โลกนี้มีมนุษย์นับพันล้านคน ลองคิดดูสิว่า จะมากเรื่องมากราว ล้านเศร้า ล้านสุข สักเพียงไหน บนผืนโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลของเรานี้ จากปัญหาส่วนตัว กลายเป็นปัญหาส่วนรวม เป็นปัญหาสังคม ที่บางที ก็ยังพอแก้ไขได้บ้าง และ บ้าง ก็ยังคงคุ กรุ่น รอเวลาระเบิด บ้างก็ระเบิดไปแล้ว กลายเป็น... สงครามโลก สองครั้งสองครา พาให้ผู้คนตายเป็นเบือ และพาให้ได้ บทเรียน สอนใจมนุษย์ ทั้งหลายที่ยังหายใจอยู่ และยังคงอยู่..คงมี..ความกลัวกับความไม่แน่นอน ต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด คู่โลกนี้ คู่ใจเรา เหตุใดไหนเล่า โลกนี้ถึงต้องมีทั้ง คนดี คนชั่ว ราวขาวกับดำ เพราะโลกคงอยู่ไม่ได้ ถ้ามีแต่เพียงความโหดร้าย คอยแต่ห้ำหั่น ทำลายกันเอง และทำร้ายโลกให้ย่อยยับโดยทางอ้อม จริงๆแล้วระหว่าง ขาวกับดำ ของผู้คนบนผืนโลก ซึ่งเปรียบได้ดังคนดี คนชั่วร้าย ยัง..อาจจะมี..โลกของความเป็นกลาง คนที่เป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดาๆ ที่อาจจะทำผิดพลาดได้ แต่พยายามแก้ไข เปลี่ยนแนวทาง เริ่มต้นชีวิตเสียใหม่ ก่อนจะสายเกิน และยังอาจจะมีโลกเหลื่อมซ้อนกันมากมาย..... โลกของความคิดที่แปลกออกไป แต่ยังไงๆก็คือ โลกสองฝ่าย โลกของการสร้างสรรค์ ... กับโลกของการทำลายล้าง เขียนเรื่องนี้ เพื่ออยากบอกว่า เรานั้น ในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่ยังมีสิทธิ มีเสรีภาพ และ ชีวิตบางคนนั้นยังอ่อนเยาว์ แค่เพิ่งเริ่มต้นกับโลกกับชีวิต เราก็น่าจะมีสิทธิ์ ที่จะเลือกคิด เลือกเดิน เลือกตัดสินใจ ว่าเราจะอยู่กับโลกฝ่ายไหนดี ถ้าเรานี้มีปัญญา และใช้บทเรียนของมนุษย์นับล้าน ที่เคยผ่านพบปัญหามาก่อนหน้าเรา มาทบทวน ไตร่ตรอง เราย่อมจะไม่หลงทาง เลือกเดินไปในโลก ในเส้นทาง ที่ผิดพลาด ด้วยการเรียนรู้ที่จะ ฉลาดเลือก และหลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมายั่วยุ ให้วัยเยาว์ของเรา ที่อาจจะยังเขลายังด้อยประสบการณ์ ได้นำมาพินิจ พิจารณา เพื่อค้นหา แต่สิ่งดีๆให้กับชีวิตนี้ที่แสนสั้นนัก โลกคอมพิวเตอร์อินเตอร์เนต ปัจจุบัน ก็เป็นโลก