พี่พุดครับ ทุกเรื่อง และแทบจะทุกคำ ผมอ่าน ที่บอกว่า แทบจะทุกคำ ผมอ่านแบบจับใจความ.... จริงๆ ผมมีหลายเรื่องจะพูด จะเขียน จะพิมพ์ แต่ผมเป็นคนเดียว ไม่อาจทำในหลายๆสิ่งที่ต้องการ... คือ งานที่พี่พุดตอบผมในเรื่องที่แล้ว ผมอ่านแล้วอ่านอีก แต่ผมไม่อยากอธิบายอะไรมากมาย ขอ สรุปเลยแล้วกัน ผมเชื่อว่า ดอกไม้งามคู่ควรกับคนดี แต่ผมเองแค่เห็นดอกไม้งาม แม้หวังจะหยิบมาดมดอมให้ชื่นใจก็ถูกห้าม เมื่อห้ามไม่ให้นำดอกไม้จากต้นๆนั้นมา ผมก็จะไม่เอาหรอกครับ หากทว่า ถ้าผมบอกว่า นำดอกไม้ไปบูชา บางทีผมอาจได้รับค่าจากต้นไม้ต้นนั้นก็ได้.... ผมเองก็ยังเป็นตัวตนของผม ที่มีทั้งดีและชั่วตามประสา หากใครมองผมดีเกินไป ก็อาจไม่ใช่ตัวผม และหากมองว่าแย่จนเกินไป แล้วนั่นคือตัวผมจริงหรอ... จริงๆ ผมไม่น่ามาทำให้บ้านพี่พุด รกรุงรัง จากถ้อยคำที่ไม่งดงาม แต่คนอย่างผมก็ยังเดินตามฝัน ที่เลือนลาง และแบกความหวังจาก พ่อและแม่เอาไว้ รวมถึงพี่ๆ และน้อง ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นผม... ทั้งๆที่ความฝันและความหวังของพ่อและแม่กับผม เดินคนละสาย หากผมไม่เคยศึกษาธรรมะบ้าง ผมอาจไม่ได้มีชีวตถึงปานนี้ ผมเคยคิดว่าถ้าคนอย่างผมต้องตาย จะมีคนสักคนร้องไห้เพราะผมไหม? นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านมาในอดีต ใครจะรู้ว่า ผู้ชาย ที่ดูจะมีอารมณ์ขัน คือคนช่างคิดและเก็บกด รวมถึงอดทนอย่างไร้สาระ ที่ผมไม่คิดฆ่าตัวตาย...ทั้งที่ผมไม่ได้ผิดหวังอะไรมาก แต่สภาวะแวดล้อมที่แก่งแย่งชิงดี ทำให้ผมเบื่อหน่าย ผุ้ชายที่โง่เขลาอย่างผม เป็นเพียงแค่ที่รองรับอารมณ์ อาจจะมองผมเป็นแค่เศษสวะ ชีวิตรอบข้างผมแสนจะเครียด........... แต่การฆ่าตัวตาย เป็นบาปมาก เท่ากับ 1 ทำให้พระพุทธเจ้าเลือดห้อ-กรณีพระเทวทัตกลิ้งหิน สะเก็ดถูกข้อเท้า 2 ฆ่าพระอรหันต์ 3. ทำพระสงฆ์ให้แตกแยกสามัคคี 4 ฆ่าพ่อ 5 ฆ่าแม่ ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า จำได้หมด หรือถูกต้องไหม? แต่ที่แน่ๆ การฆ่าตัวตายเป็นบาปมากๆ ที่ผมเกริ่นมาบอก เพราะมีช่วงหนึ่งเวลาหนึ่ง ที่ผุ้ชายคนนี้เครียด และกังวลกับหลายๆสิ่ง แต่เพราะผมได้อ่านหนังสือธรรมะอยู่บ้าง แบบนานๆที ผมจึง ยังมีชีวิตอยู่เท่าทุกวันนี้ และผมก็ต้องการเสนอว่า อย่าฆ่าตัวเองเลย.... สามสี่วันก่อน ผมรู้จักน้องสาวคนหนึ่ง ที่รู้จักกันมาเกือบปี เธอผิดหวังและเสียใจกับคนรักบ่อยครั้ง แต่เธอก็มาปรึกษากับผม บ่อยๆ เวลามีปัญหา แต่ไม่นานมานี้ เธอฆ่าตัวตาย ผมจึงเสียใจและสงสารเธอมาก ทุกครั้งที่ผมนึกถึง คนที่เคยรู้จัก คนที่เคยสนิทสนม ผมได้พูดว่า ไม่น่าเลย..