เดียวดายท่ามโลกโศกซับซ้อน ใจอรชรอ่อนไหวฝากใจฝัน พุดซ้อนอ้อนคำรำพัน สร้างสวรรค์ตรงนี้ที่กลางใจ หลับตาลืมว้าเหว่ เดือนเห่ดาวกล่อมหอมดอกไม้ไหว นานเนาวันปีผ่านไป หฤทัยเราสองยังครองภักดิ์ ท้าทายพายุใจไหวหวั่น ผูกพันรัดร้อยสร้อยศักดิ์ เลอค่ากว่าคำว่ารัก นานนักนิรันดร์ขวัญปอง แดนสรวงรวงดาวรอรับ สดับคำอธิษฐานเราสอง ทางทองทอดรอเรืองรอง ละออละอองเพชรพร่างสว่างวับชั่วกัปป์กัลป์...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song316.html ยามรัก ยาม เช้า พี่ ก็ เฝ้า คิดถึง น้อง ยาม สาย พี่หมาย จ้อง เที่ยว มอง หา ยาม บ่าย พี่วุ่นวาย ถึง กาน ดา ยาม เย็น ไม่เห็น หน้า ผวา ทรวง ค่ำ นี้ พี่จะมี ใคร เคียง ข้าง หนาว น้ำค้าง เหน็บ จิต ให้ คิด ห่วง พี่ก็หนาว น้องก็หนาว นอน ร้าว ทรวง โอ้ พุ่ม พวง อย่าให้รอ ถึงเช้า เลย ค่ำ นี้ พี่จะมี ใคร เคียง ข้าง หนาว น้ำค้าง เหน็บ จิต ให้ คิด ห่วง พี่ก็หนาว น้องก็หนาว นอน ร้าว ทรวง โอ้ พุ่ม พวง อย่าให้รอ ถึงเช้า เลย
19 สิงหาคม 2552 21:19 น. - comment id 1025110
น้องรักทั้งสอง น้องอนงค์นาง และ น้องปรางทองปรางทิพย์ ของพี่พุดที่แสนรักเอยแสนรักในกมล พี่พุด...ตื่นมาตอนฟ้าใกล้อรุณ เตรียมใส่บาตรค่ะ พระภิกษุประมาณ9-10 องค์ ราตรีที่จันทร์ลาดวง น้ำค้างทรงหยด ดาวกำลังเกลื่อนฟ้าระยิบ ดวงดอกไม้ไทยรายรอบบ้าน เผยอกลีบรับนวลน้ำค้าง พี่พุด...ได้กลิ่นความสดฉ่ำ แห่งอรุณรุ่งที่หมุนวนมาให้ มากมีผู้คน ได้ค้นพบว่าชีวิตเริ่มใหม่ ได้ในทุกวัน อดีตผันผ่านไป จับต้องไม่ได้แล้ว เสมอเสมือนดวงดอกแก้ว ที่กำลังปลิดกลีบโรยโปรยเกลื่อน ลงสู่พื้นพสุธา ไม่ว่ารักฤาชัง หวังฤาหวาน รานฤาโศกที่โลกหยิบยื่นให้ ตามเพรงพรหมชะตา และกรรมลิชิตที่เราคิดเสกสรร ปั้นแต่งกันขึ้นมา บางเวลาในท่าม ชีวิตที่แสนสุขสงบเงียบ พี่พุดจะรู้สึกเดียวดาย หากผัสสะนั้นก็สอนสัจจะงามให้ ในท่ามโลกนี้ที่ยังคงหมุนวน ให้.. หลากมนุษย์ยังคงดิ้นรนไขว่คว้า แสวงหาความรัก แสวงหาเพื่อนชีวิตที่จะเคียงชิดใกล้ ได้โอบเอื้อรัก เมตตาแบ่งปัน ร่วมกันยามเผชิญปัญหาอุปสรรค และ จักฟันฝ่าพาไปสู่ แดนดินแห่งสุขนิรันดร์ ขอมอบบทกวีของท่านเรียวกัน แด่น้องทั้งสองนะคะ ดวงจำปา.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song484.html ดึกดื่นกับดายเดียว ดวงฟังบทเพลง *ดวงจำปา* พร้อม...