เมฆหมอกลง พงไพร อยู่ชายป่า ครู่เมฆา ขยับลอย คล้อยเคลื่อนไหว เมื่อตะวัน สาดแสง แรงอำไพ หนาวก็ได้ ไออุ่น มาหนุนกาย ข้าก็หนาว คราวนี้ ไม่มีเพื่อน ลาร้างเลือน ไกลห่าง ร้างสหาย โอ้ยิ่งหนาว เหน็บเนื้อ ที่เผื่อกาย ด้วยรักหมาย ห่มกอด ยอดฤดี ขอเนื้ออุ่น อุ่นไอ ละไมรัก ชิดแนบพักตร์ ให้จันทร์เห็น เป็นสักขี แต่ไร้นาง เคียงอยู่ คู่ราตรี เหลือตัวพี่ หนาวคืน ยืนอาลัย คืนหมอกลง พงไพร อยู่ชายป่า ครู่เมฆา ขยับลอย คล้อยเคลื่อนไหว ดับดวงจันทร์ มืดแสง ไปแข่งใคร พร้อมดวงใจ ชายหนึ่ง ซึ่งเหน็บทรวง
8 สิงหาคม 2545 20:25 น. - comment id 65968
ดีมากเลยคะ
8 สิงหาคม 2545 22:03 น. - comment id 65998
ขอความเห็นจากพี่ๆทุกคนด้วยครับ เพราะจะได้ปรับปรุงฝีมือในการแต่งครับ ขอขอบคุณครับ ก.ประแสร์ ( ศิษยาพร ) , ต่อง (ต้อง) ksg
9 สิงหาคม 2545 08:06 น. - comment id 66078
ดีแล้ว เขียนบ่อยๆ นะ
9 สิงหาคม 2545 09:39 น. - comment id 66088
เอายาขมไปหม้อนึง แบบ ติก่อน แล้วค่อยชม โบราณ จะไม่ใช้ สำผัส ไอ และ อาย อยู่ใน คำส่ง บทเดียวกัน (ในบทแรก น่ะ) โบราณบัญญัติว่าเป็นกลอนละล่ำละลัก
9 สิงหาคม 2545 12:50 น. - comment id 66116
ต่อยาขมให้อีกนิด กาย (คำสุดท้ายบทแรก) กับ กาย (คำสุดท้าย วรรคที่สาม บทที่สอง) ถือว่าเป็นสัมผัสซ้ำ ไม่นิยมค่ะ :)
9 สิงหาคม 2545 14:12 น. - comment id 66132
เป็นข้อยกเว้นบางกรณี ค่ะ ศาลาไทย ไม่จำเป็นต้องเป๊ะ เสมอไป
9 สิงหาคม 2545 16:09 น. - comment id 66148
ขอขอบคุณพี่ๆทุกๆคนมากครับ จะนำมาปรับปรุงแก้ไขครับ ก.ประแสร์ (ศิษยาพร)
13 สิงหาคม 2545 10:32 น. - comment id 66848
ขอปรบมือ