เมื่อจุดยืนยึดรากความยโส ความดื้อก็ใหญ่โตเป็นต้นขวัญ มีกิ่งก้านกระด้างไปด้วยกัน ปวงใบนั้นหนาหยาบเพราะอวดดี มีลมมาแรงหนักก็หักโค่น เพราะไม่โอนอ่อนตามยามหลีกหนี ความทะนงทำลายสิ้นชีวี เราต่างรู้เรื่องนี้กันมานาน ทั้งที่รู้เราก็อยู่อย่างไม้นั้น แล้วชีวันก็ไร้สุขสนาน ความทะนงปิดประตูตัดสะพาน ไม่สื่อสารอ่อนน้อมถ่อมศักดา หยิ่งผยองในตนจนผู้อื่น ไม่กล้ายื่นไมตรีจนแน่นหนา เกรงกระทบความกระด้างสร้างระอา ปล่อยคนกล้าให้เสรีวิถีตน ทั้งที่รู้เราก็อยู่อย่างอวดกล้า มีเรื่องราวเข้ามาหลายครั้งหน ยึดถิ่นฐานไม่ถอยสู้อดทน แต่ไม่ก่อเกิดผลในด้านดี ทั้งที่รู้เราก็อยู่อย่างไม้แก่ ไม่แยแสคำเตือนเบือนหน้าหนี ยึดในความสามารถที่ตนมี ไม่รู้ชี้ข้อแนะนำหรือคำใคร ทั้งที่รู้เราก็อยู่อย่างประมาท เพราะเราขาดปัญญามาช่วยไข ว่าอ่อนน้อมนั้นคือกุศลมัย หาได้พ่ายแพ้ใครเมื่อถ่อมตน
18 กันยายน 2552 16:23 น. - comment id 1040137
ความอ่อนน้อมถ่อมตน ขอนำไปปฏิบัติค่ะ หมูใหญ่ก็มีอวดดี ทะนงตัวบางครั้งค่ะ กับบางคน อิอิ แต่โดยทั่วไปเวลาปกติก็ไม่ค่อยมีเท่าไรค่ะพี่สาวที่แสนดี ยิ่งได้สอนพิเศษหลานๆตอนกลับบ้าน เห็นหลานอวดดีกับแม่ของเขาแล้วรู้สึกไม่ดีค่ะ เลยต้องอบรมกันหน่อยค่ะ ขอบคุณพี่สาวที่แสนดีค่ะ
18 กันยายน 2552 16:52 น. - comment id 1040153
:) สายลมแผ่วแนวไผ่พลันไหวหวั่น ลำเคียงกันก่ายเกยเลยเสียดสี บังเกิดเสียงจากปล้องก้องราตรี ทำนองมีเสียงเสนาะไพเราะดัง ใบรีเรียวเพรียวพัดสะบัดกิ่ง ไม่แน่วนิ่งโยกย้ายส่ายหน้าหลัง บ้างลู่ลมเรียงรายคล้ายลำพัง ดุจชวนฟังเพลิดเพลินจำเริญใจ มีบางปล้องต้องเอียงดังเลี่ยงหลบ บ้างกระทบเบียดบังยังลำใหญ่ มีเอียดเสียดสอดแทรกแหวกกิ่งใบ เสียงเปลี่ยนไปหลายหลากหากฟังเพลิน ครั้นลมแรงแข็งขันพลันลู่ริ้ว ใบปลิดปลิวลอยล่องต้องห่างเหิน สีซีดสดหลากใบคล้อยไกลเกิน ต่างดำเนินแยกย้ายตามสายลม ยามลมพัดสะบัดกิ่งชิงโดดเด่น ปล้องพลอยเอนเอียงบ้างช่างเหมาะสม กอกวัดไกวกิ่งแกว่งตามแรงลม ช่างน่าชมยิ่งนักประจักษ์ตา ครั้นลมนิ่งอิงกันไม่หวั่นไหว ปล้องกิ่งใบสงบครันชักหวั่นผวา หากเมื่อลมพัดผ่านซ่านอุรา คืนชีวากอไผ่ให้ไหวตาม การแข็งขืนยืนเด่นเช่นไม้ใหญ่ พายุใดข่มเหงสิ้นเกรงขาม เพื่อท้าทายแรงลมโหมคุกคาม ผ่านย่ำยามอาจโค่นลำต้นตาย จงลู่เอนเช่นไผ่อันไหวอ่อน ลมยอกย้อนผ่อนปรนจนห่างหาย ประคองตนพ้นผ่านภยันตราย พายุคลายคงเด่นงามเช่นเคย
18 กันยายน 2552 17:42 น. - comment id 1040187
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว อ่านกลอนแล้วหลายวรรคตอนแจ้นก็เป็นค่ะ พี่สบายดีนะคะ ฝากถึงคุณอิมนิดนะคะ กลอนคุณอิมอ่านแล้วรู้สึกไหวๆตามเลยค่ะ พลิ้วดีจังเลย
18 กันยายน 2552 18:58 น. - comment id 1040227
