http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=319 ********* นอนนิ่งนิ่งซุกซบโซฟาขาว ฟังเพลงเศร้าบรรเลงบทเพลงฝัน มองจันทร์เสี้ยวเดียวดายพอพอกัน ดาราฝันแตกดับลาลับดวง.. กุหลาบขาวพราวหอมเกสรรัก ไร้อ้อมตักไร้ใครคอยห่วงหวง รินน้ำตาเงียบเงียบเย็นเยียบทรวง ดาวยังร่วงสังเวยเผยบ่วงรัก.. ลมหอมเอยไยเฉยไม่พรมพัด จำปีสลัดกลีบพราวราวร้าวหนัก การะเวกเสกหวานหว่านเล่ห์รัก หลงเพ้อภักดิ์เพียงฝันนิรันดร์รอ... รักแตกกอช่อซ้อนอ้อนใครเล่า พุดบานเศร้าซ้อนช้ำพร่ำเพ้อพ้อ เพียงลมฝันลมรักลมภักดิ์รอ ออดอ้อนขอนานกี่ชาติสวาทวาย วาสนาไร้ดอกชอกช้ำตามเจ้าของ หลงวาดปองเพียงฝันสวรรค์สาย กล้วยแตกกอรอหวีไหวกี่เคลือราย ก็ห้อยตายกลายลงหม้อรอบวชชี..! ********* ดวงใจรักฉันนั้นขึ้นอยู่กับใจเธอ.... อย่าคิดนะ...ว่าฉันรักเธอมากเกินไป อย่าคิดนะ...ว่าฉันวิงวอนอ้อนออดร้องขอรักจากเธอ อย่าคิดนะ...ว่าฉันผูกมัดรัดร้อยใจเธอเอาไว้ อย่าคิดนะ...ว่าฉันต้องการคำมั่นสัญญา อย่าคิดนะ...ว่าระหว่างเราจะต้องมีคำสาบาน อย่าคิดนะ...ว่าใจเราสองดวงต้องมีพันธะ อย่าคิดนะ...ว่าฉันจะรักผูกพันหากใจเธอนั้นไม่ห่วงหาจากความรู้สึกจริงๆ อย่าคิดนะ...ว่าฉันจะอยู่ไม่ได้ถ้าเธอพรากลาจากไกล อย่าคิดนะ...ว่าลูกผู้หญิงคนนี้จะทำใจไม่ได้ ถ้า..ใจเธอไม่มีให้ฉัน อย่าคิดนะ...ว่าฉันจะรักเธอจนตาย ถ้าหากเธอนั้นไม่รักฉันจริง อย่าหวังเลย อย่าคิดนะ...ว่าฉันจะอ่อนแอและแปรใจไม่ได้ เพราะโลกนี้มันควรมีความยุติธรรมมิใช่หรือ ขอเพียงให้รู้ว่า..เธอนั้นเปลี่ยนใจ เปลี่ยนไปแล้ว อย่าคิดนะ...ว่าฉัน..จะไร้ศักดิ์ศรี แม้ฉันนี้จะเคยเผลอใจเอ่ยคำว่า.. รักเธอจนหมดหัวใจสิ้นจิตวิญญาณ อย่าคิดนะ...ว่าโลกนี้ถึงแม้จะมีผู้ชายอย่างเธอเพียงคนเดียว ที่พิเศษพิสุทธิ์..แต่ฉันก็หยุดรักเธอได้ เพราะผู้หญิงอย่างฉันนั้นคงไม่โง่งมงาย... ทำใจไม่ได้...ทำใจไม่เป็น..ไม่เห็นยากเลย ขอเพียงบอกฉันอย่างตรงไปตรงมาแค่นั้นว่า.. เธอ...ไม่มีฉัน ในหัวใจอีกต่อไปแล้วและ... อย่าคิดนะ...ว่าชาตินี้ชาติหน้าเราจะได้พบกันอีก...ไม่มีทาง!..... ************ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=319 ฤทธิ์กามเทพ ... หน้า ตาเขาดูซื่อซื่อ นี่ คือ ผู้ชายอกหัก แอบไปรู้ว่าถูกผู้หญิงตัดรัก ก็เลยสงสารเสียหนัก อยากฟูมฟักอุ้มชูใจ ท่า ทีเขามีเสน่ห์ หน้า ตาเก๋ชวนฝันใฝ่ ยิ่งตอนยิ้มไม่ว่าจะยิ้มกับใคร ลอบชมแล้วถอนใจใหญ่ เผลอใจเป็นสุขจริง อยาก เป็นเพื่อนปลอบยามเหงา หาก ตัวเขาไม่เกลียดหญิง ใช่จะหวัง ให้เขามาเป็นคู่อิง เพราะว่า ใจจริง สงสารเขาเป็นยิ่งนัก แต่ พอเขาคลอเคียงคู่ กับ ใครฉันไม่รู้จัก แปลกไฉนจึงเกิดหมั่นไส้ ยิ่งนัก แอบไปร้องไห้เสียหนัก รักเขาหรืออย่างไร แต่ พอเขาคลอเคียงคู่ กับ ใครฉันไม่รู้จัก แปลกไฉนจึงเกิดหมั่นไส้ ยิ่งนัก แอบไปร้องไห้เสียหนัก รักเขาหรืออย่างไร... ************ เพราะบันดาลใจจากภาพด้านบน ราวฉากจริงในเรื่อง *น้ำจรดฟ้า* ที่พุดพัดชา เคยไปเดินดายเดียวเปลี่ยวเหงามานาน ขอฝากให้อ่านเอาเศร้าเดียวดายตามนะคะ และหากอ่าน ยามราตรี..