http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song287.html เดียวดายหนาวล้ำลึก ในรู้สึกเงียบงามเหงา ทุกคืนค่ำมานานเนา คือตัวเราเพียงลำพัง เส้นทางอ้างว้างนัก ไร้ใครภักดิ์สิ้นที่หวัง ซุกซบในรวงรัง ยามเซซังลบแผลใจ จะกี่ปีจะกี่วัน มายาฝันวันไหนไหน พันธนามัดดวงใจ แล้วพรากไกลไม่หวนคืน คือโลกวิปโยคแท้ ไร้ใดแน่ยากจะฝืน เพียงฝันไร้วันชื่น พอยามตื่นก็หายวับ.... พิกุลแกมแก้มนวล!! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song287.html ดอกพิกุลพร่างพรมลมริ้วร่วง พราวดอกดวงห่มพื้นพรายพรากเพลงฝัน สิ้นภมรเชยบุหงาลดาวัลย์ ดอกสวรรค์ลาหวานกิ่งทิ้งต้นใจ.. นั่นดอกพุด หยุดรักแล้ว.ละสิหนอ บานคากอพ้อคนเก็บมิรอไหว หอมคาต้นชูช่อรอคนไกล เด็ดดมใจดูดดื่มฝันวันเคล้าทรวง.. หอมลุ่มลึกนวลจำปีคลี่กลีบค้าง กระดังงาร้างไร้ไฟลนคนเคยหวง การะเวกไหวหวั่นกอพ้อกลีบร่วง ลดาดวงแตกดอกฉ่ำร่ำหาใคร ในเรือนไทยที่เอนกายหมายหลับฝัน เด็ดลดาวัลย์โลมลูบจูบกลีบไหว รักดอกโน้นหวงดอกนี้สับสนใจ ปล่อยดอกใจบานคาต้นหนทางเดียว! .......................................................... บันดาลใจจากนอนมองดอกพิกุลร่วงพรายพร่างควะคว้าง..ควะคว้าง ราวดวงดอกฝนสีทองตกต้องกลางดวงใจ ที่บ้านเรือนไทยโบราณ.. ดอกดวงใจอ่อนหวานจึงผุดซ่านเต็มซึ้งใจ..ในวันวสันต์โปรย.. ฝากกระซิบคนดี..คิดถึง..และคิดถึง. พิกุลแกมแก้มหอมนวล..นานเนา..ในนึกลึกล้ำ!. ...................................................................... เพราะขอบฟ้ากว้าง! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song169.html วสันตฤดู หมองหม่น กับหยาดฝนพรำ กำลังจะผันผ่านไป. ฤดูเขียวขจีสลับทองของพืชพรรณ กำลัง จะกลับมา.. ค่ำคืนนี้..แลลอดไปไม่เห็นจันทร์เสี้ยวดวงเศร้า... ลอยแขวน เพราะเมฆหม่นบดบัง ฉันเขียนเรื่องนี้..ในเต็นท์ ด้วยไฟฉาย เพราะอยากได้อารมณ์หนึ่ง...ให้หวนคืนกลับมา.. อารมณ์ฝันวันเยาว์.... ที่มองโลกเศร้าว่ายังงดงามและแสนดี.. ที่มีแต่เสียงหัวเราะ..เริงร่า..แสนไกลกังวล! แหงนดู งามของท้องฟ้าจากช่องหลังคา มีแต่ดาวราย พรายฟ้า..กับแสงพริบพริบจากเครื่องบิน ที่บินผ่านมา จนอยากโบกมือขอให้แวะมารับไปเมืองไกล ด้วยคน ที่ซึ่งมีคนดี..ที่แสนรักเอยแสนรักในกมล....เฝ้ารออยู่... แปลกดีไหม!....ที่ฉันชอบทำอะไรแปลกๆ... ให้กับชีวิตชาวกรงที่มันซ้ำซากจำเจ..จำใจ เพื่อสร้างไฟฝัน..