๏ สับสนกลยั่วเย้า.................แยบยล แฝงเล่ห์เหลี่ยมเกินทน.........ทดท้อ อกโหยคร่ำครวญจน.............จริตฟั่น เฝือเฮย โอษฐ์เอ่ยโอดโอยพ้อ.............พ่างเพี้ยงสาปสรวง ๚ ๏ ไมตรีครั้นล่วงแล้ว.............เลือนกัน ศักดิ์ก่อศรีสำคัญ..................คาดค้ำ การณ์บ่งม่งเหยียดหยัน........หยามหลู่ บางปล่อยกองลงห้ำ..............หักเหี้ยนกำแหง ๚ ๏ ปานแจรงประดิษฐ์ถ้อย.......กระทบคำ ฤๅล่อหลงความนำ.................เหนี่ยวคล้อง ชะรอยคติจับจำ...................จรุงจิต มิตรเฮย โทสะโมหะพ้อง....................พ่ายแพ้มโนธรรม ๚ ๏ อัตตาก่อกีดกั้น.................กำจาย เหตุวิวาทะหมาย..................มั่นแม้น เพียงพจน์อักษรกลาย............ก่อเหตุ ประดิษฐ์คุคำแค้น................ครอบค้ำหทัยถวิล ๚ะ๛
7 กันยายน 2546 22:26 น. - comment id 166039
สัจธรรม ไม่มีสิ่งใดลบล้างได้ เยี่ยมยอดมากครับ
7 กันยายน 2546 23:08 น. - comment id 166064
ทางสายโศกสายฝันในวันนี้ เธอคนดีมวลมิตรคิดเคียงข้าง ไทยโพเอมคือถนนสายสวยดอกไม้บาน แก่ผู้หาญกล้าท้าทายไว้ก้าวเดิน.. เก็บดาวมาเรียงร้อยเป็นสร้อยขวัญ มอบกำนัลแด่คนดีโลกสรรเสริญ เก็บดอกไม้บานทั้งโลกมาชวนเชิญ เชิญขวัญเชิญมาเรียงร้อยสร้อยอักษรา.. มาถักทอด้วยน้ำใจใสหวานฉ่ำ ราวสร้อยสวรรค์แสนงามมากมีค่า วันนี้สร้างโลกสวยด้วยความรักนะยอดชีวา หวังวันหน้าไม่นาน..ดอกไม้ทั้งโลกแสนหวานบานคาระวะมอบแด่เธอ!
7 กันยายน 2546 23:08 น. - comment id 166066
....ตรองคิดดูหน่อยถ้า........ถึงขัด ครวญใคร่คราจำตัด...........ต่อต้น หักหรือว่าจะดัด..................ดีเล่า คิดค่าเสียดีล้น...................ล่อแล้วจะสาย... .........................สวัสดีครับ.....................
7 กันยายน 2546 23:51 น. - comment id 166092
ผมแต่งโคลงยังไม่เก่ง เลยไม่อยากจะเขียน รอให้ชำนาญกว่านี้แล้วค่อยเขียนครับ อ่านบทกวีนี้ นึกถึงบทนี้ เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก จะได้ยากหิวโหยเพราะชิวหา แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ คงไม่ห่างเกินไปหากจะนำมาเปรียบกับถ้อยคำที่บรรจงพิมพ์บรรจงเขียนในทางที่ไม่สร้างสรรค์ บทกวีเยี่ยมยอดมากครับ ขอเรียนพักรักจำหน่อยหล่ะครับ
8 กันยายน 2546 00:33 น. - comment id 166114
ดูสับสนอ่านแล้ว...........สงสัย บอกว่าหักอะไร.............สะบั้น ตัดโมหะหรือไม-............ตรีแน่ วอนเฉลยตอบนั้น.........ใคร่รู้ เท็จจริง
8 กันยายน 2546 01:05 น. - comment id 166132
แวะมาอ่านนะค่ะ
8 กันยายน 2546 07:21 น. - comment id 166140
..เรน..ติดตาม..งานของพี่อัลมิ...ทุกครั้ง.. แต่..ไม่กล้าโพส... ..ไม่รู้ว่า..เพราะอะไรนะคะ... ..เรนว่า ..เรนคงกลัว... คุณครู.. อัลมิ..จะดุมั่งค่ะ... ก้อเรน.. เป็นเด็กดื้อ... ...แต่งโคลง.. ที่แอบเก็บ ..ไม่ได้สักที... ..ซาแว๊ปป... อีกแระ!!...