ที่รวบรวมทั้งความดีมีคุณค่า ให้แสวงหาสิ่งดีๆมาเติมเต็ม หรือให้บทเรียนทางอ้อม สอนใจวัยรุ่นวัยระเริง... ด้านที่ชั่วร้าย ก็แสนมากมี ดังดาบสองคม ที่พาให้มนุษย์นับล้านผู้มีปัญหา ใช้มาเป็นสื่อนำพาชักจูงใจ มอมเมาเยาวชนให้หลงผิด.. เราจึงจำต้องเลือกโลกและลิขิตชีวิตเราด้วยความรอบคอบ ******* โลกของไพล แสนโชคดี ที่ได้เกิดมากับโลกด้อยพัฒนา กับโลกธรรมชาติที่เจริญอย่างช้าๆทันกันกับจิตกับใจ เป็นโลกที่สวยใสสงบงาม ได้พบกับโลกธรรมชาติมากว่าโลกแห่งวัตถุ และ โลกแห่งเทคโนโลยี่ ที่บางทีดูแสนแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวา แสนโชคดี ที่ได้เกิดมาในโลกชนบท ในวัยเยาว์ ในคลอคลองของดวงตา ดวงใจ ได้มองเห็น ทะเลสวยใสตะวันดวงโต ทายทัก ทุกๆเช้า และในทุกยามค่ำย่ำสนธยาที่จะมองเห็นงามไปอีกแบบ ยามที่....พระอาทิตย์สีแดงสุกปลั่งคล้ายดังส้มสุกสีทอง จะค่อยๆลอยเรี่ยลงอำลาอาลัย ไปกับผืนน้ำทะเล ในยามค่ำ... ที่มีดาวเดือนดาริกานับหมื่นนับพัน พร้อมเพรียงกันมาให้ความสุข พริบพราว สุกใส ราวแสงเพชรพราวพร่างพราย บนผืนฟ้าสีกำมะหยี่ ที่ประกายแสงดาวขับราตรี ให้สกาว ราวมือนางฟ้ามาโปรยหว่านเพชรงาม เพื่อมอบรางวัลให้กับ คนช่างฝัน ช่างจินตนาการ หวานหวามมิรู้สิ้น.. มิพัก..วิ่งไปไขว่คว้าหาความสุขจากแสงสี ไฟพริบพริบ ลวงลวงแห่งโลกกลางคืนในคลับในบาร์ ที่ต้องย้อมใจให้คึกคักด้วยเหล้า ด้วยยา ถึงจะมันส์ ถึงจะสุข... โลกยามค่ำ ที่เอนกายได้โดยไม่ต้องใช้เงินซื้อ บนผืนทรายขาวอ่อนนุ่ม ที่มีเสียงดนตรีธรรมชาติละมุนใจ จากเกลียวคลื่นที่ซัดฝั่ง เห่กล่อมให้ใจเรานุ่มดังฟองคลื่น แทนเสียงดนตรีที่ปลุกเร้า กระหึ่มเกินเดซิเบล จนทำร้ายหูเราเอง... มีสายลมพลิ้วแผ่ว เต็มไปด้วยโอโซน แทนควันบุหรี่ ที่เหม็นคละคลุ้ง อวลอบให้ปอดพังยับ ที่จำต้องสูดดม ด้วยขาดสติ คิดแค่ขอความสุขชั่ววูบ เพื่อลืมโลก แห่งความจริงนี้ที่วิ่งหนีไม่พ้น ต้องตื่นมายอมรับความจริง ใช่จะวิ่งหนีได้ตลอดไป เสียที่ไหน โลกของไพล ดังโลกแห่งความสุขของผู้ยากไร้ ที่ไม่จำเป็นต้องมีเพชร คล้อง ชูคอหรูหราในสังคมไฮโซ โดยไม่ละอายใจว่าเพชรที่ได้มานั้นหนา มาจากการขายเหล้ายาเสพติด มอมเมาคนดีๆให้เป็นคนบ้าจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง... โลกของคนรวย ที่มากมีในประเทศนี้ ที่ได้รับการยอมรับ แค่ขอให้มีเงิน ไม่สนใจ ไม่แคร์ดอกว่า เงินงามนั้น..