอาดตา น้ำใส ไหลกระเซ็น เห็นตัวปลา ว่ายวน ไปมา น่าเอ็นดู หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ หมู่ภุมริน บินเวียนว่อน ลอยร่อน ดมกลิ่น กลิ่นเกสร พายเรือน้อย คล้อยเคลื่อน ในสาคร ค่อยพาจร ห่างไป ในกลางน้ำ... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420 รางวัลชีวิต... ชัชฎาพร ลักษณาเวช : : Key B พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์ ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์ หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์ เวรกรรม ทุกชาติก่อน บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย...
22 มีนาคม 2547 07:39 น. - comment id 234764
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_38247.php รักกันวันนี้ดีกว่า.. รักกันวันนี้ดีกว่า! พุดพัดชา http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=101 รักกันวันนี้ดีกว่า ดวงเคยไปส่ง ดวงใจมากมายหลายดวง ที่ดวงแสนรักเอยแสนรักในกมล แต่..จำต้องพลัดพรากจากลา...หลายสถานที่หลายสถานีชีวิต ที่ฟ้าลิขิตให้เราต้องพบพรากจากลา..เป็นธรรมดา ธรรมดา โลก บางครั้งก็ที่สถานีรถไฟ บางทีก็ไปถึงสนามบิน ... ก่อนพรากไกล..ดวงจะกอดลาทุกดวงใจ... จูบแก้มซ้าย..ขวา.... และกระซิบอวยพร ให้เดินทางปลอดภัย.. จนคนที่จากไปบอกไม่ต้องกอดแน่นมากก็ได้.. ไม่ได้ไปนานหลายปี เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว........ . ดวงเลยบอกว่า..ไม่ได้สิ... มันเป็นสิ่งแสนดีที่อยากมอบให้เธอ เป็นสิ่งที่เสนอให้มา... เพื่อแสดงว่าเรารู้สึกอาวรณ์อาลัย รักและรอ ขอครบสูตรหน่อย..... จริงมั้ยคะ..ขาดก็แต่พวงมาลัยคล้องมือ ที่ดวงมักจะถือเป็นประเพณีที่ชอบนำไปคล้องใจผู้มาเยือน. แต่สำหรับบางคนแค่ใช้ใจคล้องใจ..ก็พอ ไม่จำเป็นต้องลงทุนพ้อรอลาด้วยดอกไม้ ซึ่งมินานจะพานลาจะพาเหี่ยวเฉา ดวงเป็นคน..ละเอียดอ่อน..กับทุกสิ่ง... วัยวันสอนบทเรียนให้ดวงรู้ว่า.โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน. กับทุกเวลาของชีวิตนี้ที่แสนสั้น.....ยิ่งนัก...... ความทุกข์..ความสุข..ที่ผ่านเข้ามาทายทัก สอนให้ดวง ใช้เวลาของชีวิตอย่างไม่ประมาท..... และพยายามใช้อย่างมีคุณค่า...ต่อทุกคนที่ดวงรักเท่าที่ใจจะทำได้............ คุณๆคงไม่ทราบว่า ดวงเคยสูญเสีย.. ครอบครัวของคนที่ดวงรัก..ผูกพันยิ่ง..ราวน้องสาว....... พร้อมกันทั้งสามคน พ่อ..แม่..ลูก...... เพราะเที่ยวบินที่ตกที่สุราษฎร์ธานี.. ในค่ำคืนหนึ่ง ที่ฝนตกราวฟ้ารั่ว....ร่ำไห้..เมื่อสองปีก่อน พร้อมกับที่นักร้องยอดนิยม...เจมส์..ผู้โชคดี รอดชีวิตมาได้.......... ทุกครั้งที่ดวงไปสนามบิน..ดวงจึงมักจะเศร้าหมองใจ... ดวงรอเวลาที่จะเขียนสิ่งดีดี..... เพื่ออุทิศให้กับน้องสุดที่รัก ที่ลาลับไป ไกลสุดหล้า...... และดวงอยากบอกคุณๆว่า...ใจดวง.. ยิ่งแสนเศร้า...เพราะก่อนวันเดินทางลาจาก... เธอได้โทรมาร่ำลาดวง...ด้วยเสียงหัวเราะ..... อย่างมีความสุข........ ดวงพยายามเว้าวอนให้เธออยู่ต่อ ราวรู้.และราว.อยากยื้อยุด จากกำหนดนัดของฟ้าดิน.......... แต่.....คำที่เธอบอกดวงราวสังหรณ์ย้ำอาลา.... เธอต้องกลับพร้อมครอบครัว..... ใช่เลย....... เธอจึง...จากดวงไป...พร้อมทั้งครอบครัวที่อบอุ่น.. แสนรักของเธอจริงๆ..พ่อ..แม่..ลูก........ โดยทิ้งให้ผู้อยู่หลัง..เจ็บปวด ด้วยรัก อาวรณ์ อาลัย อย่างยากยิ่งที่จะทำใจ...เนิ่นนาน...... น้องรัก.....ดวงสัญญา... วันหนึ่งเมื่อใจดวงพร้อม ดวงจะเขียนถึงคุณงามความดีราวตำนาน... ที่เธอฝังฝากไว้ให้กับทุกคน..ที่บ้านเกิด....บ้านเกาะ...ของเรานะ....น้องรัก.... ระหว่างเรา...