จะดีมากค่ะ มิใช่เที่ยงวัน.. ที่เพิ่งทานข้าวมา.. งานงามฝันของพุด จะกลายเป็นยานอนหลับ..คร่อกฟี๊ๆให้เจ้านายเหล่..ค่ะ ************ http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32552.php น้ำจรดฟ้า..... ใจของดาหลา กำลังระบมด้วยพิษรัก.... ทะเลตรงหน้าที่เคยมองว่าแสนงาม มาวันนี้..ไม่งามเหมือนดั่งเก่า.... ดาหลาเช่าเรือลำเล็กๆ ออกมา กลางทะเลกว้าง...... มีเด็กชายผิวคล้ำ เกรียมแดด เป็นนายท้ายเรือ.... ดาหลาไว้ใจประสบการณ์ทางทะเล ของเด็กชายคนนี้ที่มีมากกว่าอายุจริง ดาหลานุ่งโสร่งผ้าปาเต๊ะ แบบสาวชาวเกาะ พันทับชุดว่ายน้ำ เนื้อตัวดาหลาคล้ำแดด ไม่แพ้กัน ดาหลาออกมาท้าทายสายลมร้อน..และแสงแดดกล้า.. กลางทะเลมาเป็นอาทิตย์แล้ว ใจที่ร้าวระบมด้วยความรานร้าวใจ....ค่อยๆลดออาการลง......... ผืนน้ำทะเลสีเขียวเข้มราวมรกต.... ตัดกับขอบฟ้าสีน้ำเงินเข้ม....ไร้ขอบเขต...... ความเวิ้งว้างของโลกสีคราม ..กับ..ความอ้างว้างทางใจ.. ผสมปนเปกลมกลืนกันไป ภายในใจ อันบอบช้ำดวงน้อยของดาหลา.... ความนิ่ง...เงียบ..ของผืนน้ำรายรอบ...ทำให้ใจดวงร้าว ค่อยๆสงบลง.....อย่างช้าๆ....... โลกตรงหน้าเหมือนมีดาหลาเพียงผู้เดียว.............. ดาหลามาที่เกาะเล็กๆแห่งนี้..มีเต้นท์ .. และเสบียงมาพร้อมที่จะค้างคืน......... ทอดสมอเรือแล้ว.. เด็กชายตัวน้อยจะเป็นผู้ช่วยทำทุกอย่าง..... กางเต้นท์... และเตรียมฟืนไว้สำหรับ ก่อกองไฟในยามค่ำคืนที่กำลังจะมาเยือน...... ดาหลาเดินย่ำเท้าไปเรื่อยๆ ตามริมหาดทรายขาวยาวเหยียด..... รอยเท้าบนผืนทรายที่ดาหลา เดินโดยลำพังนั้น... จะค่อยๆถูกน้ำทะเลซัดสาดหายไป...หายไป ทุกอย่างดูเหมือนไร้ร่องรอย . ธรรมชาติกำลังสอนใจดาหลา ..บำบัดเยียวยา ให้ใจดวงงามพลิกฟื้นตื่นขึ้นมายอมรับ ความจริงของชีวิต อันแสนสับสนนี้........ คืนวันเดียวดายที่เกาะร้าง.. ค่อยๆลบความระทมขมขื่น ให้ใจจางหายจากบอบช้ำ....... เสมือนคลื่นที่ลบรอยเท้าบนผืนทราย.... ดาหลาเป็นลูกทะเล เกิดมาก็เห็นทะเลงามตรงหน้า..... และไม่ว่ายามเศร้า....หรือสุข ใจก็ร่ำร้องหาทะเล บางเวลาเมื่อดาหลา มีความรัก.. ทะเลก็เป็นฉากรักอันงดงามตราตรึงใจ......... ดาหลาเคยใช้ทะเลเป็นพยานรักกับคนที่ดาหลารักปานชีวิต ..... ท่ามกลางแสงจันทร์โลมไล้..... ทะเลต้องจันทรานั้นงามสุดจะบรรยาย.... รัศมีจันทร์ส่องกระทบผืนน้ำ..