มีที่มาที่ไป เฉกเช่นไร รู้บ้างไหมว่า คนจนที่ใจไม่จน รู้พอเพียง เพียงพอนั้น แม้จะยากจนเงินทอง แร้นแค้น แต่แฝงความ เรียบง่าย สงบงาม น่าภาคภูมิใจ และยังมีค่ามากกว่า เพียงแค่คิดได้ คิดเป็น โลกที่ตื่นขึ้นมา กับแสงแดด และฟ้าสวยใสของท้องทุ่งนา ที่มีป่าเขา ลำธาร มีสายน้ำตกไหลระริน มีผืนดินให้เพาะปลูกพืชพรรณ มีฝันมีหวังเล็กๆซุกซ่อน.อยู่กลางใจที่ใสเย็น เปลวไฟจากเตาหุงข้าว ที่คุๆ พาให้ข้าวเดือดๆส่งกลิ่นหอมไกลในยามเช้า ... มือที่ไร้แหวนเพชร..มีแต่เอ็นขึ้นโปน. ที่เป็นระวิงกับดวงใจที่นิ่งงามด้วยสมาธิ ที่ตั้งใจจะเตรียมของใส่บาตร เพื่อสีบทอด สืบสานพระศาสนา ให้พระสงฆ์ได้มีชีวิตทำกิจ ที่ชอบที่ดี เพื่อน้อมนำใจทุกดวง ให้ก้าวล่วง สู่ความว่าง ความสงบ พบทางแห่งความสุขที่จริงแท้ โดยไม่ต้องตะเกียกตะกาย จนร่างกายเหนื่อยล้า แสนเครียดจนป่วย ด้วยหนี้สิน ที่อยากจะมี อยากจะเป็น อย่างคนอื่น ที่หลงบ้าไปตามกระแสโลกแห่งวัตถุ ที่เรียงรายให้เป็นทาสนายทุนมิรู้สิ้นรู้จบ... ใจเอ๋ยใจ ดวงดี ที่จะไม่ต้องเร่าร้อน ด้วยไฟนรกแห่งกิเลสอยากมีอยากได้ ที่คอยเผาไหม้ คอยตามติดหลอกหลอน เพียงรู้จักรักเป็น เห็นความจริงแท้ พอเพียง เพียงพอ พอใจ กับชีวิตนี้ ที่มีความสุจริตเป็นที่ตั้ง ใจจะใส จะเย็น มีเวลา พาสายตา สายใจ ได้ชิดใกล้ธรรมชาติ ธรรมดาๆ ที่เราดื่มด่ำงามง่าย ไม่ต้องดิ้นรนและซื้อหา และได้มาแสนง่ายดาย โดยเฉพาะจะยินดีมอบให้แก่ดวงใจที่ไม่มืดบอด โดยมิพักต้องทำร้ายตัวเอง และคนในครอบครัวและกลายกลับ เป็นปัญหาสังคมที่ถมทับจนแก้ไม่ไหว โลกของไพล ในวันนี้ โลกของคนที่ได้เกิดมาพบเจอโลกทั้งสองทาง โลกแสนสวยแสนงามของธรรมชาติและ........... โลกทางวัตถุทางความเจริญ ที่ก้าวไกล นาทีนี้ อยากบอกว่า แสนโชคดี ที่มีพื้นฐานจิตที่ดี ที่เคยได้รับงามงดมาจากอดีต ได้นำมาเปรียบเทียบ สอนใจตัว ให้แยกแยะออก ทั้งโลกร้ายและโลกดี