กาลเวลา และทุกสิ่ง มิอาจพรากจาก ความทรงจำที่แสนดี แสนงาม......... ตราบจนชั่วฟ้าดินสลายลับ......................... ดวงเขียนเรื่องนี้ เพราะได้ตระหนักชัดว่า... โลกนี้ไม่เคยมีอะไรแน่นอน ให้เราเตรียมพร้อมทางจิตวิญญาณ ไว้เพียงนั้น ที่จะฝ่าฟันพาดวงใจอันผ่องแผ้ว ไปสู่ฝั่งฝัน อันว่าง สว่าง สงบ และจบด้วยความสุขนิรันดร์.. ไม่มีภพมีชาติอีกต่อไป.. แม้..หนทางจะยังแสนไกลเป็นยิ่งนัก..ก็จักอย่าได้ละความเพียร.. และดวงคิดถึงเพลงๆนี้ พร้อมความทรงจำรำลึกที่เจ็บปวด... .ดวงอยากมอบเพื่อเตือนใจ... ให้ผู้อ่านที่ดวงรักยิ่ง ทุกทุกท่าน......... ตระหนักคิด...และรู้ว่า..... วันนี้....คุณได้ทำสิ่งดีดี...ให้กับคนที่คุณรัก....หรือยัง.......... ถ้ายัง....คุณทำเสียนะคะ....ก่อนที่.....พรุ่งนี้จะสาย......เกินไป........ ด้วยรัก... จากใจ.....ดวงนี้..จากเนื้อใจดวงนี้..ที่ยากยิ่งที่ใครจะหยั่งถึง ความรู้สึกมากมายมากมีที่ตราตรึงเงียบงาม สงบ สว่าง พร่างพรมใจให้ใสสวยในทุกยามด้วยความภาคภูมิเป็นยิ่งนัก.. กับ..การให้..ให้..และให้.. ให้ความรักโลก รักผู้คน... บนผืนดินเดียวนี้ ที่ดั่งเพื่อนพ้องน้องพี่.ร่วมชะตากรรม และ... จนกว่าจะถึงวันตะวันลา.. วันที่ฝากร่างอ่อนล้าใจอ่อนแรงให้ผืนพสุธากลบหน้า.. และขอกล่าวคำว่า..ลาก่อนชั่วนิจนิรันดร์...ระหว่างเรา!นะคนดีนะดวงใจ! http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=101 รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้มีอันเป็นไป แม้เธอและฉันนั้นต้องพลันสิ้นใจ ฉันจะหวังใครให้เป็นที่รักยิ่ง รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้มีใครมาชิง ฉันอาจพลาดแพ้เหลือแก้คืนทุกสิ่ง แล้วจะหมายอิงแอบอ้อนวอนรักใคร พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แปรผันยอกย้อน ลวงหลอนเปลี่ยนใจ เผื่อว่าพรุ่งนี้โลกแตกสลายไป วันนี้เล่าใครจะอยู่คู่ฉัน รักกันวันนี้ดีกว่า เผื่อว่าพรุ่งนี้จำใจไกลกัน ฉันอาจสิ้นหวัง เหมือนดังสิ้นชีวัน เหลือแต่เพ้อฝัน สุดกลั้นใจหมองตรม *********** http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_37762.php เงียบสะท้อน.. ความรักทำให้เรามีความสุข ความรักหล่อเลี้ยงหัวใจให้อยู่ในโลกอันเปล่าเปลี่ยว จนคราวเราจากกัน ความทุกข์สอนผมให้เข้าใจความรักที่แท้ ความรักที่สรรพสิ่งมีต่อชีวิต และชีวิตมีต่อสรรพสิ่ง ประดุจสายใยอันอบอุ่นคล้องวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว ชีวิตไม่เคยหยุดทำหน้าที่ และชีวิตไม่เคยมีวันหยุด ชีวิตหนึ่งสอนอีกชีวิตหนึ่งให้เข้าใจชีวิต ผมกราบพื้นทรายเป็นครั้งที่สอง ใบไม้ร่วงสู่พื้น ผมเงยหน้าขึ้นเห็นฝูงนกพากับบินกลับรัง ลูกนกบินทันฝูงแล้ว ผมเคยเป็นนกหลงฝูงกลางป่าเปลี่ยว เป็นนกแปลกหน้าในเมือง เวลานี้ผมรู้สึกเป็นเช่นเดียวกับท้องฟ้า อ้าแขนรับความเปลี่ยนแปลง โลกนี้ไม่มีสิ่งใดดำรงอยู่ถาวร ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงเสมอ ทั้งตัวเราและผู้อยู่รอบข้าง เมื่อวันที่ย่าจากไป ผมนั่งอยู่กับย่าจนลมหายใจสุดท้าย คืนวันที่พ่อจากไป ผมเห็นรอยยิ้มของพ่อจนตื่น และวันที่ท่าพุทธทาส ภิกขุ อาพาธ อยู่โรงพยาบาลประจำจังหวัด ผมเดินทางมาทันขณะลูกศิษย์พาท่านกลับสวนโมกข์ แปลกใจที่เราจากกัน แต่คล้ายเรายังอยู่ใกล้กัน อยู่พร้อมหน้ากัน ความคิดเหมือนเดินทางมาในความเงียบ สะท้อนภาพแล้วภาพเล่า ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกวินาทีผ่านไป ทำให้เราเข้าใจภาพต่างๆมากขึ้น เข้าใจชีวิตชัดเจนขึ้น ฟ้าเริ่มมืด เสียงจักจั่นเรไรดังทั่วในความเงียบ เวลานี้ความเงียบและเสียงกลับไม่ขัดแย้งกัน กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน หน้าผากของผมสัมผัสพื้นทรายเป็นครั้งสุดท้าย น้ำตาอันมิอาจห้ามเอ่อขึ้นมาด้วยความรู้สึก ศรัทธาต่อทุกสิ่งมีค่าที่ผ่านมาและสอนผมให้เข้าใจชีวิตในวันนี้...........