ราวกับทาทาบด้วย เกล็ดเพชร แสงเงาเลื่อมพรายพราว..วิบวับ..วิบวับ....งามจนน่าไหลหลง............ หนาวน้ำทะเล... กลับอุ่น เมื่อมีอ้อมกอดคนที่รัก ตระกองกอดใต้ฟองคลื่น...เล้าโลม.. ทั้งใจ..กาย..นุ่มนวล..อ่อนหวาน......... ในค่ำคืนแห่งความทรงจำอันงามงดนั้น.. ทะเลช่างแสนงามจับตา ..จับใจ จนยากที่จะเลือนลืม แม้บางเวลาทะเลจะดูน่ากลัว ....ยามมีพายุร้าย.... เหมือนชีวิตดาหลา...... ที่ถูกพายุใจหอบพัดพาจนใจกระเจิงมาถึงที่เกาะแห่งนี้............... .ดาหลาบอกให้เด็กนำเรือออกกลางทะเล..... เพื่อดำน้ำดูฝูงปลา......... โลกสีคราม....สวยสุดใจ...... ฝูงปลามากมายหลายหลากสีแหวกว่าย..ราวไร้ทุกข์ร้อน....... โลกสีคราม มีมนต์สะกดใจของดาหลาให้.. นิ่ง..เงียบงัน..สงบสุข....ล้ำลึก....... ฝนก่อตัวตั้งเค้า.......สายฝนบางเบาเริ่มพราวพร่าง.... .เรือลำน้อยค่อยๆฝ่าฟองคลื่น บ่ายหัวกลับมายังเกาะที่ดาหลาเตรียมจะค้างคืน................ ท่ามกลางสายฝนพรำ....ดาหลาหนาวสั่น......... ร่างกายที่หนาว..ยังไม่เท่าใจที่สะท้านเยือก ด้วยความอ้างว้างสุดใจ ..... ท่ามกลางทะเลใจ ที่แสนระทมเปล่าเปลี่ยว....ร้างราผู้คนดังอยู่ลำพัง กับเรือน้อย ในทะเลจริงแห่งชีวิตที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้............... น้ำตาปนกับสายฝน ดาหลาสะอึกสะอื้นร่ำไห้ราวจะขาดใจ....... ทำนบน้ำตาพังทลายสิ้น..ในนาทีนั้น..... ด้วยใจที่สะเทือนไหวสุดจะทานทน....อีกต่อไป..... ท่ามกลางเสียงครวญคร่ำของใจ พร้อม สายฝนพรำ.. .ดาหลาได้ยินเสียงเพลงจากท้ายเรือ.. ดังแว่วมา.....ประโลมใจ...... *รักก็เกม......ก็เกมอะไรสักอย่าง.... เจ็บช้ำครวญคราง...ไม่นานก็หาย........* ................................. สายพิรุณใส....ค่อยๆรินไหลผ่านใบหน้า. ราวแทรกซึมเข้าไปร่ำไห้ให้กับใจที่แหลกสลายยับ ดาหลาแหงนหน้าขึ้นปล่อยให้เม็ดฝนกระทบต้องใบหน้า..... ทุกๆหยดฝนพราวเตือนใจ ให้ดาหลา....มีสติ ... รู้ยอมรับความจริงของชีวิต... ใช่แล้ว...รักก็เกม ...ก็เกม..อะไรสักอย่าง.. เจ็บช้ำครวญคราง ไม่นานก็หาย..... ธรรมชาติจากสายฝนเย็นฉ่ำ.. กำลังให้บทเรียนสอนใจดาหลาอีกบทหนึ่งของชีวิต............... ดาหลาเอามือลูบหน้า... ลูบไล้ราวกับจะให้ความใสสะอาดของหยาดฝน.. ช่วยชะล้างใจ ให้สดสว่างโดยพลัน.................. ม่านฝนเริ่มสร่างซา..... พร้อมเปิดม่านตาและม่านใจของดาหลา.. ให้สว่างกระจ่างใส ไปพร้อมกัน........ สายฝนในใจของดาหลาค่อยๆ..หยุดรินไหล..... ดาหลาได้ใจดวงเดิมที่แสนงามกลับคืนมา พร้อมพลังใจที่จะยอมรับความจริงของชีวิตว่า......... ชีวิต..มิได้เป็นดั่งฝัน....เสมอไป....
