โลกเรานี้.. คงมีผู้หญิงมากมายหลายพันล้านคน ที่คู่เคียงมากับผู้ชาย บางคนบอกว่า.. โลกของเรา ละมุน สวยงาม น่าอยู่ น่าอภิรมย์ เพราะผู้หญิง ........ และ ก็ เพราะผู้หญิงอีกนั่นแหละ ที่ทำให้ โลกนี้ร้อนเป็นไฟ อย่างที่บางหน้าของประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ให้โลกประจักษ์.... ถึงน้ำผึ้ง..... แสนหวานและยาพิษ ... ที่กวีก็นำมาเปรียบเปรยว่าดั่ง...ความงาม ..และพิษสงของผู้หญิงเรา และบางคนก็มักจะเปรียบผู้หญิงให้เป็นเช่นดอกไม้........ เพราะแสนสวยงาม.....กลีบบาง ละมุน..อ่อนหวาน อ่อนแอ... เหมาะที่จะเกิดมาเพียงเพื่อประดับประดาโลก .. สำหรับดวง..ดวงคิดว่าคงเปรียบผู้หญิงได้กับทุกๆสิ่ง...... แมกไม้ ..สายน้ำ ..สายลม...... และแม้แต่แสงแดดแรงร้อน ที่พร้อมจะเผาไหม้ลามเลียใจใครบางคนให้มอดไหม้เป็นผุยผง..... นั่นแล้วแต่ใจใครจะจินตนาการ...... .แต่ถ้าเป็นไปได้....... สำหรับดวง... อยากให้ผู้หญิง..มิใช่แค่ดอกไม้ไว้เพียงประดับโลกสวย..แต่ราโรยรวดเร็ว.. ดวงหวังให้เป็นเฉกเช่น........ พันธุ์ไม้ใหญ่ยืนต้น ที่มีประโยชน์ยิ่ง ต่อโลก ต่อมนุษย์ .... ต่อทุกสรรพสิ่ง....แผ่กิ่งก้าน ให้ร่มเงา แก่ทุกผู้คนและพืชพรรณ ........ ออกดอกงาม...แย้มบานรับโลกสวย ส่งกลิ่นจรุงขจรไกล....... นำฝน..มาสู่ผืนแผ่นดินที่แห้งผาก นำน้ำใสไหลรินสู่ลำธารใจเพื่อหล่อเลี้ยงมวลมนุษยชาติ เกาะกลุ่มแน่นเหนียวเป็นป่าใหญ่สล้าง เพื่อพิทักษ์แผ่นดิน....น้ำ ..ฟ้า..นก.... ให้โลกดำรงอยู่สืบไป..... .เป็นป่าแห่งชีวิต ก่อกำเนิดต้นน้ำใสไหลเย็น ชุ่มฉ่ำไว้รินรด........ ให้แก่มนุษย์ทุกผู้ได้ดื่มกิน..และเผื่อแผ่แด่สัตว์โลกอื่นๆ.... เพื่อยังชีพ เพื่อสรรสร้างประโยชน์ แก่โลกรุ่มร้อนนี้ให้เยือกเย็น ......ตราบชั่วนิรันดร์........ ดวงกล่าวเปรียบเปรยถึงผู้หญิงได้ลึกซึ้ง..... เพราะดวงก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง......... อยากจะเป็นผู้หญิงคนพิเศษ..... แม้นมิได้ด้วยความสามารถ.... ก็อยากสร้างความพิเศษพิสุทธิ์จากใจ ภายในที่ไม่เหมือนใคร ... ดวงคิดว่าผู้หญิงทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทำได้..... เพียงแต่ใจจะไขว่คว้าหรือไม่ โลกยังคงหมุนไป.....พร้อมกับทุกๆสิ่งดำเนินไป..... โลกของผู้ชาย....โลกของผู้หญิง. รวมเป็นโลกของเราที่แสนจะกว้างใหญ่ไพศาล....ใบนี้..... ในโลกใบใหญ่นี้ยังมีโลกของชีวิต วางซับซ้อนซ่อนอยู่มากมาย.......... โลกของเด็กที่แสนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา.......... โลกของคนหนุ่มสาววัยแสวงหา.......... โลกของคนทำงานที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อยังชีพ........ โลกของคนวัยชราที่คงผ่านโลกจนเหน็ดเหนื่อย.. และพร้อมจะหมุนวนกลับเพื่อเริ่มต้น ชีวิตใหม่....... โลกที่ต้องอาศัยโลกธรรมะเพื่อประคองใจ. .เป็นเพื่อนทางจิตวิญญาน นำทางไปในยามสิ้นหวัง......ไร้สิ้นกำลังใจ... ไร้สิ่งยึดเหนี่ยวพาไปสู่โลกมืดมน ข้างหน้าที่เฝ้ารอเราทุกคน...... โลกที่เราทุกคนพยายามลืมด้วยความ..ไม่รู้ .ด้วยความกลัว ด้วยความลังเลสับสน...ด้วยความไม่แน่ใจ ด้วยความไม่พร้อม..ว่าเราจะพบกับสิ่งใด ที่เฝ้ารอเราอยู่........... .เป็นการไปแต่เพียงเดียวดาย....ลำพัง.. มีเพียงจิตที่ถึงพร้อม และเตรียมพร้อมเท่านั้นที่ จะนำทางสว่างให้เรา ..ผู้ไม่ประมาท......... แม้ผู้ที่เรารักแสนรัก หวงแสนหวง ห่วงแสนห่วง เราก็ต้องทิ้งไว้เบื้องหลัง....... .. นี่คือโลกแห่งความจริงใช่ไหม......... และตราบที่เรายังมีลมหายใจเราก็ต้องเผชิญหน้ากับโลก แห่งชีวิตที่ยังคงสับสนวุ่นวาย ของโลกเบี้ยวๆใบนี้นะ..... และบางครั้งดวงเคยสงสัยใคร่รู้ .... ว่าในโลกที่มีหลายๆโลกหลายๆวงการนี้ที่วาง ซ้อนเรียงรายให้เราอยากเข้าไปค้นหานั้น.... น่าสัมผัสเพียงใด...... เพราะโลกชีวิตของดวงแสนสงบงาม เรียบง่าย แคบแสนแคบ......... ดวงอยากศึกษา....โลกใบน้อยๆของเพื่อนมนุษย์. จะเป็นเช่นไรนะ สนุกสนาน สวยงาม เหน็ดเหนื่อย และมีรายละเอียด น่าทึ่ง น่าสนใจเพียงใด..... ดวงอยากเปิดโลกของคนเหล่านั้น....... โลกของดารา......โลกแฟชั่น.....โลกนางแบบ....... โลกภาพยนต์.....โลกคนทำละคร...... โลกนักธุรกิจ...โลกตลาดหุ้น..... โลกคนพิการ....โลกสีครามใต้ทะเล..... .และโลก ..... ทุกๆโลก ของ เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...... แต่สำหรับคืนนี้...ดวงโชคดีที่ได้ไปสัมผัส.... โลก...โลกหนึ่งเรียกว่าโลกของคนรักยานยนต์ คำขวัญงานนี้คือ.....เพื่อโลก..เพื่อคน(มีสตางค์) ยานยนต์เพื่อวันใหม่........... เป็นโลกที่เร้าใจ น่าทึ่ง น่าสนใจมาก .. เพราะดวงคิดว่า โลกยานยนต์กลายมาเป็นปัจจัยที่ห้า ในชีวิตเราทุกคนแล้วอย่างไม่มีวันหลีกเลี่ยง.....ได้เลย ผู้คนหลั่งไหลมามากมาย.... .เพื่อมาสัมผัสเทคโนโลยี่สุดยอด ดวงคิดว่างานนี้นอกจากได้ดู รถสวย รถดี รถแพงแล้ว ยังได้รู้ว่ามนุษย์ได้คิดประดิษฐ์สรรสร้างสิ่งใหม่ๆเพื่อสนองการใช้งาน สนองชีวิตอันรีบเร่งของโลกอนาคตด้วย......... ดวงถามตัวเองว่าถ้ามีเงินมากพอ..... ดวงจะชอบรถแบบไหน และจะซื้อแบบไหนดี........ เป็นการตั้งคำถามเตรียมใจ ปลอบใจ ตัวเองไว้ เผื่อว่าวันหนึ่งว่าอาจจะรวยพอ ที่จะได้ทำตามความ ต้องการที่ดวงเคยคิดว่าเกินจำเป็น สำหรับชีวิตคนเรียบง่าย อย่างชีวิตของดวง .. ดวงตอบตัวเองได้ในทันทีเลย ว่าดวงชอบรถแบบแลนโรเวอร์ ที่หลังคาเปิดกระจกดูดาวเดือนได้ เพื่อจะใช้ลุยเข้าป่าไปตามหาฝันหาธรามชาติไพร... ในป่าดง.. ความชอบของดวงคงไม่ได้ขึ้นกับราคาหรือความหรู.. .ความใหญ่โตอลังการ....... แค่ความพอใจส่วน ตัว... และคงมีคนคิดแบบเดียวกันนี้มากมาย....เช่นกันใช่ไหมละคะ .. แต่นะวันนี้นั้น ฝันก็คือฝันลมลม ดวงคงต้องกลับไปรับบทสาวบ้านนา ขี่เกวียนแทนเก๋งท่าจะเข้าท่าเข้าทีดีกว่า สำหรับผู้หญิงบ้านนอกคอกนา.. ที่เกิดมากับแสงตะเกียงริบหรี่ มีเพียงเสียงคลื่นเห่กล่อมให้นอนหลับฝันดี.. มีดาวสุกใสใกล้แค่เอื้อม มีดวงอาทิตย์ดวงใหญ่เท่ากระด้ง ในยามสนธยาให้นับถอยหลัง ยามตะวันลาลับฟ้าอ้อนอำลาทะเลงาม .หว่างเกาะแสนสวยตรงหน้า มีดวงดอกผักบุ้งม่วงอมชมพู เป็นเพื่อนให้เชยชม มีสระว่ายน้ำสีสวยใสกว้างไกลสุดขอบฟ้าไกล..ทะเลงาม มีทรายขาวละเอียดให้นอนนับดาวพราวอ้อมฟ้า..มีและมี.... ไปสัมผัสด้วยดวงใจดวงตาเอาเองดีกว่านะคะ เพราะว่าบางทีอาจจะยังเหลืองามน้อยลงทุกทีทุกที *********.. งานนี้นอกจากได้สัมผัสความงามของรถแล้ว ยังมีของแถมให้ใจสดชื่น..คือดอกไม้ แสนสวย แสนงามที่ประดับเคียงข้างรถอย่างน่าตราตรึงใจ..... .ดวงตื่นตะลึงกับดอกไม้เหล็ก ที่ดวงแอบขนานนามในใจ ดวงดอกไม้มากค่า เกินราคา ที่ได้ใช้ความงามนั้นเพื่องาน และเพื่อบอกให้โลกรู้ว่า.... ผู้หญิงงามนั้นไปกันได้กับทุกๆโอกาส.... ทุกๆสถานการณ์แห่ง ชีวิต.. เคียงข้างผู้ชาย เคียงข้างโลก ไม่ว่าโลกอดีตหรือโลกแห่งเทคโนโลยี่ในอนาคต.......... งานนี้ดวงเองยังชอบเลย แล้วไฉนหนุ่มๆหัวใจสะออนจะไม่ชอบเล่า .. เมื่อเดินเข้าไปใน งาน จะมีมุมต่างๆมากมายให้ดู.. นอกจากเรื่องเกี่ยวกับรถแล้ว ยังมีการรับสมาชิกต่างๆอีกด้วย แต่มีเพียงมุมเดียวที่คนหยุดดูนิ่งนาน และดูจะสนใจเป็นพิเศษ..... .. ในนาทีที่ดวงเงยไปเห็นป้ายชื่อ .. .ดวงถามตัวเองว่า ดวงควรตัดสินรจนาเรื่องนี้ให้คนรักรถรักงาม มาดูงานยานยนต์ที่เมืองทองธานี ยอมเขียนลงโฆษณาให้ฟรีฟรี ให้คนดีได้ไปสัมผัสรัดรึงเร้าใจ กระชุ่มกระชวย..และ.. ขอบอกว่า หากสาวไหนใจไม่ถึงพอก็อย่าพาแฟนมานะคะ เพราะอาจจะเกิดปุจฉา อิจฉาตามมา..ว่า มาผิดงานหรือไม่ละหนอ.....ละนี่ เพราะป้ายเบื้องหน้านั้นเขียนไว้ว่า.. รับสมาชิก PENT HOUSE........ PENT CAFE .. และพร้อมรูปนางแบบมากมาย ในชุดยั่วยวนชวนใจชายให้ใจลืมโลกและแม้แต่ผู้หญิง คนใกล้ตัวใกล้ใจ.......เสียสนิท !..
