กาลปวสาน รักนางแล้วไม่แคล้วชั่วฟ้าดินสลาย มิเสื่อมคลายกำจายรักของนางไว้ เพราะกวีต่ำต้อยคอยมอบหัวใจ เอาไว้ให้แก่นางในทรวงอกเดียว หวั่นตานางพรูพร่างแรงความฝัน วารวันปันประกายล้างความเปลี่ยว หลงรักนางสลักใจไว้นางเดียว ไม่แลเหลียงนางใดให้หมองหม่น ประหนึ่งดาวดวงหนึ่งพึงใฝ่หา จนครวญคราโหยหาสุดฟ้าพ้น โดยคิดถึงในคำนึงต้องจำทน อยู่บนฟ้าเกินเอื้อมพ้นจากราตรี เดิมอาศัยโลกมืดมนแสนอ่อนล้า จนวันฟ้าสว่างพร่างทั่วรวี เพราะประสบพบรักนางครานี้ ตราบในห้วงนาทีปีจวบเดือน ฝังภาพนางไว้ข้างในดวงจิต แนบสนิทในคำนึงมิรางเลือน คิดถึงเธอดั่งว่าเธอเสมอเสมือน ดาวและเดือนไม่เลือนแสงกลางห้วงใจ ยามนางยิ้มพิมใจให้หวาดหวั่น มะลิวัลย์ก็ยากเปรียบยิ้มนางได้ รักหลงนางเสมอไม่เสื่อมคลาย แม้นต้องใจสลายอย่างเอื้อมอาจยาก หลงนางฟ้าพร่าสถิตในห้วงใจ แม้ฟากฟ้าที่บากบั่นให้พลัดพราก สดับรับรู้อยู่แล้วไม่แคล้วจาก ต้องพลัดพรากนางไร้ใจ..เราต่ำต้อย เพราะนางฟ้าอยู่ไกลเกินปีนไป่ เกินกำลังดวงหัวใจจะก้าวร้อย เพราะคงได้มั่นหวังเดียวคือรอคอย หวังเม็ดพลอยให้คนต่ำได้กร้ำกราย รักมั่น..นิรันดร์ตราบวอนตาย แม้ว่ากายหัวใจสูญสลาย รักมั่นจันทร์นางเดียวตราบวันตาย มิเสื่อมคลายเพราะรักนางทั่วฟ้าดิน ในกาลเวลาที่พาพัด ราวสาดซัดความรักให้สูญสิ้น แต่ความรักนางฟ้าตราบฟ้าดิน จะสลายทลายเมื่อสิ้นดินฟ้า อยากโอบกอดหอมผมนางแม้ร้างรัก จะสลักความหวังไว้ในเวลา จะฝากไว้กับผืนใจและผืนฟ้า จะหลงหานางเดียวแม้นเปลี่ยวกาย หลงรักนางพร่างสถิตในรอยจิต ตราบความคิดจิตวิญญานสิ้นสลาย จะหลงรักนางฟ้าจนวันตาย ขอมอบกายให้นางชั่วกาลปักษ์ มิหวั่นไหวไปตามกาลเวลา ที่พัดพาดั่งสาดซาจางความรัก แต่รักนางตราบแผ่นฟ้าจะหาญหัก จะหลงรักนางไว้ในรอยชีวิต เพราะความรักนางฟ้าที่โหยหา จะคงแน่นแผ่นเวลาในห้วงจิต เป็นอันหนึ่งอันเดียวในความคิด เพราะในจิตของกวี..ฉันรักเธอ รักหาญหักสลักไว้ในดวงใจ ไม่มีวันในห้วงไหนรักเสมอ ในดวงจิตกวีที่รักเธอ จะพร่ำเพ้อเสมอเพียงนางฟ้า นางงามงดจรดใดในโลกหล้า ไม่รักหญิงอื่นใดแล้วชั่วเวลา จะสูญสิ้นผืนดินตราบแผ่นฟ้า จะโหยหาเพียงนางฟ้าตราบวันตาย รักนางตราบชั่วกาลปวสาน จะยืนกรานแม้วิญญานสิ้นสลาย จะรักแม้นเธอใฝ่เดียวจนเปลี่ยวตาย ก็มิคลายรักมั่นในวารวัน
4 ตุลาคม 2553 20:14 น. - comment id 1160245
วันนี้ผมได้เห็นดวงอาทิตย์ที่หน้าต่างบ้านเเล้วรู้สึกกระจ่างครับ..เห็นท้องฟ้าเเละมองมันอย่างมันละเอียด..โลกนี้ยังสวยงาม!..ผมคิดได้..ใช่..ผมบอกตัวเองเเล้วเเม้ผมจะเเย่เเค่ไหน..เเม้จะไม่มีวันได้รักเธอ..เเต่ผมจะรักเธอตลอดไป..เเม้จะรู้สึกเเย่มากๆสักเเค่ไหน..ใจผมรักเธอ..ต่อไปจนกาลปวสาน..เเม้เธอจะเเต่งงานกับใครไป..ใจผมก็รักเธอ..เเม้ผมจะห่วยเเตกสักเเค่ไหน..เเบบไม่มีวันได้รักเธอ..ผมรักเธอเเละจะไม่ลืมเธอเลยตราบวันตาย..ขอบคุณบ้านกลอนที่ช่วยปลอบใจ..เเละเพื่อนทุกคนครับ..ผมร้องไห้ให้ใครเพราะความรักที่งดงามคงไม่ผิดใช่มั้ยครับ..ผมรู้สึกดีเเม้จะทุกข์บ้างก็ตาม...ผมมีความสุขที่ไดรักเธอ...อาจร้องไห้..เเต่ผมร้องไห้เพราะความรักเเท้ครับ
4 ตุลาคม 2553 22:01 น. - comment id 1160255
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ และขอบอกว่า.. โลกไม่ได้หยุดรอเรา เพื่อให้เราหายทุกข์โศกก่อน จึงจะหมุนต่อไป คนเราแก่ขึ้นทุกวัน ถ้ามัวแต่ทุกข์กับอดีต ก็จะไม่มีอนาคตสำหรับตัวเอง
4 ตุลาคม 2553 22:05 น. - comment id 1160256
ธรรมชาติงามงด..ดั่งบทรัก มีแปรพักตร์เปลี่ยนผันเช้ายันบ่าย จากแสงอ่อนอบอุ่นละมุนกาย เป็นเดียวดายพลัดผ่อนเมื่อร้อนรุม จากเย็นย่ำกรำแดดเป็นแสดส้ม ทั้งริ้วลมอัสดงใกล้ตรงทุ่ม ความชัดเจนหลงเหลือแบบเครือคลุม ที่เกาะกุมหัวใจดั่งไฟฟอน ทิ้งฉันเปลี่ยวเดียวแดเธอแลคู่ ยิ่งหดหู่ภาพเพียงเธอเคียงหมอน น้ำตาร่วงไหลหยดสู่บทกลอน ไห้ร้าวรอนอำพราง..ว่าปรางตาย (ขอโทษนะคะ..มันอารมณ์นี้..โดยมิได้ซ้ำเติมค่ะ) ...ขอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไป ให้จงได้ ...ไม่จีรัง..กาลปวสาน..หลอกนะคะ เชื่อเถอะ ..................................