10 มีนาคม 2547 23:54 น. - comment id 228793
**** เพราะมาก อ่อนหวาน บรรยายธรรมชาติได้ดีจัง รู้สึกชอบใจตรง --- อย่าคิดนะ... ดูเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวดี อ่านแล้วดูมีทั้งมุมอ่อนหวาน และ เด็ดเดี่ยวอยู่ในคนเดียวกัน
10 มีนาคม 2547 23:57 น. - comment id 228796
กลอนยาวมากค่ะอ่านแล้วตาลายเลย แต่เพาะนะคะ *--* แต่งได้ไงอ่ะ เป็นเรานะคงตกม้าตายตั้งแต่กลอนแรกแล้ว*--*
11 มีนาคม 2547 00:54 น. - comment id 228838
เพราะค่ะชอบมากๆเลยถ้าเป็นเจลอีกกี่ชาติจะแต่งได้แบบนี้ก็ไม่รู้
11 มีนาคม 2547 01:16 น. - comment id 228851
เพราะมากครับ สามารถผสมผสานความอ่อนโยนและความยะโสอวดดีได้อย่างราบรื่นกลมกลืน
11 มีนาคม 2547 08:14 น. - comment id 228887
ชื่นชมครับ...แต้งได้ดีนะครับไพเราะ เพราะดีทีเดียว
11 มีนาคม 2547 11:48 น. - comment id 228972
แต่งได้ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ แล้วเมื่อไหร่กล้วยบวชชีจะสุกค่ะ หิวแล้วค่ะ อิอิ (ชอแซวหน่อยนะค่ะ อิอิ)
11 มีนาคม 2547 12:01 น. - comment id 228982
แต่งได้ดีมากมายเลยค่ะ
11 มีนาคม 2547 12:55 น. - comment id 229026
โซฟาขาวคงซึ้งถึงความหลัง หวนระรึกเมื่อครั้งวัยยังหวาน นอนหนุนตักรินใจให้แก่กัน ล่วงวารวันฝันเพ้อละเมอรอ..... อิอิ อ่านแล้วอยากกินกล้วยบวชชี ง่ะ อิอิ
11 มีนาคม 2547 13:58 น. - comment id 229069
อ่านดูแล้ว เห็นท่าว่า กามเทพ จะสิ้นฤทธิ์ ก็เรื่องออกมาผิดหวัง ยังไงเรียกใช้บริการจากไกรทอง (โฆษณาซะหน่อย) ได้คาถาเทพรัญจวนไปป่วนปั่นใจ สมหวังแน่นอนครับ เมื่อเช้าเห็นมี สองตอน ไปได้นางเอกใหม่เพิ่มมาอีกหรือครับ ก็น่าเห็นใจใครมารับเป็นนางเอกให้พุด ที่ต้องรับบทบาทดาราเจ้าน้ำตา อย่าคิดนะ ก็ยังทึ่งว่าคิดเขียนขึ้นมาได้อย่างไร
11 มีนาคม 2547 14:11 น. - comment id 229084
เพราะจังเลยครับ..อ่านสนุกเหมื่อนเดิม...*-*
11 มีนาคม 2547 20:05 น. - comment id 229233
อย่าน๊า ..อย่าคิด...นะ.. ว่าเรนจะ..ไม่มาป่วน..กวน..ให้โมโห.. ..ก็เรนรู้ ..ว่าพี่พุด..มือโปร.ฯ... นู๋เรน..คนโก้..มีพี่ตัวโต ..ให้ท้าย.. อิอิอิ.. ..แบบ..เรน..แอบมา..นะคะ... ซาแว๊ปป..ป
12 มีนาคม 2547 09:50 น. - comment id 229442
อ่านแล้วงามใจเหมือนเช่นเคย...เพลงไพเราะมากมากครับ.... ด้วยรัก...จากใจ