สวัสดีครับพี่ดอกแก้ว คงเป็นสัจจะธรมกระมังครับ คนเรามักจะทะนงตนเองเสมอ น้อยคนนักที่จะอ่อนน้อมถ่อมตน
18 กันยายน 2552 19:48 น. - comment id 1040245
น้อมนำไปย้ำจิตครับ สดใสสุขสันต์กันเสมอๆครับ
18 กันยายน 2552 19:57 น. - comment id 1040252
น้อมนำมาใส่ใจพิมคะพี่ดอกแก้ว สบายดีนะคะ
18 กันยายน 2552 21:51 น. - comment id 1040290
ด้วยจิตคาราวะ น้อมรับฟังและปฏิบัติค่ะพี่ดอกแก้ว ทำให้นึกถึง นิทาน ต้นไม้ใหญ่ กับต้นอ้อ ต้นไม้ใหญ่ทะนงตัว ยืนต้านทานแรงลมและพายุ แต่ต้นอ้อกลับพลิ้วไหวลู่ไปกับลม ต้นอ้อกลับยืนอยู่ได้ แต่ต้นไม้ใหญ่กลับโค่นลง เพราะความทะนงตน คิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง ขอให้พี่ดอกแก้วสุขภาพ ดีวันดีคืนนะคะ ห่วงพี่สาวคนนี้จากใจจริงค่ะ
18 กันยายน 2552 22:28 น. - comment id 1040299
สวัสดีพี่ดอกแก้ว..โหยหายไปนาน เด๋วจะมาอ่านและเขียนกลอนแจมด้วยอีกครั้งครับ ขอตัวไปนอนก่อน ฝันดีครับ
19 กันยายน 2552 09:10 น. - comment id 1040355
ถือว่ามีทหารเป็นฐานหนุน ถือว่ามีบุญคุณพวกเสื้อเหลือง ถือว่าข้ายิ่งใหญ่จนคับเมือง ถือว่าเรื่องเสื้อแดงไม่แรงร้อน เอาทหารออกมาปราบก็ราบเรียบ เอาทหารออกมาเหยียบไล่กวาดต้อน เอาทหารออกมายิงให้กลิ้งนอน เอาทหารออกมาหลอนให้คนกลัว อย่าทะนงหลงตนจะป่นปี้ จากวันนี้เรื่องขยายไปจนทั่ว ฝังลึกใจประชาชนทุกตนตัว เมื่อทำชั่วผลชั่วจะตามทัน ทุกถ้อยคำในเทปส่วนที่พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ตัดต่อมันบ่งชี้ปฎิเสธไม่ได้ ว่าชั่วจริง
19 กันยายน 2552 09:14 น. - comment id 1040356
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว.... ความทะนงมีในทุกคนนะค่ะ แต่บางทีเราก็ต้องรู้ว่าควรใช้อย่างไรค่ะ โดยส่วนตัวแล้วไม่ค่อยใช้เท่าไหร่ค่ะ ส่วนมากจะทำตัวสบาย ๆ มากกว่าค่ะ.... รักษาสุขภาพนะค่ะ
19 กันยายน 2552 09:45 น. - comment id 1040377
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว รู้ผ่อนหนักผ่อนเบา แบบนี้เข้าประเด็นกับกลอนนี้ไหมคะ บางครั้งการอ่อนน้อมย่อมนำมาซึ่งชัยชนะ อย่างน้อยก็ชนะใจตัวเอง เฌอบางทีก็ทะนงจนได้เรื่องเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ส่วนมากเฉยดีกว่าค่ะ รักและคิดถึงพี่ดอกแก้วเสมอค่ะ ว่างๆจะรวมตัวกันไปรบกวนพี่อีก อิอิ
19 กันยายน 2552 11:03 น. - comment id 1040436
อ่านกลอนของพี่ด้วยความชื่นชมทุกๆครั้งคับ
19 กันยายน 2552 12:27 น. - comment id 1040508
เป็นความทะนงที่งดงามค่ะ
19 กันยายน 2552 16:28 น. - comment id 1040567
กลอนของพี่ดอกแก้ว ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ขอบคุณค่ะ สำหรับสิ่งดี ๆ ที่ให้แก่กัน...
