http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=400 เส้นทางสายฝันสายงามสายชนบท ทอดสงบเคียงทุ่งรุ้งโค้งฟ้า อุ่นอรุณทอเมฆหวานหว่านมนตรา เสกส่องหล้าสู่หัวใจละไมละมุน.. ดุเหว่าหวานเคียงตาลคู่ต้นหว้า หมอกเคลียป่าโอบอ้อมไพรไออ่อนอุ่น พราวน้ำค้างพร่างยอดหญ้าเพชรอรุณ อรุโณทัยหมุนฤดูกาลผ่านฝนพรำ... หอมน้ำค้างพร่างพรมกลางเกสร กลีบอรชรคลี่รับหวานบานรับฉ่ำ หอมนวลนวลหอมยวนใจหอมลึกล้ำ กี่หวานล้ำกี่นิทราพาหอมซึ้งถึงไม้ไพร.. น้ำค้างฝันมิเคยหายพรายพรมพฤกษ์ ในยามดึกเดียวดายพรมพร่างใส กลางกลีบหวานให้ซ่านซึ้งสุขดวงใจ คู่พงไพรคู่ใจฝันนิรันดร.. วิหคไพรพรูพร่างกลางฟ้ากว้าง บัวสล้างกลางบึงแย้มเกสร ผึ้งคลึงเคล้าดูดดื่มหวานคู่ภมร เป็นฉากตอนธรรมชาติวาดหวานมา.. ภาพราวป่าสลับสีไล่โทนใส ดอกไม้ไพรงามพรายพร่างกลางอุษา หว่านกลีบหวานกลางสายธารหวานธารา ไพรพนาเงียบงามซ่านซึ้งใจ... เสียงขลุ่ยลอยลมพรมพลิ้วผ่านทิวทุ่ง กับลมรุ่งพลิ้วหวานผ่านทิวไผ่ พรมยอดภูสู่ฟ้ากว้างเศร้าซึ้งใจ ฝากดวงใจปลายฟ้าฝ่าดงแดน... ความรักเอยจากสาวนารอท่าอ้าย กับฝูงควายกับนกเอี้ยงรอสวมแหวน หมดหน้านาหนาวนี้ห่มเนื้อแทน รักแนบแน่นกระท่อมไพรรอใครคลอ... เช้าวันใหม่ใกล้รุ่งพี่ไปนา หุงข้าวปลาตำน้ำพริกใบตองห่อ แกล้มผักบุ้งริมทุ่งอร่อยพอ หอมละอออุษาสางน้ำค้างไพร.. นี่คือหวังจากสาวนารอฟ้าสาง หวังรุ่งรางรักเราพิสุทธิ์ใส รอชาตินี้บุญไม่พอมิท้อใจ สร้างกุศลใหม่หวังชาติหน้าหวังว่ามี.. อธิษฐานใจหนักแน่นดังแผ่นผา รอเมตตาจากฟ้าดินสิ้นชีพนี้ รักพงไพรรักดวงใจตราบชีวี รอวันที่ฟ้าปรานีมีเมตตารู้ค่ารักรู้ค่ารอ.. ชีวิตคือลิขิตจากสวรรค์ ดั่งดวงตะวันยามอรุณรุ่ง หมุนวน จนกว่าจะถึงยามสนธยาลาลับเหลี่ยมโลกทิ้งไว้ทั้งโศกสุขเบื้องหลัง และจะวนหวังวนเวียนมาใหม่ในวงกรรม เฉกเดียวกับกับฤดีและฤดูกาลที่เฝ้าผลัดเปลี่ยนเพียรสอนให้ยอมรับความผันแปร มิแน่มินอน มิให้อาวรณ์อาลัย มิให้ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งใดใด ทั้งร่างและใจเราเอง.. ธรรมชาติคือธรรมดา สอนให้ยอมรับว่าแม้นดวงชีวายังต้องลาลับมิกลับคืน และ หากชาตินี้ เรามีบุญใจ..แค่ได้ผ่านมา พานพบรู้จัก รู้ค่ารัก มาแบ่งปันคืนฝันวันแสนดี มาแลกจิตวิญญาณงามพร้อมพลี ให้ความดี ให้น้ำใจ ก็พอเพียงก็เพียงพอ และจะมิท้อ ขอสร้างกุศลใหม่ สร้างงามดวงใจ แม้นไม่มีใครรู้ ให้ถึงพร้อม ให้หอมด้วยกุศลจิตแห่งความดี ให้ฟ้าเบื้องบนปรานีมีเมตตา หวังรอท่าชาติใหม่ เพียงดำรงร่างอย่างรู้หน้าที่ ดำรงดวงใจนี้ด้วยความดี ด้วยดวงตามองเห็นแสงธรรม นำมาส่องนำเส้นทางใจไปนิรันดร์
