เปลวไฟแสด ส้มแสง จากแรงพัด ร่ายระบัด ปลายเทียน เวียนแสงส่อง น้ำตาเทียน รินหยด รดจานรอง ใครเศร้าหมอง ตรองดู เทียนหรือไฟ โอ้เปลวไฟ โลมเวียน เทียนสลาย ส่องประกาย พรายพร่า แสงสไว แต่เทียนน้อย ค่อยคล้อย ลับร่างไป ไฟลามไล้ สิ้นแสง แห่งแสงเทียน
22 ธันวาคม 2552 20:50 น. - comment id 1077673
โอ้เปลวไฟ โลมเวียน เทียนสลาย ส่องประกาย พรายพร่า แสงสไว แต่เทียนน้อย ค่อยคล้อย ลับร่างไป ไฟลามไล้ สิ้นแสง แห่งแสงเทียน โอ้เปลวไฟ จากเทียน เพียรส่องแสง ดูอ่อนแรง ใกล้สลาย สายเทียนเหี้ยน หากหมดแสง เมื่อไหร่ ใจวนเวียน ต้องหาเทียน เล่มใหม่ จุดไฟเติม
22 ธันวาคม 2552 22:11 น. - comment id 1077747
22 ธันวาคม 2552 22:35 น. - comment id 1077767
สวัสดีครับคุณชื่อนั้นฯ อ่านแล้วนึกถึงเพลง ตุดเทียนเวียนวนมากครับ
23 ธันวาคม 2552 08:09 น. - comment id 1077878
ก่องกิก หุหุ กิ่งโศก ขอบคุณมากๆค่ะ สุริยันต์ จันทราทิตย์ จิงด้วย ตะเอง
23 ธันวาคม 2552 13:21 น. - comment id 1078010
การเขียนกลอนควรเขียนติดกันอย่าพยายาม แยกกัน การเขียนติดกันนั้นมีประโยชน์ต้องใช้ อักษรกล้ำแล้วต่อเนื่องๆกันจ๊ะ ควรจะมีสัมผัสในไว้ เพื่อทำให้กลอนจะนุ่มนวลและอ่อนไหวไปไม่ห้วนๆ อีกประการหนึ่งการใช้อักษรต้องมีความหมายด้วย ดังที่เธอเขียนมา ว่า แสงสไว อันที่จริงควรจะ เป็น แสงไสว ถึงจะถูกต้องนะ อักษรบางคำทำให้ ความหมายผิดไปนะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
23 ธันวาคม 2552 16:13 น. - comment id 1078092
ขอบคุณค่ะ ครูแก้ว ยินดีแก้ไขค่ะ เป็นความกรุณามากเลยค่ะ