19 กันยายน 2552 21:00 น. - comment id 1040641
.. สาธุ..ครับพี่ นานๆเข้ามาฟังเทศนาซะทีหนึ่ง โดยเฉพาะวันนี้เป็นวันพระด้วย อิอิ..สบายดีนะครับ.ดูแลสุขภาพด้วยน๊า
19 กันยายน 2552 21:56 น. - comment id 1040674
สวัสดีค่ะ คุณพี่ดอกแก้ว ยายแม่มดมาทักทายและขอฝากเนื้อฝากตัวค่ะ ยินดีรับฟังคำชี้แนะนะคะ อิอิอิ อ่านกลอนคุณพี่แล้ว อัตราตัวตนมันหายไปเลยง่ะ ยายแม่มดขอคารวะ อิอิอิ
20 กันยายน 2552 13:44 น. - comment id 1040794
@...น้องกานต์ เพียงพลิ้ว... เมื่อตัวตนเป็นใหญ่ในความคิด ก็มีจิตแข็งขืนฝืนกุศล อยากอวดใหญ่มากกว่าจะถ่อมตน กลายเป็นคนลืมคุณได้ไม่กตัญญู สวัสดีค่ะน้องกานต์หมูใหญ่ ความอ่อนน้อมถ่อมตน ยินดีและยินยอมรับคำตักเตือน นอกจากจะเสริมสร้างความอ่อนละมุนในบุญให้มากขึ้นในชีวิตแล้ว ยังเป็นยาสเน่ห์ขนาดวิเศษที่ทำให้เป็นที่รักใคร่ของบุคคลรอบข้างได้อย่างยืนยาว ดีจังเลยค่ะ ที่มีโอกาสถ่ายทอดสิ่งที่ดีให้กับหลานๆ เพื่อพวกเขาจะได้มีอุปนิสัยที่ดี ขอให้มีความสุขกับการดูแลครอบครัว และประสบความสำเร็จในการทำงานยิ่งๆ ขึ้นไปนะคะ
20 กันยายน 2552 13:45 น. - comment id 1040795
@...น้องอัลมิตรา... เพียงลู่ไหวไปตามลมกระแส ที่เปลี่ยนแปรหยอกเอินเกินคาดฝัน แต่ยังคงจุดยืนที่สำคัญ คือรากนั้นผนึกดินสิ้นเหลิงลม จักลมร้อนลมหนาวในคราวไหน ก็ยืนหยัดรับไหวไม่ขื่นขม ยอมรับกับธรรมชาติของสายลม จึงดูงามน่าชมยามไหวกอ สวัสดีค่ะน้องอัลมิตรา เพลินและพิศภาพได้ในแต่ละจังหวะของบทกลอน มั่นคงและอ่อนโยน..ไม่ดื้อกระด้าง ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วมเขียนไว้อย่างน่าประทับใจ ขอให้มีชีวิตที่เด่นงามแม้ยามต้องสายลมนะคะ
20 กันยายน 2552 13:45 น. - comment id 1040796
@...น้องแจ้น... การเรียนรู้ดูจำ..แล้วทำได้ มิใช่เรื่องง่ายง่ายหรือหมูหมู แม้บางครั้งบุคคลที่เป็นครู ก็แค่รู้ทฤษฎีที่ขึ้นใจ สวัสดีค่ะน้องแจ้น จุดอ่อนของชีวิตที่เรามักพลาดกันเสมอก็คือเรื่องการถือตน..ศักดิ์ศรี จึงทำให้บรรยากาศดีๆ กลายเป็นสงคราม หรือความอึดอัด เพราะประดังโทสะเข้าใส่กันด้วยความถือตน ไม่ยินดีที่จะให้ใครมาตักเตือน ฉะนั้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาของความประพฤติเช่นนี้ ขอให้สามารถครองใจให้มีสติได้ทุกสถานการณ์ และมีความยินดีที่จะรับฟังทุกถ้อยคำที่เกิดจากความปรารถนาดีนะคะ มีความสุขมากๆ นะคะน้องแจ้น
20 กันยายน 2552 13:45 น. - comment id 1040797