และน่าสงสาร เพราะชีวิตหลังความตาย ต้องรับกรรมแสนสาหัส นี่เเหละที่ผมสงสาร ผมเป็นชอบคิดไปเรื่อยเปื่อย ดังนั้น ถ้าไร้สาระก็ขอ อภัยด้วยนะครับ แต่อย่าได้มองว่า ดอกไม้ที่ผมเก็บมานั้น จะต้องเหยียบย่ำซ้ำรอย ตราบใดที่ผมยังไม่ได้ทำ พี่พุดเคยบอกผมเองว่า มองแต่โลกในแง่ดี แล้วพี่พุดไม่มองในแง่ดีล่ะครับ เผื่อพี่พุดจะเห็นอีกทาง ที่มันดีบ้าง.... รักแลเคารพ พี่สาวแสนสวย น้ำใจงาม นามพี่พุด ยอดรักแห่งน้ำ-ไพร ที่หนึ่งเสมอ กวีน้อยเจ้าสำราญครับ น้องชาย...ในสายใจ ฝนกำลังปรอยสาย ในนาทีนี้ ในขณะที่สายตาพาสายใจ ไล่ไปตามตัวอักษรของน้องอย่างตั้งใจ อย่าง.. แสนซาบซึ้ง ในฤดีของพี่พุดอย่างที่สุดแล้ว น้องชาย...ที่รัก แก้วหน้าบ้านกำลังให้หอม ราวอยากฝากกระซิบบอก ข้ามขอบฟ้าไกล.... ไปปลอบประโลมใจน้อง ว่า.. อย่าคิดมาก อย่าอาวรณ์วาดหวัง สิ่งใด.. ทั้งในอดีตที่ลาเลือนลอยลับมิหวนกลับคืน และ.. อนาคตที่ไม่แน่ว่าจักชื่นฤาช้ำ จะพบระกำระทมตรอมตรมสักเพียงไหน น้องรัก.. ยิ้มสิครับผม ยิ้มหวานหวานรับแสงอรุณสีทองที่สาดส่อง มาสอนจิตเตือนใจ ให้ดวงใจเรายังคงปิติเกษมไสว ไม่ยอมท้อแท้แพ้พ่าย.. และ.. ไม่หลงใช้ลมหายใจ ณ ขณะปัจจุบัน ไปกับความหวั่นหวามไหว ที่ไม่มีสรรพสิ่งใดเที่ยงแท้แลแน่นอน ลมแห่งภักดิ์ รักอันละเมียดอันละมุน อันกรุ่นด้วยเมตตาธรรม จักล้ำค่า จงใช้เวลาทุกนาทีแห่งชีวิต อย่างภาคภูมิที่เราเกิดมาในพสุธาทอง ในแผ่นดินแห่งร่มพระรัตนตรัย เป็นคนไทหัวใจทอง ใต้ฟ้าพุทธภูมิ... น้องรัก... น่าปลาบปลื้มเพียงใด ที่เรามีร่มฉัตรเพชรกางกั้น ประดุจดั่งขวัญหล้า ภายใต้ร่มเศวตรฉัตรแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ที่มีพระพ่อหลวงทรงทศพิธราชธรรม มีพระจริยาวัตรเลิศล้ำ มีน้ำพระทัย ดั่งหยาดน้ำค้างฟ้า ที่พร่างลงมาจากสวรรค์สรวง ด้วยทรงห่วงใยพสกนิกร อย่างเท่าเทียมทุกถิ่นที่ ทุกธุลีหล้า ข้าแผ่นดิน... พระองค์ทรงรินน้ำใจผ่านหยาดพระเสโท ที่ราวหยาดเพชรร่วง พลีแด่ปวงชนใต้ร่มพระบรมโพธิสมภาร ให้.. รู้ซึ้งค่าคำว่า*ให้*อย่างไร้ร้องขอ สอนสัจจธรรมล้ำเลิศให้รู้สร้างสรรปันพลี ความพอดีพอเพียง ................................ น้องรัก... บทที่น้องอ่านถึงในเรื่อง *ธรรมรจนา โพธิจิต* ชายคนหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ซาบซึ้ง ในรสพระธรรม ชีวิตเขาจึงพลันว่ายวนในโลกวัตถุ ที่แม้นตัวเขาก็ยังไม่รู้คำตอบด้วยซ้ำ ว่า.. ชีวิตนี้เกิดมาทำไม เพื่ออะไร และ นั่นคือความเบื่อหน่าย พาให้เขาได้ค้นพบความล่วงหลุดพ้น จากสิ่งที่รัดรึงตรึงตรมพันธนา จาก... มายาแห่งการเกิดดับนับเนื่องอสงไขย จากกรรมใดใครก่อใครรับ และ.. นับไม่สิ้นภพชาติ... จิตจึ่งจะพบความสว่างสงบสะอาด แล้ว.. เลิกยึดมั่น ในความเป็นตัวตน ให้กมลได้รักษาศีล สร้างกุศล สะสมเสบียงบุญภาวนา จนมีสติปัญญา พาค้นพบอัญมณีล้ำค่า ณ ภายในใจเราเอง... จนสิ้นเพรงกรรม น้องรัก.... พี่พุด.. ตระหนักดีถึงความเป็นธรรมดาแห่งเสน่หา มายามนตราพิสวาท กับทุกบทบาทชีวาชีวิต ที่ยังติดในรสเกษมซ่านซึ้งหวาน ปานประดุจดั่งน้ำผึ้งสวรรค์ ยังคงหวังวาดอย่างงดงาม ว่า... ในท่ามโลกแล้งหลอนลวงนี้ เราจะพบคนดี ใครสักคน ที่ใช่เลย ที่ประทับใจ ที่จักเกาะเกี่ยวก้อยกันไป สู่แดนขวัญสวรรค์รมณีย์ หรือ.... บางทีคือแดนสุขนิรันดร์ หลัง.. เรียนรู้ ผ่านพ้นบทเรียนทางโลกย์ ทั้งซึ้งโศกแสนสุข.. เลือก..ตามรอยบาทพระบรมศาสดา ไม่เอาทั้งสุขสนุกแลทุกข์ร้อนร้ายมากรายกล้ำ หลัง... พบพระธรรม ณ กลางใจ ที่สว่างไสวสุกใส ราวดวงแก้วประภัสสร ให้.. ค่อยละอาวรณ์อาลัยถวิล สิ้น... ความยึดมั่นถือมั่น ให้ละทิ้งตัวตน ไม่ต้องวนมารับอนันตกรรม อันเวียนว่ายวนซ้ำย้ำรอยเดิม ไม่รู้จักกี่ภพชาติ น้องชาย... เวลาจะสอนให้รู้ค่า คำว่า *เห็นทุกข์เห็นธรรม* เห็น.. สายน้ำตาร่ำจะเบื่อหน่ายคลายกำหนัด และ.. สามารถขจัด..ทุกข์กิเลส เหตุแห่งทุกข์ ให้ค่อยๆพัฒนาไปสู่ความสิ้นสุดหลุดพ้น แห่งการหลง พะวงภักดิ์พลี ที่.. ทุกชีวิตนี้ต้องเรียนรู้และค้นพบด้วยตัวเองค่ะ...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song774.html สี่แผ่นดิน คนมี ชีวิตและกายา ถือ กำเนิดเกิดมา เป็นหญิง หรือว่าเป็นชาย ผู้มี พระคุณอันแสนยิ่งใหญ่ กว่า สิ่งใด ก็คือแผ่นดิน เป็นแดน ที่ให้ชีวา พึ่งพา อาศัยและอยู่กิน คุณใด จะเปรียบแผ่นดิน เอื้อชีวิน จากวันที่เกิด จนตาย ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน ยามใด ความทุกข์กรายมาเยือน ทุกข์ใดเล่าจะเหมือน ความทุกข์เยือน เรือนกาย หากเรือน ของเรามีทุกข์ กรายใกล้ สุขอย่างไร อย่างไรตัวเรา ยามดี เราดีตาม ในยาม มีทุกข์ควรแบ่งเบา บุญคุณ ยิ่งใหญ่นานเนาว์ หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน หน้าที่เรา ตอบแทนพระคุณแผ่นดิน...