วันแสนงามให้กับชีวิต.. มีห้องแอร์เย็นฉ่ำ กลับไม่นอน มานอนในเต็นท์ ที่ร้อนราวตู้อบซาวน่า..ไม่มีผิด.. คิดในทางบวก.. บางทีคืนนี้อาจจะทำให้ฉันผอมสวยยิ่งขึ้นไปอีกน่านะ. เป็นของแถมแกล้มอารมณ์โรแมนติกไง.. ใกล้โพล้เพล้...ฉันเริ่มจุดเทียน.. ธูปหอมกลิ่นหวานเศร้า รายรอบ... เป็นพิธีกรรมให้แสงเงางามล้ำ.. ปักโคมไม้ไผ่สานตามมุมต่างๆ.. แล้วใช้ไฟฉายแบบวางพื้นได้ฉายสาดแสงสวย ขึ้นสู่ยอดหมากแดงประดับลำต้นงาม..ให้สว่างวับแวม เกิดลายสวยใบสานระยับระยิบ พรายตา อ่อนละมุนละมู..(ถาษาสวยของใจฉันเอง)... ที่แลงามเห็นยามนี้ที่มีมนต์ขลัง.. กับใจดวงนี้ที่หวานละมูละไม...(เป็นไงกันนะ อารมรณ์นี้) แสนโรมานซ์อยู่ล้ำลึก..ลึกล้ำ..ใครหนอจะเข้าใจ!...... ถ้ามองไม่ถึงงาม..ตามกัน.. ลั่นทมแดง..ชมพู..เหลือง..อวดดอกแดงแฉล้มหวาน.. แต่ดูไม่แฝงความเศร้าระทม ตรอมตรมหัวใจ.. ตามไปกับใจเจ้าของ.... หางนกยูง..หรุบใบ...แสนงอน อ้อนหยาดน้ำค้าง... ดอกแดงกระจิดจึ๋วชูช่อ.. พิศมัยใกล้ๆจะเห็นงามในเสน่ห์แดงดอก...ดวงดอกหลายๆดอกดวง รวมกันก่อเกิดจากก้าน กิ่ง..แฉกใบ งามเฉิด.. กุหลาบแดง..แห่งรักในใจ ฉัน ที่บานซ้ำบานซาก บานแล้วบานเล่า นานปี จนวันนี้ที่ใกล้ราโรยไร้ต้น แต่กุหลาบจริง..แดงโดด ชมพูส้ม บนระเบียงกลับตูมตั้ง อวดดอกเด่น.. ผ่านแดด ผ่านฝน ผ่านพ้นฤดูกาล ที่แปรเปลี่ยน คลุกเคล้า หนาวร้อน อย่างไม่รอรา.. มาออกดอกหอมขจรให้ดอมดม... คืนนี้..บรรยากาศ..เป็นใจ ให้ใจดวงนี้ มีฝัน มีจินตนาการหวานหวาน เขียนเรื่องราวแกล้มหอมมวลหมู่พยอม นานาพรรณแรกแย้ม กับฟากฟ้าราตรีกาล ที่มีดวงดาวใสสวยสุกปลั่ง ประดับฟ้า ประดับใจนี้ ปลอบหมองหม่น... คิดถึง..ฝนดาว... แค่ฟังชื่อแล้วอยากพบอยากเห็นจังเลย... อยากไปนอนนับดาวฝนพราวพรายพรูพร่างพันพันดวง.. ให้สว่างคาตา กับคนดีที่รัก.บนเงื้อมผาที่เกาะเต่า. คงได้อารมณ์รักมากกว่าเศร้ามากกว่านับดาวเป็นหมื่นเป็นพันดวงซะอีก.... หลับตา...พักใจ..นิ่งๆ..นานนาที.... ให้เงียบงาม ของราตรีนี้ เรื่อยริน ไหลๆ ไหวๆ หวานหวาม เข้ามาสู่ใจดวงน้อยน้อย... อวลละเมียดละมุนกลิ่นหอม ของจำปี พุดสามสี และการะเวกที่เผยอแย้มบานคลี่ อ้อน รับหวานหยาดจากหยดน้ำค้าง พรม........ ดวงใจฉันชื่นฉ่ำ..พอกันเพราะได้รับหวานล้ำจาก.. น้ำคำ น้ำใจ ของใครบางคนมาประโลม.. ให้โลกฝัน แย้มงาม หอมหวาน พร้อมกันไปกับมวลดอกไม้งามในยามค่ำ... ความสุข..นี้หนา..มามา..จากจาก..พลัดๆพรากๆ วนเวียน..มิรู้จบ..มิรู้สิ้น... เพื่อให้เราเรียนรู้..ดูโลกให้เป็น..