มิติกาลตอนบุกแผ่นดินชัยวรมัน ส่วนที่ 31-32-33-34
ไบเซ็บ
แทนนิ่งคิด แปลกจริง ที่ได้เห็น
พวกนี้เป็น บรรพบุรุษ ของเราหรือ
ช่างเป็นบุญ ที่ได้เห็น ว่านี่คือ
ต้นตระกูล ที่ชื่อ ชนชาวไทย
องค์หญิงชี้ ให้ดู ที่วางขาย
มีมากหลาย งาช้าง อีกผ้าไหม
ทั้งนอแรด ขี้ผึ้ง ยางจากไพร
ทั้งพริกไทย อบเชย เครื่องลายคราม
ของเหล่านี้ พ่อค้า จากแดนเหนือ
เดินทางมา โดยเรือ เพื่อมาถาม
นำสินค้า มาแลกเปลี่ยน สิ่งที่งาม
บ้างนำชาม เครื่องทองคำ มาแลกไป
เห็นชาวจีน หัวโล้น ถักเปียยาว
ดูหน้าขาว กำลังถาม อย่างสงสัย
คงอยากได้ สินค้า ที่ตั้งใจ
ทาสรีบไว ลากเกวียน เดินตามมา
แทนเฟรดดี้ มองเห็น มีทาสขาย
มีชนไก่ คนงมงาย จนแน่นหนา
แทนบอกว่า นี่เป็น เช่นกีฬา
ชาวบ้านชอบ เล่นหา เป็นอาจิณ
องค์หญิงชวน แทนเฟรดดี้ ไปไว้พระ
ที่เทวะ สถาน ปราสาทหิน
จะขอพร ตรีมูรติ และองค์อินทร์
ให้กวิน แก่แม่ทัพ ยอดดวงใจ
พลางเดินผ่าน สะพาน นาคราช
ทาสีชาด งดงาม ดูสดใส
มีรูปสิงห์ ตั้งอยู่ หัวบันได
เดินเข้าไป พบปราสาท หินทรายขาว
ยอดปราสาท ฉาบทอง ดูอร่าม
โอ้!ช่างงาม แวววาว อยู่กลางหาว
ประดับด้วย อัญมณี ดูสกาว
ช่างแพรวพราว เหมือนสวรรค์ อยู่บนดิน
มองหน้าบัน อีกทับหลัง งดงามยิ่ง
เหมือนภาพจริง ถูกจำหลัก ลงในหิน
ทุกๆภาพ เรียงร้อย ดั่งได้ยิน
ร้อยเรียงริน เรื่องราว ศาสนาพราหมณ์
พลางนั่งลง ขอพร จากองค์พระ
โปรดอวยพร ให้ละ จากขวากหนาม
ทำสิ่งใด ให้สำเร็จ ดั่งใจตาม
ให้ใจงาม ผ่องใส แสนสุขกาย
แล้วเดินไป ยังแอ่งน้ำ ข้างวิหาร
ที่ไหลผ่าน ศิวลึงค์ มาเป็นสาย
เป็นสายน้ำ ศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้คลาย
จากโรคหาย อีกทั้ง ให้โชคดี
ทุกๆคน ตักน้ำ มาดื่มกิน
อีกทั้งริน มาล้างหน้า ให้สุขี
เป็นความเชื่อ เหมือนดั่ง ประเพณี
ทุกชีวี ดำเนิน ตามครรลอง
เมื่อองค์หญิง กลับถึงวัง พลางนั่งคิด
เหตุใดจิต ใกล้หมอแทน มิเคยหมอง
ได้ใกล้ชิด ได้พูดจา ดังใจปอง
หัวใจตรอง เรียกหา ทุกๆครา
ยามใกล้ชิด หมอแทนดูกระจ่าง
เหมือนมีร่าง แม่ทัพ มาเรียกหา
มีหลายอย่าง ในหลายคราว คล้ายเธอมา
เหมือนพูดจา กับแม่ทัพ ในร่างแทน
เมื่อแทนกลับ ที่พัก ต้องเหงาจิต
ด้วยใจคิด ถึงอนัทธ์ ที่หวงแหน
มิรู้กลับ อย่างไร ใจแสนแกลน
เหมือนอยู่แดน ใต้พิภพ มิอาจปลง
แทนนั่งคิด เหตุไฉน ในบางครั้ง
จึงได้พลั้ง เผลอไป ดูเหมือนหลง
ยิ่งใกล้ชิด องค์หญิง มิอาจคง