8 กันยายน 2546 08:09 น. - comment id 166142
คุณพิราบสิขาว .. ขอบคุณค่ะ ที่ให้กำลังใจ คุณพุดพัดชา.. เฉกถนนสายศิลป์หลั่งรินถ้อย เรียงรจน์ร้อยคารมข่มความเห็น ต่างสรรสร้างปรุงแต่งแสร้งประเด็น ด้วยต่างเป็นต่างจิตต่างคิดไป คุณใบบอนแก้ว .. (ไม่ได้ login แต่รักกันจริงจึงจำกันได้ :) ขอบคุณมากนะคะ ที่..มาตลอด คุณลำน้ำน่าน.. เรียนโคลงกับอัลมิตราระวังจะเมาคลื่นนะคะ น้ำท่วมทุ่งออกจะปานนั้น คุณชัยชนะ.. ๏ หักกอหักกิ่งปล้อง..............ปรงปอ หากแก่หากกรอบพอ...............ผิว์พลั้ง ยากติดยากเติมตอ..................ตบแต่ง ยักแย่ยักยันยั้ง.......................ยากให้ยืนยง ๚ะ๛ คุณผู้หญิงไร้เงา.. ขอบคุณมากค่ะ :) น้องเรน.. กลัวพี่อัลมิตราจะดุหรือ .. แปลกจัง เท่าที่ผ่านมายังไม่เคยดุใครเลย มาให้พี่กอดสักทีแล้วไม่ต้องกลัวอีกต่อไปนะคะ
8 กันยายน 2546 09:27 น. - comment id 166147
:)
8 กันยายน 2546 10:32 น. - comment id 166164
หักใจหักคารมหมาย.................ส่งคืน ห่วงแต่ว่ายามตื่น.....................ปวดร้าว วาทะวรรณศิลป์ชื่น...................สุขล้น ตัดแต่งต่อโน้มน้าว...................สุขให้ ใครลวง ปวดใจจังเขียนโคลงไม่เป็น.....แต่หัวดื้อครับ.....ลองอีกแล้ว....ไม่ว่ากันนะครับ
8 กันยายน 2546 11:05 น. - comment id 166175
ความโกรธ ดั่งไฟสุม อุทะลุมนิมิตหมาย ความเกลียดดั่งโรคร้าย ก่อกินใจให้หมองมน ความรักดั่งสายฝน ชะโลมล้นหม่นพลันหาย ความหวังดั่งคนไกล มีให้ฝันทุกวันคืน แวะมาทักทายค่ะ ยงมะลู้จักใครเล้ยยย คริๆๆๆ รับข้าน้อยเป็นศิษย์ด้วยเถิดท่านผู้อาวุโส หุหหุ
8 กันยายน 2546 13:04 น. - comment id 166198
มาได้อ่านยามสำราญกลางงานหนัก มาได้พักคลายความยุ่งมุ่งตรงหน้า ห่างตัวเลข...สรรพากร..บานอุรา มาชื่นชม...อัลมิตรา...อยู่ทุกยาม อย่าปรารมภ์...อย่าชิดชม...คมคำคน อย่าหมองหม่น...ใครหักหาญ...ใครหักหยาม คิดเสียว่า...เวลาว่างมาก...คิดเสียความ มาหักห้าม...ใจโกรธ ..พิโรธไป ไม่ชำนาญ กานท์โคลง จะเชื่องช้า เขียนกลอนแปด ตอบดีกว่า นะโฉมไฉน หากกระทบ เรื่องขมขื่น ไม่ชื่นใจ เป็นอาจารย์ โคลงพี่ไซร้...ดีทุกยาม ด้วยรักและชื่นชม ..จาก พี่ทิกิ
8 กันยายน 2546 13:21 น. - comment id 166199
วาจาเผยเล่ห์ลิ้น พรูพราย มิตรมิ่งมองเมินกราย เกี่ยวไว้ ประโยชน์มุ่งสมหมาย เสียก่อน เถิดเจ้า เคลียเรื่องทีหลังได้ กล่าวแก้โยนกลอง อิอิสังคมเมือง
8 กันยายน 2546 15:41 น. - comment id 166252
มาขอแจมด้วยพี่ท่าน ๏ คำพี่เอื้อยเอ่ยถ้อย..................กระทงความแฮ นำร่ำพจน์รณรงค์...................อย่าท้อ ร้อยเหลี่ยมเล่ห์ใดคง..................จะพ่าย พี่เฮย ร้อยร่วมแรงรวมข้อ...................แกร่งเพี้ยงภูพาน๚ะ๛ แฮ่ๆมาสามัคคีด้วยคนนิ
8 กันยายน 2546 21:40 น. - comment id 166304
น้าสิบ คุณฮันนีมูน คุณต่าย คุณทิกิ คุณฤกษ์ คุณน้ำ .... .....ขอบคุณมากมายค่ะ ..... มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ...
8 กันยายน 2546 23:18 น. - comment id 166395
อืมมมมมม อึ้งครับ..ดูเหมือนบรรยากาศครึ้มๆ
8 กันยายน 2546 23:59 น. - comment id 166412
หากโลกหยุดนิ่งแล้ว............ไฉนเรา คอยครุ่นคิดคาดเดา.............ดุ่มด้น หากโลกจักเปรียบเอา..........กระทะ ถึงวิ่งฤๅหลุดพ้น....................มดน้อยกลางไฟ
11 กันยายน 2546 13:08 น. - comment id 166977
กวีตีแสกหน้า....................นักกลอน เตือนสติกันตอน................ตริพร้อง มีดพร้าสง่างอน..................เงื้อเงือด คมจากฝักชักป้อง..............ปราบผู้อหังการ กมุทมาลย์สี่เหล่าไท้............ท่านสอน บ้างอยู่ปริ่มชโลทร..............ท่าน้ำ บ้างอยู่ ณ ดินดอน..............เปื้อนเปือก..ตมเอย มัตสยาหารช้ำ-.....................ชอกแพ้พิพิธภัย
11 กันยายน 2546 14:15 น. - comment id 166990
คุณคนผ่านมา..ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาทักทาย สื่อในโคลงมาจากบรรยากาศรอบๆค่ะ ซึ่งไม่ได้กระทบอัลมิตราโดยตรง วิญญาณอสัญญา.. ๏เปรียบมดกระจ้อยร่อย.....เรียงราย เดินดุ่มสู่แสงสาย................สิ่งร้อน กะลาใช่โลกกลาย...............เกินเปรียบ เทียมนอ เพลิงลุกลามความย้อน........ยิ่งเย้านัยสือ ๚ะ๛ กวินทรากร.. ๏ อัลมิตราต่ำต้อย..............เฉกธุลี ควร ฤ อวดฤทธี.................ปฏิโต้ ขวางใดก่อความมี..............เกินขัด ขืนนา ดั่งรุดสำเภาโล้...................คลื่นร้ายชลโถม ๚ะ๛