ในบางบทตอนมีสอนใจ... ดั่งเฉกเช่น..ชีวิตมนุษย์นับพันๆล้าน .. ที่กำลังขวัญเสีย ที่กำลังดิ้นรน ผจญต่อสู้.. บางซีกโลก ค่ำคืนนี้ อาจจะเป็นค่ำคืนโหดร้าย อยู่กับสงครามแห่งความกลัว...ภายในใจ.. และมนุษย์อีกมากมี..ที่กำลังไร้รัก ไร้หวัง ไร้บ้าน ไร้แขนขา และที่ร้ายที่สุดคือ เด็กๆที่ไร้อาหาร กำลังจะอดตายในแคมป์ผู้หนีภัยสงคราม.. ใจหนอใจเหตุใด ใจคนจึงร้ายถึงเพียงนี้.. บทความนี้..จากชีวี..ผู้หญิงคนหนึ่ง.. ในแผ่นดินนี้ แผ่นดินของเรา ที่ยังเป็นแผ่นดินทอง..ให้หยัดยืน ที่ยังมีธรรมชาติงามให้สู้ฝัน มีหวังให้หวังมิรู้สิ้น..มีอิสระเสรี มีความรัก...... มีเส้นทางสีขาวจากศาสนา มีธรรมมะสอนใจ มีพระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ทอง คุ้มผองภัย ให้พสกนิกรได้อยู่เย็น..... นี่คือโชคดี..ที่นำมาเตือนมาสอนใจ ใครทุกคนรวมทั้งตัวเอง ยามนี้ที่โลกเร่าร้อนรุนแรง โลกแห่งความจริงนั้นแสนสวยงาม ถ้ามิใช่ด้วยเงื้อมมือมนุษย์..ต่ำทราม โหดร้าย ทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง.. ให้หมดสิ้นหวัง...แสนเศร้าสะเทือนใจ โดยมิเคยหยุดทบทวนไตร่ตรอง...จุดจบ.. ใจเอ๋ยใจคน..ช่างหมุนวน สรรสร้าง..แล้วทำลาย..ราวไร้ใจ.... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song169.html เพราะขอบฟ้ากว้าง ........ กุ้ง กิตติคุณ เธียรสงค์ ป่านนี้แก้วตา นิจจาคอยพี่ โอ้ป่านฉะนี้ คนดีคงทุกข์โศกตรม คิดถึงคืนวัน ที่สองเรานั้นรื่นรมย์ ต่างชื่น ต่างชม ภิรมย์รักกันมา บัดนี้พี่ยัง รักเธอไม่หน่าย สู้อยู่เดียวดาย ไม่คลายความรักแก้วตา รสรักยังตรึง ซาบซึ้งแน่นดวงวิญญา ขอเพียงแก้วตา สัญญาไม่เปลี่ยนใจ แต่เรานี้ต้องอยู่ห่างกัน ต่างคนต่างฝันต่างคนตื้นตันทรวงใน เห็นดารา นึกว่าเนตรน้องพี่หลงพี่จ้อง มองไป เห็นเงากิ่งไทร พี่ยังเคลิ้มไป ว่ากานดา อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย อยู่ฟ้าเดียวกัน พระจันทร์ดวงหนึ่ง แปลกใจสุดซึ้ง ไยจึงไกลน้องหนักหนา ฟ้านี้ไกลไป ไม่เหมือนดังใจเสน่หา อยากใกล้กานดา อยากให้ขอบฟ้า แคบแคบเอย.
17 กุมภาพันธ์ 2551 10:57 น. - comment id 824461
สวัสดีสายวันอาทิตย์ค่ะพี่พุด นางฟ้ายังปีกหักได้เลยนะคะ..นับประสาอะไร กับมนุษย์ปุถุชน...มีความสุขกับวันหยุดอีกวัน นะคะ
17 กุมภาพันธ์ 2551 11:34 น. - comment id 824465
รูปสวยค่ะพี่พุด
18 กุมภาพันธ์ 2551 11:07 น. - comment id 824758
พี่พุดให้กานต์เป็นนางเอกอีกแล้วนะคะ