เหมือนตกลง สู่ภวังค์ น่าแปลกใจ
พลางเอ่ยถาม เฟรดดี้ เพื่อนร่วมทุกข์
เราจะบุก หารีก้า ได้ที่ใหน
เฟรดดี้บอก คงต้องปล่อย ให้เป็นไป
ถ้ามิอาจ พบดั่งใจ ต้องรีบจร
อย่าลืมว่า เรานั้นมี นาฬิกา
บอกเวลา ที่จะกลับ ให้รีบถอน
ให้รีบกลับ ไปที่ยาน ก่อนราญรอน
ที่รีก้า จะถูกศร จากพาลา
อีกหลายวัน ต่อมา มีคำสั่ง
แจ้งมายัง แทนเฟรดดี้ ให้เรียกหา
ให้เข้าเฝ้า เจ้าชาย ที่พลับพลา
ด้วยต้องการ ถามหา ข้อราชการ
แทนเฟรดดี้ รีบไป ยังที่หมาย
มีคนหลาย เข้าเฝ้า ต่างรอสาร
พลันเจ้าชาย เสด็จออก แล้วกล่าวการย์
มีรายงาน จากม้าเร็ว เรื่องเป็นตาย
กองทัพจาม กำลัง จัดทัพอยู่
เตรียมมุ่งสู่ โจมตี ยังที่หมาย
พวกมันอยู่ เมืองตาเป๊ก ช่างมากมาย
เตรียมเร่งกราย ตีชำนิ ในเร็ววัน
ข้าคิดว่า จะเคลื่อนทัพ ไปรับศึก
ที่ชำนิ ไม่ให้ลึก เข้าเขตขัณฑ์
ถ้ามิอาจ รับศึก กับพวกมัน
ก็จะทัน ที่จะถอย เพื่อหนีภัย
หากรับศึก พวกมัน อยู่ที่นี่
มิอาจที่ จะถอย มิสงสัย
เพราะมิอาจ จะถอย ไปที่ใด
ถ้าแพ้ศึก จะบรรลัย ทุกชีพไป
พลางหันไป ถามแม่ทัพ วุฒิที
ว่าท่านมี ความคิด อย่างใดไหม
วุฒิที แม่ทัพบก รีบตอบไป
ภายในใจ ข้าก็คิด เช่นที่ภาณ
แต่ถ้าหาก เราเลือก ชัยภูมิได้
ก็ย่อมใช้ เป็นประโยชน์ อย่างไพศาล
มีโอกาส ได้ชัย เหนือพวกพาล
ให้พวกมาร แตกยับ หนีกลับไป
แล้วหันถาม เภตรา แม่ทัพเรือ
ท่านคิดเห็น มากเหลือ อย่างใดไหม
แม่ทัพเรือ รีบวันทา แล้วตอบไป
ภายในใจ ก็มิได้ คิดต่างกัน
แต่ถ้าหาก จำต้อง รีบหลีกหนี
ก็จำที่ ต้องเตรียมเรือ เผื่อคับขัน
ข้าจะจัด แต่งเรือไว้ เผื่อใช้กรัณย์
ถ้าประจัญ อาจใช้ราญ เพื่อเอาชัย
แล้วหันสั่ง โสเพีย อำมาตย์ใหญ่
จงรีบไป รักษาเมือง อย่าหวั่นไหว
ตัวข้านั้น จะนำทัพ เดินทางไกล
รีบเร็วไว ไปชำนิ เพื่อยั้งมัน
จงรีบเร่ง เตรียมทัพ ให้เสร็จสรรพ
เร่งเคลื่อนทัพ ในวันรุ่ง ไม่แปรผัน
เราต้องรีบ เดินทัพ เร่งให้ทัน
เพื่อไปยัน กองทัพ ของพวกมัน
ทันใดนั้น มีทหาร รีบเข้ามา
แล้ววันทา กราบทูล อย่างหวาดหวั่น
ด้วยองค์หญิง ถูกไส้ศึก ของพวกมัน
จับตัวพลัน ขึ้นอาชา เร่งหนีไป
สั่งทหาร จงรีบเร่ง ตามไปช่วย
อย่าให้มัน ฉกฉวย หนีไปไหน
มันคงนำ ไปตาเป๊ก ที่อยู่ไกล
ที่พวกมัน ยึดครองไป ไว้นานวัน
แทนได้ยิน จึงรีบเอ่ย ออกมาว่า
ข้าอาสา ตามไปช่วย มิไหวหวั่น
องค์ชายตอบ จงรีบเร่ง ตามให้ทัน
ก่อนพวกมัน ถึงตาเป๊ก จะเสียกรัณย์