อ่านบทกวี..ท่านเรียวกัน "ชีวิตฉันอาจคล้ายจะเป็นทุกข์ แต่เมื่อท่องเที่ยวไปในโลกนี้ ฉันก็ยิ่งมั่นใจในสรวงสวรรค์ ในย่ามของฉันมีข้าวอยู่สามโช ข้างเตาไฟของฉัน มีฟืนอยู่มัดหนึ่ง ถ้ามีใครสักคนถามฉันว่า อะไรคือเครื่องหมายของการรู้แจ้งหรือมายา ฉันย่อมไม่อาจตอบได้ สำหรับฉัน ความมั่งคั่งและเกียรติยศ หาใช่อะไรไม่ หากแต่คือฝุ่นธุลี เย็นย่ำ สายฝนปรายโปรย ฉันนั่งอยู่ในกระท่อม เมื่อยนักก็เหยียดขาออก นี่ไงคือคำตอบของฉันล่ะ .......................... (โช..คือมาตราตวงโบราณของญี่ปุ่น) สายลมพัดผ่านกระท่อมน้อยของฉัน ภายในกระท่อมโปร่งโล่งไร้ทรัพย์สิน นอกกระท่อมคือป่าซีดาร์ยืนรายเรียง ที่ฝากระท่อมมีบทกวีปิดเรียงราย ยามนี้กาต้มน้ำเขลอะไปด้วยฝุ่น ไม่มีควันไฟจากเตาหุงข้าว ใครกันนั่นกำลังดุ่มเดินมาที่ประตูกระท่อม ที่อาบไล้ด้วยแสงจันทร์ของฉัน อ๋อ..!ชายชราจากหมู่บ้านตะวันออกนั่นเอง.. คืนนี้อากาศเย็นยะเยือกยาวนาน เป็นคืนฤดูหนาวที่ยาวนาน เหมือนไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไหร่จะสว่างเสียทีหนอ ไม่มีแสงไฟจากตะเกียง ไม่มีถ่านในเตาผิง ฉันนอนอยู่บนที่นอน ฟังเสียงสายฝนหิมะ..." http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song484.html ดวงจำปา คาราวาน โอ ดวงจำปา เวลา ชมดอก คิดถึงบ้านซ่อง มองเห็น หัวใจ เฮานึก ขึ้นได้ ในกลิ่นเจ้าหอม เห็นสวน ดอกไม้ บิดา ปลูกไว้ ตั้งแต่ ใดมา เวลาหงอยเหงา ยังช่วย บรรเทา ให้หายโศกา โอ ดวงจำปา คู่เคียงเฮามา แต่ยาม น้อยเอย กลิ่นเจ้าสำคัญ ติดพันหัวใจ เป็นตาฮักใคร่ แพงไว้เซยซม ยามเหงา เฮาดม เอ๋ยจำปาหอม เมื่อดม กลิ่นเจ้า ปานพบ เพื่อนเก่า ที่ได้พราก จากไป เจ้าเป็นดอกไม้ ที่งาม วิไล ตั้งแต่ใดมา โอดวงจำปา มาลา ขวัญฮัก ของเรียม นี่เอย โอ ดวงจำปา บุปผาเมืองลาว งามดั่งดวงดาว ซาวลาว ปลื้มใจ เมื่ออยู่ ภายใน แดนดิน ลานซ้าง เมื่อได้ พลัดพราก อดีต พลัดจาก บ้านเกิดเมืองนอน ข้อยจะเอาเจ้า เป็นเพื่อน ฮ่วมเหงา เท่าสิ้นชีวา โอดวงจำปา มาลา งามจริง มิ่งเมือง ลาว เอย... พุด 12 ส.ค. 52 - 05:45 IP 116.58.231.242
11 สิงหาคม 2552 23:10 น. - comment id 1026013