@...อรุโณทัย... กิเลสที่มีหนากว่ากุศล ทำให้คนมีจิตไม่ผ่องใส การกระทำมีแต่ความหมองใจ ล้มเหลวในพฤติกรรมการฝึกตน สวัสดีค่ะอรุโณทัย ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย เรื่องของความอ่อนน้อมนั้นคงต้องพยายามกันน่ะค่ะ จะรอให้เกิดขึ้นเองคงไม่ได้ การพยายามเตือนตนบ่อยๆ จะช่วยให้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ และชีวิตก็จะงดงามขึ้นจนเป็นที่น่าชื่นชมทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้มีความสุขประสบแต่สิ่งที่ดีๆ นะคะ
20 กันยายน 2552 13:45 น. - comment id 1040798
@...แสงเพชร... มีตัวอย่างให้เรียนและให้รู้ แต่บางคนก็ดูแล้วเฉยเฉย กลายเป็นความประมาทที่ละเลย ไม่คุ้นเคยฝึกตนให้อ่อนโยน สวัสดีค่ะแสงเพชร ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทาย เรื่องของความทะนงตนนี้ ..เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็กๆ และเราก็พบว่า เราได้แต่เรียนโดยไม่พยายามทำให้ได้ อุปนิสัยที่พอกพูนขึ้นตามวันเวลาจึงกลายเป็นกลุ่มก้อนอัตตาที่มีปริมาณมากจนยากจะกำจัดได้ง่าย พอใครมาแตะต้องปุ๊บอุณหภูมิก็ปรับสูงปรี๊ดขึ้นทันทีเลย ..หลายๆ คนจึงกลายเป็นยักษ์ไปในทันใด ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ
20 กันยายน 2552 13:46 น. - comment id 1040799
@...น้องพิมญดา... การยอมรับฟังบ้างอย่างสงบ ไม่ขืนรบต่อสู้รู้เคลื่อนไหว เมตตาฟังคำเขาอย่างเข้าใจ เห็นเนื้อในปรารถนาดีที่เขาทำ สวัสดีค่ะน้องพิม ทุกคนล้วนต้องการการยอมรับฟังจากคู่สนทนาไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ และการยอมรับฟังนี้...ก็ไม่ได้หมายถึงความพ่ายแพ้เลยสักนิด ไม่ว่าเรื่องนั้นใครจะถูกจะผิด การยอมรับฟังจะช่วยคลายบรรยากาศที่กดดันให้ลดลงได้ ทั้งยังทำให้เรื่องราวจบลงได้ด้วยความเรียบร้อย ขอให้มีความสุขมากๆ กับการใช้ชีวิตที่ไม่ประมาทนะคะน้องพิม
20 กันยายน 2552 13:46 น. - comment id 1040800
@...น้องแบม แก้วประภัสสร... อุทาหรณ์สอนไว้ในกาลเก่า แต่พวกเราเรียนแล้วลืมปลื้มของใหม่ ชีวิตจึงหลงทางไปแสนไกล สะสมความยิ่งใหญ่ในอัตตา สวัสดีค่ะน้องแบม นิทานสอนเด็กเรื่องนี้เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ใหญ่ เพราะผู้ใหญ่ส่วนมากต่างก็เป็นไม้แก่ไปตามวันเวลา แต่ไม่ค่อยรู้ว่าตนเองเป็นไม้แก่ ยิ่งคนที่ประสบความสำเร็จมาก ก็ยิ่งมีเนื้อไม้ที่แข็งคือความกระด้างถือตัวมาก ความเป็นใหญ่ และถือความสูงวัย จึงทำให้อ่อนข้อได้ยากกับผู้ที่ต่างระดับ ซึ่งนั่นก็คือ จุดเริ่มต้นของความล้มเหลว ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่านและเขียน ขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะ
20 กันยายน 2552 13:46 น. - comment id 1040801
@...กิ่งโศก... เปิดโอกาสฟังคำผู้อ่อนวัย แม้จะต่างกันไปในเหตุผล ยอมรับความคิดเห็นส่วนบุคคล จะช่วยให้ปรับตนขึ้นได้ดี สวัสดีค่ะกิ่งโศก ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา ขอให้หลับสบาย นอนได้เต็มอิ่มนะคะ
20 กันยายน 2552 13:46 น. - comment id 1040802
@...ฤกษ์... ผู้ทะนงหลงตนจนถึงแก่น ก็เหมือนแม้นว่าวหางที่กร่างเหลิง ความทะนงนำป่านเตลิดเปิง สิ้นชั้นเชิงเมื่อร่วงหล่นลงดิน สวัสดีค่ะฤกษ์ เรื่องการเมือง...ดูแล้วก็เห็นลวดลายของกรรมที่แต่ละคนทำมา สงสารแต่คนที่มุ่งถือฝักฝ่าย ก็ไม่ต่างไปจากกำแพงที่อยากจะต้านพายุโดยที่ไม่รู้ว่าตนเป็นเนื้อไม้ชนิดไหน และพายุที่เกิดจากฝ่ายตรงข้ามย่อมมีเป้าหมายเพื่อมุ่งทำลายกันตลอดเวลา เรื่องของการเมือง..จึงเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์แล้วมีคลื่นอกุศลเกิดขึ้นได้มากมายและขยายตัวได้รวดเร็วมาก ขอให้สามารถผ่านพ้นสภาพที่ไม่พึงปรารถนาไปได้ด้วยดี และมีความสุขกับเรื่องรอบตัวได้มากๆ นะคะฤกษ์
20 กันยายน 2552 13:47 น. - comment id 1040803
@...น้องรี whitelily... ยังไม่สิ้นกิเลสอาสวะ ก็ย่อมจะมีอัตตามาส่งเสริม ต้องหมั่นขัดเกลาใจใส่บุญเติม อ่อนน้อมเพิ่มความงามยามสนทนา สวัสดีค่ะน้องรี ใช่แล้วค่ะ ..ที่เรายังมีความทะนงกันอยู่ทุกคนเพราะเรายังมีรากเหง้าของกิเลสอยู่ ความคุยโตโอ้อวด ...เป็นกิริยาที่น่าอับอายไม่ควรประพฤติ เพราะอาจมีคนที่รู้จริงมากกว่า ดีกว่า หรือเก่งมากกว่าอยู่ในที่นั้น การรู้จักอ่อนน้อมยอมรับฟังผู้อื่น จะช่วยให้สาวไส้ตัวเองน้อยลง และมีบุคลิกภาพที่ดี ขอให้มีความสุข สามารถหลีก ละ และลดปริมาณของความทะนงได้มากๆ จนกลายเป็นดอกลิลลี่ที่แสนงามได้โดยไวนะคะ
20 กันยายน 2552 13:47 น. - comment id 1040804
@...น้องเฌอมาลย์... อย่าเห็นความคิดใครว่าไร้ค่า ความคิดตนดีกว่าคนทั้งหลาย ฟังเขาบ้างอย่างเมตตาไม่น่าอาย เผื่อจะได้เหตุผลดีที่สมบูรณ์ สวัสดีค่ะน้องเฌอคนดี ใช่แล้วค่ะที่เขียนมา ..ประเด็นสำคัญก็คือ ชนะใจตนเองที่ลดความมานะลำพองลงได้ ในขณะที่ยอมฟังคนอื่นได้ นั่นก็คือช่วงเวลาของสวยงามของจิตใจ ที่มีทั้งความเมตตา ความอดกลั้น ความอ่อนน้อม แล้วอาจรวมถึงความเคารพที่มีต่อผู้พูด องค์ประกอบที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ล้วนเป็นปฏิกิริยาฝ่ายกุศลทั้งสิ้นเลยค่ะ ขอให้น้องเฌอพบแต่คนที่ดีและเรื่องที่ดี มีความสามารถรับมือกับปัยหาได้ดี และยินดีที่จะรวมก๊วนมาทักทายกันอีกค่ะ