22 มีนาคม 2547 10:11 น. - comment id 234795
เกิดมาแล้วเพียรสร้างทางกุศล เพื่อให้เราทุกคนได้สุขสันต์ อย่าทำชั่วให้มัวหมองครองชีวัน มาทำดีพื่อชีวันทุกท่านเทิญ *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ ชอบค่ะชอบ*-*
22 มีนาคม 2547 11:42 น. - comment id 234854
เพราะ สวยงาม อ่านแล้วสงบดีมากเลย ขอให้กำลังใจกับ พุดและภู นะ
22 มีนาคม 2547 12:59 น. - comment id 234901
****** เข้ามาสงบอีกคนครับ -------
22 มีนาคม 2547 13:22 น. - comment id 234908
แพเต็มรึยังครับ ขอโดยสารไปด้วยสักคน อิอิ
22 มีนาคม 2547 17:26 น. - comment id 235054
ใต้ร่มไม้เรือนธรรมมารำลึก มาตรองตรึกรอยกรรมนำจิตนิ่ง ร้อยความทุกข์สุขใดให้ประวิง หลีกความจริงไม่พ้นเมื่อจนมุม เป็นเรือนไม้เงาใจในยามวุ่น เป็นกลิ่นกรุ่นอบล้ำธรรมไฟสุม เป็นแสงทองแห่งฟ้ามาเจือจุน เมื่ออรุณเบิกฟ้า..ส่องมาแต่ง ใต้ร่มไม้เรือนใจในวันเศร้า เหลือเพียงเงาความดีที่เฝ้าแฝง ทุกแหล่งรอยงามล้ำธรรมแสดง เป็นแพแต่งแพทองล่องเรือไป ในสายน้ำนิรันดร์อันสงบ ทุกอย่างพบรู้เห็นเป็นไฉน ด้วยทุกเหตุทุกสิ่งต้องเป็นไป เพียรแสดงเอาไว้ แต่อนิจจัง บทนี้แต่งได้สงบนิ่ง ราวกับน้ำค้างทรงหยดในยามอรุณเบิกฟ้าจริงๆ ครับ น้ำตาจะไหล
22 มีนาคม 2547 18:10 น. - comment id 235069
เมื่ออ่านจบ อึ้งอยู่นาน อั้นชลเนตร บทพิเศษ ชี้ธรรม นำชีวิต ที่โศกเศร้า เหนื่อยล้า ระอาอิด ให้ดวงจิต กระจ่าง ทางธรรมะ หนทางเดิน ยังยาวไกล นำไปค้น เรื่องหลายล้น หลากผู้คน ปนพบปะ สำเภาทอง ล่องไป ไม่ลดละ ชัยชนะ ย่อมประสบ พบคนดี
11 กันยายน 2547 14:21 น. - comment id 283334
เมื่อมารตู่ผู้ครองอาสน์ประกาศศักดิ์ พลพรรคท่วมท้นล้นทิศา มหาบุรุษผู้เลิศด้วยปรีชา ประกาศกล้าแก่มารถึงฐานบุญ วสุนธรามารินยินกุศล ไหลท่วมท้นพลมารที่ราญหนุน กระแสธรรมชำระภัยได้ค้ำจุน บารมีคุณพระโพธิสัตว์ขจัดมาร ไฉนเลยคนเศร้าเหล่าปุถุชน จะหลุดพ้นวนนทีที่เชี่ยวหาญ จึงพบโศกและเศร้าเคล้ากันดาร ผจญมารคือขันธาพาทุกข์ใจ ข้ามนทีสีทันดรรอนฤทธิ์มาร แพที่สานผูกด้วยธรรมนำจิตใส ถ่อที่ถือคือความเพียรเรียนรู้ใจ คัดท้ายไปด้วยปัญญาพาพ้นชล งานงดงามมากค่ะน้องพุด..