พสุธาเอย.. ไยเจ้านิ่งเฉยให้คนเหยียบย่ำ ไยเจ้าแน่นหนักจงรัก..มั่นคง..ต่อฝันอันยิ่งใหญ่ เพื่อหว่านเพาะเมล็ดกล้าไม้ให้ดำรง เจ้ามั่นคงอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ตามวิถีคนกล้า อย่างมนุษย์สามัญ ผู้เดินดิน..มีสรรสร้าง ทำลาย ล่มสลาย และเติบโต ไยเจ้านิ่งเฉย แม้เจ็บปวดดวงใจ ไยเจ้าเงียบงัน ราวเสแสร้งแกล้งทำ.. มิรับรู้ร้อนหนาว ดายเดียว ราวไร้สิ้นวิญญาณ แห่งการเจ็บช้ำ สิ้นรับรู้ การพบพาน และพรากจาก ทั่วหัวระแหง ถึงแนวไพร ไกลจนสุดขอบฟ้าแห่งผืนดิน ผู้คนรอนแรม อ้างว้าง ใช้เจ้าเป็นเส้นทาง ผ่านป่าละเมาะ เลาะเลียบ ริมฝั่งธาร ผ่านแมกไม้ สายน้ำ ฟ้ากว้าง ดงดอกไม้บานไสว ทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เขียวขจี..ธารน้ำตกระรินระริก ฟ้ายามราตรีสีเงินราวกำมะหยี่ ที่พริบพรายด้วยดวงดารา มีสายลมเย็น... เอนหลัง หลับใหล บนร่างเจ้า ราวต้องการอกอุ่นโอบกอดละมุน เพื่อสู้ฝันรับวันใหม่ รับแสงตะวันท้าทายใจ ให้ก้าวไปสู่ปลายฟ้า ตามหาฝันดีแห่งชีวิต เจ้าคือที่พึงพิงพักใจ มิรู้สิ้นรู้จบ นะผืนดินเจ้าเอย.. ข้าขอเป็นเฉกเช่นสายน้ำ ซอนเซาะผ่านละหานสวยใส ชะโลมใจเจ้า ให้คลายร้อนคลายร้าว ข้าขอเป็นดอกไม้หอมงาม บานพราวไสว ประดับใจประดับดินเคลียคลอเคล้าเจ้ามิรู้สิ้น ตลอดไปนานนิรันดร์... พสุธาเอย.. อย่านิ่งเฉย จงโอบกอดข้าผู้ร่อนเร่ เหว่ว้า พเนจรมาฝากรักภักดี.. ปรานีเช็ดน้ำตาให้ใจดวงร้าวนี้ที่ดายเดียว ด้วยปลายนิ้วแห่งรักแท้ของเจ้า.. พสุธาเอย.. จงเผยใจจริงของเจ้า ให้ร่างร้าว ใจไร้สิ้นใครไยดี ได้สัมผัสโอบเอื้ออาทรจากใจละมุน อุ่นเอื้ออก..ให้หนาวคลาย ก่อนตะวันแห่งชีวิตข้าจะร่ำไห้และลาลับ กับแสงสุดท้ายแห่งสุริยา..ที่รอท่า เป็นหนึ่งเดียวกับเจ้า อย่างรักรอมาแสนนาน ในทุกภพทุกชาติไป...มิมีวันสิ้นสุดบ่วงเสน่หา..
17 พฤศจิกายน 2546 13:20 น. - comment id 182405
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=175 เย้ยฟ้าท้าดิน สุเทพ วงศ์กำแหง : : Key Eb ฟ้าหัวเราะเยาะข้า ชะตาหรือ ดินนั้นถือ อภิสิทธิ์ ชีวิต ข้า พรหมลิขิต ขีด เส้น เกณฑ์ชะตา ฟ้า อินทร์ พรหม ยมพญา ข้า หรือเกรง ฟ้า หัวเราะ เยาะเย้ย เหวยเหวยฟ้า พสุธา อย่าครวญว่า ข้า ข่มเหง เย้ย ทั้งฟ้า ท้าทั้งดิน สิ้น ยำเกรง หรือใคร เก่ง เกิน ข้า ฟ้า ดินกลัว ข้า ขอ ลิขิต ชีวิตข้าเอง ไม่เกรง ดิน ฟ้า อีก พื้นพสุธา พญายม พรหมอินทร์ ทั่ว ข้า กระทำ แต่กรรมดี มีหรือจะกลัว มิใช่ใจชั่ว ลืม ตัว หลง ลำพอง อัน สวรรค์ อยู่ในอก นรก นั่น หรือ ข้า ก็ถือ อยู่ในใจ ไม่ หม่น หมอง ละ การ ทำ ชั่ว ควรหรือจะกลัว นรก มั่นปอง หาก ทำดี ฟ้าดินต้อง คุ้ม ครอง เอย...
17 พฤศจิกายน 2546 13:56 น. - comment id 182431
ผืนพสุธาที่ข้ารัก ขอพิงพักสักหนอย่างคนพ่าย อาศัยฝังร่างนี้ตอนที่ตาย อย่าดูดายเมตตาข้าขอวอน
17 พฤศจิกายน 2546 14:17 น. - comment id 182434
คิดถึงพี่ทะเลจังเลยจ้าสบายดีไหมเอ่ย
18 พฤศจิกายน 2546 00:18 น. - comment id 182586
พึ่งแวะมาจากฝันพลี ก็โกหกกันเสียแล้ว ว่ารักพสุธา ไม่ฝันถึงกันเลยนะ ชายคนจร ร่อนเร่ พเนจร มีสองกร สองเท้า ก้าวย่ำผ่าน ให้เปล่าเปลียว เหี่ยวใจ ไม่เบิกบาน ทางกันดาร แห้งแล้ง แรงล้าลง หวังผ่านป่า ละเมาะ กอต้นไม้ ออกกิ่งใบ ขจีเขียว เรียวลุ่มหลง ชูดอกก้าน บานไสว สูดไอพง ให้โล่งจิต โล่งใจ อย่าโล่งกาย พสุธา อ่อนล้าแล้ว แก้วตาพี่ วอนคนดี ชักนำ คลำจุดหมาย นอนกลางดิน กินกลางทราย ทุรนทุราย หวังพบป้าย ปักไว้ว่า ศาลาพักใจ ก็เก่งแต่เดินกลอนนะครับ (เก่งไม่จริง)
18 พฤศจิกายน 2546 01:45 น. - comment id 182600
:)
18 พฤศจิกายน 2546 10:18 น. - comment id 182648
เนื้อหาตรงใจดีจัง แผ่นดินเป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่ของมวลชีวิต.
18 พฤศจิกายน 2546 17:47 น. - comment id 182738
พื้นดินมีค่าต่อมนุษย์ ผู้ที่เปรียบประดุจผู้อยู่อาศัย ได้ใช้พื้นดินที่มากค่าน่าวิไล ไว้อาศัยแก่เราในทุกวัน ***บทแบบนี้ไม่ค่อยถนัดค่ะ ขอมั่วหน่อยนะค่ะ***