29 พฤศจิกายน 2546 11:23 น. - comment id 185854
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4061 Right here waiting Richard Marks Oceans apast day after day and I slowly go insane I here your voice on the line But doesnt stop the pain If I see you next to never How can we say forever Wherever you go,whatever you doI will be right here e waiting for you Whatever it takes, or how my heart breaks I will be right here waiting fou yor I look for granted, all the time That I though would last somehow I here the laughter I test the tears But I cant get nere you now Oh! cant you see it, babyYou got me going carzy Wherever you go Whatever you do I will be right here waiting for you Whatever it takes, or how my heart breaks I will be right here waiting for you I wonder how we can survive this romance But in the end, if Im with youIth take the chance Oh! cant you see it, babyYou got me going carzy Wherever you go Whatever you do I will be right here waiting for you Whatever it takes, or how my heart breaks I will be right here wating for you wating for you wating for you
29 พฤศจิกายน 2546 11:36 น. - comment id 185858
ฝากถึงอิมค่ะ และสำหรับหัวใจพี่พุด ไม่ว่าหมอกหรือควันฉันก็ยินดีพร้อมเผชิญรับ..ด้วยรักเธอ.. http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1848 หมอกหรือควัน ธงไชย แมคอินไตย์ : : Key G หมอกจางจางและควัน คล้าย กันจนบางที ไม่อาจ รู้ อยากจะถามดู ว่าเธอ เป็นอย่างหมอก หรือควัน หมอกจะงดงาม และทำ ให้เยือกเย็น แสน จะเย็นสบาย เมื่อยาม เช้า ถ้า เป็นควันไฟ ถึงจะบางจะเบา หากเข้านัยน์ตาเรา ก็คงจะทำให้เสีย น้ำตา เธอเป็นอย่างไงฉันอยากรู้ เพราะฉันดู เธอ ไม่ออก ยังคงไม่ เข้าใจ บางทีเธอเป็นเช่นหมอกขาว และบางคราว เธอเป็น เหมือนควัน ฉัน นั้นชักไม่มั่น ใจ เพราะถ้าฉัน ต้องเสี่ยง กับควันไฟ จะเตรียม ตัว และเตรียม ใจ ถอน ตัว เพราะว่ากลัวจะเสีย น้ำตา หมอกจะงดงาม และทำ ให้เยือกเย็น แสน จะเย็นสบาย เมื่อยาม เช้า ถ้า เป็นควันไฟ ถึงจะบางจะเบา หากเข้านัยน์ตาเรา ก็คงจะทำให้เสีย น้ำตา เธอเป็นอย่างไงฉันอยากรู้ เพราะฉันดู เธอ ไม่ออก ยังคงไม่ เข้าใจ บางทีเธอเป็นเช่นหมอกขาว และบางคราว เธอเป็น เหมือนควัน ฉัน นั้นชักไม่มั่น ใจ เพราะถ้าฉัน ต้องเสี่ยง กับควันไฟ จะเตรียม ตัว และเตรียม ใจ ถอน ตัว เพราะว่ากลัวจะเสีย น้ำตา ถอน ตัว เพราะว่ากลัวจะเสีย น้ำตา จะถอน ตัว เพราะว่ากลัวจะเสีย น้ำตา...