อยู่ที่ตัวเราจะเลือกเป็นสมาชิกขวักไขว่ฝ่ายใด... เขียนเรื่องนี้ เพราะมีแรงบันดาลใจจากโลกอินเตอร์เนต ที่ได้ยินได้ฟัง ที่รู้ว่ามีสิ่งชั่วร้าย มากมีแฝงฝังอยู่ เพื่อมอมเมาเยาวชน วัยอยากรู้ อยากเห็น อยากลอง และค้นหาผิดทาง พาให้เลือกเดินไปในเส้นทางที่มืดมน ที่แค่คิดยังพาให้ใจร้อนรุ่ม พาให้ตกเหวและหลุมพราง แค่อยากบอกด้วยรัก ด้วยห่วงใยวัยอลวนว่า จงฉลาด เลือกเดินไปในเส้นทางสีขาว ที่มีดงดอกไม้ แสนสวย แสนหวาน บานพราว อย่างมีคุณค่า ให้ดอมดมชมชื่นใจแบบสุขใจไปยาวยืนนิรันดร์.. ไพลขอมอบดอกไม้ แสนหวานเศร้า แสนงาม ที่บานชูช่อบนกอกิ่ง ของสวนในบ้านไพลในวันนี้ ที่มีนามว่า..ดอกพุด.. ที่ขาวบริสุทธิ์ หอมตรึงใจ ไปแสนไกล... ดอกไม้ที่ออกเสียงคล้ายคำว่า..พุทธะ... ที่แปลว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน พาใจให้มีสติ มีปัญญา บังคับตัวบังคับใจ บังคับพวงมาลัยแห่งชีวิต ที่เวียนว่าย ให้พูด คิด และทำแต่กรรมดี ที่งามงดหมดจดใจ เพื่อยังประโยชน์แก่ดวงใจของตัวเอง ได้ชื่นบานสดใส และ เพื่อเป็นพลังให้ ใจดวงงาม ผลิบานดังดวงดอกไม้ เพื่อหวานบานรับ แสงแรกแห่งอรุณรุ่ง ยามอาทิตย์อุทัย และสร้างสรรโลกในใจ ในความเป็นจริง ให้งามมิรู้สิ้นไปจนกว่า แสงสุดท้ายแห่ง ชีวิตและตะวันจะลับลา ไปด้วยกันจนนิรันดร...... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5660 IMAGINE John Lennon : : Key C IMAGINE THERES NO HEAVEN IT EASY IF YOU TRY NO HELL BELOW US, ABOVE US ONLY SKY IMAGINE ALL THE PEOPLE LIVING FOR TODAY AH IMAGINE THERES NO COUNTRIES IT ISNt HARD TO DO NOTHING TO KILL OR DIE FOR AND NO RELIGION TOO IMAGINE ALL THE PEOPLE LIVING LIFE IN PEACE YOUYOU MAY SAY IM A DREAMER BUT IM NOT THE ONLY ONE I HOPE SOME DAY YOULL JOIN US AND THE WORLD WILL BE AS ONE IMAGINE NO POSSESSIONS I WONDER IF YOU CAN NO NEED FOR GREED OR HUNGER A BROTHERHOOD OF MAN IMAGINE ALL THE PEOPLE SHARING ALL THE WORLD YOUYOU MAY SAY IM A DREAMER BUT IM NOT THE ONLY ONE I HOPE SOME DAY YOULL JOIN US AND THE WORLD WILL LIVE AS ONE...