ขอบคุณนะคะพี่พุดที่แสนดีที่เข้าไปเม้นท์ในบ้านของน้อง ไม่มีใครเข้าใจน้องได้มากเท่าพี่พุด ซาบซึ้งจนบอกไม่ถูกเลยค่ะ อยากเห็นพี่พุดมีความสุข รู้สึกว่ามีคนยังรอพี่อยู่นะคะ แบบคิดถึง คำนึงถึงประมาณนั้น แต่ดูเหมือนว่าพี่พุดมีโลกที่สวยงามอยู่แล้ว โลกของธรรมชาติ ธรรมะ ความอ่อนโยน ละมุนละไม เปรียบดังดอกไม้ที่เบ่งบาน แต่ไม่ยอมรับหมู่ภมรที่แวะเวียนมาดมเกษร น้องเป็นขอกำลังใจให้พี่พุด มีความสุขกับทางชีวิตที่พี่เลือก ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม
11 สิงหาคม 2552 23:50 น. - comment id 1026021
เดือนดาวเห่ เร่กล่อม ล้อมใจภักดิ์ หัวใจรัก หักร้าง ท่ามกลางฝัน พายุร้าย หมายพร่า คร่าชีวัน อัศจรรย์ พลันจบ พบแสงธรรม พี่พุดที่เคารพรักคะ เรือนไทยแสนอบอุ่นของพี่พุด เป็นที่พักใจให้ปรางได้เป็นอย่างดี แม้บทกลอนของพี่พุดจะโดนใจ กับเพลงยามรัก ทำให้ปรางคิดไปถึง เพลงยามชัง อันแสนไพเราะเสนาะหู ยามใจอ่อนล้า และสับสน มิมีที่ใดแล้ว จะสงบร่มเย็นได้เท่า เรือนหลังนี้ ทำให้ปรางระลึกถึงคำสอนของแม่ แม่คอยกอดปรางเสมอยามปรางทุกข์ ในยามนี้แม้ท่านจากปรางไปไกลแสน ไกล แต่ปรางก็ทราบได้ว่า ยังมีอีกที่ แห่งหนึ่งที่ปรางสามารถเข้ามาได้โดย มิต้องกังวลอีกต่อไป ทุกครายามเข้ามาบ้านกลอน ปรางจะ กวาดสายตา หาว่า พี่สาวสุดที่รักผู้นี้ จะมีลำนำมาฝากปรางหรือไม่ แม้... พี่พุดอาจจะไม่ได้ระบุถึงปราง แต่ใน ทุกลำนำ ให้อะไรดี ๆ ปรางเสมอค่ะ รักพี่พุดเป็นที่สุด
12 สิงหาคม 2552 06:21 น. - comment id 1026031
12 สิงหาคม 2552 06:29 น. - comment id 1026033
งดงามมากครับ
12 สิงหาคม 2552 07:33 น. - comment id 1026040
มาชมความงามของกลอนและภาพค่ะ
12 สิงหาคม 2552 09:29 น. - comment id 1026139
แวะมาบอกว่าคิดถึงพี่พุดเสมอค่ะ
13 สิงหาคม 2552 12:02 น. - comment id 1026493
สวัสดีค่ะพี่พุด สบายดีรึเปล่าค่ะ อยากมีชีวิตที่เรียบง่ายและสงบสุข อย่างพี่พุดเร็วๆจังเลยค่ะ เบือแล้วกับสังคมที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เมื่อคืนนี้ มีบางสิ่งบางอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วค่ะ เกี่ยวกับชีวิตของกบ ซึ่งไม่รู้ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปในทางไหน แต่เชื่อมั่นและมั่นใจว่าจะไม่เสียใจค่ะ และปัญหาที่กบได้เจออยู่ในขณะนี้ กบเจอทางออกที่ดีที่สุดแล้วสำหรับทุกๆคนค่ะ คนเราทุกคนย่อมมีทางของตัวเองเสมอ หากไม่ทำให้ใครเดือดร้อนนั่นดีที่สุดแล้วค่ะ รักและคิดถึงพี่พุดนะคะ