29 พฤศจิกายน 2546 13:19 น. - comment id 185885
ฝากจันทร์ คาราบาว : : Key E เปลี่ยวใจจังเลย แหงนเงย เห็นจันทร์ กระจ่าง ภาพแห่งความหลัง ฝังใจชวนให้คิดถึง จากบ้านมาไกล หวั่นใจให้หวนคำนึง หัวใจอีกครึ่ง ส่งถึงพี่น้องพ่อแม่ คงอีกไม่นาน หยุดงานชดเชยคราวหน้า ได้มีเวลา ซื้อหาข้าวของเครื่องใช้ ไปฝากน้อง น้อง สิ่งของเป็นกำลังใจ ด้วยความห่วงใย ฝากไป ให้จันทร์ช่วยบอก ส่งใจมาเยือน ถึงเรือนที่เราเคยอยู่ ว่าจงรับรู้ แหงนดูแสงจันทร์เจิดจ้า ถึงอยู่ห่างกัน เปรียบจันทร์นั้นเหมือนดวงตา เฝ้ามองทุกครา เวลาที่เหงาเศร้าใจ ฝากจันทร์ บอกแทน ถึงแฟน ที่ต้องไกลห่าง ยังไม่จืดจาง ฉันยังคิดถึงเสมอ เธออยู่ทางนั้น คอยวัน ที่จะพบเจอ จันทร์ช่วยบอกเธอ ว่าเพ้อ ถึงเธอทุกคืน ส่งใจมาเยือน ถึงเรือน ที่เราเคยอยู่ ว่าจงรับรู้ แหงนดูแสงจันทร์เจิดจ้า ถึงอยู่ห่างกัน เปรียบจันทร์ นั้นเหมือนดวงตา เฝ้ามองทุกครา เวลาที่เหงาเศร้าใจ ฝากจันทร์ บอกแทน ถึงแฟน ที่ต้องไกลห่าง ยังไม่จืดจาง ฉันยังคิดถึงเสมอ เธออยู่ทางนั้น คอยวัน ที่จะพบเจอ จันทร์ช่วยบอกเธอ ว่าเพ้อ ถึงเธอทุกคืน จันทร์ช่วยบอกเธอ ว่าเพ้อ ถึงเธอทุกคืน จันทร์ช่วยบอกเธอ ว่าเพ้อ ถึงเธอทุกคืน...
29 พฤศจิกายน 2546 17:44 น. - comment id 185961
บทกวีที่จบลงด้วยแง่คิดที่ลุ่มลึก ราวกับว่า เวลาที่นั่งบรรจงเขียนบทกวีนี้นั้น เป็นช่วงเวลาที่สงบมากวันหนึ่งของพี่พุดพัดชา หลายครั้งเหมือนกันที่บทเพลงบรรดาลหัวใจ ให้เขียนบทกวี แต่คงจะไม่งามงดเท่ากับพลังรัก ในตัวพุดพัดชาเป็นแน่
29 พฤศจิกายน 2546 18:14 น. - comment id 185978
เขียนไว้ในเพลง................ บรรเลงทำนองใจ................ ..................ไหวๆกระเพื้อมใส............ ..................สะท้อนไปในแดนดิน.......... ..................อิอิ.......อิสระดีนะครับ....... มาเยี่ยม
29 พฤศจิกายน 2546 19:26 น. - comment id 186040
แวะมาสวัสดีพี่พุดครับ
29 พฤศจิกายน 2546 21:42 น. - comment id 186092
อ่าน_ อิ่ม
30 พฤศจิกายน 2546 09:29 น. - comment id 186216
ไปตามดวง ควงคู่ ไปดูรถ แอบอูรส นางแบบโชว์ โตอวบอั๋น ด้วยเงินลด อดใจ ไว้อีกนาน กลับถึงบ้าน รดต้นไม้ เบิกบานใจ เรื่องรถผมไม่มีปัญญาซื้อ แต่ถ้าจะเอาโรสพอมีเหลืออยู่ ๑ ดอกนะครับ
30 พฤศจิกายน 2546 15:25 น. - comment id 186385
แต่งได้ดีค่ะ