22 ตุลาคม 2546 07:33 น. - comment id 175311
เทพีวสันต์สั่งฟ้าวันลาจาก พบเพื่อพรากจากเพื่อจำกระะหน่ำสาย คนดีเอ๋ยจูบชมเชยกับร้างไร้ ลูกผู้ชายจอมใจแม่อย่าแพ้ใจ.. จูบกระหม่อมจอมใจข้าวใหม่แม่ หอมรักแท้นำทางใจสว่างไสว ไม่ช้านานหวังคืนบ้านคืนพงไพร พาดวงใจรักอีกดวงสู่รวงรัง.. เทพีไพรจะเก็บใจไว้รอเจ้า ทุกคืนเฝ้าสวดมนต์มิสิ้นหวัง ส่งสายใจสายไยรักสร้างพลัง ให้จอมขวัญถึงฝั่งฝันนิรันดร..!
22 ตุลาคม 2546 08:10 น. - comment id 175320
แค่เห็นภาพก็กระชากความรู้สึกมากครับพี่พุด จากปีศาจวสันต์ที่เคยตกต้องทำร้ายหัวใจ ในวันนี้กลับกลายเป็นเทวีวสันต์ ในป่าดงพงพี และอดีตสาวบ้านนาที่กล้าแกร่งในด้านจิตวิญญาณ บทกวีช่างงดงามและเกินความรู้สึกที่จะบรรยายออกมาได้จริงๆ ครับ วันนี้บรรยากาศยังมึนทึบ สายวสันต์กำลังกระหน่ำอยู่ที่ไหนสักแห่งในโลกหล้านี้ หัวใจกำลังล่องลอยและเพรียกหา...จวนจะบ่ายหน้ากลับไป และกลับไปแนบเนาว์ที่นั่น นิรันดร์
22 ตุลาคม 2546 21:50 น. - comment id 175469
บทสุดท้ายบาทสุดท้าย ของกลอนสุภาพของพุด พัดชามักจะมีเกินมามากกว่าแปด ถือว่าเป็นเอกลักษณ์การเขียนกลอนของพุด วันนี้ ผมไม่ได้มาจับผิด แต่ผมจะมาว่าพุด เป็นคนผิด (อย่าพึ่งรีบเชื่อผมเสียละ) ก็กลอนและบทกวีที่พุดแต่ง ได้ซาบซึ้งกินใจมากครับ บรรยายได้ไพเราะเอาเสียจนหนุ่มน้อยหลงใหล เคลิบเคลิ้มไปกับบทกวีด้วย (ไม่แน่ต่อไปอาจจะเจอหนุ่มใหญ่เข้าบ้าง) ก็อย่าไปคิดอะไรมาก จงภูมิใจครับ ที่มีคนมารักในงานเขียนของเรา พุดสาวบ้านา เป็นอีกชีวิตหนึ่งที่นับวันจะเลือนหายไป เพราะความเจริญมาแทนที่ ...หุงข้าวปลาตำน้ำพริกใบตองห่อ แกล้มผักบุ้งริมทุ่งอร่อยพอ... ชีวิตแบบนี้สมัยผมเป็นเด็ก ผมก็เคยสัมผัสมาแล้วเหมือนกันครับ อ่านแล้วภาพแห่งความประทับใจหลาย ๆ อย่างสมัยเด็กพรั่งพรูออกมา..
23 ตุลาคม 2546 00:43 น. - comment id 175516
....เดือนมีนามาผนึกพฤษภา ตามตำราเคยรู้ฤดูวสันต์ ใบไม้ผลิปริโรยโดยทั่วกัน ก่อนจะผันเปลี่ยนไปในฤดู... ..............สวัสดีครับ...............