18 สิงหาคม 2552 17:35 น. - comment id 1028647
ผมขอขอบคุณมากครับ พี่พุด ที่มีชื่อผมเป็น หัวข้ออุทาหรณ์เตือนใจ และขอบคุณกับทุกถ้อยคำที่แสนงดงามของพี่พุด จริงๆไม่รู้ผมจะยิ้มดีไหม ที่ผมนำเอาเรื่องราวชีวิตมาให้คนรู้จัก แต่ชีวิตจริงผมก็มีมากกว่านั้น หมายถึงที่ผมเป็น ผมไม่ได้บอกรายละเอียดถึงปานนั้น แม้แต่พี่พุดผมก็ไม่เคยบอก และผมก็ไม่เคยบอกตรงนี้ได้ แต่ผมจะบอกไปทางเมล์ให้พี่พุดรู้ ซึ่งผมเคยคิดจะบอกอยู่หลายครั้ง ว่าผมคือคนที่ธรรมดา ที่แสนจะไม่ธรรมดา ไม่ใช่เรื่องร้ายกาจ น่าหวาดกลัวหรอกครับ เพราะผมไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนั้น จริงๆ ชีวิตผมอยุ่กับความบ้าและไร้สาระของตัวเองมาตลอด เหมือนที่ผมบ้าหนังจีน และบ้าประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงคราม ผมไม่รู้ทำไมว่าต้องคิดอย่างนั้น ผมไม่อาจเป็นทหารได้ ด้วยหลายๆ เหตุผล แต่หากผมเป็นได้ ครั้งหนึ่งผมจะดีใจมาก เป้นอีกหนึ่งความมุ่งหวังที่ผมอยากจะเป็น ผมรู้ว่าการเป็นทหาร คือการเสี่ยงต่อความตาย และอาจเป็นการฆาตกรรมในสังคมหมู่ที่สังคมที่ไปยอมรับ แต่ผมเคยชื่นชอบวิถีชีวิตความเป็นทหาร และผมก็ไม่รู้ว่า ชาติที่ผ่านๆมา ผมเคยเป็นทหารหรือไม่ ผมเคยอยากย้อนตัวเองเป็นคนในอดีตที่กอบกู้ประเทศชาติ เป็นคนทีมีความสามารถในเพลงดาบ และสติปัญญาในการรบ...อันนี้เรื่อยเปื่อย ผมเข้ามาปุ๊บ จากสวดมนต์ไหว้พระ และมีชื่อผมเลย ดังนั้นผมจึงเข้ามาอ่านเรื่องราวของตัวเองที่น่าเขินไม่น้อย และอดยิ้มไม่ได้ที่พี่พุด กรุณาต่อผม ผมเคยอยากบอกว่า แม้ในโลกฝันบรรณพิภพ ก็ทำให้ผมได้รู้จัก พี่ๆ เพื่อนๆ ที่แสนดี ต่อผมมากมาย เหมือนอยู่ในโลกแห่งการศึกษา ที่คนมี คุณวุฒิ วัยวุฒิ ปัญญาวุฒิ อยู่ร่วมกัน เป็นสังคมที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีความรักแบบพี่แบบน้อง นั่นแหละคือสิ่งที่ผมอยากให้โลกใบนี้เป็น.... ถ้าวันหนึ่งพี่พุด รู้เรื่องราวชีวิตจริงคร่าวๆ จากผม พี่พุดอาจเเปลกใจ กว่านี้ ผมก็เชื่อว่าน่าจะแปลกใจ และสงสัยในตัวผมมากกว่าเดิม พี่พุดครับ ไม่ให้ผมคาดหวังในอนาคตนั้นเป็นไปไม่ได้แน่ครับ เพราะผมยังไม่อาจทำความจริงที่พ่อและแม่รอคอย นั่นคือการเรียนจบ และมีงานทำ แต่ตอนนี้ มีแวว ในทางไม่จบสูง หลายสิ่งที่ผมเดินผิดทาง ในเรื่องการเรียน อย่างน้อยก็สองข้อ 1 ผมเรียนจบ ป.ตรี ไม่เรียน วุฒิครู ป ว ค....