21 ธันวาคม 2546 10:18 น. - comment id 193235
อ่านวันหยุดนะคะ ขอลาไปวัดก่อนค่ะ ค่อยมาแก้สี..เพราะลงผิดค่ะ ด้วยรักล้นใจ
21 ธันวาคม 2546 12:18 น. - comment id 193246
มาโมทนาด้วยคนครับ โลกของเน็ตก็มีสิ่งที่ดีและร้ายอยู่ที่เราจะเลือกเดินทางไหนแล้วแต่ใจแล้วแต่สามัญสำนึกของแต่ละบุคคล ที่มีนิสัยเป็นพื้นฐานหรือที่เรียกว่าสันดาน ( ไม่แรงไปนะ) **คุณพุดชอบเอาเนื้อดี ๆมาให้อ่านขอบคุณครับ**
21 ธันวาคม 2546 15:17 น. - comment id 193284
ขึ้นชื่อเรื่องไว้ไกลตัวจังเลยนะครับ หรือกลัวว่าผมจะบุกประชิดตัวเข้าให้(ล้อเล่นน่า) โลกคนไพลน่าจะเป็นโลกแห่งความฝันมากกว่าครับ ตราบใดที่มนุษย์เรายังมีกิเลสตัณหา แสวงหากอบโกยความสุขมาใส่ตัว ไม่มีความพอดี ขาดความเพียงพอ มีห้าอยากได้สิบ คนชนบทสมัยนี้ยิ่งมีความฟุ้งเฟ้อ โดยเฉพาะปัจจัยที่ห้าเกินจำเป็น เพราะค่านิยมโก้หรูที่ส่งเสริมกันมาผิด ๆ ทำให้ลูกหลานใจแตก วันหยุดเสาร์อาทิตย์มักจะชักชวนกันมาชอปปิ้งเที่ยวห้างกันเป็นว่าเล่น ผมว่าไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก ถ้าทำตัวอย่างสันโดษได้ก็มีความสุขครับ ที่ผมไม่ได้มีเมล์ไปหาพุด ก็รู้ดีว่าพุดไม่ค่อยชอบตอบเมล์ ชอบเขียนนกวีมากกว่า ก็อาศัยมาอ่านที่นี่ ก็ถือว่าเต็มอิ่มแล้วครับ(ยังไม่เบื่อนะครับ) ผมก็อาศัยเขียนคุยกับพุดที่นี่แทน ก็แล้วกัน (ยังไม่ได้หวานแหววเลย) ก็ยังดีครับที่วันนี้ก่อนจากพุดยังไม่ถึงกับแล้งน้ำใจ ยังส่งดอกพุด มาให้ได้สูดดมอย่างเต็มปอด หอม สดชื่นจับจิตใจมากครับ
21 ธันวาคม 2546 19:03 น. - comment id 193340
เห็นชื่อแล้วตกใจค่ะ น่าสนใจจึงเข้ามาอ่าน
22 ธันวาคม 2546 09:53 น. - comment id 193491
เป็นหนึ่งในงานร้อยแก้วใจดวงใจ ที่เพียรเก็บไว้เมื่อปีที่ผ่านมา พร้อมๆ กับร้อย แก้วเรื่องหนึ่งที่เขียนเรื่อง ไพล สาวงามแห่งบ้านนา ซึ้งอกซึ้งใจกับหนังเรื่องมูแลงรูจ ซึ้งใจมาก วินาทีนี้ มิอาจบรรยายได้
22 ธันวาคม 2546 11:16 น. - comment id 193497
เห็นด้วยนะค่ะสำหรับเรื่องที่แต่งมา สำหรับการเปรียบเทียบ และดีใจมากเลยค่ะ กับสิ่งแวดล้อมที่คุณพี่พุดเป็นอยู่เพราะเป็นสังคมที่ดีมาก ปัจจุบันยังมีคนหลงกับวัตถุเงินตรา จนทำอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งของใช้ ยอมลงทุนแลกกับตัวเอง หรือยอมลงทุนขายยาเสพติดให้เยาวชนเพื่อให้ได้มาซึ่งของมีค่า แต่ไม่เคยคำนึงถึงความทุกข์ของใครเลย เป็นสังคมที่น่าเศร้ามากเลยค่ะ แต่ก็ยังดีนะค่ะ ที่ธรรมชาติและสังคมที่ดีก็ยังมีอยู่เหมือนกัน ไว้เป็นการทำให้โลกยังมีอะไรให้น่าชื่นชมค่ะ
22 ธันวาคม 2546 17:47 น. - comment id 193553
มาช้า ดีกว่าไม่มานะค้า
22 ธันวาคม 2546 17:58 น. - comment id 193564
ต้องพินิจพิเคราะห์และก้อเรียนรู้ด้วยตัวเอง
22 ธันวาคม 2546 22:21 น. - comment id 193648
ยาวเฟื้อย แต่ความหมายดีสุดๆๆเลยล่ะค่ะพี่.... อิอิ...ขอเก็บนะคะ...ขอบคุณค๊า