20 กันยายน 2552 13:47 น. - comment id 1040805
@...วิทย์ ศิริ... ความยึดติดเป็นพิษในทุกหน หลายหลายคนพินาศเพราะยึดติด ทั้งศักดิ์ศรี ถิ่นฐาน ความนึกคิด ไม่ป้องปิดเคลื่อนย้ายให้คลายภัย สวัสดีค่ะวิทย์ ศิริ ความยึดติดที่ก่อตัวเป็นความแข็งแกร่ง มีแต่จะสร้างเวรภัยให้แก่ตน โดยเฉพาะการมีความนึกคิดที่สุดโต่ง แล้วก็ต้องพบกับความทุกข์ใจเพราะการกระทำของตนนั่นเอง ขอบคุณมากค่ะที่มาอ่าน ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ
20 กันยายน 2552 13:47 น. - comment id 1040806
@...ปรางทิพย์... องค์ประกอบของต้นไม้ทะนง แต่ละสิ่งมั่นคงยากกำจัด ต้องถอนทิ้งไม่ปล่อยให้รกชัฎ แล้วเพิ่มต้นไม้ดัดให้สวนงาม สวัสดีค่ะปรางทิพย์ ขอบคุณมากค่ะที่เข้ามทักทาย ขอให้มีแต่ความสุขและพบแต่สิ่งที่ดีนะคะ
20 กันยายน 2552 13:47 น. - comment id 1040807
@...ครูกระดาษทราย... เมื่อทะนงหลงตนจนคนรู้ เขาก็ดูอยู่ห่างห่างอย่างหลีกหลบ ไม่จำเป็นเขาก็ไม่มาค้าคบ สิ้นจำเป็นเขาก็หลบคนหลงตน สวัสดีค่ะครูกระดาษทราย บางคนที่หลงตนมากๆ ก็ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคม คงแต่ปล่อยให้คนเช่นนั้นแสดงฤทธิ์เดชไปตามถนัด ความหลงตน..นับเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ไม่ควรมีในชีวิตของเรา ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ ครูกระดาษทราย
20 กันยายน 2552 13:48 น. - comment id 1040808
@...ฝากฝัน... ขอบคุณที่แวะมาในวันพระ ขอให้ละกิเลสได้ในหลายสิ่ง พบสิ่งใดก็ให้รู้ถึงความจริง มีพระธรรมพึ่งพิงตลอดเวลา สวัสดีค่ะฝากฝัน ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาในวันดีๆ แถมมีความห่วงใยมากฝากด้วย ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ
20 กันยายน 2552 13:48 น. - comment id 1040809
@...น้องแม่มด... คนบางคนไม่มีใครกล้าแตะต้อง ได้แต่มองอยู่ห่างห่างอย่างผวา เพราะกลัวฤทธิ์ร้ายแรงแห่งอัตตา มากล้ำกรายชีวาให้ทุกข์ใจ สวัสดีค่ะน้องแม่มด เป็นธรรมดาที่เมื่อมีอกุศลมาก ..กุศลก็ย่อมลดลง และอกุศลก็ไม่เคยทำให้ชีวิตของใครงดงามเลย โดยเฉพาะความมีอัตตาสูง ที่สร้างภาพลักษณ์อันน่าเกลียดอย่างยิ่ง ด้วยความยินดีที่มาทักทายค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ นะคะ