ประกาศนียบัตรวิชาชีพครู 2 ผมเรียนสายอังกฤษ แต่ต่อโทฯ สายสังคม รปม. รัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิต เอก นโยบายสาธารณะ เรียนภาคปกติ 3 ผมเรียนมาปีที่ 5 แล้ว ยังทำวิทยานิพนธ์ไม่ผ่าน มีหลายเหตุผลมากครับ ส่วนหนึ่ง ผมหาเงินในการเรียนเอง ผมคิดไปคิดมา ก็เซ็งตัวไม่เอง จะโทษว่าผมเชื่อรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันมากก็โทษไม่ได้ แต่ไม่รู้ทำไมผมต้องมาเรียนวิชาที่น่าเบื่อหน่าย ที่ไม่ตรงกับจริตจิตใจผมเลยก็ไม่รู้ ถ้าผมเรียน ป.โทฯ อังกฤษ ภาคพิเศษ ก็ยังดีกว่า แต่เรื่องเงินจะลำบาก และหากเรียน ภาคปกติ กลัวจะไม่ผ่านน่ะสิครับ....ปัญหาอีกแล้ว เอาแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปตอบกลอน อีกเยอะ รักแลเคารพ พี่สาวแสนสวย น้ำใจงาม นามพี่พุด ยอดรักแห่งสายน้ำ-พงไพร ที่หนึ่งเสมอ
18 สิงหาคม 2552 20:15 น. - comment id 1028685
พี่ชาย เป็นอะไรไปหรือ เป็นห่วงนะค่ะ
19 สิงหาคม 2552 03:33 น. - comment id 1028771
พี่พุดคะ บ้านเรือนไทยแห่งนี้ ดั่งที่พักใจเลยนะคะ ปรางขออนุญาติ ต่อกับน้องกวีน้อยนิด หนึ่งนะคะ น้องกวีน้อยคะ ไม่ใช่แค่น้องคนเดียว นะคะที่มีปัญหา นี่เป็นเพียงการทดสอบ ของชีวิตคนเรานะคะ พี่พุดคะ ปรางเชื่ออยู่อย่างนะคะ ในชีวิตคนเราไม่มีใครมีสุขตลอด และไม่มีใครที่จะทุกข์ตลอดค่ะ อย่างปรางเองในห้วงแห่งความทุกข์ ปรางก็ได้พบกับสิ่งดี ๆ แทรกเข้ามา เสมอ อย่างในขณะที่กำลังเคว้งคว้าง ปรางก็มีพี่พุด เป็น แบบอย่าง ทั้ง ๆ ที่ บางครั้งปรางก็สัมผัสได้ ว่าพี่สาวคนนี้ ก็มีทุกข์บ้าง แต่...ด้วยความแกร่งใน ความอ่อนหวาน ทำให้พี่มีสติ และยัง เผื่อแผ่ไปยังน้อง ๆ ทุก ๆ คนอีกค่ะ ปรางรักพี่พุดจังเลย
19 สิงหาคม 2552 09:00 น. - comment id 1028817
เอาน้ำใจใสสะอาดมาพาดวาง...... กลางบ้านนี้..ฝากทุกๆความหมอง.... ให้ตัวเอง..กับใครใคร............. ให้กับทุกทุกที่มีริ้วรอย..... ที่รอเวลาที่ลบเลือน......เข้ามาเยือนด้วยรัก
20 สิงหาคม 2552 09:59 น. - comment id 1029393
พี่พุดใจดี ฝากถึงกวีน้อยฯ นะคะ มุ่งสู่ความสำเร็จด้วยสตินะคะน้อง ทำในสิ่งที่ตนรักสำเร็จ 100% ค่ะ รักพี่พุดค่ะ
20 สิงหาคม 2552 13:11 น. - comment id 1029469
สวัสดีค่ะ แวะมาส่งความห่วงใยให้พี่พุด และฝากกำลังใจส่งไปยังกวีน้อยฯ ด้วยนะคะ ทุกคนต่างมีปมและปัญหา ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะมีวิธีจัดการกับมันยังไง บางครั้งก็ต้องรอเวลา และ โอกาสบ้างค่ะ แต่ถึงยังไง หากใจไม่ยอมแพ้และท้อถอย ตราบนั้นเราก็ยังคงชนะ(ใจตัวเอง)อยู่ค่ะ ด้วยรักและห่วงใยพี่พุดนะคะ รักษาสุขภาพด้วยค่ะ